อายเอซิส
เหล่าลูกน้องของหลิวหยางที่เดินกลับมาหาร่างของนายน้อยพวกตนด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะตามหาชายหนุ่มสารเลวตาทองไม่เจอ แต่เมื่อเห็นร่างคุ้นตาที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาก็ได้ตะโกนออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน
“แง้~” เหล่าชายชาตรีรูปร่างดุจนักเพาะกายทั้ง 7 คนได้พุ่งเข้ามาหวังสวมกอดนายน้อยของพวกเขา ใบหน้าที่แสนดุดันเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปิติยินดี
ผัวะ!
“แอ้ก!”
“อั้ก!”
“อุ้ก!”
“อะเหื้อ!”
หลิวหยางที่ฟื้นฟูพละกำลังกลับมาลุกขึ้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้าเตะกวาดเหล่าชายฉกรรจ์จนพวกเขากระเด็นออกไปก้นกระแทกพื้น
“ออกไป๊ หุ่นพวกแกอย่างกับจอห์น ลีน่า ถ้ากล้าเข้ามาอีกข้าจะใช้หมัดมหานทีอัดพวกแกให้พ่อบ้านกับแม่บ้านโจวจำหน้าพวกแกไม่ได้เลยคอยดู!” ชายหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นนายน้อยตระกูลหลิวคำรามออกมา
“...” เหล่าลูกน้องของหลิวหยางที่ได้ยินดังนั้นก็ได้สติแล้วทำเพียงยิ้มอย่างดีใจไปให้นายน้อยของพวกเขา
“เห้อ ข้าล่ะเพลียจริงๆ เอาล่ะ ไหนๆก็กลับมารวมตัวกันแล้ว พวกเราจะแยกย้ายกันไปล่าแต้ม...เอ๊ย ชิงคะแนนมาจากพวกคนจากโรงเรียนอื่นนอกจากโรงเรียนเทพสงครามของพวกเรากัน จำเอาไว้!...เจอคนเราจัดการ พบอสูรเราสังหาร!”
“ขอรับ!”
.
.
.
“โอ๊ยๆๆๆ” ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุของพื้นที่ทะเลทรายที่คล้ายจะสามารถแผดเผาสิ่งมีชีวิตให้มอดไหม้ได้นั้น
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่ฟังดูเจ็บปวดดังขึ้นมาจากยอดของต้นไม้ใหญ่แต่ที่แปลกคือมันสามารถแผ่ขยายกิ่งก้านใบอันเขียวชะอุ่มได้เหมือนกับว่าความร้อนของทะเลทรายไม่สามารถทำอะไรมันได้
“เราสลบไปงั้นเหรอ? ได้ยังไ...อ๊ะ ไอ้เจ้าคนหัวควันนั่น!” หญิงสาวที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นภาพของชายหนุ่มผมเทาที่ทำตัวเหมือนจะมาช่วยเธอได้แวบขึ้นมาในหัวเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะสลบไป
“ฮึ่ย! คอยดูเถอะ ถ้าเจอกันอีกรอฉันจะเตะอัดน้องชายหมอนั่นให้เคารพธงชาติไม่ได้เลย!” เมื่อกล่าวจบ หญิงสาวก็กระโดดลงจากต้นไม้เพื่อเดินทางตามล้างแค้นชายผู้บังอาจทำให้เธอสลบ แต่ทันใดนั้นเอง
“กรี๊ดดด!?” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นหลังจากกระโดดลงไป
“จิ๊บบบ!” ไม่นานเงาร่างเล็กๆร่างหนึ่งก็กระพือปีกบินกลับขึ้นมาบนยอดต้นไม้ก่อนจะกลับคืนร่างเดิม
“แฮ่กๆๆ...ไอ้เลวนั่น! กล้าดียังไงถึงจับฉันมาขังไว้บนนี้” หญิงสาวผู้มีพลังแปลงกายเป็นสัตว์อสูรตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราดปนหวาดกลัว
“แง...มันรู้ว่าเรากลัวความสูงรึไงเลยแกล้งกันแบบนี้แน่ๆ ฮึ่ย ฆ่าๆๆ ต้องฆ่าเท่านั้น! ฮึก...จะลงยังไงล่ะทีนี้ โครตสูงเลย ฮือออ” หญิงสาวเบะปากชะเง้อมองลงไปข้างล่าง ทันใดนั้นหญิงสาวก็เบิกตากว้างพร้อมกับร่่างกายที่แข็งค้าง
ดวงตาขนาดยักษ์สีน้ำตาลไหม้ไร้แววที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงก่ำที่ยื่นออกมาจากต้นไม้ที่เธอกำลังยืนอยู่บนยอดของมันกำลังจ้องมองเธอด้วยอารมณ์ที่แม้จะเป็นเด็กเล็กก็ยังรู้ว่ามันกำลังโกรธอยู่
“กรี๊ดดด”
หลังจากที่หญิงสาวเห็นดวงตานี้เธอก็นึกถึงสิ่งที่ครูวิชาสัตว์อสูรเคยพูดถึงเรื่องอสูรที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายตนหนึ่ง มันมีดวงตาใหญ่ยักษ์แต่ตัวกลับเล็กเพียงนิด อสูรชนิดนี้มักจะทำตัวเหมือนกาฝากเกาะติดกับต้นไม้ที่แห้งเฉาในทะเลทราย
แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่กาฝากสำหรับต้นไม้เลย เพราะมันมีความสามารถในการแปลงไอความร้อนจากทะเลทรายเป็นน้ำ ทำให้ต้นไม้ในทะเลทรายที่ถูกมันเลือกเป็นที่อยู่อาศัยได้รับประโยชน์เช่นกัน เรียกได้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสองนั้นมีใช้ชีวิตในแบบของการพึ่งพาอาศัยกัน โดยต้นไม้ที่เป็นโฮสต์จะได้รับความสามารถพื้นฐานในการยืดหดรากไว้ใช้ในการโจมตีและจับสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อนำมาเป็นอาหารให้กับอสูรกาฝากตัวนี้
ชื่อของมันคือ...
“อายเอซิส” หญิงสาวพึมพำออกมาเสียงเบาหวิว ชื่อของมันมีที่มาจากการที่เวลาพบต้นไม้ที่มีเจ้าอายเอซิสอาศัยอยู่ ต้นไม้ต้นนั้นก็จะกลายเป็นแหล่งโอเอซิสสำหรับผู้ที่โค่นมันได้ลง
แต่ปัญหาก็คือ
“อสูรระดับ SS ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เสียงหวานที่ดังออกมาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอเป็นเพียงแค่นักเรียนผู้พิทักษ์ระดับ B เท่านั้น การจะเอาตัวรอดจากอสูรระดับนี้แม้แต่ฝันเธอก็ยังไม่กล้า
ส่วนสาเหตุที่ทำให้อายเอซิสนั้นเป็นอสูรระดับ SS นั้นก็คือ มันสามารถพัฒนาต้นไม้ที่เกาะอยู่ให้มีความสามารถของสิ่งมีชีวิตได้ 3 ชนิดด้วยกัน หากมันกินซากศพของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเข้าไป มันก็จะมีพลังพิเศษของสิ่งนั้น นี่จึงทำให้มันกลายเป็น 1 ในอสูรที่มีความอันตรายระดับ SS
“ตายๆ ตายแน่ฉัน! ไม่น่าห้าวลงการแข่งบ้านี่เลย” หญิงสาวทรุดตัวลงพร้อมกับกัดปากตัวเองด้วยความเสียใจก่อนจะจ้องมองไปยังดวงตาขนาดยักษ์ที่ยืดตัวขึ้นมาจากด้านล่างที่กำลังจ้องมองเธออย่างนิ่งงันเช่นกัน
“ฮือออ...โครตหลอนเลย ปล่อยหนูไปเถอะนะคะพี่จ๋า!”
.
.
.
ห้องผู้อำนวยการ โรงเรียนไอรีน ภายในห้องมีร่างของคนสองคนกำลังทำท่าทางเหมือนกับมองดูบางสิ่งอยู่
แอนนาที่นั่งอยู่บนโต๊ะผู้อำนวยการกำลังจ้องมองจอภาพโฮโลแกรมที่แสดงจุดวงกลมสีเขียว และสีแดงที่กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ทั้งสามของเกาะร้างที่ถูกใช้เป็นสถานที่การแข่งขันเอาชีวิตรอด
ที่ด้านบนของจุดสีเขียวจะมีตราสัญลักษณ์ของแต่ละโรงเรียนอยู่ เมื่อมีใครสามารถชิงคะแนนจากฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่โรงเรียนของตนมาได้ คะแนนเหล่านั้นก็จะปรากฏอยู่ที่มุมบนขวาของจอภาพ
ในตอนนี้โรงเรียนเทพสงครามกำลังนำโรงเรียนอื่นชนิดที่เทียบกันไม่เห็นฝุ่น เหล่าผู้คนที่ถูดตัดสิทธิ์ส่วนใหญ่ออกมาด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ครบสามสิบสอง บ้างขาขาด แขนขาด หูขาด หรือแม้กระทั่งลิ้นขาดก็ยังมี
แอนนามองสภาพของนักเรียนโรงเรียนของเธอและโรงเรียนอื่นในจอภาพด้วยสายตาเวทนา
“เห้อ โรงเรียนเทพสงครามที่มีพวกอัจฉริยะคงจะชนะอีกตามเคย” หลินอิงอิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเอ่ยพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งด้วยความกังวล