สิทธิสำรวจดันเจี้ยน
หลังจากพัคแทยังจากไป ราฟก็เก็บห้อง ก่อนเข้าไปอาบน้ำ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ล้มตัวลงบนเตียงพร้อมกับกอดโก้โก้ไว้ในอ้อมแขนแล้วเข้าสู่นิทราทันที
.
.
.
เช้าวันต่อมา
[โรงอาหาร]
“เห้อ เจอเรื่องยุ่งยากแล้วสิเรา” เสียงอันแสนเฉื่อยชาดังออกมาจากปากชายหนุ่มผมเทาที่กำลังทำหน้าซังกะตายมองรายชื่อภารกิจในมือถือของเขาที่มีมากกว่าร้อยภารกิจ
เมื่อตอนเช้าเขาได้รับข้อความจากโรงเรียนว่าถึงเวลาที่เขาต้องรับภารกิจประจำเดือน และถ้าเขาไม่ทำเขาจะถูกตัดสิทธิ์สอบวัดระดับประจำปี
ราฟที่ไม่มีทางเลือกเลยต้องมานั่งไถมือถือเลื่อนดูภารกิจด้วยความเซ็งจิต
“เอาอันไหนดีวะ” ราฟบ่นออกมา
“นี่ นายยังเลือกภารกิจไม่ได้อีกเหรอ ทำไมไม่เลือกสุ่มๆไปซะล่ะ” คาร์ลที่เห็นราฟเลื่อนมือถืออยู่เดินเข้ามาถามด้วยความสงสัย เพราะคนอื่นๆก็เลือกภารกิจที่ง่ายที่สุดจะได้จบๆไป
“ถ้าเลือกสุ่มไม่ก็เลือกอันที่ง่ายสุดมันก็ไม่คุ้มกับพลังงานอันแสนสำคัญของฉันที่เสียไปน่ะสิ” ราฟตอบเสียงเอื่อยๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
“เห แปลกคนจังน้า แต่ก็สมกับเป็นนายดี งั้นขอให้เลือกภารกิจที่สนใจได้เร็วๆนะ ฉันไปละ” คาร์ลพูดยิ้มๆ
“โอ้ว” ราฟหัวเราะแห้งๆแล้วกับมาสนใจเลือกภารกิจต่อ
“หืม...”
หลังจากเลื่อนดูสักพักสายตาของราฟก็ฉายแววดีใจออกมา
“เอาอันนี้แหละ” จากนั้นเขาก็กดลงทะเบียนรับภารกิจทันที พอกดเสร็จเขาก็ลงมือทานบะหมี่จนอิ่มแล้วเดินออกจากโรงอาหารไป
.
.
.
“อืม อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลางานประลองผู้พิทักษ์ประจำปีแล้วสินะ รายการเอาชีวิตรอดที่เราต้องแข่งคงวุ่นวายน่าดู หรือเราจะไปหาพลังที่มีประโยชน์มาเพิ่มไว้ดี?” ในระหว่างที่กำลังเดินกลับหอพักของเขานั้นราฟก็คิดถึงเรื่องงานแข่งขึ้นมาได้
“แต่เราจะรู้ได้ไงล่ะว่าพลังอะไรจะใช้ได้บ้าง อืมมม...งั้นเอาพลังแค่เท่าที่หาได้ละกัน คิดมากไปก็ปวดหัว” หลังจากคิดเสร็จราฟก็ฉีกยิ้มกว้างออกมา
“เริ่มจากหาพวกอาชญากรตามภารกิจที่โรงเรียนให้นักเรียนทำได้ตลอดเพื่อแลกเงินรางวัล...ฮี่ๆ ไม่คิดเลยว่าภารกิจรายเดือนน่าเบื่อพวกนี้จะสามารถช่วยลดเวลาเราได้เยอะเลย แต่แทบจะไม่มีอาชญากรที่เป็นผู้ใช้พลังเลยแฮะ ช่างเถอะ ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย” หลังจากวางแผนเสร็จชายหนุ่มผมเทาก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นจนคนรอบข้างพากันหันมามอง
“เหล่าโจรจ๋า คุณราฟจะไปหาแล้วน้าาา”
.
.
.
วันต่อมา
“นี่ ได้ข่าวรึเปล่า ว่าภารกิจรายเดือนที่เกี่ยวข้องกับการตามล่าพวกอาชญากรถูกใครบางคนจัดการจนหมดเลย”
“ฉันเห็นแล้ว ใครกันที่ทำได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนอาชญากรพวกนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นคนจัดการพวกมัน”
“แล้วรู้ได้ไงว่าคนจัดการเป็นคนๆเดียวกัน”
“เห็นว่าพวกมันถูกบังคับให้ใช้พลังใส่คนที่จัดการพวกมันเหมือนกันทุกคน ถึงส่วนใหญ่จะไม่มีพลังก็เถอะ เลยได้ข้อสรุปว่าเป็นคนเดียวกันน่ะ”
“คนในเมืองไอรีนตั้งฉายาให้เขาด้วยล่ะ”
“ตั้งว่าอะไรเหรอ?”
“นักล่าโจร น่ะสิ”
“ชื่ออะไรล่ะนั่น ไม่เห็นเท่เลย”
“ฉันก็ว่างั้น”
.
.
.
‘เห้อ เมื่อคืนเราไล่จัดการพวกผู้ร้ายที่มีใบประกาศจับไปตั้งหลายสิบคนแต่สุดท้ายก็ได้มาแค่สองพลังเอง อย่างว่าล่ะนะ พวกอาชญากรใช่ว่าจะมีพลังกันหมดทุกคน พวกที่มีพลังโหดๆทุกคนก็อยู่ในคุกเมต้าฟอร์สกันหมด นอกจากนั้นก็เหลือแค่พวกถูกตามจับเพราะไปก่ออาชญากรรมเล็กๆอย่างการปล้นไม่ก็ทำร้ายร่างกาย...ถือว่าเราช่วยจับผู้ร้ายละกัน แหม เรานี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันน้าาา’ ราฟที่เดินเลือกวัตถุดิบไปทำอาหารคิดถึงเรื่องที่เขาทำเมื่อคืน เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรมากนักในการจัดการกับโจรพวกนั้น เพียงแค่แกว่งหมัดไปมาก็สามารถจัดการกับพวกมันได้แล้ว
“เห้อ แต่ง่วงชะมัด รีบเลือกของไปทำกินแล้วเข้านอนดีกว่า”
“พึ่งจะเช้าเอง ทำไมถึงเลือกที่จะกลับไปนอนซะล่ะ” เสียงหวานสายหนึ่งดังขึ้น
“โอ้ว ครูหลินคนสวย หวัดดีครับ” ราฟที่จำเสียงได้หันไปยักคิ้วให้หญิงสาวผมชมพูที่อยู่ในชุดออกกำลังกายที่สุดแสนจะมีเสน่ห์ที่ทำให้ราฟมองค้สงสักพักด้วยความชื่นชมในความงามของเธอ ก่อนที่เขาจะตอบไปว่า
“เมื่อคืนผมยุ่งกับการเล่นกับโกโก้ทั้งวันเลยน่ะ เลยไม่ได้นอน” ราฟแหลอีกเช่นเคย หลินอิงอิงที่เห็นชายหนุ่มพูดแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนพูดว่า
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานประลองแล้ว นายพร้อมใช่มั้ย” หญิงสาวถามด้วยเสียงจริงจัง
“มั้งครับ” ราฟยักไหล่ ก่อนจะนึกเรื่องสนุกได้แล้วยิ้มหวานให้หญิงสาว
“นี่ครูหลิน”
“หืม” หลินอิงอิงที่กำลังเลือกวัตถุดิบทำอาหารเช่นกันหันมามองราฟด้วยความสงสัย
“ถ้าผมชนะงานเอาชีวิตรอด ครูมีรางวัลอะไรให้ผมมั้ย”
“หา ทำไมฉันต้องให้รางวัลนายด้วย ถ้านายชนะก็ได้รางวัลจากโรงเรียนอยู่แล้ว”
“ชิ ครูนี่ไม่เข้าใจเลยน้า ถ้าผมชนะผมจะทำให้ห้องของครูดังไปทั่วเลยนะ จากนั้นครูก็จะมีชื่อเสียงเกียรติยศมากขึ้น อาจมีกิลด์ดังมาสัมภาษณ์ว่าสอนนักเรียนยังไงอะไรอย่างนี้ เพราะงั้นผมต้องได้รางวัลจากครูด้วยสิ” ราฟชี้แจงเหตุผลด้วยสีหน้าจริงจัง
“...นี่นายคิดว่าฉันอยากได้ชื่อเสียงขนาดนั้นเลยรึไงยะ” หลินอิงอิงกำหมัดเตรียมเขกหัวชายหนุ่ม
“เห้ๆ ใจเย็นครูคนสวย ผมแค่พูดเฉยๆเอง ถ้าครูไม่คิดอะไรก็อย่าร้อนตัวซี่” ราฟยักไหล่
“ชิ มันก็จริงที่ถ้านายชนะฉันจะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่นการได้สิทธิออกสำรวจดันเจี้ยนที่พึ่งค้นพบร่วมกับกิลด์ใหญ่ อย่าบอกนะว่านาย...” เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลินอิงอิงก็ชะงักแล้วมองหน้าราฟ
“ปิ๊งป่องงง ใช่แล้ว ผมอยากขอร่วมสำรวจดันเจี้ยนกับครูด้วย” ราฟตอบเธอด้วยรอยยื้มกว้าง
“ฝันไปเถอะ ฉันให้นายไปแน่ มันอันตรายเกินไป” หลินอิงอิงปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่เอาน่า ถึงจะเห็นผมดูเป็นคนจิตใจดี มีเมตตา ใบหน้าใสซื้อไร้พิษภัย และไม่คิดทำร้ายใครก่อนก็เถอะ แต่ผมว่าผมก็มีดีพอตัวนะครับ” ราฟอวยตัวเองขณะยืดตัวขึ้น
“...” หลินอิงอิงที่ได้ยินคำของราฟถึงกับกรอกตาไปมา
“ถ้าอย่างนายไร้พิษภัย มาคัสก็คงกลับมาเดินได้แล้ว นายรู้มั้ยว่าหมอมือดีของเราที่มีพลังในการซ่อมแซมเซลล์ถึงกับด่านายเช้าเย็นเพราะทำรุนแรงเกินไปน่ะ”
“ชิ ก็หมอนั่นมันเริ่มก่อนนี่นา คิดดูสิครับ มันใช้พลังของมันกับผมที่ตอนนั้นเป็นคนธรรมดาจนเกือบตายเลยนะ...ว่าแต่ หมอที่มีพลังรักษาเซลล์คนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอครับ ผมอยากไปขอบคุณที่ช่วยรักษามาคัสเพื่อนรักของผมซะหน่อย” ราฟไม่สนใจสิ่งที่หลินอิงอิงว่าเขา แต่เขากลับถามหาหมอคนนั้นด้วยรอยยิ้มอันแสนจะจริงใจ
“เมื่อกี้ยังบอกอยู่ว่าเกือบตายเพราะเขา ทำไมกลายเป็นเพื่อนรักแล้วล่ะ”
“ผมเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วน่ะครับ”
“...”