พักผ่อน
ครืนนน
เจี๊ยกกก
วานรสีชาดที่เห็นการดิ้นรนของมนุษย์ตรงหน้าก็ง้างหมัดที่เต็มไปด้วยลาวาของมันขึ้นแล้วทุบออกไปเต็มแรง
“ลีออน ไม่นะ” เรเชลที่ถูกคลื่นเสียงของชายหนุ่มนามว่าลีออนกระแทกให้ลอยออกไปตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความเสียใจ
“จะตะโกนทำไมเสียงดังฮะยัยนักดาบ” เสียงที่เฉยชาดังขึ้นข้างหูของเรเชล เมื่อเธอหันไปก็พบเข้ากับหัวของนกสีเขียวตัวหนึ่งที่กำลังจ้องหน้าเธออยู่
“กรี้ดดด”
ผัวะ
ด้วยความตกใจหญิงสาวเลยใช้ดาบในมือของเธอฟันไปที่มันทันที
เคร้ง
“เห้ยๆ แค่หยอกเล่นนิดหน่อยคิดจะฟันกันเลยเหรอ รู้มั้ยว่าหัวเจ้านี่ราคาหลายล้านเหรียญเชียวนะ” ราฟที่ใช้นิ้วของเขาคีบดาบของเธอพูดขึ้นขณะยื่นหน้าออกมาให้หญิงสาวเห็นด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“เจ้าบ้า...อ๊ะ ลีออน” ขณะที่กำลังจะโวยใส่ราฟ เรเชลที่นึกถึงเพื่อนของเธอก็ได้รีบหันกลับไปยังทิศทางที่วานรสีชาดทุบพื้นจนตอนนี้เต็มไปด้วยควันฝุ่น
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หมอนั่นมาถึงก่อนฉันอีก” ราฟยักไหล่
“หมอนั่น หรือว่า...” เรเขลยังไม่พูดจบ แสงสีทองก็เปล่งออกมาจากกลุ่มควันตรงหน้าทันที
“นี่ยัยนักดาบ เธอคิดว่าความร้อนของดวงอาทิตย์กับลาวาอันไหนจะร้อนกว่ากัน” ราฟที่ตอนนี้ใช้เนตรสีทองมองส่องควันเข้าไปหันมาถามหญิงสาว
“ก็ต้องดวงอาทิตย์อยู่แล้วสิ” เรเชลตอบ สีหน้าของเธอเริ่มผ่อนคลายหลังจากเห็นว่าพัคแทยังอยู่ที่นี่
“งั้นเธอก็มั่นใจได้เลยว่าเจ้าหน้าหล่อนั่นชนะแน่ ก็หมอนั่นน่ะ ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ดีๆนี่เอง” ราฟยิ้มตอบก่อนจะยื่นมือมาให้หญิงสาว
เรเชลที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ปฏิเสธความหวังดี คว้ามือของราฟขึ้นมาเพื่อพยุงตัวของเธอขึ้น
“เพื่อนของเธอโอเคมั้ย” ราฟถามถึงเพื่อนสาวของเรเชล
“ลิลลี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก เธอสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ลีออนน่ะสิ” เรเชลขมวดคิ้ว
“หมายถึงเจ้าคนแขนขาดนั่นน่ะเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก แค่รอดไปได้เดี๋ยวคุณหมอที่ห้องพยาบาลก็รักษาเองนั่นแหละ”
“เป็นงั้นก็ดี” เรเชลที่ได้ยินคำปลอบใจของราฟก็ยิ้มออกมา ก่อนที่เธอจะหันมาถามราฟว่า
“แล้วก่อนหน้านี้พวกนายไปอยู่ที่ไหนมา รู้มั้ยว่าพวกฉันตกใจมากแค่ไหนที่อยู่ๆอสูรที่ถูกสต๊าฟไว้ก็กลับมามีชีวิตกันหมดน่ะ”
“เอ่อ มันเป็นแบบนี้...” ราฟเล่าเรื่องทั้งหมดให้เรเชลฟังโดยเขายกเครดิตในการจัดการศัตรูทั้งหมดให้กับพัคแทยัง
“อะไรนะ ประธานเนโรกลายเป็นมารงั้นเหรอ” เรเชลถามขึ้นด้วยความตกใจ
“ช่าย ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเลือกกลายเป็นมาร คงต้องสืบหากันอีกที” ราฟยิ้มตอบ
ครืน
เจี๊ยกกก
หลังจากทั้งสองคนคุยกันได้ไม่นาน พัคแทยังก็เดินออกมาพร้อมกับซากวานรสีขาดที่หลอมละลายจากพลังสุริยันของเขาจนเหลือแค่หัวและลำตัวส่วนบนนิดหน่อย ส่วนมืออีกข้างกำลังแบกร่างของลีออนที่หมดสติไปออกมา
“อ๊าก ไอ้หน้าหล่อ ฉันบอกไปตั้งแต่ตอนนายจัดการมังกรโลหะไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอว่าร่างกายมันขายได้หลายตังน่ะ ดูซิ เสียของหมด” ราฟที่เห็นสภาพของวานรสีชาดพูดขึ้นด้วยความเสียใจ
“เอ่อ โทษที มันมือไปหน่อย” พัคแทยังเกาหัว ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับเรเชลเป็นการทักทาย
“เดี๋ยวนะ พวกนายพูดถึงมังกรโลหะเหรอ แล้วไหนจะหัวที่ฉันจำได้ว่ามันเป็นหัวของวิหกวายุอีก นี่พวกนายสองคนจัดการพวกมันหมดแล้วเหรอ” เรเชลถามด้วยความตกใจระคนดีใจ เพราะนี่หมายความว่าสมาชิกคนอื่นรอดกันแล้ว
“ก็นะ พอฉันมาถึงก็เห็นเจ้านี่ไล่ปล่อยฝ่ามือซัดทำลายพวกมันทั้งสองตัวกับอสูรตัวอื่นจนร่างกายแหลกเละไปหมดแล้ว ที่พอใช้ได้ก็มีแค่หัวของเจ้านกนี่เนี่ยแหละ” ราฟบ่นขณะชูหัววิหกวายุขึ้นมาให้ดูอีกรอบก่อน
.
.
.
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในศูนย์วิจัยถูกรายงานออกไปโดยพัคแทยัง พวกของราฟก็ได้กลับมาที่โรงเรียนไอรีนอีกครั้ง และราฟก็ได้รับเชิญให้ไปรับเหรียญกล้าหาญจากการเป็นผู้ร่วมรับมือกับเผ่ามารเช่นเดียวกับพัคแทยัง เรเชล และสมาชิกชมรมคนอื่น
ในตอนแรกราฟปฏิเสธที่จะขึ้นไปรับ แต่เมื่อได้ยินว่าทุกคนได้รับเงินรางวัลปลอบใจคนละ 5 ล้านเขาก็รีบตอบรับทันที
“ทำไมนายถึงพูดแบบนั้น พวกเราร่วมมือกันไม่ใช่เหรอ” พัคแทยังที่ขึ้นไปรับรางวัลเป็นคนสุดท้ายเดินลงมาถามราฟ
“นายรับเกียรติวีรบุรุษผู้ปราบมารไปคนเดียวแหละดีแล้ว ฉันสนแต่เงินเท่านั้น” ราฟยักไหล่
“งั้นนายเอาเงินรางวัลฉันมั้ย ฉันให้” พัคแทยังชูมือถือของเขาเตรียมโอนเงินให้ชายตรงหน้า
“เห้ยๆ นายเก็บไว้เถอะ ฉันไม่ได้หิวเงินขนาดนั้น” ราฟรีบปฏิเสธ
“งั้นฉันขอช่องทางติดต่อนายได้มั้ย เผื่อมีอะไรจะได้คุยกัน”
“หืม ได้สิ” ราฟแลกเบอร์ติดต่อกับพัคแทยัง ก่อนที่จะมีเสียงของเหล่าหญิงสาวดังขึ้นรอบๆตัวของพวกเขาทั้งสองคน
“พัคแทยัง วีรบุรุษผู้พิชิตมาร จบงานนี้แล้วไปกินเลี้ยงฉลองกับรวามสำเร็จของนายกันเถอะ น้าาา”
“ใช่ๆ รู้มั้ยว่าพวกเราคิดถึงนายมากเลย นายต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกเราฟังให้หมดเลยนะ”
“เอ่อ ขอโทษทีนะทุกคน ฉันต้องไปทำธุระกับราฟ...” พัคแทยังหันมาทางราฟเพื่อเป็นการขอความช่วยเหลือ
ชิ้ง
ทันใดนั้นสายตาพิฆาตของหญิงสาวที่รายล้อมชายหนุ่มตาสีทองอยู่ก็ถูกประเคนมาที่ชายหนุ่มผมเทา
“โอ้ว ฉันลืมไปเลยว่าต้องไปกินข้าวกับสัตว์เลี้ยงของฉัน เพราะงั้นคงไปกับนายไม่ได้ ลาล่ะ”
“เดี๋ยวสิ ราฟ”
“โทษทีนะเพื่อน ฉันคงช่วยนายไม่ได้ สายตาแต่ละคนน่ากลัวชิบ เหอๆ” ราฟบ่นออกมาคนเดียวหลังจากแยกออกจากพัคแทยังและสาวๆของเขาได้
“หิวจังแฮะ ไปหาของทำกินที่ตลาดดีกว่า ว่าแต่โกโก้จะเป็นไงบ้างน้า” หลังจากคิดเสร็จราฟก็เดินไปตลาดทันที
ราฟเดินดูของสักพักก็เลือกวัตถุดิบได้ เขาซื้อหอยนางรมกับของสำหรับทำยำมา แล้วซื้อเนื้อหมูคุโรบูตะไว้ทำสเต็กให้โกโก้กิน ก่อนที่จะเดินกลับไปที่หอ
หลังจากราฟกลับมาถึงหอโกโก้ก็รีบวิ่งมาต้อนรับเขาทันที
“นายท่านกลับมาแล้ว ข้าเหงามากเลย มาเล่นกานนน” โกโก้ใช้ร่างน้อยๆของเธอพุ่งเข้าซุกอกราฟก่อนจะเอาหัวถูไถไปมา
“เด็กดีๆ วันนี้ได้สั่งอะไรมากินยังล่ะ ป๊ามีเรื่องนิดหน่อยเลยกลับมาเร็ว เป็นไง ดีใช่ม้า”
“ดีมากๆเลย ว่าแต่ข้าอยากได้สายฟ้าอ่ะนายท่าน...โอ้ว ช่าย ขอบคุณค่า”
“เหอๆ” ราฟหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวแล้วเริ่มลงมือทำอาหาร
“นายท่านจะทำอะไรกินเหรอคะ”
“มันคือยำน่ะ ต้องขอบอกเลยนะว่าหอยนางรมกับน้ำยำสูตรเด็ดกลมกล่มของป๊ามันเข้ากันได้ดีม๊ากกก ยิ่งถ้าได้กินกับหอมเจียวนะ ฮี่ๆ”
ติ๋งๆๆ
หลังจากได้ยินที่ราฟพูด น้ำลายของโกโก้ก็ไหลออกมา
“ขะ ข้าอยากลองชิมบ้าง”
“หนูกินได้เหรอ”
“ข้ากินเหมือนมนุษย์นั่นแหละ”
“เออเนอะ โกโก้ไม่ใช่ปอมธรรมดานี่หว่า”
หลังจากราฟทำยำหอยนางรมเสร็จเขาก็เอามาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับสเต็กหมูคุโรบูตะของโกโก้
“อ้า รสชาติที่คิดถึง สัมผัสที่นุ่มลิ้นของหอยนางรมขนาดเท่าฝ่ามือ บวกกับรถชาติเค็ม เปรี้ยว หวานนำกำลังดี โอ๊ย แซ่บ!” ราฟหลับตาฟินกับรสชาติอาหารที่เขาทำ
“นะ นายท่าน ข้าขอชิมบ้างสิคะ” โกโก้ที่เห็นอาการของนายท่านของเธอขอร้องออกมาด้วยความอยากชิมบ้าง
“หืม อ่ะ” ราฟป้อนหอยนางรมเข้าปากของโกโก้
“แง้ นายท่านนน! ข้าเผ็ดดด!”