ตอนที่ 962-963
เขาไม่เข้าใจว่าหยางเชาชิงหมายถึงอะไร?
เขากำลังเตือนว่าเขาไม่ควรจะทำให้สิ่งที่ไม่ควรทำ
“นายน้อยหยาง...”
นางแบบคนหนึ่งเดินมาหาหยางเชาชิง พร้อมกับคว้าแขนของเขาไว้
“ทำไมไม่สนใจฉันเลยล่ะค่ะ ฉันเบื่อมากแล้วนะ”
“ได้ ได้”
นางแบบอีกคนเดินเข้ามาจับแขนของหยางเชาชิง
“นายน้อยหยาง มาเล่นกับเราเถอะค่ะ ถ้าคุณไม่อยู่ใกล้ ๆ พวกเราก็เบื่อแย่”
หยางเชาชิงรู้สึกสนุกสนานกับความรู้สึกที่มีผู้หญิงมากมายอยู่รอบ ๆ ตัวเขา เขาบีบแก้มของหนึ่งในนั้นแล้วยิ้ม
“เห็นคนนี้ ที่อยู่ข้าง ๆ ผมไหม ถ้าวันนี้ คุณทำให้เขามีความสุข ฉันจะให้รถสปอร์ตกับคุณ”
ดวงตาของสาว ๆ ต่างเป็นประกายเมื่อกล่าวถึงรถสปอร์ต
แต่เมื่อมองไปที่ท่าทางเย็นชาของกงเซลี พวกเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
หยางเชาชิงเหลือบมองสาว ๆ แล้วเลิกคิ้ว
“ทำไม รถสปอร์ตไม่ดึงดูดพวกคุณหรอกเหรอ?”
“เปล่าคะ เปล่าคะ...”
นางแบบดูเหมือนเธอกำลังจะลองดูแต่ทันทีที่เธอเห็นการจ้องมองที่เย็นชาของกงเซลี เธอก็ถอยกลับทันทีด้วยควมกลัว
“นะ-นายน้อยหยาง คือว่านายน้อยกง เขาคงไม่ชอบคนแบบพวกเรา”
“หืม?”
หยางเชาชิงเลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยความสงสัย “น้องสี่อยู่ไหนเนี้ย แล้วคนนี้ใคร ทำไมเป็นคนที่ฉันไม่รู้จัก”
นางแบบรวบรวมความกล้าและชำเลืองมองกงเซลีอีกครั้ง ก่อนจะละสายไป
“ทุกคนในวงการต่างรู้ดีว่าใครเป็นคนโปรดคนใหม่ของนายน้อยกง คุณชายน่ะปฏิบัติกับเธออย่างดี เราทุกคนต่างอิจฉาเธอ ยิ่งวันนี้ที่นายน้อยกงไม่พอใจในความงามของพวกเราด้วยแล้ว ยิ่งน่าอิจฉาไปใหญ่”
นายน้อยกงที่เงียบมาตลอด หันกลับมาจ้องสาวงามที่กำลังพูดจบ
“คนที่เธอพูดถึงคือใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ”
นางแบบคนนั้นอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เมื่อเธอสบตากับเขา เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้หยางเชาชิงด้วยความกลัว
“นะ-นายน้อยกงคงรู้ใช่ไหมคะ ว่าใคร ๆ ก็บอกว่าคนโปรดคนใหม่ของคุณคือ... ดาราหน้าใหม่ที่ชื่อเฉียวเมียนเมียน?”
ท่าทางของหยางเชาชิงเปลี่ยนไปทันที
เขาผลักนางแบบคนนั้นออกพร้อมกับตะคอก
“เธอพูดไร้สาระอะไร ใครบอกเธอว่าคนโปรดของนายน้อยกงคือเฉียวเมียนเมียน?”
นางแบบตกใจจนหน้าซีด เธอมองไปที่เขาแล้วพูดว่า “ใคร ๆ ก็พูดแบบนั้น”
“ทุกคนเหรอ?” หยางเชาชิงขมวดคิ้ว
“หมายความว่ายังไง”
นางแบบคนนั้นยังได้ยินข่าวซุบซิบนี้จากคนอื่นมาอีกด้วย
เธอตกใจกับท่าทางแสดงออกที่มืดมนของหยางเชาชิงและกงเซลี เธอบอกพวกเขาทันทีว่าตอนนี้เฉียวเมียนเมียนกำลังถูกแฟนคลับของตู่อี้เล่ยโจมตีทางออนไลน์อย่างไรบ้าง
หยางเชาชิงฟังอย่างเงียบ ๆ
ท่าทางของกงเซลีมืดลง
หลังจากได้สติ เขาหรี่ตาและพูดกับหยางเชาชิงว่า
“ฉันกลับก่อนล่ะกัน นึกได้ว่ามีบางอย่างต้องจัดการ วันนี้คงอยู่เล่นกับนายไม่ได้แล้วล่ะ”
หยางเชาชิงขมวดคิ้ว “น้องสี่ นายกำลังจะทำอะไร”
“ไม่ต้องกังวล” กงเซลีกำหมัดและมองดูเขาอย่างเย็นชา
“ฉันรู้ว่านายกังวลเรื่องอะไร ฉันรู้ดีว่าต้องทำอะไร เรื่องของพี่รอง ฉันจะพูดกับเขาอีกที ฉันไปล่ะ”
....
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
กงเซลีลงจากเรือยอทช์และได้รับข้อความจากลูกน้องของเขา
หลังจากอ่านข่าวทั้งหมด สีหน้าของเขาก็มืดลงและดวงตาของเขาก็เย็นชาลง
เขาโทรหาเซินโย่ว
ในไม่ช้าเธอก็รับสาย
เซินโย่วรู้สึกประหลาดใจ “เซลี นั่นนายเหรอ”
กงเซลีเงียบไปสองสามวิยาที ก่อนจะตอบอย่างใจเย็น “ฉันเอง”
“เป็นนายจริง ๆ ด้วย” เซินโย่วดูตื่นเต้น
“เซลี นายโทรหาฉันทำไม นายรู้ไหมว่าฉันมีความสุขมากขนาดไหนที่เห็นชื่อนายบนหน้าจอ ฉันคิดว่านายจะไม่โทรหาฉันอีกแล้วซะอีก”
“เซลี เรามาเจอกันหน่อยได้ไหม ฉันอยากคุยกับนายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ฉันรู้ว่านายยังโกรธฉันอยู่ แต่ฉันรู้ว่านายคงไม่ยกโทษให้ฉันง่าย ๆ ใช่ไหม ยังไงเราก็คบกันมานาน นายให้โอกาสฉันได้ชดเชยจะได้ไหม”
“ตั้งแต่นายทิ้งฉันในวันนั้น ฉันก็รู้ตัวแล้วว่า ฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีนาย”
เธอพูดไปพร้อมกับเสียงสะอื้น
“นายเมินฉันมาทั้งวันแล้วนะ ฉันโทรหา ก็ไม่รับ ข้อความก็ไม่ตอบ ฉันไม่ชินเลยจริง ๆ ที่นายทำกับฉันแบบนี้”
“เมื่อก่อนฉันหานาย นายจะรับสายฉันทันทีเสมอ ถ้าฉันส่งข้อความ นายก็อ่านทันที เซลีที่เคยเอาอกเอาใจฉันมาหลายปี ตอนนี้เปลี่ยนมาเย็นชา ถ้าต้องแบบนี้ ฉันขอตายเสียดีกว่า”
“เราย้อนกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม?”
หัวใจของกงเซลีอ่อนลงเมื่อเขาได้ฟังที่เธอพูด
ขณะที่เขากำลังจะปลอบเธอ ทันใดเขาก็นึกถึงข่าวที่เพิ่งได้อ่าน
“เธอบอกว่าอยากเจอฉันเหรอ ได้สิ แล้วเจอกัน”
เซินโย่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ
“จริงเหรอ นายอยากจะพบฉันจริง ๆ เหรอ ได้สิ เซลี ฉันจะไปหานายตอนนี้เลย เจอกันที่เดิมนะ ครึ่งชั่วโมง ฉันก็ถึงแล้ว”
กงเซลีวางสาย
เขาเปิดข้อความที่ลูกน้องส่งมาให้เขา
ข้อความมีเพียงสองคำ : เซินโย่ว
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
กงเซลีมาถึงสถานที่นัดพบ
พนักงานเสิร์ฟพาเขาไปที่ห้องส่วนตัวที่เซินโย่วได้จองไว้ล่วงหน้า
เซินโย่วมาถึงก่อนเวลาและนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นกงเซลีเดินเข้ามา เธอยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น และร้องออกมา ดวงตาแดงก่ำ
“เซลี มาแล้วเหรอ?”
กงเซลีพยักหน้า
พนักงานเสิร์ฟปิดประตู
เซินโย่วก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและเอื้อมมือออกไป “เซลี ฉัน...”
กงเซลีหันกลับมาอย่างเงียบ ๆ และหลีกเลี่ยงมือของเธอ
“เซินโย่ว มาคุยกันหน่อย”
เขาเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น เธอไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอ ทำไมเธอลอบกัดเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า”