ชเวซูจี
“เง่ะ ทำไมทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันแบบนั้นน่ะครับครูหลิน...แล้ว เรื่องที่เราคุยกันตอนแรกครูหลินว่าไงครับ” ราฟถามหลินอิงอิงด้วยรอยยิ้มบางๆ
หญิงสาวผมชมพูมองนักเรียนของเธอด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า
“เห้อ ดูท่า ฉันคงห้ามคนอย่างนายไม่ได้สินะ เพราะต่อให้ห้ามนายไม่ให้ไปกับฉันได้ นายก็คงหาทางอื่นไปอยู่ดี สู้ให้มาอยู่ในความดูแลของฉันดีกว่า จะได้ปกป้องนายได้ด้วย”
เมื่อราฟได้ฟังดังนั้นเขาก็ทำท่าเขินอายจนหญิงสาวรู้สึกคันมือยิบๆ
“มะ แหม ครูเป็นห่วงผมเหรอครับ ดีใจจัง ฮี่ๆ”
“ไอ้เด็กบ้า ไม่กวนประสาทกันสักครั้งจะตายรึไง ฉันไปละ...เอาแค่นี้ค่ะ” หลินอิงอิงบ่นราฟเสร็จก็ยื่นตะกร้าที่ใส่วัตถุดิบทำอาหารที่เธอเลือกให้แม่ค้าคิดเงิน ก่อนจะเดินจากไป
“เราก็รีบเลือกรีบกลับไปนอนดีกว่า” ราฟพูดกับตัวเองก่อนจะรีบเลือกของไปทำอาหารแล้วเดินทางกลับหอ
เมื่อมาถึงห้อง ราฟก็ทำอาหารเช้ากินกับโกโก้แล้วสวมกอดเจ้าตัวเล็กเข้านอนทันที
.
.
.
ติ้งงง
“หืม” ราฟที่งัวเงียตื่นขึ้นมาเอื้อมมือไปหยิบมือถือมาแนบหูก่อนจะพูดว่า
“ว่างาย”
“เจ้าบ้าราฟ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ตอนนี้พัคแทยังกำลังมีเรื่องกับคุณหนูตระกูลชเว!” เรเชลพูดด้วยเสียงร้อนใจ
“อื๋อ แล้วมันยังไงอ่ะ”
“โอ้ย รีบมาเร็ว กองกำลังของตระกูลชเวในโรงเรียนนี้ไม่ใช่อะไรที่จะดูถูกได้นะ นายอยากให้เพื่อนของพวกเราบาดเจ็บก่อนลงแข่งเหรอ”
“เห นี่เธอก็คิดว่าพวกฉันเป็นเพื่อนแล้วงั้นเหรอเนี่ย เล่นทำฉันดีใจเลยน้า” ราฟไม่วายหยอกหญิงสาว
“บะ บ้า ก็ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันแบบนั้นจะไม่เรียกว่าเพื่อนแล้วจะเรียกว่าอะไร อย่าเปลี่ยนเรื่อง! รีบมาเร็ว พิกัดคือ....”
.
.
.
[สวนแห่งไอรีน]
สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในโรงเรียนผู้พิทักษ์ไอรีน เพราะมันเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กันของเหล่าว่าที่ผู้พิทักษ์
ใจกลางของสวนถูกประดับไว้ด้วยน้ำพุที่มีรูปปั้นเทพธิดาไอรีนผู้งดงามกำลังทำท่ากุมมือพร้อมกับสยายปีกทั้ง 6 ของเธออยู่
ในตอนนี้ที่หน้าน้ำพุ ปรากฏเงาร่างของผู้คนมากมาย แต่กลับมีคนเพียงสองคนที่เป็นจุดเด่นท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้
“ไหนๆ มีเรื่องไรกันๆ” เสียงที่ฟังดูกวนประสาทสายหนึ่งดังออกมาจากชายหนุ่มผมเทาที่พึ่งมาถึง
“นายพึ่งมาถึงก็เสียงดังเลยเหรอยะ” เรเชลที่โผล่มาด้านข้างชายหนุ่มทุบไหล่ของเขาก่อนจะน้ำตาไหลเล็กน้อย
‘อ๊า ไหล่คนรึแร่ซูพริลยะ โครตแข็งเลย’ เรเชลเก็บอาการก่อนจะอธิบายเหตุการณ์ตรงหน้า
“นายเห็นผู้หญิงผมน้ำตาลเข้มตรงนั้นมั้ย นั่นคือชเวซูจี ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของชเววอนกี ขนาดชเวซอนมินที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลก็ยังมีความสำคัญน้อยกว่าเธออีก เห็นว่าเป็นเพราะเธอมีพลังในการมองเห็นอนาคตล่ะนะ”
“แล้วไงต่อ” ราฟกัดซาลาเปาทอดที่แวะซื้อข้างทางถามออกมา
“พัคแทยังมีปัญหา แต่นายก็ยังมีกะใจแวะซื้อของกินอีกเนี่ยนะ”
“เห้ๆ ใจเย็นน่า เธอคิดจริงๆเหรอว่าหมอนั่นจะพลาดท่ากะอีแค่กองกำลังเด็กน้อยเนี่ยอ่ะ”
“ถ้านายไม่กังวลเรื่องของเขาแล้วนายมาทำไม” เรเชลถามชายหนุ่ม
“ก็แค่มาดูเรื่องสนุกอ่ะ” ราฟตอบหน้าตาย
“ไอ้ๆๆ...” เรเชลไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบ่นชายหนุ่มที่เธอเพิ่งยอมรับว่าเป็นเพื่อน
“เอาน่า รอดูต่อไปเถอะ” ราฟหยิบซาลาเปาทอดอีกก้อนยัดเข้าปากเรเชลที่กำลังอ้าปากหวังด่าเขาอยู่
“...”
งั่มๆ
เมื่อเธอได้ซาลาเปาไป ปากบางๆของสาวเจ้าก็เริ่มเคี้ยวเบาๆ ก่อนจะเลือกมองเหตุการณ์ตรงหน้าต่อไปพร้อมกับราฟอย่างเงียบๆ
‘ไอ้เราก็นึกว่าจะมีเรื่องอะไร ดูยังไงก็เป็นเรื่องคู่รักทะเลาะกันนี่หว่า ยัยเรเชลนี่มโนเก่งเหมือนเดิมเลยแฮะ’ ราฟคิดในใจ
.
.
.
“ที่นายบอกว่าชอบคนที่ชื่อเซร่ามันหมายความว่ายังไง” สาวงามผมสีน้ำตาลเข้มหรือชเวซูจีถามออกมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“ก็ตามนั้น ฉันชอบคุณเซร่า เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับเลยล่ะ” พัคแทยังพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“นาย! แล้วที่นายบอกฉันว่านายไม่มีเวลาไปชอบคนอื่นเพราะจะสนใจแต่เรื่องการฝึนเพื่อเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดล่ะ!?”
“เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน” พัคแทยังพูดนิ่งๆ แต่เขารู้ดีว่าเขาแค่ใช้ชื่อของเซร่ามาเป็นเกราะป้องกันเขากับหญิงสาวคนอื่นเท่านั้น
“ไม่จริง เพราะในนิมิตที่ฉันเห็น ไม่มีคนชื่อเซร่าอยู่กับนายในอนาคต มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ” ชเวซูจีพูดเสียงดังก่อนจะเพ่งตามองไปที่พัคแทยังด้วยดวงตาสีฟ้าที่ปรากฏสัญลักษณ์นาฬิกาทรายสีทองก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจว่า
“ไม่จริง ทำไมคราวนี้ที่ฉันอ่านใจนายถึงมีผู้หญิงที่เหมือนคนชื่อเซร่าอยู่กับนายล่ะ นายคิดถึงเธออยู่จริงๆด้วย นายชอบเธอ! ไอ้คนทรยศ ฉันอุตส่าห์อดทนรอเพื่อให้นายฝึกฝนตัวเองจนแข็งแกร่งที่สุดแล้วจะยอมแต่งงานกับนาย แต่นายกลับนอกใจฉัน สารเลว!”
“...” พัคแทยังกุมขมับ เขาแค่กำลังคิดว่าจะใช้ชื่อเซร่าต่อไปเฉยๆ แต่พลังของเธอกลับตีความหมายเป็นอย่างอื่นไปเสียได้ เห้อ ช่างเถอะ พัคแทยังขี้เกียจอธิบาย จึงปล่อยให้หญิงสาวเพ้อต่อไป
“วิ้ว พบจอมมโนหมายเลข 3 เธอมีเพื่อนแล้วนะเรเชล” ราฟผิวปากพูดออกมา
“หมายเลข 3 อะไรของนายล่ะนั่น...แต่เธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆนะ พลังของเธอถึงกับสามารถมองเห็นความคิดของคนอื่นได้ด้วย” เรเชลพูดออกมาด้วยใบหน้าหวาดระแวงว่าตนจะถูกอ่านใจ ก่อนจะแอบหยิบซาลาเปาทอดจากถุงในมือของราฟมากินอย่างเนียนๆ
“ชิ ยัยนี่” ราฟที่เห็นการกระทำของหญิงสาวเดาะลิ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วชมการสนทนาต่อไป
“รู้อย่างนี้แล้วเธอจะทำยังไง” พัคแทยังถามหญิงสาว
“นายต้องเลิกชอบเธอซะ ถ้าฉันไม่ได้หัวใจของนาย คนอื่นก็ต้องไม่ได้” ชเวซูจีชูหมัดที่สวมถุงมือใยเหล็กสีชมพูของเธอมาทางพัคแทยัง
“เห้อ คงต้องจบเรื่องด้วยการต่อสู้อีกตามเคยสินะ” พัคแทยังเกาหัว ก่อนจะตั้งท่าเตรียมรับมือแล้วพูดกับหญิงสาวว่า
“ถ้าเธอชนะฉันได้ฉันสัญญาว่าจะไม่ชอบใครอีกนั่นรวมถึงเธอด้วย แต่ถ้าเธอแพ้ก็เลิกมาหาเรื่องฉันอีกเป็นครั้งที่สอง”
“ย่อมได้!” ชเวซูจียอมรับคำท้าของพัคแทยังก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าหาชายหนุ่มตาทอง
“เพลงหมัดมิติ วิถีที่ 1 แยกมิติ!”
“ฝ่ามือสุริยัน!” พัคแทยังสะบัดฝ่ามือซ้ายเข้าต้านรับหมัดของหญิงสาวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
การปะทะกันของทั้งสองถึงกับทำให้กระแสอากาศโดยรอบตัวของทั้งสองคนสั่นไหว