ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
“...”
ราฟหันไปมองเรเชลที่ทำตาแป๋วมองเขาและพัคแทยังด้วยความสนใจ
“เธอรู้ด้วยคงไม่เป็นไรมั้ง แต่ต้องสัญญาก่อนว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ” ราฟถอนหายใจก่อนพูดออกมา
“ฉันสัญญา เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปฉันโดนแฟนคลับของหมอนี่ตามรังควานเรื่อยๆแน่ แล้วแผนคืออะไร” เรเชลถามขณะที่เริ่มหอบเพราะพวกเธอวิ่งคุยกันมาเป็นเวลาสักพักแล้ว
หลังจากได้ยินคำถามของเรเชล ราฟก็แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
.
.
.
“หยุดนะ ยัยคนไร้ยางอาย” เสียงของเหล่าสาวๆที่กำลังวิ่งตามทั้งสามคนมาเริ่มดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ไม่นานราฟ พัคแทยัง และเรเชลก็หยุดวิ่ง ก่อนจะหันหน้ามาหาเหล่าบรรดาสมาชิกสมาคมว่าที่สะใภ้ของพัคแทยัง หรือ ภายหลังมีชื่อเรียกแบบสั้นๆว่า ‘สะใภ้พัค’ ด้วยใบหน้าที่แตกต่างหันออกไป
ราฟมองสาวๆในคอนโทรลของพัคแทยังด้วยรอยยิ้มกวนๆ
เรเชลมองพวกเธอด้วยสายตาไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย
ส่วนทางด้านพัคแทยังก็มองเหล่าหญิงสาวแล้วนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่พวกเธอได้แสดงความชื่นชมและความต้องการที่จะติดตามเขา ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนเมื่อปีที่แล้วจนถึงวันนี้
แน่นอนว่าสาวๆพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีเลย เพียงแค่การกระทำของพวกเธอที่ตามเขาตลอดทุกครั้งที่เขาอยู่คนเดียวทำให้เขารู้สึกอึดอัดก็แค่นั้น
หรือบางที...ถ้าเขาทำตัวเลวๆ สาวๆก็คงจะหนีเขาไปล่ะมั้ง...
ไม่สิ...เขาเคยทำแล้วนี่นะ ครึ่งปีก่อนเขาเคยทำตัวเย็นชากับพวกเธอหนนึง ผลลัพท์คือมีคนตามเพิ่มขึ้นเท่าตัวเพระบอกว่าชอบความเย็นชาดิบเถื่อน...
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้พัคแทยังก็กุมขมับของตน
คงไม่มีทางเลือกแล้วยอมรับข้อเสนอของเพื่อนใหม่ของเขาสินะ
พัคแทยังมองราฟที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนหันไปมองสาวๆ
“ฉันมีความลับจะบอก...”
เมื่อพัคแทยังเอ่ยปาก เหล่าสาวๆที่เกรี้ยวกราดอยู่ก็พากันหยุดการกระทำทุกอย่าง ก่อนจะมองพัคแทยังเงียบๆ
“มีความลับอะไรเหรอคะ คุณแทยัง หรือว่าจะสารภาพรักกับพวกเรา แอร๊ย”
“รุ่นพี่จะบอกอะไรเหรอคะ พวกเรารับได้หมดค่ะ”
“คือว่า...” พัคแทยังกลืนน้ำลาย ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และต้องขอโทษด้วยที่เธอคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่” พัคแทยังหลับตาลงเมื่อพูดจบ
เปรี้ยงงง
เพล้งงง
‘ทำไมตูรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฟ้าผ่าไม่ก็กระจกแตกวะ’ ราฟคิดขณะแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่บอกได้คำเดียวว่าโครตจะสดใส
“มะ หมายความว่ายังไงคะที่ว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เป็นคนในโรงเรียนนี้เหรอคะ หรือเพื่อนสมัยเด็ก? พี่สาวข้างบ้าน? ทำไมพวกเราไม่เคยได้ยินเลย” หญิงสาวคนหนึ่งถามเสียงสั่น
“แล้วทำไมยัยแว่นที่มีพลังแฮคเกอร์ถึงบอกพวกเราว่าคุณพัคไม่มีคนที่ชอบล่ะ!” หนึ่งในสาวๆที่อยู่ด้านหน้าตะโกนถามออกมาเสียงเครียด
“ไม่ พวกเราไม่เชื่อ” หลังจากโวยวายกันไปพักนึงพวกเธอก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน
“แค่กๆ คือว่า...” ราฟกระแอมออกมาก่อนที่จะได้รับสายตาพิฆาตจากพวกเธอ
“อย่ามองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักแบบนั้นสิ เห็นฉันอย่างนี้แต่ก็เขินเป็นนะ ใจเย๊นนน อย่าพึ่งซัดหอกมาสิเห้ย...ฉันแค่หวังดีอยากเอารูปของหญิงสาวที่หมอนี่ชอบให้พวกเธอดู แต่ถ้าไม่เอาก็...”
“ส่งมันมา” หญิงสาวที่เหมือนจะเป็นผู้นำของกลุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“อ่ะ” ราฟยื่นมือถือของเขาที่มีรูปของผู้หญิงคนหนึ่งให้พวกเธอดู
“อะแฮ่ม...เธอคนนี้ดังมากเลยนะ เป็นถึงหญิงสาวที่คุณชายแห่งตระกูลชเวหลงใหลจนตามหาในแบบที่เรียกได้ว่าพลิกแผ่นดินหาเลยล่ะ และฉันยังได้ยินมาอีกว่า วินเทอร์ ผู้คุมวิญญานแห่งกิลด์แสงดาราก็ชื่นชมเธอด้วยนะ” ราฟอธิบายข้อมูลของหญิงสาวในรูปด้วยท่าทางจริงจังประหนึ่งเซลล์แมน
“...”
“บ้าน้า หญิงสาวที่พัคแทยังชอบคือเทพธิดาเซราฟิมที่ถูกพูดถึงในเน็ตตอนนี้น่ะเหรอ” เหล่าสาวๆพึมพำออกมาด้วยแววตาคล้ายปลาตาย
เรื่องราวของหญิงสาวที่มีความงดงามล่มเมืองจนทำให้คนที่พบเห็นเธอถึงกับเหม่อลอยไปครู่หนึ่งนั้นโด่งดังไปทั่วโลก
ไม่เว้นแม้แต่คนจากแดนมารที่มีอินเทอร์เน็ตใช้และได้รับรู้เรื่องนี้เช่นกันยังพูดถึงเธอว่า
‘หญิงสาวคนนี้คือหนึ่งในสี่โฉมงามที่พวกมันต้องการเคียงคู่ด้วย!’
ซึ่งการที่เรื่องราวของหญิงสาวที่มีนามว่าเซร่านี้เลื่องลือไปทั่วนั้น ราฟต้องขอยกเครดิตให้คุณชายชเวซอนมินที่สั่งมือดีแอบถ่ายรูปของเธอไว้ แล้วได้แล้วประกาศตามหาตัวเซร่าไปทั่วทุกที่คิดว่ามนุษย์สามารถไปถึงได้
‘ไม่คิดเลยว่าชื่อเสียงของอีกร่างจะดังขนาดนี้ แต่ก็คุ้มค่าล่ะนะที่ทำให้เราได้พลังสุริยันของเจ้าแทยังมาไว้ใช้จุดไฟทำอาหารเวลาออกเที่ยว...เอ้ย ออกทำภารกิจเนี่ย ฮี่ๆ’
.
.
.
“ถะ ถ้าเป็นเธอคนนี้พวกเราคงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยอมรับแหละค่ะว่าเธอนั้นเหมาะสมกับคุณแทยังที่สุดในแง่ของความงดงาม...แต่พวกเราจะต้องรู้นิสัยของเธออย่างละเอียด เพื่อที่จะได้ไม่ให้เธอคนนี้ทำให้คุณแทยังเสียใจ เพราะงั้น...พวกเรา! ไปตามสืบเรื่องของเธอคนนี้กัน! จนกว่าจะเจอตัวเธอและเข้าใจเธอที่สุด...พวกเราไม่เลิก!”
หลังจากราฟพูดจบ ผู้หญิงที่เหมือนจะเป็นผู้นำของสมาคมว่าที่สะใภ้ของพัคแทยังก็พูดเสียงดัง
“ไม่เลิก!” เหล่าสมาชิกทุกคนพูดตาม
“เราต้องขอโทษด้วยนะคะคุณแทยัง ที่หลังจากนี้จะไม่ได้มาติดตามคุณบ่อยๆแบบนี้อีกแล้ว เพราะพวกเราต้องรีบไปสืบเรื่องของเธอคนนี้ก่อนโดยเร็วที่สุด...รักและคิดถึงเสมอนะคะ ขอตัวลาค่ะ!” ผู้นำของกลุ่มกล่าวด้วยเสียงจริงจัง ก่อนจะโค้งตัวลงแบบกุลสตรีแล้วหันหลังกลับไปพร้อมกับสมาชิกคนอื่น
“เอ่อ สู้ๆ เอ้ย โชคดีนะ” พัคแทยังโบกมือลาพวกเธอด้วยความมึนงงปนโล่งใจ
“สำเร็จ!”
เรเชลพูดขึ้นด้วยความดีใจหลังเรื่องทุกอย่างจบลงได้ด้วยดี
“เอาล่ะ ไปคุยธุระของพวกเรากันเถอะ” ราฟหันไปบอกพัคแทยังที่พยักหน้ารับ
“พวกนายจะไปแล้วเหรอ? งั้นฉันก็ขอตัวเหมือนกัน วิ่งหนีพวกบ้าผู้ชายนั่นจนหิวไปหมดแล้วเนี่ย พลังแห่งรักช่างน่ากลัวจริงๆ” เรเชลบ่นอุบอิบขณะกุมท้อง
“หืม เธอหิวเหรอ” ราฟหันไปหาเรเชลด้วยรอยยิ้มที่หากมองจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เรเชลได้เจอกับเขา ทำให้เธอคิดว่าต้องไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ
“เอ่อ ใช่ ทำไม?”
“งั้นไปตลาดกันด้วยก่อนเถอะ ฉันจะทำอะไรให้เธอกับหมอนี่กินเอง”
“ฉันเป็นถึงคุณหนูตระกูลราธเชียวนะ เพราะงั้นลิ้นของฉันน่ะเทพมากนะขอบอก กินยากมากๆด้วย” เรเชลเชิดหน้าด้วยความถือดี
“ลิ้นเทพ? กินยาก? แต่ดันชอบไก่ทอดรถเข็นเนี่ยนะแม่คุณ ขอเถอะ อย่ามาๆ” ราฟพูดขัดเสียงเรียบ
“อึก” เรเชลเถียงไม่ออก