คำสาปแห่งผู้ทรยศ
ราฟเดินไปยกแผ่นดินที่ทับชายวัยกลางคนอยู่ออกมาแล้วพบว่าเขาแค่สลบไป โดยราฟฟังจากเสียงลมหายใจของเขาที่หายใจรวยรินอยู่
“อะไรวะ สลบเลยเหรอ โดนแผ่นดินทับนิดเดียวเอง” ราฟบ่นออกมา
“เอ่อ ฉันว่านั่นไม่นิดนะ แผ่นดินที่นายงัดมาขนาดเท่ารถยนต์คันนึงเลยนะ” หญิงสาวหรือคาร์ลที่อยู่ในโดมสายฟ้าค้านเสียงเบา
“ก็จริงแฮะ ว่าแต่นาย เอ้ย เธอคือคาร์ลจริงๆเหรอ ทำไมถึงกลายเป็นผู้หญิงไปได้ล่ะ” ราฟถามขณะจับชายทั้งสามมามัดรวมกันด้วยเชือกสายฟ้าแล้วสลายโดมที่ป้องกันหญิงสาวออกไป
“ฉันไม่ได้กลายเป็นผู้หญิง แต่ฉันเป็นผู้หญิงจริงๆต่างหากล่ะ ที่ปลอมเป็นผู้ชายที่โรงเรียนเพราะเรื่องส่วนตัว...บะ บอกก็ได้...ฉันไม่อยากเด่นอ่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงมันจะเตะตาเกินไป เลยปลอมเป็นผู้ชายซะเลย” คาร์ลรีบตอบหลังจากเห็นราฟสะบัดแส้สายฟ้าในมือเขาเล่น
‘ก็จริงแฮะ ถ้าเธอล้างหน้าล้างตานี่สวยพอๆกับพวกซายะ เรเชล ไม่ก็ชเวซูจีได้เลย แต่ก็แปลกดี ไม่อยากเด่นเลยปลอมเป็นชาย แถมเนียนอีก ต้องมีไอเทมดีๆแน่ เอาไว้ค่อยถามละกัน’ ราฟคิดในใจ
“แล้วชื่อจริงของเธอคืออะไร คงไม่ใช่คาร์ลแน่”
“คาร่า”
“เห้อ เอาล่ะ ฉันต้องบอกพี่ของเธอว่าเธอบาดเจ็บ...”
“อย่าบอกพี่นะ! ขอร้องล่ะ ถ้าพี่บ้านั่นรู้เขาจะต้องตามมาจับฉันไปฝึกที่ฐานของตาลุงเจโรมแน่ ฉันไม่อยากไปที่นั่นอ้ะ ฉันอยากสนุกอยู่ที่นี่ นะ น้าาา” คาร่าเข้ามากอดขาของราฟ และด้วยสภาพที่เปื้อนฝุ่นของเธอมันทำให้ดูน่าสงสารจนราฟต้องเกาหัว
“ก็ได้ๆ แต่บอกฉันมาก่อนว่าทำไมเธอถึงตกมาอยู่สภาพนี้ได้”
“กะ ก็แค่ฉันได้ยินพี่ฉันบอกว่าพบดันเจี้ยนลับ ระดับ A ฉันเลยแอบมาคนเดียวน่ะ แต่ฉันไม่กล้าเข้าไปคนเดียวเลยไปจ้างผู้พิทักษ์ระดับ A มาสามคน พวกนั้นนั่นแหละ แต่พอฉันเจอไอเทมพวกมันก็เลือกปล้นฉันต่อทำให้ฉันมาอยู่ในสภาพนี้นี่แหละ” คาร่าพูดด้วยความโกรธขณะจ้องไปยังชายทั้งสาม
“เธอไม่ได้เซ็นสัญญาคำสาปแห่งผู้ทรยศไว้เหรอ” ราฟถาม
คำสาปแห่งผู้ทรยศ คือ สัญญาที่ถูกสร้างโดยผู้ใช้พลังสายคำสาปรูปแบบสัญญา มันเป็นหนังสือสัญญาที่จะทำให้ผู้ที่ทำผิดข้อตกลงต้องเจอกับคำสาปที่อยู่ในสัญญา บางคำสาปอาจร้ายแรงถึงชีวิต ถึงจะฟังดูเป็นชื่อที่น่ากลัวแต่มันกลับเป็นสัญญาที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายบนโลกที่โหดร้ายนี้
“ฉันไม่มีเงินซื้อสัญญาดีๆแบบนั้นหรอก เพราะเอาเงินที่มีไปจ้างพวกมันหมดแล้ว...ก็ตอนแรกพวกมันดูเป็นคนดีนี่นา โดยเฉพาะชายวัยกลางคนคนนั้น ตอนแรกทำหน้าตาอย่างกับหลวงจีนพึ่งสึกใหม่แน่ะ” คาร่าบ่นอุบอิบ ราฟที่ได้ยินถึงกับเอามือกุมขมับ
‘ยัยนี่...นอกจากจะซื่อบื้อแล้วยังจะเชื่อคนง่ายอีก รอดมาจนอายุขนาดนี้ได้ไงวะ เจ้าวาตะมันจะทะนุถนอมน้องสาวของมันเกินไปแล้ว’
“แล้วดันเจี้ยนนั่นล่ะ”
“หลังจากฉันหยิบไอเทมลับมาแล้วมันก็ปิดตัวลงไปเลยอ่ะ” คาร่าตอบ ราฟพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น
“เอาล่ะ...ฉันจะพาเธอกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” กล่าวจบชายหนุ่มผมเทาก็ใช้มือข้างที่ว่างหิ้วเอวคาร่าขึ้นมาวางพาดบ่า ส่วนข้างที่เหลือก็ลากเชือกสายฟ้าที่มัดชายทั้งสามไว้ให้ตามเขามา
หลังจากมาถึงโรงพยาบาลเมืองไอรีน โชคดีที่ตอนเขาไปถึงมีคนอยู่น้อยมาก ราฟก็เลยฝากคาร่าไว้กับพยาบาล ก่อนจะให้เงินค่ารักษากับคาร่าแล้วบอกลาเธอ
“เดี๋ยวสิ จะไปแล้วเหรอ...” คาร่าทำหน้าตาเศร้าเพราะไม่อยากอยู่ฉีดยาคนเดียว
“ฉันไม่ชอบอยู่โรงบาล ให้พยาบาลฉีดยาชากับล้างแผลเธอไปนั่นแหละ ฉันต้องพาพวกสารเลวนี่ไปรายงานที่สมาคมก่อน ลาล่ะ” ราฟพูดจบก็ไม่ปล่อยให้คาร่าพูดอะไรต่อ เขาเดินจากไปทันที
“ชิ อะไรจะไม่ชอบโรงพยาบาลขนาดนั้น อ๊ะ คุณพยาบาลขา อย่าฉีดหนูเลยนะคะ...”
ฉึก
“โอ๊ยยย”
.
.
.
[สมาคมผู้พิทักษ์]
“ผมจับคนร้ายได้ครับ พวกมันพยายามปล้นหญิงสาวคนหนึ่ง ตอนนี้เธอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไอรีน เธอชื่อว่าคาร่า พวกคุณสามารถส่งคนไปสอบถามเธอได้ เธอมีตาสีเขียว มัดผมหางม้าสีน้ำตาลอ่อน” ราฟลากชายทั้งสามมากองไว้ข้างๆก่อนจะพูดกับประชาสัมพันธ์สาวด้วยรอยยิ้ม
“อ๊ะ คุณคือคนที่มากับคุณหนูตระกูลชิโรคามินี่คะ เดี๋ยวฉันขอลงบันทึกประจำวันก่อนนะคะ...ดูเหมือนพวกเขาจะมีรางวัลนำจับด้วย คุณจะรับมันไว้มั้ยคะ รางวัลสามแสนเหรียญค่ะ” พนักงานเงยหน้าขึ้นมาถาม ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาคุมตัวคนทั้งสามที่ยังคงสลบอยู่ไปห้องคุมขัง
“อืม...งั้นเอาให้หญิงสาวที่ชื่อคาร่าแล้วกันครับ คนที่จะให้ข้อมูลพวกคุณนั่นแหละ”
“โอเคค่ะ ทางเราจะรีบดำเนินการให้เสร็จภายในเย็นนี้นะคะ รอฟังผลการลงโทษพวกเขาทางข้อความได้เลยค่ะ”
“สมาคมผู้พิทักษ์นี่สุดยอดไปเลยนะครับ ดำเนินการเร็วมาก” ราฟเอ่ยปากชมด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนตำราจที่โลกเก่าของเขาเลยแฮะ...ถ้าไม่มีเงิน กว่าจะทำคดีของคนปกติได้ก็ต้องรอให้เป็นข่าวดังก่อนถึงจะยอมทำ
“แหม ปากหวานจังเลยนะคะ ทางเราต้องให้บริการกับประชาชนของเมืองไอรีนอย่างเต็มที่อยู่แล้วสิคะ ก็เงินเดือนของฉันมาจากภาษีของพวกคุณนี่นา” ประชาสัมพันธ์สาวยิ้มหวานให้ราฟ
“งั้นถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอเบอร์...” ราฟที่กำลังจะพูดเพื่อขอช่องทางการติดต่อเธอเพื่อที่จะไว้ใช้ติดต่อสอบถามเรื่องภายในของสมาคมก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อะแฮ่ม!”
“อื๋อ” ราฟหันไปเจอกับหญิงสาวผมขาว ดวงตาสีแดงทับทิมของเธอมองเขาด้วยสายตาเย็นที่แฝงความหงุดหงิด
“ไม่คิดว่าการมาทำธุระของตระกูลที่สมาคมจะทำให้ฉันเจออะไรแบบนี้เลย ฉันก็คิดว่าหลายวันมานี้นายคงยุ่งกับการฝึกสำหรับรายการเอาชีวิตรอด แต่ที่ไหนได้ กลับมาจีบสาวอยู่ที่สมาคมผู้พิทักษ์ซะอย่างนั้น ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับพลอดรักกันนะ” กล่าวจบหญิงสาวก็แผ่ไอเย็นไปทางทั้งสองทันที
ราฟสะบัดมือดูดซับไอเย็นกันไม่ให้ไปโดนประชาสัมพันธ์สาวไว้ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกับซายะว่า
“นี่คุณประธาน ดูเหมือนเธอกำลังจะเป็นวันนั้นของเดือนนะ แต่ก็ไม่ควรเอาความเจ็บปวดมาลงกับคนอื่นนะรู้มั้ย...เอางี้ ให้ฉันไปซื้อผ้าอนามัยให้ป่าว เมื่อก่อนฉันซื้อให้พี่สาวกับน้องสาวบ่อยนะขอบอก เรียกผู้ผู้เขี่ยวชาญเลยแหละ”
“ไอ้บ้า!” ซายะด่าชายหนุ่ม
“ขะ ขอบคุณค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวตอบด้วยใบหน้าเขินอาย
“ไม่เป็นไรครับ ถ้ามันทำให้คุณตกใจ เอาไว้ผมจะพาคุณไปเลี้ยงมื้ออาหารตอบแทนนะครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ”
“เทียร์ค่ะ”
“แหม ชื่อเพราะจังเลยนะครับ งั้นผมขอเบอร์ติดต่อ...”
กึก
“เฮ้ ยัยน้ำแข็งใส จะมากไปแล้วนะ นี่เล่นดาบน้ำแข็งเลยเหรอ” ราฟที่จับคมดาบน้ำแข็งขณะที่มันกำลังพุ่งใส่หลังหัวของเขาหันมาโวยวายใส่หญิงสาวผมขาวทำยังคงทำหน้าเย็นชาอยู่
“แค่รำคาญพวกคนเจ้าชู้”
“ฉันไปเป็นพวกคนเจ้าชู้ตรงไหนฟะ ก็แค่อยากรู้จักเค้าเพราะจะถามเรื่องข้อมูลของสมาคมเฉยๆ”
“เชื่อตายล่ะ” ซายะหันหน้าไปทางอื่น
“...”
“เห้อ เธอนี่นะ...คุณเทียร์ครับ ผมขอเบอร์ติดต่อหน่อยครับ”
“เอ่อ นี่ค่ะ” หญิงสาวหยิบนามบัตรของเธอส่งให้เขาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
“ขอบคุณครับคนสวย เอาไว้ผมจะติดต่อไปนะครับ” ราฟยิ้มหวาน ก่อนจะหันไปคุยกับซายะ
“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่”
“เรื่องของฉัน”
“ตามใจ” ราฟยักไหล่ ก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“แต่อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ ล้างคอ...เอ๊ย ล้างหน้ารอไว้เลย”
“นาย!” ซายะหันไปเตรียมจะตะโกนใส่ชายหนุ่มแต่ก็พบว่าเขาหายไปเสียแล้ว
“ไอ้บ้า” หญิงสาวพึมพำเสียงเบา
หลังจากราฟออกจากสมาคมไป ซายะก็หันหน้ามามองเทียร์แล้วพูดกับเธอด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า
“ถ้าเธอคุยเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องสมาคมล่ะก็ตายแน่” หญิงสาวพูดจบก็สะบัดผมของเธอเดินเข้าไปยังห้อง VIP ของสมาคม
“...”
.
.
.
“ยัยนั่นเป็นอะไรของเค้านะ เจอหน้ากันก็ไม่พูดอะไร เอาแต่ซัดพลังใส่เราท่าเดียวเลย แล้วยัยนั่นรู้ได้ยังไงว่าเราลงเอาขีวิตรอด? ช่างเถอะ คิดมากปวดหัว กลับไปหาปั๋ว...เอ๊ย โกโก้ดีกว่า ฮี่ๆ” ราฟที่พึ่งออกมาจากสมาคมเกาหัวแกรกๆคิดอะไรไร้สาระเช่นเคย ก่อนที่เขาจะเลือกเดินทางกลับหอเพื่อไปทำอาหารกินพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยผู้น่ารักของเขา