การฝึกฝน
กลางดึกของคืนนั้น
ราฟในตอนนี้ที่รู้ว่าจะต้องแข่งขันเอาชีวิตรอดได้สวมชุดพละของไอรีนเดินออกจากห้องของเขา
ในโรงเรียนนี้ชุดพละของผู้ชายจะเป็นเสื้อวอร์มแขนยาวและกางเกงขายาวสีดำ ส่วนของผู้หญิงจะเป็นสีขาว แต่นักเรียนก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ ราฟที่ชอบสีดำอยู่แล้วจึงเลือกที่จะไม่เปลี่ยน
ข้างหลังของชุดมีตราสัญลักษณ์รูปจิ้งจอกเก้าหางที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของไอรีน ผู้มีฉายาเทพีแห่งสงคราม และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนไอรีนแห่งนี้
ตอนนี้ชายหนุ่มผมเทากำลังใช้มือแสกนตัวตนก่อนที่จะเดินเข้าไปที่ห้องฝึกฝนของทางโรงเรียน
โรงเรียนไอรีนแห่งนี้ มีรูปแบบการเสียนการสอนแบบไม่ตายตัว นักเรียนสามารถเลือกที่จะเรียนอะไรก็ได้ ถ้ามีคำถามก็สามารถถามครูประจำชั้นได้ทุกเมื่อ แต่พวกเขาต้องผ่านมาตรฐานการทดสอบของโรงเรียนที่ 1 ปีจะมีครั้งหนึ่ง ถ้าทำไม่ได้ต้องซ้ำชั้นต่อไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าถ้าใครไม่ขยันก็ต้องเสียเวลาไปอีก 1 ปี
ภายในห้องฝึกส่วนตัวแบบเก็บเสียงที่ราฟเลือกนั้นมีอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ต่อการฝึกฝนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องฝึกการใช้อาวุธที่มีหนังสือเรียนหรือคลิปการสอนใช้ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับปรมาจารย์ ห้องฝึกการต่อสู้ระยะประชิด ห้องฝึกการเคลื่อนไหว ห้องฝึกประสาทสัมผัส ไปจนถึงสามารถปรับแรงโน้มถ่วงในห้องฝึกนี้ได้
นักเรียนของโรงเรียนนี้สามารถใช้ห้องฝึกได้วันละ 2 ชั่วโมง ถ้ามากกว่านั้นต้องจ่ายเงินเพิ่มชั่วโมงละ 300 เหรียญ
ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้จ่ายเพิ่มเติม เพราะมันคุ้มกับการที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นแล้วมีกิลด์ดังให้ความสนใจ และใครที่ได้สังกัดกิลด์ดังเหล่านั้น ก็มั่นใจได้เลยว่าอนาคตสดใสแน่นอน
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ทำให้เขาตื่นสายได้ ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มราฟจึงเลือกฝึก 7 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก หลังจากจ่ายเงินออนไลน์ไป 1500 เหรียญ ราฟก็เดินเข้าไปในห้องฝึกทันที
สาเหตุที่เขาเลือกฝึกโดยไม่นอนก่อนนั้น เพราะด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเขาในตอนนี้จึงทำให้นอนแค่ 3 ชั่วโมงต่อวันก็เพียงพอแล้ว
ราฟเดินเข้าไปเปิดหนังสือวิชาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเป็นอย่างแรก มันมีทั้งมวยไทย กังฟู คาราเต้ เทควันโด ยูโด ยิวยิตสู มวยสากล และสารพัดวิชาการต่อสู้ที่ราฟรู้จักและไม่รู้จัก
ชายหนุ่มเปิดหนังสือทุกเล่มอ่านและดูคลิปทุกคลิปที่เร่งความเร็วสูงสุด ไม่นานเขาก็ดูครบทั้งหมด
“เอาล่ะ เราเข้าใจพวกมันทั้งหมดแล้ว ไปดูการใช้อาวุธดีกว่า” ด้วยประสาทสัมผัสจากสายฟ้าที่หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขา ทำให้ความสามารถในการทำความเข้าใจของชายหนุ่มเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ การเข้าใจพวกมันทั้งหมดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
หลังจากนั้นราฟก็เรียนรู้การต่อสู้ทุกอย่างเท่าที่ในห้องนี้จะมีสอนจนเข้าใจทั้งหมดอย่างลึกซึ้ง
“สุดท้ายอาวุธที่เราชอบที่สุดก็คือร่างกายของเราเองนี่ล่ะนะ” ราฟพูดกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะเปิดใช้ห้องแรงโน้มถ่วงเริ่มต้นที่สิบเท่า ราฟไม่รู้สึกอะไรจนกระทั่งเขาเพิ่มระดับไปเป็นสามสิบเท่าที่เป็นระดับที่เจโรมใช้บดขยี้สัตว์อสูรในสงครามคลื่นอสูร
“อึก มาแล้วๆ ระดับสามสิบเท่านี่เอาเรื่องเลยแฮะ รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ” ราฟฉีกยิ้ม ก่อนที่เขาจะยืนนิ่งๆเพื่อปรับตัวกับแรงโน้มถ่วงระดับนี้
ครึ่งขั่วโมงต่อมาเขาก็ปรับระดับเพิ่มขึ้นเป็น 40 เท่า
ชั่วโมงต่อมาเขาปรับเป็น 60 เท่า...
2 ขั่วโมงต่อมา เขาปรับเป็น 80 เท่า...
3 ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเขาก็ปรับเป็น 100 เท่าที่เป็นขีดจำกัดของห้องฝึกนี้
หลังจากนั้นไม่นานราฟก็ลืมตาขึ้น มองตัวเองผ่านเงาสะท้อนของน้ำที่เกิดจากการรวมตัวกันของเหงื่อเขาเอง
ในตอนนี้ร่ายกายของชายหนุ่มเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ดูแข็งแกร่งไร้ไขมันส่วนเกิน และเป็นเพราะเหงื่อที่ไหลออกมาเต็มเสื้อพละไปหมด ทำให้เขาเลือกที่จะถอดวางไว้กับพื้น
ราฟเริ่มขยับร่างกายของเขาไปมาภายใต้สภาวะแรงโน้มถ่วง 100 เท่า เหมือนยามปกติที่ไม่ได้เพิ่มแรงโน้มถ่วง
จากนั้นชายหนุ่มก็ยืดเส้นยืดสายที่ไม่ได้ขยับมานานกว่า 7 ชั่วโมง
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น
“นี่ นายคนนั้นน่ะ มันหมดเวลาที่นายลงไว้แล้วนะ ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของห้องนี้แล้ว...อ้ะ นาย!?” หลังจากเสียงใสพูดจบ เจ้าของเสียงก็หยุดชะงักขณะชี้นิ้วมาที่เขา
เมื่อราฟหันไปมอง เขาก็ยิ้มออกมา
“ทำไมฉันต้องเจอนายตลอดเลยล่ะ” เรเชลบ่น
“ว่าไงคุณหนูลีมูซีน”
“ชื่อบ้าอะไรอีกล่ะนั่น เรียกฉันว่าเรเชลก็พอ ว่าแต่นายฝึกอะไรอ่ะ เหงื่อโชกเชียว อ้ะ?...กรี้ดดด ใส่เสื้อเลยนะไอ้คนบ้ากาม” หลังจากเห็นร่างของขายหนุ่มเต็มๆ หญิงสาวก็รีบเอามือปิดตา
“ชิ ก็คนมันรู้สึกเหนียวตัวนี่นา อีกอย่างเธอเป็นฝ่ายเข้ามาเองนะ” ราฟบ่น แต่ก็ก้มลงหยิบเสื้อขึ้นมาใส่
“ใครจะรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องจะเป็นคนบ้าแบบนายกันล่ะ ออกไปได้แล้ว ฉันจะฝึก” หลังจากเรเชลเห็นว่าเขาสวมเสื้อแล้ว เธอก็ก้าวเท้าเข้ามาให้ห้อง
“เห้ย! หยุด! อย่าพึ่งเข้ามา!” ราฟที่เห็นอย่างนั้นรีบร้องตะโกนก่อนจะพุ่งออกไปหาหญิงสาวด้วยความเร็วสูงสุดทันทีจนพื้นห้องแตกกระจาย
ตูมมม!
กรี๊ดดด
เสียงร้องที่แสนเจ็บปวดดังขึ้นจากริมฝีปากบางของหญิงสาวผมบลอนด์ ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงอ้อมกอดของใครบางคน เรเชลพบว่าเธอกลับมาอยู่ที่หน้าประตูห้องฝึก จากนั้นก็เงยหน้าดูชายหนุ่มที่ประคองร่างของเธอขณะมองเธอด้วยสายตาเป็นกังวล
“เธอเป็นอะไรมากมั้ย” ราฟถามด้วยความเป็นห่วง
“ไอ้บ้า นี่ใช้แรงโน้มถ่วงระดับไหนกันถึงทำให้เท้าฉันหักได้เนี่ย นายมันปีศาจชัดๆ...ปล่อยฉันนะ โอ๊ย!” เรเชลรีบผละออกจากชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นเธอก็ต้องล้มลงไปนั่งกับพื้น
“เท้าของเธอ...อย่าขยับนะ” ราฟเดินเข้าไปดูเท้าของหญิงสาว หลังจากถอดรองเท้าและถุงเท้าออก เท้าเรียวสวยก็ปรากฏสู่สายตาของชายหนุ่ม แต่ในตอนนี้มันกลับแดงก่ำและมีเลือดออกเต็มไปหมด
“โอ๊ย...อย่าจับแรงสิ” เรเชลกัดฟันพูดด้วยความเจ็บปวด
“ไปห้องพยาบาลกันเถอะ ฉันพาไปเอง...ปิดแรงโน้มถ่วง” หลังจากพูดสั่งระบบในห้อง เขาก็แสกนมือเพื่อยกเลิกการใช้ห้อง แล้วทำท่าจะอุ้มหญิงสาว
“ยะ อย่านะ ฉันจะไม่ยอมให้นายอุ้มเด็ดขาด!” เรเชลชี้ดาบเรเปียร์สีดำสนิทมาที่ชายหนุ่มเป็นการเตือน
ราฟมองการกระทำของเธอนิ่งๆก่อนะจะใช้ทักษะปลดอาวุธที่พึ่งเรียนมากับเธอ จากนั้นเขาก็ใช้มือซ้ายถือดาบไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ใช้ออกด้วยวิชาสกัดจุดใส่หญิงสาวเพื่อกันการต่อต้านที่ไม่จำเป็น แล้วรวบเอวของเธอมาอุ้มไว้ด้านข้าง
“อย่ามาสกัดจุดกันนะ แล้วนายเรียนวิชายากๆแบบนี้เข้าใจได้ยังไงกัน ปล่อยฉัน! งั่ม!” เรเชลที่เหลือแค่ส่วนหัวที่ขยับไปถามออกมา จากนั้นหญิงสาวจึงอ้าปากกัดไปที่เอวของชายหนุ่ม
“โอ๊ย! ฟันฉัน! ร่ายกายนายทำจากเหล็กรึยังไง ห้ะ ไอ้&(@€<$&฿¥” เรเชลน้ำตาไหลพราก ก่อนที่จะว่าราฟไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดส่งเสียงฉันจะโยนเธอลงทะเลสาบใกล้ๆทั้งอย่างนี้ซะเลย” ราฟพูดขู่ด้วยความเหนื่อยใจ
“...”
“ไอ้คนโหดร้าย” หญิงสาวบ่นอุบอิบก่อนที่จะปล่อยให้เขาอุ้มเธอเดินไปเงียบๆ
“ก็เธอดื้อไม่ยอมให้ฉันพาไปดีๆเองนี่นา” ราฟตอบกลับยิ้มๆ