567-568
7/10
Ep.567
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] ขึ้นมาทันที เริ่มหารือกับต้นผลอายุวัฒนะ
“เสี่ยวโซ่วเจ้านายคนก่อนของนาย … หมายถึงคนก่อนเมื่อนานมาแล้ว ก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะของเผ่าพืชปีศาจใช่ไหม?”
ต้นผลอายุวัฒนะคิดหนักอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายกล่าวด้วยน้ำเสียงว่างเปล่าว่า “เจ้านาย ขอโทษด้วย มีหลายเรื่องที่ฉันจำไม่ค่อยได้แล้ว”
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินก็ไม่ถามอะไรเพิ่มอีก หลังจากปิด [พื้นที่เพาะปลูก] เขาก็หันมาพูดกับด้วงเขมือบทองคำว่า “นายได้ผลไม้วิญญาณพวกนั้นมาจากไหน? แล้วยังมีอีกรึเปล่า?”
“พวกมันทั้งหมดถูกอดีตเจ้านายทิ้งไว้เบื้องหลัง แต่ครั้งก่อนข้าได้มอบทั้งหมดให้แก่เหมิงเซิ่งไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลืออีก” ด้วงเขมือบทองคำกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอนหายใจเบาๆ
ไม่มีผลไม้วิญญาณ เท่ากับไม่สามารถเสริมความแข็งแกร่งแก่เขาได้ นี่เป็นเรื่องที่ชวนให้รู้สึกแย่เกินจะทน
กระนั้นโชคยังดีที่แก่นอสูรของต้นผลสายฟ้าห้าสาย และแก่นอสูรของต้นผลพละกำลังอยู่ในมือเขา เอาไว้รอถึงตอนเขาพบต้นไม้แห่งชีวิต ก็มีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพพวกมันได้
เมื่อนึกถึงต้นผลสายฟ้าห้าสายและต้นผลพละกำลัง สีหน้าของซูเฉินค่อยรู้สึกดีขึ้น “เสี่ยวฉง นายรู้รึเปล่าว่าต้นผลปกปักษ์อยู่ที่ไหน?”
ในตอนที่เขาสังหารเหมิงเซิ่ง ต้นผลอายุวัฒนะสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของพืชปีศาจจากตัวอีกฝ่าย และหนึ่งในนั้นคือผลปกปักษ์
ปัจจุบันซูเฉินมีแก่นอสูรของต้นผลพละกำลังและต้นผลสายฟ้าห้าสายอยู่ในมือแล้ว ฉะนั้นต้นผลปกปักษ์ที่เหลือ ย่อมไม่ปล่อยไป
“ข้าเองก็ไม่รู้” ด้วงเขมือบทองคำส่ายหัว
“ดูเหมือนโอกาสยังมาไม่ถึง” ซูเฉินถอนหายใจด้วยอารมณ์หดหู่
แต่ไม่นานก็ฟื้นกลับมาสดใสดังเดิม เพราะอย่างไรเสีย การเดินทางครั้งนี้ เขาได้รับผลตอบแทนที่สูงมากแล้ว
ไม่เพียงล่วงรู้ถึงข้อมูลของสงครามโบราณ แต่ยังได้รับแมลงสัตว์ร้ายเลเวล 8 มาเป็นพรรคพวก นี่เกินพอแล้วสำหรับเขา
หลังจากถอนหายใจยาว ซูเฉินก็กล่าวว่า “ถ้านายตามฉันออกมา ชั้นสสารพิษจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
มีซอมบี้เป็น 100,000 ตัวอยู่ในเมืองชางหมิง แม้พวกต้นหลิววัชระและหงส์เพลิงก็อยู่ที่นั่น แต่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ ซูเฉินรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี ดังนั้นอยากกลับไปโดยเร็ว
“ข้าสามารถออกจากชั้นสสารพิษโดยไม่มีปัญหาใดๆ นับจากนี้ เจ้านายไปที่ใด ข้าจะตามไปทุกที่” ด้วงเขมืองทองคำกล่าวปฏิญาณ
“ต่อให้นายออกจากที่นี่ ชั้นสสารพิษก็ยังทำงานอยู่ใช่ไหม?” ซูเฉินกล่าวเสียงกระซิบ
การโจมตีหลักที่อยู่ในชั้นสสารพิษ นอกจากหมอกดำแล้ว ก็คือด้วงเขมือบทองคำเลเวล 8 ที่อยู่ที่นี่
ถ้ามันออกไป ระดับการป้องกันในชั้นสสารพิษจะลดทอนลงอย่างมาก
อย่างไรเสีย สิ่งที่ชั้นสสารพิษคอยปกป้องคือเผ่ามนุษย์ และในฐานะเผ่าพันธุ์เดียวกัน ซูเฉินไม่ต้องการเห็นทวีปเสวียนเทียนสูญเสียความคุ้มครองจากชั้นสสารพิษไป
ด้วงเขมือบทองคำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับมาว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีพวกต่างเผ่าคนไหนกล้าเข้ามาในชั้นสสารพิษแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังมีหมอกดำและด้วงเขมือบทองคำตัวอื่นๆอยู่ ฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“งั้นฉันก็โล่งใจ ไปกันเถอะ” ซูเฉินพยักหน้า
สิ้นเสียง เขาก็ทะยานนออกจากชั้นสสารพิษพร้อมกับด้วงเขมือบทองคำ
เมื่อออกจากชั้นสสารพิษ หนึ่งคนหนึ่งแมลงบินตรงไปยังเมืองชางหมิงด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ
…
เมืองชางหมิงในเวลานี้ ทุกหย่อมหญ้าเต็มไปด้วยเพลิงสงคราม ซอมบี้นับหลายหมื่นตัวถูกสังหาร พื้นดินถูกย้อมเป็นสีแดงเข้ม ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของคาวเลือด
เมื่อซอมบี้ระดับสูงถูกฆ่าตายจนหมด พวกหวู่หยางและคนอื่นๆก็ก้าวออกจาก [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วเข้าร่วมการล่าในครั้งนี้
เมื่อซูเฉินและด้วงเขมือบทองคำบินกลับมา หงส์เพลิงเป็นตนแรกที่พบเห็น ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“เจ้านาย ท่านกลับมาแล้ว!”
กระนั้น หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันทรงพลังของด้วงเขมือบทองคำ จู่ๆร่างของมันก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ต้นหลิววัชระที่อยู่ไม่ไกลคล้ายรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเช่นกัน ถึงกับต้องหันมามอง เมื่อร่างของด้วงเขมือบทองคำปรากฏขึ้นในสายตา สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เห็นได้ชัดเลยว่า การมาเยือนของด้วงเขมือบทองคำ ทำให้พวกมันรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง
8/10
Ep.568
“เสี่ยวฉง นายไปฆ่าซอมบี้ให้หมด”
ซูเฉินหันไปออกคำสั่ง แล้วเดินเข้าหาต้นหลิววัชระ พร้อมเอ่ยถาม “เสี่ยวหลิว พวกเผ่าอมตะทั้งสามตนอยู่ที่ไหน?”
หลี่เหลียงกลายเป็นซอมบี้ทรงพลังได้อย่างกระทันหัน เรื่องนี้ต้องมีความลับซ่อนอยู่แน่
และในบรรดาศัตรูทั้งหมด ผู้ที่พอจะรู้ความลับนี้ได้ เกรงว่าคงมีแค่เผ่าอมตะทั้งสามตนเท่านั้น
“เจ้านาย พวกเขาอยู่ที่นั่น”
ต้นหลิววัชระเหยียดมือชี้ออกไป แล้วตอบกลับ
ซูเฉินมองตามนิ้วของต้นหลิววัชระ และพบร่างเผ่าอมตะสามตนนอนอยู่ไม่ไกล แขนขาของพวกเขาถูกหัก มีสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัส
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย แล้วสั่งให้ต้นหลิววัชระไปร่วมสู้กับพวกซอมบี้เช่นกัน ส่วนตัวเองเดินเข้าหาเผ่าอมตะทั้งสาม
เมื่อมาหยุดอยู่เบื้องหน้าอีกฝ่าย ซูเฉินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกแกทั้งสามตน มีใครรู้เบื้องหลังของหลี่เหลียงบ้าง?”
เผ่าอมตะทั้งสามมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นหัวเราะออกมาอย่างอวดดี “มนุษย์ เจ้าอยากรู้ข้อมูลของนายท่านหลี่งั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!”
ซูเฉินเบ้ปาก ปลดปล่อยพลังจิตออกมา บดขยี้ศีรษะของเผ่าอมตะตนนั้นโดยตรง
“มนุษย์ เผ่าอมตะของพวกเราจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”
เห็นสหายถูกระเบิดหัวตาย เผ่าอมตะทางซ้ายร้องคำรามด้วยความโกรธ
ซูเฉินแค่นเสียงเย็น กางฝ่ามือและยิงใบมีดสายลม ตัดแขนขาสี่ข้างของเผ่าอมตะตนนี้ออกทันที
“อ๊าาาาา!”
เผ่าอมตะกลายเป็นท่อนไม้มีชีวิต กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ซูเฉินไม่หวั่นไหว ควบคุมพลังแห่งจิตวิญญาณ แล้วค่อยๆบดขยี้เผ่าอมตะตนนี้ บีบคั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายกลายเป็นกองเนื้อบดจึงค่อยหยุดมือ
เผ่าอมตะตนสุดท้ายที่เห็นฉากนี้ ใบหน้าของเขาฟุ้งไปด้วยความหวาดกลัว
ตอนแรก เขาพร้อมที่จะถูกฆ่า แต่หลังจากได้เห็นวิธีการทรมานของซูเฉิน
เขาจึงค่อยกระจ่างแก่ใจ ว่าหากตกอยู่ในมือซูเฉินแล้ว ย่อมไม่ง่ายที่จะตายโดยไม่เจ็บปวด
“เหลือแค่แกแล้ว ว่ายังไง จะยอมพูดรึเปล่า?”
ซูเฉินหรี่ตาลง มองเผ่าอมตะตนสุดท้ายที่ยังไม่ตาย มุมปากเขายกโค้งเป็นรอยยิ้มโหดร้าย
“ในเมื่อพูดก็ยังไม่รอดพ้นจากความตาย เช่นนั้นก็ฆ่าข้าเถอะ!”
แม้เอ่ยวาจาห้าวหาญ แต่ริมฝีปากของเผ่าอมตะสั่นระริก
“ใจสู้ไม่เลว!”
ซูเฉินแสยะยิ้ม นำ [โพชั่นรักษา] ออกมา เทน้ำยาลง บังคับให้เผ่าอมตะตนสุดท้ายกิน
รู้สึกได้ถึงอาการบาดเจ็บตามร่างกายที่กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เผ่าอมตะตนสุดท้ายสับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าซูเฉินกำลังเล่นอะไร
ในระหว่างนั้นเอง ซูเฉินเรียกเฉาหรานมา เอ่ยสั่งว่า “เฉาหราน ลงทัณฑ์เจ้าหมอนี่ด้วยวิธีการหั่นศพ!”
“รับทราบพี่เฉิน!”
เฉาหรานรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาหยิบกริชและเริ่มใช้มันเล็มไปตามร่างของเผ่าอมตะ
เนื่องจากร่างของเผ่าอมตะถูกพันธนาการโดยพลังจิตของซูเฉิน เผ่าอมตะจึงกลายเป็นแค่ลูกแกะที่เฝ้ารอถูกเชือด ได้แต่มองดูเนื้อบนร่างกายถูกแล่ออกทีละชิ้น
พริบตานั้นเอง เสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังออกมาจากปากเผ่าอมตะตนสุดท้าย
เฉาหรานทำเป็นหูทวนลม ค่อยๆหั่นเนื้อเป็นซาซิมิอย่างตั้งใจ
แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาใช้วิธีการทรมานแบบนี้ แต่การเคลื่อนไหวกลับดูคล่องแคล่ว ชำนิชำนาญ เนื้อที่แล่ออกมาทุกชิ้นมีขนาดเท่ากัน ความไวก็เร็วมาก
ในชั่วพริบตาเดียว เศษเนื้อเปื้อนเลือดก็ถูกสุมรวมกันเป็นกองขนาดเล็ก มีประมาณ 100 ชิ้น
“ผู้อาวุโส ข้าพูดแล้ว ข้ายอมสารภาพทุกอย่าง! ปล่อยให้ข้าไปสบายเถอะ!”
ในที่สุด ปราการในหัวใจของเผ่าอมตะก็พังทลายลง วิงวอนขอความเมตตาจากซูเฉิน
“ฉันก็อุตส่าห์รอลุ้นว่าแกจะปากแข็งไปได้ซักแค่ไหน” ซูเฉินยิ้มดูแคลน หันไปส่งสายตาให้เฉาหราน
เฉาหรานหยุดการเคลื่อนไหวในมือ กล่าวด้วยสีหน้าหม่นทะมึนพร้อมขมขู่ว่า “สารภาพความจริงล่ะ ไม่งั้นครั้งต่อไป ฉันจะแล่เนื้อแกจนกว่าจะถึงกระดูก!”
“ขอรับ!”
เผ่าอมตะสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง