565-566
5/10
Ep.565
จู่ๆก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของซูเฉิน เจ้าตัวลองเลียบเคียงถามว่า “งั้นคงไม่มีระดับที่เหนือกว่าเทวะแล้วใช่ไหม?”
“มี เหนือระดับเทวะจะถูกเรียกว่าขอบเขตเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้ามีจำนวนน้อยมาก และเกือบทุกคนล่วงลับไปแล้วในสงครามโบราณครั้งก่อน” ด้วงทองคำอธิบาย
ซู๊ดดดดด!
ซูเฉินสูดหายใจลึก แท้จริงแล้วเหนือระดับเทวะ ยังมีผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทพเจ้าอยู่ เรื่องนี้ทำให้เขาตกใจมาก
“แล้วสงครามโบราณนี่มันยังไง?”
ซูเฉินสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย เอ่ยถามต่อ
สงครามโบราณเกี่ยวพันถึงระดับเทวะและขอบเขตเทพเจ้า มันกระตุ้นความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก
“สงครามโบราณ คือการต่อสู้กันระหว่างสามมหาอำนาจ ซึ่งจะเกิดขึ้นในทุกๆหมื่นปี” ด้วงทองคำกล่าว
“สามมหาอำนาจ?” ซูเฉินทวนคำ
เนื่องจากสามมหาอำนาจ ล้วนอยู่ในระดับเทวะและขอบเขตเทพเจ้า นั่นหมายความว่ากำลังรบของพวกเขาต้องแข็งแกร่งมาก คงทะลุไปถึงจุดที่ไม่สามารถจินตนาการได้
เมื่อย้อนนึกถึงสิ่งที่หงส์เพลิงได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ในมิติท้ารบ เผ่าพันธุ์นับหมื่นร่วมมือกันต่อกรกับสัตว์ร้ายมิติ นี่หมายความว่าเผ่าพันธุ์นับหมื่นกับสัตว์ร้ายมิติ ก็คือหนึ่งในสามมหาอำนาจใช่หรือไม่?
“งั้นแล้วอีกมหาอำนาจนึงล่ะ?”
“สามมหาอำนาจมีอะไรบ้าง?” ซูเฉินถามต่อ
“พันธมิตรแห่งหมื่นเผ่าพันธุ์ , ชาวเผ่าสัตว์ร้ายมิติ และจักรวรรดิจักรกล” ด้วงทองคำตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ซูเฉินพยักหน้า ถามต่อว่า “ช่วยอธิบายข้อมูลของจักรวรรดิจักรกลให้ฉันฟังที”
พันธมิตรแห่งหมื่นเผ่าและ ชาวเผ่าสัตว์ร้ายมิติ ตรงกับที่เขาคาดไว้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อของจักรวรรดิจักรกล
“จักรวรรรดิจักรกลจะคล้ายกับทวีปของพวกหุ่นเชิด แต่สิ่งที่ต่างจากหุ่นเชิดทั่วไปก็คือ พวกเขาล้วนมีสติปัญญา และครอบครองกำลังรบที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ มีหุ่นหุ้มเกราะสูง 100 จั้ง นอกจากนี้ยังมีรถฐานทัพที่ติดตั้งกลวิธีโจมตีแบบพิเศษอีกด้วย”
ได้ยินแบบนั้น หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นรัว
ฟังจากคำพูดของด้วงทองคำ ที่กล่าวมานั้นคล้ายคลึงกับ [นักรบจักรกล] และ [รถศึกอัจฉริยะ] เลย
เป็นไปได้ไหมว่าทั้งสองที่กล่าวมานี้ คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรวรรดิจักรกล?
ซูเฉินยังคงสับสน ไม่มั่นใจถึงขั้นยืนยันแน่ชัด
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยถามว่า “ทำไมสามมหาอำนาจถึงต้องต่อสู้กันเอง?”
“มีข่าวลือว่าสิ่งประดิษฐ์เทวะระดับสูงสุดในจักรวาล จะปรากฏขึ้นในทุกๆ 10,000 ปี ไม่ว่าจะเป็นใคร ตราบใดที่สามารถครอบครองสิ่งประดิษฐ์นี้ ก็จักสามารถปกครองทั้งจักรวาลได้”
“เพื่อแย่งชิงสมบัติชิ้นนี้ นั่นคือเหตุผลที่สามมหาอำนาจต่อสู้กัน” ด้วงทองคำอธิบาย
ซูเฉินปาดจมูกเขา พึมพำกับตัวเอง
หากมีสิ่งประดิษฐ์ระดับสูงสุดอยู่จริง ก็ย่อมสามารถดึงดูดมหาอำนาจต่างๆให้ต่อสู้กันได้
แต่ข่าวลือก็ยังเป็นข่าวลืออยู่วันยังค่ำ มันจะเป็นอย่างที่ด้วงทองคำพูดเอาไว้จริงหรือไม่ยังไม่รู้ เอาไว้ค่อยๆคลี่คลายมันทีละเล็ก ทีละน้อยในอนาคต
“กระบี่เล่มนี้ในมือฉัน แกเคยเห็นมันไหม?”
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินก็เอ่ยถามออกมา
ตอนนี้เขาตั้งข้อสงสัย ว่าบางสิ่งที่ดรอปจากเศษชิ้นส่วน มันใช่มาจากสงครามครั้งโบราณหรือไม่?
“ไม่เคย”
ด้วงทองคำส่ายหัว
ซูเฉินไม่เก็บเรื่องนี้มาคิดอีกต่อไป หันมาถามว่า “ก่อนหน้านี้แกบอกว่าตัวเองคือด้วงเขมือบทองคำ หมายความว่าแกเป็นเผ่าแมลงถูกต้องไหม?”
“ขอรับเจ้านาย” ด้วงเขมือบทองคำกล่าว
“แล้วแกมีความสามารถอะไรบ้าง?” ซูเฉินยังคงถามต่อ
เพราะเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว พลังป้องกันของด้วงตัวนี้ ทำให้เขารู้สึกสนใจเล็กน้อย เลยอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม
“ความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของข้าคือครอบครองร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่าปกติ นอกเหนือจากนี้ ยังมีพลังพิเศษในการกลืนกินทุกสิ่งอย่าง แน่นอน ว่าเงื่อนไขคือระดับฐานฝึกตนของศัตรูต้องไม่สูงไปกว่าข้า”
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันใด
ด้วงเขมือบทองคำสามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง งั้นก็หมายความว่ามันคงกระพันในเลเวลเดียวกันไม่ใช่หรอ?
6/10
Ep.566
ตอนนี้ ซูเฉินตัดสินใจแล้ว ว่าเขาจะเก็บด้วงเขมือบทองคำไว้ใช้งานเอง
แม้ด้วงเขมือบทองคำจะถือว่าเขาเป็นเจ้านายของมันแล้ว ทั้งยังมีท่าทีเคารพมาก
แต่เผื่อไว้ก่อน ซูเฉินยังคงหยิบเอา [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] ออกมาถึงสามขวด และให้ด้วงเขมือบทองคำดื่มเข้าไป
หลังจากกลืน [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] จนหมด ด้วงเขมือบทองคำก็ยิ่งมีท่าทีเคารพเขามากกว่าเดิม ประกายที่สะท้อนออกมาจากแววตา ยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เริ่มพูดกับมันดีๆว่า “นายรู้ต้นตอของชั้นสสารพิษรึเปล่า?”
เขารู้ที่มาของด้วงเขมือบทองคำ และความลับจากยุคโบราณบางอย่างแล้ว จึงตั้งข้อสันนิษฐาน ว่าชั้นสสารพิษรอบนอกทวีปเสวียนเทียน น่าจะเกี่ยวข้องกับมันเช่นกัน
“ชั้นสสารพิษนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยอดีตเจ้านายของข้า และผู้แข็งแกร่งระดับเทวะอีกหลายคน มันมีไว้เพื่อป้องกันการรุกรานของสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า ปกปักษ์มนุษย์ในทวีปเสวียนเทียน” ด้วงเขมือบทองคำ อธิบาย
‘เป็นอย่างที่คิด’
ซูเฉินลอบเอ่ยกับตัวเอง ถามต่อว่า “ผู้อาวุโสหลี่ชิวไห่ล่วงลับในสงครามโบราณ แล้วนายในฐานะสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเขา ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่?”
หลี่ชิวไห่เป็นระดับเทวะขั้น 7 ขณะที่ด้วงเขมือบทองคำมีเลเวลอยู่ที่ 8 เท่านั้น กำลังรบของทั้งสองห่างชั้นเป็นแสนลี้
ตามหลักเหตุผลแล้ว เมื่อเจ้านายเสียชีวิต สัตว์เลี้ยงวิญญาณก็ไม่น่าจะรอด
“ก่อนอดีตเจ้านายจะเดินทางไปร่วมสงครามโบราณ เขาไม่ได้พาข้าไปด้วย แต่เลือกทิ้งข้าไว้ที่นี่” ด้วงเขมือบทองคำตอบตามความจริง
“งั้นนายก็มีชีวิตอยู่มานานเป็นหมื่นปีแล้วน่ะสิ!” ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง
จริงอยู่ว่าไม่ใช่ไม่มีเผ่าพันธุ์ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 10,000 ปี แต่พวกมันหายากมาก นี่แสดงให้เห็นว่า ด้วงเขมือบทองคำ มิใช่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่ช่วงอายุขัยยังยาวนานกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆมากนัก
“อายุขัยของด้วงเขมือบทองคำเช่นพวกเรานั้นไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ไม่ถูกฆ่า พวกเราสามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไป ข้าเลยมีชีวิตอยู่มานานกว่า 10,000 ปีแล้ว” ด้วงเขมือบทองคำอธิบาย
ด้วงเขมือบทองคำมีอายุยืนยาวไม่สิ้นสุด ตรงจุดนี้คล้ายคลึงกับพวกซอมบี้
อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการเลื่อนขั้นของด้วงเขมือบทองคำเชื่องช้าเกินไป มีเวลาตั้ง 10,000 ปี แต่กลับมาถึงแค่เลเวล 8 เท่านั้น
ซูเฉินลองจินตนาการดู หากด้วงเขมือบทองคำมีอายุยืนยาวไม่สิ้นสุด เกรงว่าคงยากนักที่จะปรากฏพวกระดับสูงขึ้นในสายพันธุ์นี้
เขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ แล้วเอ่ยถามต่อ “มีข่าวลือว่าผู้แข็งแกร่งระดับเทวะเข้ามาตายที่นี่ เป็นเรื่องจริงไหม?”
ด้วงเขมือบทองคำยิ้มและตอบว่า “นั่นเป็นเพียงข่าวลือที่อดีตเจ้านายจงใจปล่อยออกมา วัตถุประสงค์ก็เพื่อข่มขวัญพวกมนุษย์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม หากผู้มีระดับต่ำกว่าเทวะเข้ามาที่นี่ พวกเขาจะตายจริงๆ”
ซูเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง และได้คำตอบว่าด้วงเขมือบทองคำไม่ได้พูดเกินจริงเลย
ด้วยพลังอันแปลกประหลาดของหมอกดำ บวกกับด้วงเขมือบทองคำตัวน้อยจำนวนมาก แม้พวกมันจะไม่สามารถสังหารผู้ฝึกตนเลเวลสูงได้ในทันที แต่หากให้เวลาสักหน่อย ก็น่าจพทำได้เหมือนกัน
กระนั้น แล้วเหตุใดเหมิงเซิ่งกับไป่เจ๋อจึงเข้าออกมาชั้นสสารพิษแห่งนี้ได้อย่างอิสระเล่า? แถมดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับด้วงเขมือบทองคำด้วย
ซูเฉินตั้งคำถามด้วยความสงสัย “ก่อนหน้านี้มีชายที่ชื่อเหมิงเซิ่งเคยมาที่นี่ ฉันได้ยินว่านายมอบผลไม้ให้แก่เขามากมาย แล้วก็อีกคนเจ้าไป่เจ๋อที่เพิ่งกลายเป็นศพ มันเกี่ยวข้องอะไรกับนาย?”
“ชุดเกราะที่เหมิงเซิ่งสวมใส่ คือเกราะของหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของอดีตเจ้านายข้า ข้าเลยคิดว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของคนๆนั้น จึงมอบโอกาสแก่เขา”
“ส่วนไป่เจ๋อ บนร่างเขาแฝงไปด้วยกลิ่นอายของต้นผลสายฟ้าห้าสาย และต้นผลสายฟ้าห้าสายเป็นสหายที่ดีของอดีตเจ้านาย ข้าเลยไม่ฆ่าเขา” ด้วงเขมือบทองคำอธิบายอย่างละเอียด
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซูเฉินหรี่ตาลง จมเข้าไปในห้วงความคิด
สหายเก่าหลี่ชิวไห่ ก็น่าจะเป็นระดับเทวะจากเผ่าพืชปีศาจเช่นกัน แสดงว่าต้นผลสายฟ้าห้าสายและสมบัติศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ของเผ่าพืชปีศาจ ก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับเดียวกัน
คาดว่าเมื่อพืชปีศาจเหล่านั้นล่วงลับในสงครามโบราณ จึงกลายเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ไป สุดท้ายถูกนำออกมาโดยฝีมือของต้นหลิววัชระ