บทที่ 2 อารัมภบทตอนท้าย
สองชั่วโมงต่อมา
เมื่อวิคเตอร์จัดห้องของตัวเองเสร็จ เขาก็พบหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับตัวตนใหม่ของเขา
เขามีพละกำลังมากขึ้น มีพละกำลังมากกว่าเมื่อก่อนมาก
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจึงมีปัญหาในการควบคุมตนเอง ก่อนหน้านี้เขาสามารถใช้แรงปกติในการเปิดประตูห้องนอนหรือทำสิ่งต่างๆได้โดยที่ไม่ได้ทำลายอะไร แต่ถ้าเขาใช้กำลังเท่าเดิมในการเปิดประตูห้องนอน ประตูนั้นจะถูกกระซากออกจากผนังอย่างแรง
ประสาทสัมผัสของเขา เช่น การได้ยิน การดมกลิ่น การเห็น ฯลฯ พวกมันไวกว่าปกติมาก
การได้ยินของวิคเตอร์ไม่ได้อยู่ในระดับของชายที่อยู่ในหนังสือการ์ตูนที่สวมชุดสีน้ำเงินและสีแดง และมีสัญลักษณ์ S บนหน้าอกของเขา ผู้ชายคนนั้นได้ยินเสียงโลกทั้งใบ...
แต่เท่าที่วิคเตอร์ได้ทดสอบ เขาสามารถได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านของเขาและในบริเวณใกล้เคียง
มันน่ารำคาญมาก เพราะเขาได้ยินเสียงหลายๆเสียงพร้อมๆกัน และเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
เพราะเหตุนั้นวิคเตอร์จึงลองทำบางอย่าง เขาจดจ่อกับวิดีโอโป๊ที่เขาเปิดบนคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า 'เกมที่ยากที่สุดในโลก'
เขาคิดว่าเขาดูโง่เหรอ? ใช่ แต่มันได้ผล ผู้ชายเป็นสัตว์ที่ถูกดึงดูดความสนใจได้ง่าย
การรับกลิ่นของวิคเตอร์ก็ดีขึ้นด้วย แต่สิ่งเดียวที่เขาได้กลิ่นที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรคือเลือด
อีกสิ่งหนึ่งที่วิคเตอร์ได้เรียนรู้คือเขามีการมองเห็นอีกแบบหนึ่ง เมื่อเขาเปลี่ยนไปใช้การมองเห็นแบบนี้ โลกทั้งใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเขาสามารถเห็นทุกสิ่งรอบตัวราวกับว่าไม่มีกำแพงขว้างอยู่ และในโลกนี้ เขาสามารถเห็นเงาของมนุษย์ได้ เมื่อเขาจดจ่ออยู่กับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เขาก็จะเห็นหัวใจของพวกมันเป็นสีแดงสด
วิคเตอร์เพิ่งทดสอบสิ่งนี้ไม่กี่วินาที เพราะเขาไม่อยากเสี่ยงที่จะกระหายน้ำอีก
และใช่...วิคเตอร์รู้ว่ามันมีเรื่องบ้าๆเกิดขึ้นกับเขา...เพราะตอนนี้เขากลายเป็นแวมไพร์ หรืออะไรที่เหมือนกับแวมไพร์ไปแล้ว...
ที่เขารู้ว่าเขาเป็นอะไรทำนองนั้นเพราะลักษณะของเขาเด่นชัดเจนมาก ผิวซีด ตาแดง สภาพร่างกายดีขึ้น กระหายน้ำไม่รู้จักพอ...
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว วิคเตอร์จึงมีจุดเริ่มต้นในการให้เหตุผล
อันดับแรก มาดูกันว่าเขามีจุดอ่อนอะไรบ้าง
จุดอ่อนที่ชัดเจนที่สุดจากหนังสือแวมไพร์คือ กระเทียม ไม้กางเขนของพระเยซู (หรือบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า) แสงแดด และเขาไม่สามารถเข้าไปในบ้านของใครบางคนโดยไม่ได้รับเชิญ...น้ำที่ไหลแรงๆ?
จุดอ่อนบางอย่างอาจดูโง่เง่า แต่วิคเตอร์ก็รู้ว่าเขาต้องทดสอบมันทั้งหมด อย่างแรกคือไม้กางเขนของพระเยซู
วิคเตอร์มองไปที่สร้อยคอที่ห้อยอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา บนสร้อยคอนั้นมีไม้กางเขนแขวนอยู่ เขาค่อยๆสัมผัสสร้อยคอและรู้สึก...
เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
อืม ต่อไป น้ำที่ไหลแรงๆ...ที่เขาดื่มน้ำไปเมื่อกี้ ถือว่าไม่นับใช่ไหม?
วิคเตอร์ก็ไม่รู้เขาไม่สามารถยืนยันข้อนี้ได้ เขาคิดว่าเขาต้องไปที่สระน้ำหรือแม่น้ำที่มีน้ำไหลแรงเพื่อทดสอบมัน ดังนั้นเขาจึงทิ้งจุดอ่อนนี้ไปก่อน
ต่อไปคือกระเทียม เขาจำได้ว่าเขาเพิ่งซื้อพิซซ่ากระเทียมมาเมื่อสองวันก่อน
วิคเตอร์เดินไปที่ตู้เย็นเล็กๆในห้องแล้วหยิบพิซซ่ากระเทียมที่ซื้อมาออกมา เขาได้กลิ่นพิซซ่าด้วยจมูกของเขา เขารู้สึกอยากอาเจียนขึ้นมาทันที แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่านี้อีก เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนแอลงอย่างกะทันหันหรืออะไรทำนองนั้นเลย
วิคเตอร์คิดว่าการที่เขาอยากอาเจียนเป็นเพราะความอยากอาหารของเขาที่เปลี่ยนไป? เขาพยายามเอาพิซซ่าเข้าปาก และตามที่คาดไว้ร่างกายของเขาปฏิเสธอาหารนี้ทันที
เขาวิ่งไปที่ห้องน้ำและถุยพิซซ่าลงในโถส้วม
"น่าขยะแขยง" วิคเตอร์พูดด้วยใบหน้าคลื่นไส้
"ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนได้กินปลาที่เน่าไปแล้วเลยล่ะ"
ท้องไส้ของเขาปั่นป่วน วิคเตอร์รู้สึกอยากอาเจียนออกมา เขาเริ่มหายใจเข้าลึกๆอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อทำขั้นตอนนี้ซ้ำๆความอยากอาเจียนก็ผ่านไป
ในอนาคตวิคเตอร์คิดว่าเขาต้องทดสอบว่ากระเทียมทั้งลูกมีผลกับเขาหรือไม่ แต่เมื่อเขาคิดดูแล้วมันก็ดูงี่เง่ามาก...แวมไพร์แบบไหนจะอ่อนแอกับพิซซ่ากระเทียม?
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนต่อไปของเขาคือดวงอาทิตย์...
วิคเตอร์เดินไปทางหน้าต่างของห้องนอนซึ่งอยู่บนผนังตรงตำแหน่งเตียงของเขา เขาปีนขึ้นไปบนเตียงและเปิดช่องว่างเล็กๆในม่านเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา
วิคเตอร์กลืนน้ำลายอย่างประหม่า เขารู้สึกกลัวนิดหน่อยก่อนที่มันจะหายไป เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกๆคนรู้กันอยู่แล้วว่าจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของแวมไพร์คือแสงแดง แต่เขาจำเป็นต้องรู้และเขาคิดว่าแค่การเอานิ้วไปรับแดดคงจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับเขา ใช่ไหม?
วิคเตอร์ค่อยๆเอานิ้วเข้าไปใกล้แสงแดด เมื่อเหลือเพียง 1 ซม. จนเกือบจะเหมือนกับว่าแสงแดดจะแตะนิ้วของเขา เขาก็หยุด...
ไม่ เขาต้องรู้ให้ได้
‘อย่าไหม้เป็นไก่นะวิคเตอร์!’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิด
วิคเตอร์เอานิ้วแตะแสงแดดและ...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่รู้สึกว่านิ้วของเขาหายไป และเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างที่คาดไว้...
วิคเตอร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามองดูม่านหน้าต่างแล้วเปิดออก ทันทีที่แสงแดดส่องเข้ามาในห้องของเขา เขาก็รู้สึกว่าแสงแดดกำลังอาบร่างกายของเขา ความอบอุ่นได้สัมผัสร่างกายของตัวเขาเอง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านั้น
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าเขาควรสรรเสริญดวงอาทิตย์ในตอนนี้ แต่เขาจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนเห็นเขาตอนทำอย่างนั้น...
วิคเตอร์นอนลงบนเตียงและมองขึ้นไปบนเพดาน
“ไม่มีจุดอ่อนของแวมไพร์ที่ชัดเจนเลย ฉันไม่ต้องการที่จะพยายามตัดหัวหรือฉีกหัวใจของตัวเองออกมา ฉันไม่ได้บ้าพอสำหรับเรื่องนั้น”
"...ฉันเป็นแบบนั้นไปแล้วจริงๆหรอ?" วิคเตอร์พูดกับตัวเองออกมาดังๆ
เช้านี้เขารู้สึกแปลกๆและด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้
ทำไมเขาถึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับลักษณะของแวมไพร์ และตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอจุดอ่อนที่ชัดเจนของแวมไพร์ในร่างกายของเขาอีกด้วย...เขาอ่านหนังสือมากเกินไปหรือเปล่า
“แต่เดี๋ยวก่อน อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เรืองแสงในแสงแดดนะ” เขาหัวเราะมุกตลกของตัวเอง เขาหลับตาลงและค่อยๆหลับตาลง