ตอนที่ 75 กรมจัดหางาน
ตอนที่ 75 กรมจัดหางาน
เวลาล่วงเลยเที่ยงคืนในโลกราชัน กายนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่ชั้นสองของร้านไร้ขอบเขต การหลับในโลกชันนั้นมันรู้สึกดีไม่ต่างจากการหลับด้านนอกในโลกความจริง แต่จะดีอย่างหนึ่งก็ตรงที่เราสามารถมีสติและสัมผัสกับรอบข้างได้มากกว่าการหลับจริง
อย่างเช่นในช่วงเวลาที่กายหลับอยู่นะตอนเขาได้ยินเสียงของฝีเท้าที่เดินอยู่ในบ้านกำลังเดินขึ้นมาบนชั้นสอง
หัวขโมย…?
กายที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเล็กน้อยที่มีหัวขโมยกล้าบุกเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยเสียงที่เบาที่สุดกลัวว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านอกห้องจะรู้ว่าตนเองตื่นแล้ว
เจ้าของเสียงฝีเท้าเดินแผ่วเบาที่สุด มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง กายลุกขึ้นยืนหยิบดาบยาวระดับ 3 ดาบสำลองที่กายสร้างขึ้นมาใช้ชั่วคราว เดินไปแนบหูฟังที่ประตู
ตอนนี้คนที่แอบเข้ามาในร้านไร้ขอบเขตกำลังพยายามงัดประตูเข้ามา ด้วยความที่ประตูเป็นตัวล็อกแบบเก่าทำให้การไขเข้ามานั้นไม่ยากเย็น
เมื่อเห็นแบบนี้กายก็มั่นใจแล้วว่าเป็นหัวขโมยอย่างแน่นอน แต่กายยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้เล่นหรือ NPC เขายังไม่ลงมือแต่รอให้หัวขโมยผู้นี้ประมาทเดินเข้ามาในห้องก่อนจึงค่อยจัดการ ดังนั้นมันจึงเดินกลับไปนอนที่เตียง นอนหันหน้าไปทางประตู ดาบระดับ 3 ซ่อนไว้ในผ้าห่ม...
ประตูร้านถูกเปิดอย่างเบามือที่สุด หัวขโมยหนุ่มผู้สวมเสื้อสีดำที่เอวมีมีดสั่นซึ่งเพียงกายก็รู้ว่ามันคือมีดสั้นที่ซื้อจากร้านของตนเอง
มีดสั้นเล่มนั้น ถ้างั้นก็ระบุได้ว่ามันคือผู้เล่นที่มาซื้อมีดสั้นไปเมื่อกลางวัน กายแอบลืมตามองการกระทำของหัวขโมย มันเดินไปที่โต๊ะและพยายามค้นหากุญแจ
กายเห็นดังนั้นก็รู้ว่าหัวขโมยคงเข้ามาในร้านแต่เพราะของทั้งหมดขายไปหมดแล้วมันจึงไม่มีอะไรให้ขโมย และพอพยายามเข้าไปในโรงตีเหล็กเพื่อขโมยของแต่ห้องมันล็อก หัวขโมยจึงตรงมาที่นี่แทนเพื่อหากุญแจ
บางทีอาจจะคิดหาเหรียญทองที่เราเก็บไว้ด้วย... กายสังเกตหัวขโมยอย่างใจเย็น
หัวขโมยค้นไปตามของที่วางอยู่บนโต๊ะโดยไม่สังเกตว่าตอนนี้กายหายไปจากบนเตียงนอนแล้ว ในที่สุดมันก็เจอกับกุญแจไขเข้าไปที่โรงตีเหล็ก
“มีแต่กุญแจ เจ้าของร้านขายของได้เยอะมากมันน่าจะมีเหรียญทองเก็บไว้แถวนี้” หัวขโมยพึมพำเบา ๆ แต่พอหันไปมองที่เตียงแล้วไม่เห็นกายนอนอยู่ มือของมันถึงกับสั่นเบา ๆ เอื้อมไปหยิบมีดสั้นที่เอวและหันกลับมามองด้านหลัง
สิ่งแรกที่มันเห็นคือกายที่ยืนยิ้มอยู่ หัวขโมยไม่คิดจะหนีมันกลับเลือกใช้มีดสั้นในมือจู่โจมกายก่อน กายเบี่ยงตัวหลบอย่างง่ายดาย ก่อนจะแตะเข้าไปที่ท้องของหัวขโมยผู้เล่นจนร่างของมันรอยกระแทกไปทางหน้าต่าง
“นักรบฝึกหัด ขั้น 2...” หัวขโมยผู้เล่นดูจะตกใจเมื่อรู้ว่าร้านที่มันปล้นจะมีเจ้าของเป็นนักรบฝึกหัด ไม่รอช้าหัวขโมยผู้เล่นหันหลังคิดจะกระโดดหนีไปทางหน้าต่างห้องนอน
“คิดจะหนี” กายพุ่งเข้าหาหัวขโมยผู้เล่นคนนั้นและจัดการแทงดาบยาวเข้าไปที่ด้านหลังของหัวขโมยผู้เล่น จนร่างของมันตกลงจากหน้าต่างกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ไม่รู้ว่าตายเพราะดาบของกายหรือตายเพราะการตกจากชั้นสอง
ถ้าหัวขโมยเป็น NPC กายคงจะเบามือกว่านี้และจับมันส่งทหารยามให้กับพวกเจ้าหน้าที่ไปจัดการ
ร่างของผู้เล่นสลายกลายเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นหายไปในท้องฟ้า
กายมองดูลูกไฟผู้เล่นที่หายไปก็รู้ว่ามันจะดึงดูดพวกทหารยามที่เดินตรวจตราในนครตอนกลางคืนอย่างแน่นอน แต่กายก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไร เพราะเขายังมีสถานะเป็นถึงนักเรียนของสถาบันศาสตร์นักรบและยังรู้จักกับ 99 จากหน่วยเงาราตรี
ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากลูกไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก็มีกองกำลังของทหารยามที่เดินตรวจตรายามค่ำคืนตรงมาที่ร้านของกาย
แน่นอนว่ากายนั้นรออยู่ที่หน้าร้านอยู่ก่อน หลังจากทหารพวกนั้นสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและพอรู้ว่ากายคือนักเรียนของสถาบันศาสตร์นักรบ พวกนั้นก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก แต่เดินไปจัดการเก็บของที่เหลือจากผู้เล่นซึ่งตกอยู่หลังจากกลายเป็นลูกไฟหายไป
กายจัดการล็อกประตูให้แน่นหนาและกลับไปนอนตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
...
เช้าวันต่อมากายตื่นขึ้นมาแต่เช้ามุ่งหน้าไปที่ร้านตัวตุ่นโลหะที่นี่แม้จะเป็นเวลาเช้า แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งกำลังเลือกซื้อวัตถุดิบอยู่ไม่ขาด
กายไม่รอช้าตรงไปที่เคาน์เตอร์หยุดอยู่หน้าบริกรสาวคนเดิมที่เขาเคยสั่งซื้อสินค้า
“ท่าน...ลูกค้าที่ซื้อของเมื่อหลายวันก่อน”
“ข้าต้องการที่ซื้อตั๋วเข้าร่วมการประมูล ยังมีอยู่ใช่ไหม”
“แน่นอนค่ะ เราจะมีการจัดการประมูลวันที่ 11 เดือน 2 ที่จะถึงในอีก 6 วันนี้”
อีก 6 วัน... กายพยักหน้าอย่างเข้าใจจากนั้นเขาก็ซื้อตั๋วในราคา 25 เหรียญทองมา บริการสาวยิ้มให้กับกายก่อนจะพูดต่อว่า “ในวันที่ 11 ลูกค้าจะต้องมาที่ร้านตัวตุ่นของเราตอน 12.00 น. การจัดการประมูลจะมีถึงเที่ยงคืนตรง ขอให้ลูกค้ามาตรงเวลาด้วยนะคะ”
“ขอบคุณ” กายรับตั๋วประมูลมันมีหมายเลข 127 เขียนไว้อย่างชัดเจน หลังจากรับตั๋วมาแล้วกายก็ออกจากร้านในทันที
ตอนนี้เขามีเวลาอีก 6 วันให้เก็บรวบรวมเหรียญทองก่อนถึงวันประมูล กายรู้ว่าด้วยเหรียญทองแค่สามพันกว่าคงไม่พอ หรืออาจจะพอแต่ในเมื่อเขาเสียเงินซื้อตั๋วแล้วก็ควรจะเตรียมเงินไปซื้อของอย่างอื่นด้วยถ้ามีโอกาส
กายนั่งรถม้าสองล้อมาจนถึงกรมจัดหางานที่เขตตะวันตกที่จริงที่นี่ไม่ได้จัดหาเพียงผู้ช่วยให้กับช่างโลหะ แต่เป็นทุกสายอาชีพทั้งช่างไม้ ช่างปูน ช่างตัดเย็บ รวมถึงอาชีพอื่น ๆ อีกมากมาย
เพียงแต่ในยุคที่เชิดชูช่างโลหะผู้สร้างอาวุธนั้น อาชีพช่างโลหะจึงเป็นตัวเลือกแรกของเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่คิดจะเดินในเส้นทางของอาชีพช่างโลหะ แน่นอนว่าที่นี่ยังมีการจัดหางานให้กับพวกคนที่ตกงานด้วย มันจึงได้ชื่อว่า “กรมจัดหางาน”
ที่ด้านหน้ากรมจัดหางานมีกลุ่มคนนับไม่ถ้วนต่างยืนมองคนที่เดินเข้าไปภายในกรมจัดหางาน บ้างก็ตะโกนบอกคุณสมบัติของตัวเองไปหวังจะได้เป็นผู้ช่วย ส่วนใหญ่แล้วคนพวกนี้เป็นคนยากจนของนครดาราฟ้า ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตสลัมทางใต้ของนคร
กายไม่เคยไปที่สลัมทางทิศใต้ แต่ก็พอจะรับรู้มาบ้างว่าสภาพการเป็นอยู่นั้นแออัดพอสมควรรายได้เฉลี่ยต่อหนึ่งครอบครัวของคนที่นั่นเพียงแค่เดือนละ 200-300 เหรียญทองแดงเท่านั้น บางครั้งอาจจะน้อยกว่านั้น
หลายครอบครัวที่อยู่ที่สลัมทางใต้จึงหวังว่าลูกหลานของพวกตนจะได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยหรือเด็กฝึกงาน
ชายหนุ่มตรงไปที่เจ้าหน้าที่สาวภายในกรมจัดหางานในทันที
“ข้าต้องการผู้ช่วย”
“ท่านต้องการคุณสมบัติแบบไหนบ้างคะ”
“ข้าต้องการผู้ช่วยที่โรงตีเหล็กและน่าจะคอยช่วยดูแลร้านให้ด้วย” กายไม่รู้ว่าต้องบอกคุณสมบัติไปอย่างไรบ้าง ดังนั้นเขาจึงบอกความต้องการไปแทนและให้เจ้าหน้าที่สาวเป็นคนคัดมาให้เขาเลือกแทน
“ท่านเป็นช่างโลหะ...ไม่ทราบว่าอยู่ระดับใดข้าจะได้จัดหาผู้ช่วยให้ถูกกับฝีมือของท่าน”
“ช่างโลหะทั่วไป”
เจ้าหน้าที่สาวได้ยินก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย ด้วยใบหน้าอ่อนเยาว์ของกายกลับเป็นถึงช่างโลหะทั่วไป หญิงสาวหันกลับไปสักพักก่อนจะเลือกเอกสารของคนที่มาลงทะเบียนไว้ ก่อนจะหยิบออกมาประมาณ 30 แผ่นให้กายได้เลือก
พอเห็นจำนวนผู้ช่วยที่ตกตามคุณสมบัติพอจะเป็นผู้ช่วยของช่างโลหะกายก็ทึ่งเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่สาวยังไม่หยุดแค่นั้นยังหันไปหยิบมาอีกปึกหนึ่ง
นี่คือคุณสมบัติของผู้ช่วยที่พอจะเป็นลูกมือให้กับช่างโลหะได้และหลายคนมีความสามารถในการคำนวนตัวเลขพื้นฐานและการอ่านหนังสือ
กายพยักหน้าขอบคุณก่อนที่จะทำการเปิดเอกสารทั้งหมดอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาตัดสินใจเลือกมาสองรายชื่อ คนแรกคือเด็กหนุ่มที่ชื่อนาธาน อายุ 18 ปีมาจากครอบครัวเกษตรกรเคยเป็นผู้ช่วยช่างโหละฝึกหัดมา 1 ปี และอีกคนคือเด็กสาวที่ชื่อ มิล่า อายุ 17 ปีเช่นกัน เธอเป็นหนึ่งในเด็กที่มาจากเขตสลัมทางตอนใต้ของนคร เคยเป็นผู้ช่วยช่างโลหะทั่วไป 1 ปี
ตอนอ่านข้อมูลของเด็กสาวกายก็แปลกใจที่เด็กผู้หญิงต้องการเป็นช่างโลหะด้วย แถมยังเป็นผู้ช่วยช่างโลหะทั่วไปมาก่อน
“ท่านต้องการทั้งสองคนเลยหรือไม่”
“ข้าขอเจอกับพวกเขาก่อน ว่าแต่สัญญาของผู้ช่วยมีแบบไหนบ้าง”
“ถ้าท่านต้องการให้นัดพวกเขามาเจอจะต้องจ่าย 3 เหรียญทองแดงต่อหนึ่งคนเป็นค่าเสียเวลาให้กับพวกเขา และจ่าย 1 เหรียญทองแดงต่อหนึ่งคนให้กับทางเราในการนัดเจอ ส่วนค่าการทำสัญญาต้องให้ทางกรมจัดหางานเป็นผู้ออกให้ โดยสัญญาจะมีสองแบบคือ สัญญาชั่วคราวสามารถกำหนดเป็นรายปีได้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี สัญญาระยะยาว คือสัญญา 5 ปี และ 10 ปีไม่เกินจากนั้น แน่นอนว่ายังต้องจ่ายเงินให้กับผู้ช่วยตามรูปแบบงานและประเภทของสัญญาตามที่ท่านตกลงกับผู้ช่วย ซึ่งในการออกสัญญาจะเสียค่าธรรมเนียมต่างกันไปเช่นกัน” เจ้าหน้าที่สาวแจ้งกับกาย
หลังจากได้ยินเขาก็คิดจะจ้างทั้งสองคนด้วยสัญญาชั่วคราวและเงินค่าจ้างผู้ช่วยช่างโลหะ กายไม่ได้กังวลตรงนี้มากนักเพราะค่าจ้างที่จ่ายผู้ช่วยจะได้นั้นจะน้อยกว่าปกติ ซึ่งแลกกับการที่ได้รับการเรียนรู้ของอาชีพนั้น ๆ ไปแทน
ในฐานะผู้เล่นกายไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ที่นครดาราฟ้านานแค่ไหน ดังนั้นนี่ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ส่วนเหตุผลที่กายเลือกทั้งสองคนเลยนั้นก็คือกายไม่ต้องการให้ผู้ช่วยคนใดคนหนึ่งดูแลร้านทั้งหมดไว้คนเดียว เพราะอาจจะมีผู้ช่วยไม่ซื่อสัตเกิดขโมยเหรียญทองตอนที่เขาไม่อยู่ขึ้นมาอีกคนจะได้ช่วยกายสอดส่องได้
แม้มันอาจจะเกิดได้ยากแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ท่านต้องการเจอกับพวกเขาเลยหรือไม่”
“พวกเขาอยู่ที่นี่เหรอ”
“ไม่ค่ะ แต่ถ้าท่านสามารถรอได้สักครั้งชั่วโมงพวกเขาก็น่าจะเดินทางมาถึง และถ้าท่านถูกใจเราก็สามารถทำสัญญากันได้ในวันนี้เลย” เจ้าหน้าที่สาวอธิบายให้กายฟัง
กายดูเวลาตอนนี้มันพึ่งจะ 10 โมงกว่า ดังนั้นเขาจึงเลือกจะรอ ส่วนผู้เล่นที่มาร้านของเขาวันนี้คงต้องรอไปช่วงบ่ายแทน
“ถ้างั้นข้าจะรอ” กล่าวจบกายก็จ่ายค่าธรรมเนียม 8 เหรียญทองแดงและนั่งรออยู่ที่กรมจัดหางาน