ตอนที่ 2 หน้าที่
ตอนที่ 2
หน้าที่
วูบ...
ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างอยู่ตลอดเวลาใสเนิ่นนานนั้นกลับหยุดชะงักลงพร้อมแสงสว่างจ้าที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของชายผู้ถูกคุมขังเอาไว้ในมิติลงทัณฑ์
“หมดเวลาแล้วงั้นเหรอ”ชายหนุ่มที่ถูกปล่อยออกมาจากโซ่พูดพลางมองไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนภายในมิติที่นางสร้างขึ้นมาเอง แม้เทพลำดับที่ 2 จะยอมรับว่าแปลกใจที่ชายหนุ่มไม่มีท่าทีดุร้ายหรือคิดจะโจมตีนางเลย แต่ถึงจะโจมตีเข้ามาชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีวันทำอะไรตนเองได้อีกแล้ว นอกจากจะไม่มีอาวุธและชุดเกราะคอยป้องกัน ร่างของเขายังเสียหายอย่างมากต้องรอเวลาฟื้นฟูอีกพักใหญ่กว่าจะขยับได้ด้วยซ้ำ
“หุบปาก แล้วมากับข้า”พี่รองแห่งพี่น้องเหล่าเทพต้นกำเนิดพูดพลางหันหลังเดินออกไปตรงแสงสีขาวที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นประตูด้วยท่าทีไม่พอใจนัก วันก่อนพวกนางพยายามห้ามพี่ใหญ่กันอย่างเอาจริงเอาจังมาก แต่พี่ใหญ่ผู้แสนเมตตาก็สงสารเจ้าวิญญาณร้ายตนนี้และอยากจะช่วยเหลือให้ได้
นางผู้เป็นพี่รองเองจะห้ามก็ติดที่ปัญหานี้นางเป็นผู้ก่อขึ้นมาเอง หากวันนั้นนางไม้ลุแก่โทสะแล้วสาปให้วิญญาณของชายคนนี้เป็นอมตะละก็พี่ใหญ่คงไม่ต้องมาตามล้างตามเช็ดให้แบบนี้ ช่างเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยจริงๆ
“มีเรื่องอะไรกันหรือขอรับ ข้านึกว่าท่านจะขังข้าเอาไว้ในนั้นตลอดกาลเสียอีก”ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเลิกคิ้วออกมาด้วยท่าทีประหลาดใจก่อนจะลุกขึ้นเดินตามเทพลำดับที่ 2 มาอย่างว่าง่าย ท่าทีของชายผู้นี้ช่างน่าแปลกยิ่งนัก ตอนแรกนึกว่าต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าเขาจะขยับได้แล้วนางค่อยใช้พลังของนางพาตัวเจ้ามนุษย์นี่ไปแม้ไม่ยินยอมก็ตามเสียอีก แต่นอกจากจะลุกขึ้นเดินตามมาหน้าตาเฉยแล้ว เขายังไม่มีท่าทีดุร้ายหรือเสียสติอะไรเลย เป็นไปได้งั้นหรือ มนุษย์ผู้หนึ่งสามารถทนรับทัณฑ์ทรมานขนาดนั้นเป็นเวลานานแล้วจะประคองสติเอาไว้ได้
วูบ....
ทันทีที่เดินเข้าไปในแสงสว่างเบื้องหน้า ร่างของเทพลำดับที่ 2 และชายหนุ่มผู้บุกรุกก็ออกมาปรากฏอยู่กลางสวนเบื้องหน้าวิหารต้นกำเนิดโดยมีเทพต้นกำเนิดที่เหลืออีก 6 องค์ยืนล้อมรอบอยู่ด้านหน้า
“สมแล้วที่เป็นเทพ แต่ละองค์งดงามกันจริงๆ”ชายหนุ่มที่เดินตามมาด้านหลังมองเหล่าเทพต้นกำเนิดด้วยใบหน้าชื่นชม ไม่ว่าองค์ไหนต่างก็เป็นสาวงามทั้งนั้นโดยเฉพาะเทพต้นกำเนิดลำดับ 1 ที่ยืนอยู่ตรงกลาง นางสง่างามและดูอ่อนโยนมากจนเหมือนสิ่งสูงค่าไม่ควรแตะต้องเลย
“หุบปาก”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นเทพลำดับที่ 2 ก็หันไปมองค้อนชายหนุ่มที่ตามมาข้างหลังด้วยท่าทางไม่พอใจทันที อย่าบังอาจมาพูดลามปามพี่น้องของนางเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นนางจะทรมานเจ้ามนุษย์คนนี้อีกพันปีค่อยให้พี่ใหญ่พาไปอบรม
“...........”เหล่าเทพต้นกำเนิดแต่ละคนมองไปยังชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน บ้างหวาดกลัวบ้างก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสายตาจับผิดและไม่พอใจเช่นเดียวกับเทพลำดับที่ 2 กำลังทำอยู่ แต่สายตาหนึ่งที่แปลกที่สุดคงหนีไม่พ้นสายตาของพี่ใหญ่ นางมองมาทางชายหนุ่มด้วยดวงตาเปี่ยมเมตตาราวกับกำลังสงสารชายหนุ่มไม่มีผิด
“เจ้าคือผู้บุกรุกวิหารต้นกำเนิดแห่งนี้อย่างนั้นหรือ”เทพลำดับ 1 ถามพลางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยท่าทีเป็นมิตรและยิ้มแย้ม ต่างกับพี่น้องคนอื่นเป็นอย่างมากยิ่งนางเข้ามาใกล้ก็ยิ่งรู้สึกถึงความอบอุ่น ราวกับนางจะเดินเข้ามาโอบกอดเพื่อปลอบโยนเลย
“ขอรับ เป็นข้าเอง”ชายหนุ่มตอบพลางประสานมือทั้งสองข้างเพื่อคารวะอีกฝ่าย ท่าทีของชายหนุ่มที่กระทำเหมือนกำลังแสดงความเคารพนั้นทำให้เหล่าเทพมีท่าทีประหลาดใจกันไม่น้อย นึกว่าปีศาจร้ายที่บุกมาสังหารพี่รองจะมีท่าทีดุร้ายกว่านี้เสียอีก
“พวกเราไม่สามารถทราบได้ว่าเจ้ามีเหตุผลอะไรถึงได้คิดสังหารพวกเรา แต่เราเชื่อว่าเจ้ายังมีความดีภายในซ่อนอยู่”เทพลำดับที่ 1 พร้อมมองมาทางชายหนุ่มด้วยดวงตาที่แฝงความคาดหวังเอาไว้ เรื่องนี้ทำให้ชายหนุ่มเองก็แปลกใจไม่น้อย ไม่น่าเชื่อเลยว่ายังจะมีคนที่ให้อภัยผู้ที่คิดจะสังหารชีวิตนับล้านล้านชีวิตได้ด้วย
“ข้าจะมอบโอกาสใหม่ให้กับเจ้า ให้เจ้าลงไปเกิดในโลกที่แสนสงบสุข ให้เจ้าได้สัมผัสกับความสงบดูสักครั้ง หวังว่าเจ้าจะสามารถดึงความดีในใจของเจ้าออกมาได้”เทพลำดับที่ 1 บอกเหตุผลที่พาชายหนุ่มออกมาจากมิติลงทัณฑ์ออกไปจนหมด ยกเว้นเพียงเรื่องที่วิญญาณของชายหนุ่มกำลังโดนสาปให้ไม่มีวันดับสลาย เรื่องนี้พวกนางตกลงกันแล้วว่าจะต้องให้มันเป็นความลับ
“ข้าสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปแล้วขอรับ ตอนนี้ถึงพวกท่านจะทำลายวิญญาณของข้าหรือให้กลับเข้าไปทรมานในมิติก่อนหน้านี้ข้าก็จะขอยอมรับอย่างเต็มใจขอรับ ท่านเทพไม่จำเป็นต้องลำบาก”แทนที่จะรับโอกาส ชายหนุ่มกลับปฏิเสธแล้วขอทางเลือกอื่นเสียอย่างนั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเจ้าชายผู้นี้ถึงได้ยินดีจะโดนลบออกไปหรือยินดีจะทรมานต่อ?
“พี่ใหญ่ เช่นนั้นก็ให้เขากลับไปอยู่ในมิติลงทัณฑ์เถอะ แบบนั้นท่านก็ไม่ต้องลำบากด้วย”ทันทีที่ได้ยินชายคนนั้นอาสา เทพลำดับที่ 7 ผู้เป็นน้องเล็กสุดก็รีบออกตัวทันที นางไม่เห็นด้วยที่พี่ใหญ่จะลงไปเสี่ยงอันตราย ถึงจะไม่มีสิ่งใดทำร้ายพวกนางได้ก็ตาม
“อะแฮ่ม......ช่างเป็นมนุษย์ผู้ชั่วช้ายิ่งนัก แม้แต่ต่อหน้าพวกเราเจ้ายังกล้ากล่าวคำเท็จออกมาอีกงั้นหรือ”อยู่ๆพี่ใหญ่ก็กระแอมออกมาเสียงดังก่อนจะกล่าวหาชายหนุ่มเบื้องหน้าว่ากำลังโกหกเสียอย่างนั้น
“เอ๊ะ คำเท็จหรือเจ้าคะ”เทพลำดับที่ 6 ได้ยินเช่นนั้นก็แสดงท่าทีตกใจออกมา พวกนางอยู่ที่นี่มาเนิ่นนานแม้จะผ่านเวลามามากมายแต่เพราะไม่เคยออกไปจากวิหารเลยอ่อนต่อโลกกว่าที่คิด พวกนางในที่นี้ไม่มีใครมองว่าชายหนุ่มกำลังพูดโกหกอยู่เลย
“..............”แน่นอน ที่ทุกคนไม่คิดว่าชายหนุ่มกำลังโกหกนั้นก็เพราะตัวชายหนุ่มไม่ได้คิดจะโกหกตั้งแต่แรก เขามีเหตุผลที่จะลงมือสังหารเทพลำดับ 2 แต่เพราะลงมือผิดพลาดก็เลยตกมาอยู่ในสภาพนี้ และเป้าหมายที่คิดจะทำก็หายไปแล้วด้วย เมื่อไร้เป้าหมายชายหนุ่มก็คิดจะรับโทษในสิ่งที่พยายามทำ แต่ทำไมท่านเทพลำดับที่ 1 ถึงได้พูดว่าตนโกหกกันเล่า?
“สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ แม้แต่คำโป้ปดของมนุษย์ชั่วผู้นี้ยังรับรู้ได้ มนุษย์ผู้นี้จะไปยอมรับโทษแต่โดยดีได้อย่างไร”น้อง 3 พูดพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย นางไม่เชื่อหรอกว่ามนุษย์ผู้นี้จะยอมรับโทษแต่โดยดี
“ถูกแล้วน้องสาม เพื่อทำให้ความคิดเลวร้ายเหล่านี้หายไป ข้าจะพาวิญญาณดวงนี้ลงไปขัดเกลาที่โลกใบใหม่เอง”สิ้นเสียง เทพลำดับที่ 1 ก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ไปทางชายหนุ่ม ก่อนที่พลังบางอย่างจะเข้ามามัดร่างของชายหนุ่มเอาไว้แล้วลากชายหนุ่มให้ลอยตามเทพลำดับที่ 1 เข้าไปในประตูขนาดใหญ่ที่มีแสงสีขาวสว่างจ้าออกมา ยามนี้ที่เบื้องหลังของนางมีแต่สายตาแสนเป็นห่วงของเหล่าน้องๆเพราะพวกนางไม่เคยมีใครสักคนออกไปจากวิหารต้นกำเนิดแห่งนี้
ตึก.....ตึก.....ตึก.....
“...........”ทันทีที่ออกมาจากประตู ภาพเบื้องหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นภาพของวิหารขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราอลังการยิ่งกว่าวิหารต้นกำเนิดเสียอีก และที่ต่างจากวิหารต้นกำเนิดที่สุดก็คือที่นี่ไม่ได้มีเทพเพียง 7 องค์อาศัยอยู่ แต่กลับมีเทพจำนวนมากกำลังเดินไปเดินมาอยู่ภายในหมู่บ้านเบื้องล่าง ส่วนที่ประตูวิหารก็มีเทพที่แต่งกายคล้ายๆทหารเฝ้าเอาไว้อีก ทว่า....ภาพเบื้องหน้าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มสนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะสายตาของชายหนุ่มยามนี้กำลังจดจ้องไปที่เทพต้นกำเนิดผู้พาตนเองออกมาต่างหาก
“นี่ท่าน....กำลังตื่นเต้นหรือขอรับ”ชายหนุ่มถามออกไปตามสิ่งที่ตนเห็น นางดูตื่นเต้นมากที่ได้มาที่นี่แถมยังมองไปรอบๆตัวไม่หยุดอีกต่างหากเหมือนเพิ่งจะเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรก
“ขะ ข้าไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย”ทันทีที่โดนจับได้ ท่านเทพลำดับที่ 1 แห่งพี่น้องเทพต้นกำเนิดก็เลิกมองรอบตัวอย่างดีอกดีใจแล้วกลับมาอยู่ในท่าเดินสำรวมเช่นเดิม
“ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านไม่ออกมาจากวิหารต้นกำเนิดไม่ใช่หรือ หรือว่าที่ท่านอาสาจะพาข้ามาด้วยตัวเองจะเป็นเพราะท่านเป็นผู้อยากออกมาเองงั้นหรือ”ชายหนุ่มถามออกไปเพราะสังเกตเห็นท่าทีแปลกๆของนางตอนที่ตนกำลังจะยอมรับผิด อยู่ๆนางก็หาว่าตนโกหกแล้วรีบเร่งพาตนออกมาจากวิหารโดยไม่สนท่าทีเป็นห่วงของน้องๆเสียอย่างนั้น
“เปล่าสักหน่อย ข้าเพียงต้องทำหน้าที่ของเทพเท่านั้น”ท่านเทพต้นกำเนิดพูดพลางหันสายตาไปทางอื่น ท่าทางนางจะไม่ชินกับการโกหกเสียเท่าไหร่ เพียงมองครู่เดียวก็ทราบแล้วว่านางไม่ได้พูดความจริง
“จริงหรือขอรับ”ชายหนุ่มจ้องมองท่านเทพตรงหน้าด้วยท่าทีเหมือนจะจ้องจับผิด แต่เท่านั้นก็ทำเอาท่านเทพเบื้องหน้าเหงื่อตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“จะ...จริงๆนะ ข้าไม่ได้อยากมาเที่ยวข้างนอกเพราะได้ยินว่าในโลกมนุษย์มีเรื่องน่าสนใจเยอะแยะหรอกนะ”ท่านเทพผู้แสนจะสง่างามพยายามแก้ตัวแต่พูดออกมาเช่นนี้ก็แทบจะมัดตัวเองจนหมดสิ้นเสียแล้ว ที่แท้ท่านก็แค่อยากจะลงไปเที่ยวในโลกมนุษย์นี่เอง
“เอ่อ.......ข้าจะยอมเชื่อก็ได้ขอรับ”ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะยอมปล่อยผ่านไปแต่โดยดี ท่าทีพยายามโกหกเช่นนั้นก็น่ารักดีหรอกแค่ไม่คิดจะออกมาจากท่านเทพต้นกำเนิดเท่านั้น
“งะ งั้นก็ดี”ได้ยินว่าอีกฝ่ายยอมเชื่อ ท่านเทพก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะพาชายหนุ่มเดินไปยังวิหารที่ใหญ่ที่สุดด้วยอาการตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยเพิ่งได้เข้าเมืองครั้งแรกไม่มีผิด เรียกว่าทุกสิ่งทุกอย่างตื่นตาตื่นใจสำหรับนางไปหมดก็คงไม่ผิด
“แล้ว.....เราจะไปไหนกันหรือขอรับ”ชายหนุ่มถามพลางมองไปรอบๆ ไหนท่านบอกว่าจะให้ตนลงไปเกิดไง แต่ที่นี่มันเป็นเมืองของเทพไม่ใช่หรือ
“อ๋อ...ข้าจะพาเจ้าลงไปเกิดในโลกสักใบนะสิ แต่เทพของมิตินั้นน่าจะไม่รู้ว่าข้าเป็นใครก็เลยจะให้เทพที่ปกครองมิติต่างๆในเขตนี้เป็นคนพาไป”ท่านเทพต้นกำเนิดตอบพลางเดินขึ้นบันไดทองคำเบื้องหน้าไปอย่างสบายใจ แต่.....
“หยุด เจ้าเป็นใคร ที่นี่คือวิหารของท่านเจ้าสวรรค์ ไม่ใช่ที่ที่ใครก็เข้าไปได้”ท่าทางตัวตนของเทพต้นกำเนิดจะเป็นตัวตนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จริงๆ ทันทีที่ท่านเทพต้นกำเนิดเดินมาถึงหน้าวิหาร ทหารที่คุ้มกันอยู่ภายนอกก็เข้ามาห้ามเอาไว้ทันที แต่จะโทษพวกเขาก็ไม่ได้หรอกนอกจากไม่รู้จักท่านเทพต้นกำเนิดแล้วนางยังเอาวิญญาณมนุษย์ผู้หนึ่งติดตามมาด้วยอีก แล้วเช่นนี้ใครจะให้เข้าไปเล่า