งานเลี้ยง
ห้องสภานักเรียน โรงเรียนไอรีน
“ตอนนี้เจ้าโรคจิตนั่นคงจะมีสภาพดูไม่ได้แล้วสินะ” ซายะที่กำลังเขียนเอกสารของสภานักเรียนอยู่พูดกับตัวเอง ใบหน้าเย็นชาแต่กลับทำให้เธองดงามมากขึ้นเผยรอยยิ้มบางๆออกมา
เมื่อเธอคิดถึงภาพเจ้าโรคจิตที่ในตอนนี้น่าจะถูกสัตว์อสูรระดับ A ทำร้ายจนบาดเจ็บเธอก็รู้สึกดีจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
จากนั้นเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
ซายะหยิบมือถือของเธอขึ้นมาดู ไม่กี่วินาทีต่อมาอุณหภูมิของทั้งห้องก็ลดลงจนสิ่งของทั้งหมดภายในห้องมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ปะ ประธานครับ เป็นอะไรไปเหรอครับ?”
“คุณซายะคะ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นคะ?”
สมาชิกสภานักเรียนถามหญิงสาวพร้อมกับรวมตัวกันที่เครื่องทำความร้อนซึ่งรองประธานของพวกเขาเปิดหลังจากเห็นสีหน้าของประธานสาว ทุกคนในห้องทำเหมือนกับว่าเรื่องนี้ตอนนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
“นายว่าคราวนี้คุณซายะเป็นอะไร ฉันว่าเรื่องคู่หมั้นของเธออีกแน่ๆ”
“ไม่แน่ แต่ฉันว่าต้องเป็นเรื่องของเจ้าโรคจิตนั่น”
“พวกนายนี่เดาอะไรเลอะเทอะ ฉันว่าเธออาจเป็นวันนั้นของเดือนก็ได้ พวกผู้หญิงใครมีผ้าอนามัยก็เอาไปให้เธอเร็ว!” ชิโรคามิ ยาโตะ น้องชายของซายะที่ทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกของสภานักเรียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเขาก็ถูกบอลน้ำแข็งกระแทกเข้าที่หัวจนกระเด็นไปชนกับผนังห้อง
“ยัยพี่บ้า! ทำร้ายน้องชายที่แสนน่ารักลงได้ยังไง แถมเป็นบอลน้ำแข็งอีก ถ้าเป็นบอลหิมะจะไม่ว่าเลย” ยาโตะโวยวายทั้งน้ำตาพร้อมกับก้อนที่เรื่มนูนออกมาบนหัวของเขา
“...” ซายะมองน้องชายด้วยสายตาที่สื่อว่าถ้าพูดอีก...ตาย!
“เอื๊อก” หลังจากเห็นสายตาของพี่สาว เขาก็ยิ้มหวานให้เธอแล้วทำท่ารูดซิบที่ปากของตัวเองทันที
จากนั้นห้องสภานักเรียนก็เงียบไปเพราะเหล่าสมาชิกพากันนั่งลงข้างๆเครื่องทำความร้อนอย่างเงียบๆ
“เห้อ” ซายะหันมามองมือถือของเธออีกครั้ง ข้อความที่ถูกส่งมาจากเจโรม ลูกน้องของพ่อเธอทำให้เธอกัดฟันแน่น แววตาของเธอปรากฎความหงุดหงิดอย่างปิดไม่มิด
‘คุณหนู คนที่คุณหนูส่งมาช่วยพวกผมได้เยอะเลย เขาคนเดียวก็ทำให้กองทัพอสูรหายไปถึง 2 ใน 10 ส่วน ถึงครึ่งหนึ่งจะตายเพราะกับดักก็เถอะ แต่เพราะเขาสยบอสูรหมื่นพิษได้เลยทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นเยอะ ต้องขอบคุณคุณหนูจริงๆ ฮ่าๆ’
“ไอ้เจ้าโรคจิตนั่นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ” ซายะพูดออกมาเบาๆ เธอเช็คตารางงานของเธอ จากนั้นเธอก็พูดกับน้องชายของเธอ
“ยาโตะ ฉันจะไปทำธุระข้างนอกสักพัก นายรับผิดชอบงานที่เหลือจนกว่าฉันจะกลับมานะ”
“อะ โอ้ว แล้วพี่จะไปไหนอ่ะ”
“ไม่บอก”
“ชิ ผมจะฟ้องแม่ว่าพี่อู้งาน”
“ลองดู ถ้านายทำฉันจะบอกบ้างว่านายมีแฟนแล้ว”
“เห้ย อย่านะ พี่ก็รู้ว่าแม่ห้ามพวกเรามีแฟน ถ้าเค้ารู้ผมตายแน่”
“งั้นก็เงียบไว้”
“จ้าๆ” ยาโตะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ซายะที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วเดินออกจากห้องไป
.
.
.
ฐานทัพเจโรม
หลังจากที่จัดการสัตว์อสูรที่ทยอยออกมาจากรอยแยกมิติจนหมดและได้ให้เจ้าหน้าที่จากสมาคมผู้พิทักษ์ดำเนินการปิดรอยแยกด้วยวิธีการเฉพาะเรียบร้อยแล้ว เหล่านักรบอสูรจากฐานทัพเจโรมที่เหนื่อยล้าจากการทำสงครามคลื่นอสูรก็ได้มารวมตัวกันที่ลานฝึกซึ่งตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงชั่วคราว
พวกเขาได้ใช้เนื้ออสูรที่รูปร่างคล้ายหมูป่ายักษ์และกุ้งแม่น้ำยักษ์ ขนาด 3 เมตรมาหั่นเป็นแผ่นบางๆพอดีคำ จากนั้นก็นำไปหมักแล้วย่างบนเตาจนส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาทั่วลานฝึก เหล่านักรบอสูรรวมถึงเจโรมและวาตะอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย พวกเขามองราฟที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นพ่อครัวของงานเลี้ยงพลิกเนื้อกำลังผสมเครื่องเทศให้เข้ากัน จากนั้นราฟก็ส่งหม้อสองใบไปให้พวกเขา
“นี่คือน้ำจิ้มหมูกระทะ กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ลองคีบเนื้อหมูใส่น้ำจิ้มหมูกระทะ ส่วนเนื้อกุ้งก็จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วกินดู” ราฟบอกยิ้มๆ จากนั้นเขาก็นั่งลงแล้วเริ่มกินอาหารตรงหน้าเพื่อทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
หลังจากที่พวกเขาทำตามที่ชายหนุ่มผมเทาบอก ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นทันที
“โอ้ว ความอร่อยนี่มันอะไรกัน พรุ่งนี้ฉันจะติดต่อเจ้าหน้าที่ของสมาคมไปว่าพวกเราจะเก็บอสูรรูปร่างหมูกับกุ้งไว้ ที่เหลือพวกเขาสามารถซื้อกลับไปได้” วาตะเอ่ยเป็นคนแรกด้วยสีหน้าตกใจพร้อมกับเคี้ยวไปด้วย
คนที่เหลือก็พูดออกมาทำนองเดียวกัน เสียงเคี้ยวดังออกมาไม่หยุด ทุกคนไม่ได้พูดคุยกันเพราะจริงจังกับการคีบหมูเข้าปาก
“อืม อร่อยจริงๆ ฉันขอสูตรการทำด้วยสิ” เจโรมขอชายหนุ่ม
“ไม่ได้ๆ นี่เป็นสูตรประจำตระกูล แต่ผมว่าจะทำขาย ถ้าสนใจก็ติดต่อมาได้ ฮี่ๆ” ราฟยิ้มกว้างพร้อมกับคิดในใจ
‘กูเกิล...บันไซ!!!’
“งั้นก็ได้ ถ้านายขายแล้วก็บอกฉันด้วยล่ะ”
“แน่นอน”
‘หลังจากนี้ฐานทัพของเจโรมคงจะมีหมูกระทะกับกุ้งเป็นอาหารหลักสินะ เหอๆ’ ราฟคิดในใจขณะคีบเนื้อป้อนโกโก้ หลังจากที่เธอกินเนื้อหมูเข้า หางของมันก็สั่นไปมา แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของเธอ ทำให้พื้นสั่นจนทุกคนในงานเลี้ยงกินไม่ได้
“โกโก้ หนูทำตัวให้เล็กลงได้มั้ย คนอื่นลำบากกันนะคะ” ราฟหันไปพูดกับสัตว์เลี้ยงของเขาด้วยเสียงที้นุ่มลงสองระดับจนทำให้ที่เหลือมองด่วยสายตาแปลกๆ
‘คนที่เหมือนอสูรยิ่งกว่าอสูรตอนอยู่ในสงคราม ตอนนี้กลับพูดกับหมาด้วยเสียงแบบนี้เนี่ยนะ?’ วาตะคิดในใจ ซึ่งความคิดนี้ก็เกิดขึ้นในใจของใครหลายคน
“ได้ค่ะ” โกโก้บอก จากนั้นเธอก็ย่อขนาดลงจนเหลือขนาดเท่ากับปอมเมอเรเนียนปกติ
“น่าร๊าก” ราฟอุ้มโกโก้มานั่งบนตัก จากนั้นก็เริ่มกินอาหารต่อไปพร้อมกับทุกคน
.
.
.
วันต่อมา
“คุณหนู? มีอะไรเหรอครับ ทำไมไม่ส่งข้อความมาบอกผมก่อน ผมจะได้ไปรับที่สถานี” เจโรมถามหญิงสาวตรงหน้าที่อยู่ๆก็โผล่มาฐานทัพของเขา ไม่สิ...ของตระกูลเธอที่เขารับหน้าที่ดูแล
“หมอนั่นอยู่ไหน” ซายะถามเสียงเรียบ หญิงสาวมาในชุดไปรเวทสบายๆอย่างเสื้อยืดแขนยาวกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบและสวมเสื้อแขนยาวทับอีกชั้น เจโรมรู้สึกเหมือนกับว่าสายตาที่เย็นขาของเธอที่มองผ่านแว่นกันแดดมาที่เขาคล้ายกับจะมีไฟลุกออกมาจากดวงตาของเธอ
“เอ่อ คุณหนูหมายถึงราฟเหรอครับ?”
“จะมีใครซะอีกล่ะ บอกมาเร็วเข้า”
“เขาอยู่ห้อง 51 ครับ”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบ ซายะก็หันหลังเดินออกจากห้องของเจโรมไป
เจโรมถอนหายใจออกมา เขาสงสัยว่าทำไมคุณหนูถึงต้องมาหาราฟด้วยตนเอง จะว่าไปข่าวลือในตระกูลที่ว่าคุณหนูมีนิสัยยึดติดย้ำคิดย้ำทำคงจะจริงล่ะมั้ง แต่ความสงสัยของเขาก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว จากนั้นเขาก็หันไปทำรายงานเรื่องเมื่อวานเพื่อที่จะส่งไปให้กับตระกูลชิโรคามิ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงเรื่องความแข็งแกร่งของราฟที่ได้แสดงออกมาในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
.
.
.
หน้าห้องของราฟ
ซายะกำลังยืนมองประตูห้องของขายที่เธอเกลียด จากนั้นก็เคาะประตูตามมารยาทแล้วเรียกชายหนุ่มด้วยเสียงเย็นชา
“นักเรียนราฟ เรามีเรื่องต้องคุยกัน!”