THW ตอนที่ 19+20(2/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"
THW ตอนที่ 19+20(2/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"
หลังจากนั่งลงแล้ว เขาก็มองไปที่แจกันอีกครั้ง
จากนั้น เขาก็เริ่มใช้งานตาทิพย์ พร้อมกับดูดกลืนเส้นสายวิญญาณที่หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศให้บินเข้ามาในดวงตาของเขา และความรู้สึกสดชื่นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“หยุด!”
ทันใดนั้น ภาพออร่าที่กำลังลอยเข้ามาก็พลันหยุด และกลายเป็นช่วงเวลาที่ถูกแช่แข็งอีกครั้ง!”
“เริ่ม!”
ไม่ตอบสนอง และเขาก็เปลี่ยนคำพูดใหม่
“ดูดกลืน!”
และภาพก็กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง พร้อมกับออร่าที่บินเข้ามาต่อ
ตอนนี้เขาได้พบคำสำหรับเปิดใช้งานแล้ว และมันสามารถที่จะเริ่มเวลาไหนก็ได้ในอนาคต!
..........
ในการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากคนครุ่นคิดแล้ว ของโบราณที่เหลือล้วนแต่ถูกดูดจนหมด และเย่เทียนก็ควบคุมความสามารถของเขาได้อย่างคล่องมือมาก!
ถึงขนาดที่เขาพบประโยชน์ของความสามารถที่สามารถทำให้ออร่าที่ถูกดูดเข้ามากลายเป็นมือที่ยืนขยายออกไปอีกข้างของเขา
ซึ่งการค้นพบนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก หากเป็นอย่างนี้ ถ้าหากความสามารถก้าวหน้าขึ้นไปอีกล่ะ มันจะทำอะไรได้อีก? แค่คิดก็สนุกแล้ว!
สำหรับคนครุ่นคิดนี้ เขายังคงรู้สึกลังเลนิดหน่อยในตอนนี้
คุณยังต้องการจะทำต่ออีกอย่างงั้นเหรอ? นี่คือรูปปั้นที่มาจากศิลปินผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และมันคงน่าเสียดายมากหากต้องมาพังในมือเขา! แม้เขาจะไม่รู้ว่าเป็นงานของใครก็เถอะ!
แต่ความลังเลนี้ก็คงอยู่แค่สองหรือสามวินาทีเท่านั้น และเขาก็ลืมมันไปทันที!
ดูดกลืน!
ช่างเถอะ ถึงยังไงฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นงานของใคร และมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้อยู่แล้ว ถึงจะเก็บมันไว้ก็ไร้ประโยชน์!
และเขาก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะเก็บสะสมอะไร เมื่อเป็นอย่างนี้ คงจะดีกว่าที่จะใช้มันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตน!
ตาทิพย์ถูกเปิดใช้งาน! พร้อมกับออร่าที่ไหลทะลักเข้ามาอีกครั้ง!
มีความสุข! มันให้ความรู้สึกสดชื่นยิ่งกว่าการดูดกลืนออร่าจากของโบราณที่มีรัศมีแค่หนึ่งหรือสองชั้น!
ในสิบนาที ด้วยความที่ทำๆ หยุดๆ รัศมีของคนครุ่นคิดก็สลายไป และกลายเป็นเส้นสายวิญญาณลอยเข้าสู่ดวงตาเขา
และรูปปั้นนี้ก็ได้กลายเป็นผุพัง สูญเสียคุณค่าและความแวววาวทั้งหมด เหมือนกับวิญญาณได้หลุดหายไป จนแม้แต่ตัวรูปปั้นเองยังเริ่มหลุดร่อนเป็นฝุ่นผง กลายเป็นขยะโดยสมบูรณ์!
และในจังหวะนี้ ขณะที่การดูดกลืนออร่าจบลง ก็ได้มีความรู้สึกสดชื่นไหลท่วมดวงตาของเขา จนทำให้เย่เทียนอดไม่ได้ต้องโห่ร้องออกมา
“เจ๋ง!”
เมื่อน้ำเสียงหยุดลง เย่เทียนก็พลันหันไปมองกำแพงที่อยู่ด้านหลังของเขา พร้อมกับเริ่มทดสอบความสามารถที่ก้าวหน้าขึ้นมาของเขา
เมื่อเปิดใช้ตาทิพย์ สายตาของเขาก็ยังคงเห็นสีเหลืองตุ่น และยังคงไม่สามารถมองทะลุกำแพงไปได้
แต่ระยะที่ตาทิพย์มองทะลุก็ได้เพิ่มขึ้น และมองได้ไกลมากกว่าคราวก่อน แม้จะไม่ชัดเจน แต่ก็สัมผัสได้
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของเขาได้เพิ่มขึ้น และวันที่จะมองทะลุกำแพงนี้ได้ก็อยู่ไม่ไกล!
หลังจากถอนสายตากลับ เย่เทียนก็เริ่มทำการทดสอบในตัวบ้านอีกครั้ง
ไม่นาน เขาก็พบว่าระยะที่จะมองเห็นแสงจากขอบโบราณของเขาได้เพิ่มขึ้นนิดหน่อย จนใกล้จะแตะระยะเจ็ดเมตร
เมื่อการทดสอบพลังจบลง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและพึงพอใจอย่างมาก
...............
หลังจากพักช่างเวลาสั้นๆ เย่เทียนก็เริ่มทำความสะอาด และเก็บของโบราณที่กลายเป็นขยะพวกนี้ไปทิ้ง
เพื่อที่จะกำจัดร่องรอย เขาจึงต้องทำงานหนัก
นอกจากรูปแกะสลักหินอ่อนแล้ว ทุกอย่างล้วนแต่ถูกทำลาย พร้อมกับถูกใส่ในถุงขยะและเก็บไปทิ้ง
หลังจากจัดการเรื่องนี้ เวลาครึ่งชั่วโมงก็ได้ผ่านไป และก็ถึงเวลาสำหรับอาหารเย็น
แต่ในเวลานี้เขาไม่สนใจที่จะออกไปกินข้าวข้างนอก เพราะยังมีสิ่งสำคัญอีกสิ่งที่เขายังไม่ได้จัดการกับมัน
หลังจากโทรสั่งพิซซ่าแล้ว เย่เทียนก็ได้นั่งลงบนโต๊ะ
และคราวนี้ ก็ถึงเวลาที่จะเปิดเผยความลับของภาพ “อาทิตย์อัสดงในแมนแฮตตัน” แล้ว!
กรอบรูปถูกถอดออกอย่างเบามือ และเย่เทียนก็ใช้ไขควงเพื่องัดเปิดฝาที่ปิดหลังกรอบรูปออก
จากนั้น สิ่งที่น่าประหลาดใจตามที่คาดก็ได้ปรากฏ! ด้านหลังกรอบรูปได้ซ่อนบางอย่างไว้จริงๆ
เจ้าสิ่งนี้ถูกห่อไว้ด้วยกระดาษไข และมันก็บางมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นขนาดของภาพวาด งานทั้งชิ้นเปล่งแสงสว่างออกมา พร้อมกับรัศมีอีกหลายชั้น ซึ่งดูแล้วน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก!
“สมบัติ ในที่สุดแกก็จะได้เห็นพระอาทิตย์อีกครั้งแล้ว!”
เย่เทียนพูดด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้ใบหน้าของเขาต่างก็บานไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
จากนั้น เขาก็ใช้มือหยิบสมบัติชิ้นนี้ออกมาอย่างเบามือ และวางมันไว้บนโต๊ะ
ส่วนภาพ “อาทิตย์อัสดงในแมนแฮตตัน” นั้น ได้ถูกเขาทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเปิดกระดาษไขที่ห่อเอาไว้ออก ก็พบกับภาพที่ตึงเรียบปรากฏขึ้นตรงหน้าสายตา
“คาวบอยตะวันตกสองคนกำลังควบม้าข้ามผ่านดินแดนที่รกร้าง ขณะที่เหวี่ยงเชือกที่ทำเป็นห่วงในมือไล่ตามฝูงกระทิง นี่ช่างเป็นภาพสมจริงมากจริงๆ แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและมีชีวิตชีวาได้อย่างป่าเถื่อนสุดๆ!”
เมื่อเห็นภาพและคิดเกี่ยวอายุของงานแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาข้อมูลอะไร เย่เทียนก็รู้เลยว่านี่เป็นงานของใคร
“ฮ่าฮ่าฮ่า คาวบอยตะวันตก! นี่จะต้องเป็นภาพคาวบอยตะวันตกของชาร์ลส์ มาเรียน รัสเซลล์แน่! นี่มันช่างเยี่ยมไปเลย!”
เสียงหัวเราะระเบิดดังขึ้นมาทันที และตัวคนหัวเราะเองก็เป็นเหมือนกับหัวข้อของภาพ ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาอย่างถึงที่สุด! พร้อมกับตื่นเต้นอย่างมาก!
ชาร์ลส์ มาเรียน รัสเซลล์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น “ศิลปินคาวบอย” ที่เป็นชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เขานั้นวาดภาพสีน้ำมันเกี่ยวกับคาวบอยและอินเดียแดงตลอดชีวิตของเขา และถือว่าเป็นผู้มีชื่อเสียงที่รู้จักกันดีอย่างมากในอเมริกา
ภาพวาดของเขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบจากหลากหลายประเทศ แต่ว่าสำหรับในอเมริกาแล้ว พวกมันต่างก็เป็นที่ต้องการอย่างบ้าคลั่งจากผู้คนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางภาคตะวันตกด้วยแล้ว เขาถือว่าเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในแถบนั้นเลยก็ว่าได้
และเพื่อเป็นที่ระลึกต่อคุณงามความดีที่เขาทำให้กับวัฒนธรรมตะวันตก จึงได้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ซีเอ็ม รัสเซลล์ขึ้นที่เมืองเกรตฟอลส์ รัฐมอนทานา เพื่อเป็นที่เก็บสะสมของใช้ส่วนตัว ภาพวาด และงานฝีมือของเขามากกว่า 2,000 ชิ้น
และเย่เทียนเองก็เคยไปเยือนที่พิพิธภัณฑ์นี้มาแล้ว และเขาก็มีความประทับใจมาก ในจังหวะที่เขาได้เห็นภาพวาดนี้ เขาก็บอกได้เลยว่ามันเป็นของแท้เพียงแค่ชายตามอง
หลังจากตื่นเต้นแล้วเสร็จ เย่เทียนก็เริ่มตรวจสอบรายละเอียด
มันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ไร้ซึ่งตำหนิ และคำว่า ซีเอ็ม รัสเซลล์ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนตรงมุมขวาล่างของกระดาษ
นี่เป็นงานศิลปะเกี่ยวกับคาวบอยที่สมบูรณ์แบบชิ้นหนึ่ง! หากมันถูกปล่อยเข้าไปในตลาด มันจะถูกซื้อไปในวินาทีที่วางขายอย่างแน่นอน!
หลังจากตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว เย่เทียนก็ทำการห่อภาพด้วยกระดาษไขอย่างระวัง และเก็บมันใส่ลงในกระเป๋า
พรุ่งนี้ ภาพ “คาวบอยตะวันตก” นี่ คงจะไปอยู่ที่บ้านประมูล หรือไม่ก็แกลเลอรี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิวยอร์ก และทำเงินให้กับเขาหลายเป็นจำนวนเลขศูนย์หลายตัว
ของสะสม! เย่เทียนไม่เคยคิดเรื่องนี้ หรือไม่กล้าคิดอะไรแบบนี้มาก่อน
ในอพาร์ต์เมนต์ที่เต็มไปด้วยผู้คน พร้อมกับบ้านเช่า การที่คิดจะเก็บสะสมภาพสีน้ำมันที่ล้ำค่าอย่างนี้ เป็นอะไรที่ยากจะคิดจริงๆ!
กลับกัน แทนที่จะปล่อยมันวางไว้ที่นี่ทุกวัน สู้เอามันไปเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาร์ยังจะดีกว่าอีก!
ต่อมา ก็ถึงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแล้ว
“ว้าว! ฉันรวยแล้ว!”
เย่เทียนตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับเต้นพล่านอยู่กลางห้อง
แต่การเฉลิมฉลองก็ได้ถูกขัดขวางอย่างรวดเร็ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังจริงๆ!
“ก๊อก ก๊อก.....”
เสียงเคาะประตูดังมา ดูท่าคงจะเป็นพิซซ่ามาส่ง
........