เขตแดนเทพสายฟ้า
หลังจากวิ่งหนีหลินอิงอิงมาได้ ราฟก็เดินผิวปากกลับมาที่ห้องเรียนของเขาท่ามกลางสายตาของเพื่อนในห้องที่ในตอนนี้ไม่ได้มองว่าเขาอ่อนแออีกต่อไป แต่ก็ยังคงมองด้วยสายตาที่มองคนโรคจิตชอบเตะไข่อยู่
เมื่อราฟมองไปที่เพื่อนในห้อง พวกเขาก็พากันหลบสายตา และผู้ชายก็พากันเอามือกุมเป้ากันหมด
ราฟได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
‘ใครมันจะไปเตะไข่พวกแกฟะ มันไม่ใช่งานอดิเรกฉันโว้ย งานอดิเรกฉันน่ะนะ คืออ่านหนังสือโป...แค่ก ๆ อ่านนิยายต่างหาก’
ครืดดด
เสียงแจ้งเตือนในมือถือของเขาดังขึ้น เมื่อราฟมองไปเขาก็พบว่ามีข้อความจากครูสาวส่งมาว่าให้ไปที่ประตูมิติระดับ C ตรงภูเขาที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนเพื่อไปช่วยผู้พิทักษ์รับมือสัตว์อสูรที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้เพื่อรับโทษที่ทำการทะเลาะวิวาทจนกว่ารอยแยกที่เกิดจากประตูมิติจะหายไป
จากความทรงจำของร่างนี้ ประตูมิติคือรอยแยกมิติที่เกิดขึ้นจากความผันผวนของพลังธรรมชาติที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม โดยถูกแบ่งตามระดับเดียวกับสัตว์อสูรบนโลกคือ S A B C D E F เมื่อมันเกิดขึ้น สัตว์อสูรก็จะทยอยกันออกมา ซึ่งพวกมันไม่ใช่สัตว์อสูรบนโลกและไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาจากไหน ทำให้คนบนโลกนี้เชื่อว่ามันมาจากต่างโลก และราฟก็เชื่ออย่างนั้น เพราะเขาก็มาจากต่างโลกเหมือนกัน ถึงจะมาแค่ดวงจิตแล้วมาอาศัยร่างคนตายอยู่ก็เถอะ
สัตว์อสูรพวกนี้ไม่สนใจเนื้อมนุษย์ เพราะมันกินพลังธรรมชาติเป็นอาหาร ที่มันสนใจคือการโจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน แต่ด้วยวิทยาการของโลกในปัจจุบันทำให้สามารถตรวจพบได้ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหน เวลาไหน และเป็นประตูมิติระดับใด ทำให้มนุษย์สามารถเตรียมรับมือตลอดมา
หลังคิดเสร็จราฟก็ขมวดคิ้ว แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับครูสาวคนสวยทันที
ราฟขมวดคิ้ว แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับครูสาวคนสวยทันที
‘เดี๋ยวสิครับครูคนสวย ทำไมมีแค่ผมล่ะ แล้วเจ้าบ้ามาคัสล่ะ มันไม่ได้มาด้วย’
‘ก็เธอเล่นเตะกล่องดวงใจของเขาจนกลายเป็นโจ๊กจนขยับไปไหนไม่ได้แบบนั้น จะให้เขาไปรับโทษเพิ่มก็คงโหดร้ายไปหน่อย ไว้ค่อยหาวิธีลงโทษแบบอื่นให้เขาทำ เลิกถามแล้วกลับไปเตรียมตัวซะ!’
‘แต่ว่า...’
‘วันนี้ไม่มีเรียน ฉันไม่ว่าง ต้องมาทำเคลียร์เรื่องทะเลาะวิวาทของพวกนายกับฝ่ายผู้คุมกฎเนี่ย! ยุ่งยากชะมัด...แล้วก็จำไว้เลยนะนักเรียนราฟ ถ้าไปก่อเรื่องอีกฉันจะจับนายมาลองวิชาสายฟ้าของฉัน!’
ราฟที่เห็นข้อความของครูสาวก็เหงื่อแตกพลั่ก
‘ไม่ได้การแล้ว อย่างนี้ถ้าเราไปก่อเรื่อ...เอ๊ย ป้องกันตัวเองอีกรอบก็ต้องโดนพลังไฟฟ้าของยัยครูแบตเตอรี่ลงโทษอีกเหรอ ม่ายยย…เราต้องรีบดูดพลังสายฟ้า เอาให้ต้านทานไฟฟ้าแบบไม่ให้มันส่งผลกับร่างกายเราได้อีกเลย!’ ราฟคิดในใจเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยว ๆ จอมทลายไข่!”
เสียงเรียกของนักเรียนชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลยาวมัดหางม้าพร้อมกับใบหน้าที่ดูเหมือนผู้หญิงดังขึ้นจนทำให้ราฟที่ได้ยินเกือบสะดุดฝุ่นล้มหัวทิ่ม
“เรียกใครจอมทลายไข่ฟะ! ชื่ออุบาทว์นั่นมันอะไรกัน ต้องเรียก ‘ราฟสุดหล่อมาดแมนแฮนซัมบอย’ สิโว้ย” ราฟหันหน้ามาโวยวายพร้อมดึงแขนเสื้อขึ้นพร้อมมีเรื่อง
“ใจเย็น ๆ ราฟสุดหล่อ แค่ก ๆ ที่เรียกก็ไม่มีอะไรมาก แค่จะถามว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงลุกออกไปล่ะ ไม่เรียนคาบครูหลินแล้วเหรอ นายก็รู้ไม่ใช่รึไงว่าถ้าหนีเรียนวิชาเค้าจะถูกเธอตามหาทั่วโรงเรียนเลยน่ะ”
“รู้สิ ไม่งั้นฉันไม่กลับมานั่งในห้องหลังมีเรื่องกับไอ้บ้ามาคัสหรอก” ราฟตอบพร้อมกับดึงแขนเสื้อลง อะไรวะ นึกว่าจะหาเรื่อง อดสนุกเลย
“แล้วทำไมนายถึงออกไปล่ะ” นักเรียนคนนั้นถามต่อ
“หือ ก็ครูหลินพึ่งส่งข้อความมาบอกน่ะสิว่าไม่มีเรียน” ราฟตอบแบบเบื่อ ๆ
“เห้ย! แล้วทำไมไม่บอก! พวกเรา วิชาครูหลินยก ไม่ต้องเรียน!” ชายหน้าหวานหันไปตะโกนบอกเพื่อนในห้องที่เหลือ
เฮ!
เพื่อนในห้องพากันโห่ร้องดีใจแล้วพากันเก็บของเตรียมออกจากโรงเรียน
ราฟที่มองบรรยากาศในห้องกระตุกรอยยิ้มออกมาบาง ๆ ที่มุมปาก
เรื่องที่นักเรียนพากันดีใจที่ไม่มีเรียนก็ไม่ได้แตกต่างจากโลกเก่าเท่าไหร่เลยแฮะ
“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย งั้นฉันไปล่ะ” ราฟบอกแล้วหันหลังกลับ โดยมีชายหน้าหวานมองตามหลังจนเขาออกจากห้องไป
“แปลกแฮะ ทำไมออร่าของเขาอยู่ ๆ ก็มีสายฟ้าล่ะ ตอนเช้าไม่เห็นมีเลยนี่...น่าสนใจ...” ชายหน้าหวานยิ้มออกมา ขณะที่นัยน์ตาของเขากำลังเปล่งแสงสีชมพูอ่อนออกมา
“คาร์ล ไปได้แล้ว ไปเล่นเกมกัน! มัวมองจอมทลายไข่อยู่นั่นแหละ ชอบมันรึไง” เพื่อนของคาร์ลเรียกเขา พร้อมกับถามแบบไม่คิดอะไรมาก
“บ้ารึไง แกนั่นแหละที่ชอบ” คาร์ลตอบเขายิ้ม ๆ
“555”
.
.
.
หลังจากที่ราฟกลับถึงบ้าน เขาก็หยิบปลั๊กไฟขึ้นมาแล้วตัดสายปลั๊กออกไปเสียบกับเต้าเสียบ จากนั้นเขาก็ใช้มือจับที่สายไฟที่ตัดไว้ (ห้ามทำตามเด็ดขาดนะครับ ^ ^)
ทันทีที่เขาจับสายไฟ เขารู้สึกถึงไฟฟ้าแล่นผ่านทั่วร่างของเขา ราฟรู้สึกชาไปทั่วร่างแต่ไม่เท่ากับตอนโดนมังกรสายฟ้าของหลินอิงอิง ไม่นานเขาก็ไม่รู้สึกถึงสายฟ้าอีกต่อไป
“อะไรวะ จบแล้วเหรอ แต่รู้สึกว่าประสาทสัมผัสไวขึ้นแฮะ ตา หู จมูก ความรู้สึกดีขึ้นหลายเท่าเลย แต่รู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่พอ เราต้องการไฟฟ้ามากกว่านี้! รู้แล้ว! ไปดูดที่โรงไฟฟ้าไอรีนดีกว่า ฮี่ ๆ...เดี๋ยวนะ โรงไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักของเมือง ต้องมีผู้พิทักษ์ระดับ S โหด ๆ เฝ้าอยู่แน่ แล้วจะทำไงดีวะเนี่ย...”
เปรี้ยง!
“อื๋อ...” ราฟที่กำลังทึ้งหัวตัวเองหันมองไปนอกหน้าต่าง เขาพบว่าที่ท้องฟ้าปรากฏเมฆสายฟ้าสีดำทะมึนกำลังปกคลุมไปทั่วเมืองไอรีนอยู่ เสียงดึงกัมปนาททะลุเข้าโสตประสาทของที่คนที่อยู่ในเมืองไอรีน
“ประกาศ! ขณะนี้ทางตระกูลผู้พิทักษ์อันดับ 3 ตระกูลหลิน กำลังดำเนินการบำรุงรักษาเขตแดนพิทักษ์อสูร รูปแบบเทพสายฟ้า ขอให้ประชาชนเมืองไอรีนอยู่ในความสงบแล้วหาที่หลบเพื่อป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุของสายฟ้า การดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง”
“ประกาศ! ขณะนี้ทางตระกูลผู้พิทักษ์อันดับ 3 ตระกูลหลิน กำลังดำเนินการบำรุงรักษาเขตแดนพิทักษ์อสูร รูปแบบเทพสายฟ้า ขอให้ประชาชนเมืองไอรีนอยู่ในความสงบแล้วหาที่หลบเพื่อป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุของสายฟ้า การดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง”
“ประกาศ! ขณะนี้ทางตระกูลผู้พิทักษ์อันดับ 3 ตระกูลหลิน กำลังดำเนินการบำรุงรักษาเขตแดนพิทักษ์อสูร รูปแบบเทพสายฟ้า ขอให้ประชาชนเมืองไอรีนอยู่ในความสงบแล้วหาที่หลบเพื่อป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุของสายฟ้า การดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง”
หลังจากประกาศจบลงเป็นรอบที่ 3 ราฟที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
จากความทรงจำของเจ้าคนโรคจิต สาเหตุที่เมืองไอรีนสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติอสูรมาได้เป็นเวลากว่าพันปี หนึ่งในนั้นก็เพราะมีเขตแดนเทพสายฟ้าของตระกูลหลินคอยปกป้องไว้ การบำรุงรักษาเขตแดนไม่เหมือนการสร้าง มันต้องทำทุก ๆ 1 ปี หลังทำเสร็จ ตระกูลหลินจะเก็บพลังงานเหลือใช้กลับเข้าไปในผนึกเทพสายฟ้าประจำตระกูลเพื่อใช้ในครั้งต่อไป และพลังงานที่หลงเหลือจากการบำรุงรักษาน่าจะเพียงพอให้เขาดูดซับจนสายฟ้าไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกต่อไป นอกจากนี้มันยังทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย ใครจะยอมพลาดโอกาสนี้กันล่ะ
เมื่อคิดเสร็จ ราฟก็เงยหน้ามองไปบนท้องฟ้าที่ตอนนี้กลายเป็นสีดำพร้อมกับเสียงที่น่ากลัวของสายฟ้าดังก้องไปทั่วทั้งเมือง เขาก้มหน้าลงหันมองไปรอบ ๆ แล้วก็หยุดที่เทือกเขาสูงหลังโรงเรียนที่เป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์อสูรระดับ E ที่ถูกจับมาเลี้ยงไว้สำหรับให้นักเรียนใช้ฝึกฝนพลัง จากนั้นเขาก็วิ่งไปทางนั้นทันที