อสูรหมื่นพิษ
เมื่อราฟเห็นห้องหมายเลข 51 เขาก็ใช้คีย์การ์ดที่เจโรมให้มาเปิดประตูเข้าไปในห้อง ข้างในห้องถูกจัดแต่งแบบเรียบง่าย มีเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ และห้องอาบน้ำ
ราฟจัดของให้เข้าที่ จากนั้นก็ล็อกห้องแล้วออกไปหาเจโรมเพื่อไปฟังแผนรับมือสัตว์อสูรต่อ
พอราฟกลับมาที่ลานฝึกซ้อม เขาก็เห็นเจโรมกำลังอธิบายแผนให้คนอื่นในฐานฟังอยู่
“...แผนการรับมือสัตว์อสูรในรอบนี้ก็ง่ายๆ ล่อพวกมันให้มาติดกับดักที่เราทำไว้ จากนั้นก็ปล่อยพลังที่พวกนายมีใส่ให้หมด นี่ไม่ใช่การลงดันเจี้ยน แต่เป็นการรับมือกับคลื่นอสูร ดังนั้นพวกนายต้องทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังสูงสุด จำไว้ให้ดี! สู้ให้ถึงที่สุด ถ้าสุดแล้วไม่ไหวก็ถอยมาตั้งหลัก รักษาชีวิตของพวกนายไว้ จากนั้นก็หาโอกาสโต้กลับ เข้าใจมั้ย เหล่านักรบอสูรแห่งตระกูลชิโรคามิ!” เจโรมตะโกนถามเสียงดัง
“เข้าใจครับ/ค่ะ” เสียงตอบรับของคนกว่า 200 คนดังขึ้น
“พูดปลุกใจเก่งชะมัดเลยแฮะ เล่นซะขนลุกเลยวุ้ย” ราฟที่พึ่งมาถึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเจโรมเป็นผู้นำที่ดีคนหนึ่ง
“ใช่ม้า หัวหน้าเจโรมคือคนที่ได้รับการยอมรับจากตระกูลชิโรคามิวาาเป็น 1 ใน 12 ขุนพลที่ขึ้นตรงต่อผู้นำตระกูลเชียวนะ” เสียงขี้เล่นเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเขา เมื่อราฟหันไปก็พบกับชายหนุ่มร่างผอมไว้ผมหางม้าสีน้ำตาล ดวงตาสีเขียวฉายแววขี้เล่นกำลังมองเขาอยู่
“อ้อ ลืมแนะนำตัวไป ฉันชื่อวาตะ นายล่ะเด็กใหม่?” วาตะแนะนำตัวเองพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“ราฟ” ราฟแนะนำตัวสั้นๆ
“ฉันเห็นว่าหัวหน้าเจโรมเป็นคนพานายมา นายน่าจะมีดีพอตัวเลยนะ”
“ไม่หรอก ฉันแค่คนธรรมดา” ราฟยักไหล่ตอบ
“เห คนธรรมดาไม่บอกว่าตัวเองธรรมดาหรอกนะ ดวงตาของฉันน่ะเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นนะ” วาตะชี้มาที่ดวงตาของเขาที่เรืองแสงสีเขียววูบหนึ่ง
“เอาที่สบายใจเถอะ” ราฟยิ้มบางๆ จากนั้นก็เดินหาที่ว่างแล้วล้มตัวลงนอนทันที
วาตะที่เห็นอย่างนั้นก็ส่ายหัวยิ้มๆแล้วหันหลังเดินจากไป
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง
“เจ้าเด็กนั่นเป็นไงบ้าง” ชายในชุดสูทถามชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่
“หัวหน้าเจโรม ด้วยเนตรวิญญานของผม พบว่าพลังของเด็กใหม่เป็นพลังที่เกี่ยวข้องกับสายฟ้า แถมเป็นสายฟ้าที่มีพลังมหาศาลเสียด้วย แค่ออร่าสายฟ้าอย่างเดียวก็สมควรได้รับแรงค์ A แล้ว ไม่เหมือนข้อมูลที่หัวหน้าบอกผมมาเลยว่าเขาเป็นแค่แรงค์ C” วาตะตอบหัวหน้าของเขาด้วยความงุนงง
“เหอะ ดูท่าเจ้าเด็กนี่ก็มีดีอยู่สินะ ถึงทำให้คุณหนูซะยะโกรธได้ เอาล่ะ ถ้าในระหว่างนี้เขาไม่สร้างปัญหาอะไรก็ปล่อยไป พลังสายฟ้าของเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะไม่นานมานี้คุณหนูตระกูลหลินก็ติดต่อฉันมาให้ดูแลเจ้าเด็กนี่อย่าให้ไปก่อเรื่องอีก เห้อ ดูท่าฉันจะได้ตัวปัญหามาอยู่ในค่ายซะแล้วสิ” เมื่อพูดจบ เจโรมก็กุมขมับของเขาทันที
“เอาล่ะรองหัวหน้าวาตะ ฉันฝากนายจับตาดูเจ้าเด็กใหม่นี่ด้วยละกันนะ” จากนั้นเจโรมก็หันไปบอกลูกน้องของเขา
“ครับผม” วาตะรับคำ จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไป
.
.
.
“อู้ว อย่างนั้น ช่าย ซี้ดดด” เสียงครวญครางของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นกลางป่าที่ห่างจากฐานทัพของเจโรมไม่มากนัก
ราฟที่ในตอนนี้มีบรรดาสัตว์อสูรมีพิษที่ตอนแรกถูกเจโรมใช้ไอเทมทำให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้ กำลังถูกพวกมันรุมกัดไม่ก็โจมตีด้วยพิษร้ายแรงอยู่
“จะว่าไปตูจะกลายเป็นมาโซคิสมั้ยวะ มีอย่างที่ไหน ต้องพัฒนาร่างกายด้วยการถูกทำร้ายเนี่ย” ราฟบ่นอุบอิบออกมา
ในตอนแรก ราฟได้มองนักรบอสูรในค่ายฝึกซ้อมกันเพลินๆ แต่จู่ๆเขาก็นึกอยากฝึกร่างกายขึ้นมาบ้าง แล้วดันนึกขึ้นได้ว่าที่นี่มีสัตว์มีพิษอยู่ เลยอาศัยช่วงที่ไม่มีใครเห็นแอบหลบออกมาแล้วเดินกลับไปทางเดิมที่เขาเคยเดินผ่านมา
ในตอนแรกที่โดนพวกมันกัด เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อนทั่วร่าง แต่มันก็ไม่เท่ากับตอนโดนทัณฑ์สายฟ้าของตระกูลหลิน ต่อมาเขาก็รู้สึกถึงกระแสพลังสายหนึ่ง นั่นคือกระแสพิษที่กำลังรวมเขากับกระแสพลังสายฟ้าที่ไหลทั่วร่างของเขา จากนั้นเมื่อเขาโดนพิษอีกครั้ง เขาก็รู้สึกว่ามันสบายมากเหมือนเขาได้ทำสปาเลยทีเดียว
“โว้ว อ้า ว่ะฮ่า รู้สึกดีจริงโว้ย”
“ชะ ช่างเป็นภาพที่ชวนประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก” วาตะที่แอบตามราฟมาตามคำสั่งของเจโรมอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า ขนของเขาลุกชั้นไปหมด เพราะภาพชวนสยองที่เขากำลังเห็นคือชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังทำสีหน้าระรื่นขณะที่กำลังถูกงูรัด ตะขาบไต่ และบรรดาสัตว์มีพิษที่พร้อมใจกันระดมพลังในการกัดเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่อนิจจา ในตอนแรกพวกมันยังกัดเนื้อของเขาเข้าเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถทำอะไรชายหนุ่มตรงหน้าได้เลย
“มีสัตว์ประหลาดแบบเจ้าหมอนี่อยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย! หือ? เชี่ย!” วาตะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพุ่มไม้ข้างหลังราฟ เมื่อเขาใช้เนตรวิญญานที่มีความสามารถในการสัมผัสกระแสพลังของเขา เขาก็พบว่ามีสัตว์อสูรตัวหนึ่งกำลังมองราฟอย่างหิวกระหาย
“เห้ย เด็กใหม่ รีบหนีจากตรงนั้นเร็วเข้า!” วาตะที่ไม่สนใจที่จะซ่อนตัวอีกรีบตะโกนบอกชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับการถูกรัก(?)ทันที
“อื๋อ อ้าว วาตี้นี่นา โห้ย ทำไมไปอยู่ตรงนั้นล่ะนั่น มานี่สิ ฉันเล่นกับเจ้าพวกนี้เสร็จก็ว่าจะจับพวกมันกินแล้วล่ะ เห็นแก่ที่นายเข้ามาทักทายฉันเป็นคนแรกในค่าย ฉันให้นายเลือกเลยว่าจะกินตัวไหน เดี๋ยวฉันทำให้กิน เห็นอย่างนี้แต่ฉันน่ะเป็นพ่อครัวหัวป่าฝีมือพระกาฬเลยนะ ฮี่ๆ” ชายหนุ่มผมเทาพูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วยกมือหยิบบรรดาสัตว์มีพิษทั้งหลายควงไปมาอย่างสนุกสนาน
“มันใช่เรื่องที่จะมาโม้ตอนนี้ที่ไหนล่ะโว้ย รีบหนีจากตรงนั้นเร็วเข้า สัตว์อสูรระดับ A ที่เทียบเท่าระดับ S ในเรื่องของความอันตราย อสูรหมื่นพิษที่เป็นต้นตอปัญหาของประตูมิตินี้กำลังอยู่ข้างหลังแกแล้วโว้ย” วาตะแหกปากเสียงดังลั่น
“หือ อะไรกัน จะล้อกันเล่นรึไง ไหนว่าประตูมิติยังไม่เปิด แล้วจะมีอสูรระดับหัวหน้าออกมาได้ยังไ...” ราฟยังพูดไม่ทันจบ เสียงของราฟก็หายไปเสียก่อน
หงับ
ในสายตาของวาตะ เขาเห็นชายหนุ่มถูกสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับสุนัขปอมเมอเรเนียนสีดำน้ำตาลสูงสองเมตรกำลังออกแรงกัดกระชากหัวชายหนุ่มผมเทาด้วยใบหน้าดุร้าย แต่อนิจจาเรี่ยวแรงทั้งหมดของมันกลับทำอะไรขายหนุ่มตรงหนเาไม่ได้เลย
“ใครปิดไฟวะ?! เห้ย วาตะ ไปหาไฟฉายมาหน่อยดิ๊ ว่าแต่ทำไมเหม็นจังวะ...ชิบหาย ตูโดนตัวไรงับเนี่ย หรือจะเป็นตัวที่เจ้าวาตะมันพูด เดี๋ยวนะ ปริมาณพิษนี่มัน...หุๆ สมกับชื่ออสูรหมื่นพิษจริงๆ เอาล่ะนะ...ดูดกลืน”