ตอนที่ 73 ออสตินผู้โอ้อวด
ตอนที่ 73 ออสตินผู้โอ้อวด
กายลืมตาขึ้นมองดูเจ้ซาเรียที่นั่งอยู่หน้าจอคอมข้าง ๆ ทั้งสองมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งซาเรียเปิดปากถามก่อน
“นายจะเริ่มเล่นต่อไหม”
“วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน ผมรู้สึกเหนื่อยมาก”
กายบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยล้าพลางใช้มือนวดขมับไปมาสองสามครั้ง วันนี้กายสู้กับพวกนักเลงมาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเข้าไปเล่นในแดนสงครามและเจอกับสงครามที่เรียกว่าโหดที่สุดเท่าที่กายเคยสู้มาในแดนสงครามเลยก็ว่าได้
นั้นทำให้กายใช้ทั้งพลังกายและความคิดไปมาก กายรู้สึกว่าบางครั้งเครื่องแคปซูลรุ่นเก่านี้ไม่อาจจะตอบสนองในการเล่นเกมให้กับกายได้มากเพียงพอ
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช้กาย แต่ซาเรียก็รับรู้ถึงปัญหาเช่นกัน แต่การจะซื้อเครื่องแคปซูลใหม่นั้น เพียงรุ่นที่ดีกว่านี้เล็กน้อยคงไม่สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก และถ้าจะซื้อรุ่นที่ดีขึ้นไปอีก กายรู้ว่าบิทที่ตัวเองมีในตอนนี้ยังคงไม่เพียงพอ
ส่วนเงินที่ได้มาจากในแดนสงคราม กายรักษาคำพูดเสมอนั้นคือแบ่งครึ่ง ๆ กับซาเรีย ถ้าคนอื่นรู้อาจจะมองว่าซาเรียเอาเปรียบตน แต่กายรู้ดีว่าไม่ใช่อย่างนั้น เพราะซาเรียเป็นผู้ที่ให้โอกาสและทุกอย่างกับกายในการเข้าเล่นเกมราชันสงครามออนไลน์
และนั้นคือส่วนที่ซาเรียควรจะได้รับ จากการลงทุนลงแรงกับกาย
“นายควรพักผ่อนก่อน หลังจากเที่ยงคืนค่อยเข้าโลกราชัน” พูดจบซาเรียก็เดินออกไป ส่วนกายจัดการโอนเงินออกจากลิ้งเกมและโอนส่วนแบ่งของวันนี้ให้กับเจ้ซาเรีย
“1,605,000 บิท เงินนี้เพียงพอจะซื้อตัวและหาห้องถูก ๆ ในโอเอซิสได้แล้ว ถ้าคำนวณจากเงินที่ชนชั้นแรงงานสามารถอาศัยอยู่ในโอเอซิส” กายมองดูตัวเลขอย่างพอใจ แต่ด้วยเงินที่มีกายรู้ว่ามันยังไม่มากพอ อีกอย่างเขาต้องสำรองเงินบางส่วนไว้ด้วย
แต่คงอีกไม่นาน...กายยิ้มอย่างพอใจ หลับตานอนไปบนแคปซูลเกมทั้งอย่างนั้นราวกับมันเป็นที่นอน
...
ตกเย็นกายตื่นขึ้นมาด้วยความหิว พอเดินออกมาข้างนอกวันนี้ลูกค้าในร้านกลับมากกว่าปกติพอสมควร ซึ่งเป็นผลมาจากมีคนเอาลิ้งเกมที่พึ่งซื้อมาใหม่มาขอเล่นกับแคปซูลเกมของซาเรียอีกเครื่อง
แคปซูลที่ร้านของเจ้ซาเรียมีสองเครื่องอีกเครื่องเล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ไม่ได้ไม่ใช่หรือ...?
กายเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ ชายหนุ่มเห็นเจ้ซาเรียกำลังตั่งค่าเครื่องพร้อมกับเปลี่ยนอุปกรณ์และอัพเดตซอฟต์แวร์ของเครื่องอยู่ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณครับเจ้ซาเรีย...พอดีพ่อผมซื้อลิงก์เกมมาให้แต่ยังต้องรอเครื่องแคปซูลอีกสองสัปดาห์ดังนั้นผมจึงต้องมาใช้เครื่องที่ร้านของเจ้ซาเรียเล่นไปก่อน”
กายมองดูชายหนุ่มอายุรุ่น ๆ เดียวกับเขา แต่งตัวด้วยชุดราคาแพงพอสมควรเมื่อเทียบกับคนรอบข้างที่มาจากครอบครัวระดับกลางถึงต่ำ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางบ้านคงไม่ธรรมดา ชายหนุ่มคนนั้นกำลังพูดตีสนิทกับเจ้ซาเรีย
ขณะเดียวกันก็เหมือนจะโอ้อวดความรวยของตัวเองที่ได้ครอบครองลิงก์เกมให้กับเหล่าเด็กหนุ่มสาวในร้านที่มีกันอยู่ครึ่งร้อย หลายคนมองด้วยความอิดฉา แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องนั้นพวกมันเพียงสนใจลิงก์เกมของชายคนนั้นมากกว่า
“มาวันนี้ข้าจะเข้าเล่นแดนสงครามและติดหนึ่งในร้อยให้ได้” ชายหนุ่มผู้ชอบโอ้อวดพูดจบก็ขึ้นไปนอนในเครื่องแคปซูล แน่นอนว่าได้บอกให้เจ้ซาเรียช่วยถ่ายทอดภาพสัญญาณให้ทุกคนได้ดูอยู่แล้ว
ซาเรียเดินกลับไปแกะอมยิ้มและไม่สนใจท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นมาก
กายเองก็ส่ายหัวเช่นกัน เพราะจากที่บอกชายหนุ่มคนนี้พึ่งได้ลิงก์เกมมา แต่กลับไม่รอเข้าไปเล่นในโลกราชันก่อน เลือกจะตรงไปที่แดนสงครามเลย ซึ่งถ้าเข้าไปเล่นในดินแดนใดดินแดนหนึ่ง กายเดาไม่ยากเลยว่าชายคนนี้คงรอดไม่กี่นาที
“เจ้ซื้อของมาปรับแต่งแคปซูลเหรอครับ”
“อืม...ไว้เป็นเครื่องสำรองให้กับนายอีกเครื่องก็ยังดี แต่เด็กคนนั้นมาเหมาเล่นในช่วงสองสัปดาห์หลังจากนี้ รวมทั้งในเวลาที่โลกราชันเปิดด้วย”
“หมายถึงในช่วงเที่ยงคืนถึงตีสามในร้านจะชายคนนั้นเพิ่มขึ้นมาด้วย ผมถามหน่อยได้ไหมเขาชื่ออะไรเป็นใคร เพราะดูท่าจะมีฐานะทางบ้านที่สูงพอสมควร”
“เด็กนั้นชื่อ...น่าจะออสติน ลูกของรองผู้จัดการ ห้าง C-OPY ของเขต 7” เจ้ซาเรียพูดอย่างไม่สนใจมากนัก ส่วนกายพยักหน้าเข้าใจว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงโอ้อวด แน่นอนว่ากายไม่ได้ไปอิจฉาหรืออะไร เพราะออสตินมีสิทธิ์ที่จะโอ้อวดในเมื่อเขามีความสามารถที่จะทำได้
กายเลิกสนใจแล้วหันไปสนใจข่าวเรื่องของการต่อสู้ที่ดินแดนสายฝน หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงตั้งแต่จบสงครามที่ดินแดนสายฝนก็มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่เกิดเรื่องสงครามของสองฝั่งกิลด์กะโหลกแดงและผู้เก็บกวาดกะโหลก
จนกระทั่ง [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ปะทะกับ [โคเวิร์ตกะโหลกคลั่ง] กับ [กุหลาบสีดำ] และสุดท้ายเรื่องที่ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ได้ที่หนึ่ง หลังจาก [โคเวิร์ตกะโหลกคลั่ง] โดนเงาฆ่าตายอย่างน่าตกใจ
ซึ่งนั้นจะทำให้โคเวิร์ตโดนพูดถึงไปอีกนาน
กายอ่านมาถึงตรงนี้ก็พอจะเดาหน้าของโคเวิร์ตที่โกรธจนควันออกหูได้เลยว่าจะเป็นยังไง
มีหลายคนให้ความสนใจที่ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] เข้าสู้กับ [โคเวิร์ตกะโหลกคลั่ง] หมายความว่า [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ได้ประกาศสงครามกับกิลด์กะโลกแดงแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ต่างพูดกันไปว่า
[ลอร์ดเจ็ดโลหะ] อาจจะไม่ชอบกิลด์กะโหลกแดงที่ทำการฆ่า NPC จำนวนมากทำให้ผู้เล่นเกิดความลำบากในนครดาราฟ้า และหลายคนก็เดาว่า [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] นั้นอยู่ในนครดาราฟ้าเช่นกันจึงลงมือ แก้แค้นในครั้งนี้
แต่กายไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะยังไงเขาก็กำลังไปไล่ล่าพวกกะโหลกแดง
“บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้ในตอนล่าพวกกิลด์กะโหลกแดง...”
...
“ล๊อกอิน”
ภายในโลกราชันตอนนี้ยังเป็นเวลาเที่ยงคืนกายลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่โรงตีเหล็กของตนเอง หลังจากนั้นสักพักมันก็เลือกจะนอนหลับลงไปต่ออีกสักหน่อย ก่อนที่จะลุกขึ้นมาตอนตีสามกว่า ๆ ในโลกราชันเพื่อมาเริ่มลงมือสร้างอาวุธเพิ่ม
น้ำเย็น ๆ ในยามย่ำรุ่งกระทบกับใบหน้ากาย มันใช้มือกวักล้างหน้าอีกสองสามครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปที่โรงตีเหล็กจุดไฟขึ้นและลงมือหลอมเหล็ก
หลังจากผ่านมาสามถึงสี่ชั่วโมงในโลกราชันกายก็ต้องเดินไปเปิดประตูหลังจากได้ยินเสียงเรียกที่ประตูหน้าร้าน ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นช่างไม้กิลที่ตอนนี้ในอ้อมแขนมีกล่องไม้ใส่ด้วยด้ามจับมีดจำนวนมากและด้านหลังยังมีเด็กสาวลูกของช่างไม้กิลอยู่ด้วย เธอลากรถเข็นที่ทำจากไม้สวยงามน่าแปลกใจ มันมีกลไกง่าย ๆ ที่คล้ายเกวียนและรถผสมกัน
นอกจากนั้นในรถเข็นไม้ของเด็กสาวยังมีดาบหนึ่งเล่ม มีดอีกสองที่ใส่ด้ามจับมาแล้ว แน่นอนว่าดาบนั้นพิเศษหน่อย เพราะมันมีปลอกมีดที่ทำจากไม้อยู่ด้วย
ส่วนพวกมีดกายไม่ได้ทำปลอก เพราะยังไม่สามารถหาช่างหนังได้ในเวลากระชั้นชิด อันที่จริงเขาอาจจะลอกศึกษาการวิธีการสร้างของพวกนี้ในอนาคต แน่นอนว่ากายเพียงแค่คิดจะทำ เพราะเขาสนใจเอาเวลาไปพัฒนาทักษะการต่อสู้และสร้างอาวุธมาก
ถ้าสิ่งไหนสามารถกระจายงานออกไปได้กายก็จะทำมันโดยไม่ลังเล
เป็น NPC ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเหมือนกับฮาเกนสินะ กายรู้สึกสนใจความสามารถของลูกสาวช่างไม้กิล แต่กลับมามองดูสิ่งที่อยู่ในกล่องไม้บนมือของช่างไม้กิล
“ด้ามจับนั้นธรรมดาตามจำนวนที่สั่ง แล้วก็ด้านหลังยังมีป้ายร้านและมีดกับดาบตัวอย่างที่ใส่ด้ามจับเรียบร้อยแล้ว”
“เจ้าจะให้ข้าช่วยใส่ด้ามจับด้วยไหม อย่างไรก็ถือว่ารวมอยู่ในงานของข้าอยู่แล้ว”
“ด้วยความยินดี”
กายพาช่างไม้กิลและลูกสาวเดินเข้าไป ซึ่งหลังจากนั้นก็ลงมือประกอบด้ามจับเข้ากับตัวใบมีดและดาบ แม้ช่างไม้กิลจะรู้จำนวนคร่าว ๆ ของมีดและดาบที่กายตีขึ้นมาได้จากจำนวนด้ามจับ แต่พอเห็นของจริงเขาก็ยังทึ่งอยู่ดีที่ในเวลาไม่นานเด็กหนุ่มช่างโลหะทั่วไปจะสามารถสร้างออกมาได้มากขนาดนี้
“เจ้าสุดยอดมาก” ช่างไม้กิลอดชมเชยกายไม่ไม่ได้
“ขอบคุณ”
กายขอบคุณตามมารยาท แต่ในใจของเขาคิดว่ายังไม่ควรยกของที่สร้างเมื่อเช้าออกมา เพราะอาจจะทำให้ช่างไม้กิลตกใจจนกลัวได้
“ข้าต้องการด้ามจับแบบนี้อีกอย่างน้อยก็ 30 ด้ามต่อวัน ช่างไม้กิลพอจะทำได้ไหม”
“แน่นอน..แต่เดวิน เจ้าไม่ควรจะสร้างแต่ของแบบนี้ เพราะจากที่ข้ารู้มาช่างโลหะส่วนใหญ่จะสร้างของที่เป็นเอกลักษณ์และคุณภาพสูง เพื่อจะได้มีชื่อเสียงในฐานะช่างโลหะที่แท้จริง”
“แน่นอน ไว้ข้าสร้างดาบที่เป็นเอกลักษณ์แล้วจะไปให้ช่างไม้กิลช่วยเหลืออีกครั้ง ว่าแต่ช่างไม้กิลพอจะรู้จักร้านทำพวกเครื่องหนังหรือร้านตัดเย็บหรือไม่ ข้าอยากจะได้พวกปลอกมีดหรือสายลัดที่ทำจากหนัง เพราะถ้าให้ลูกค้ามาที่ร้านแล้วได้ของที่เกี่ยวข้องไปครบทีเดียวน่าจะดีไม่น้อย”
“ความคิดของเจ้าดีและแปลกใหม่มาก ข้ารู้จักร้านช่างหนังอยู่คนหนึ่ง ถ้าได้ตัวอย่างมีดและของเขาน่าจะออกแบบในรูปแบบมาตรฐานได้ แต่ราคาก็อาจจะไม่ถูกมากนัก...” ช่างไม้กิลดูจะลำบากใจเล็กน้อยเมื่อพูดถึงราคา
“อย่างไรซะงานพวกนี้ก็เป็นงานฝีมือ ดังนั้นเรื่องราคาข้าไม่มีปัญหาขอแค่ทำตามที่ข้าต้องการได้ก็พอ เช่นวัสดุธรรมดาก็ให้เน้นแบบผลิตจำนวนมาก ส่วนวัสดุที่ดีก็ให้สร้างแบบที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ต่อให้มีราคาแพงก็สามารถขายได้ แต่แน่นอนว่าในช่วงแรกข้าแค่ต้องการของที่ใช้เพียงวัสดุธรรมดาไปก่อน ราคาไม่ควรเกิน 5 เหรียญทองต่อหนึ่งชุด” กายบอกความต้องการของเขาไปตรง ๆ แน่นอนว่ากายใช้วิธีเดียวกับการสร้างมีดและดาบของเขา
เน้นขายให้กับผู้เล่นที่ต้องการอาวุธแต่มีเงินไม่มาก แน่นอนว่าหัวใจสำคัญคือยังเป็นอาวุธของเขาที่เมื่อเทียบกับในระดับเดียวกันนั้นมันมีคุณสูงคุ้มเกินราคาอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะรีบไปติดต่อและบอกข้อเสนอของเจ้าให้กับทางนั้นก่อน”