ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 หน้าที่

ตอนที่ 1 ผู้บุกรุก


ตอนที่ 1

ผู้บุกรุก

ในเช้าของวันหนึ่งภายในสวนอันแสนงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ร่างของหญิงสาวนางหนึ่งภายในชุดเสื้อผ้าสีขาวบางเบากำลังเดินผ่านหมอกจางๆท่ามกลางสวนที่มีน้ำค้างกำลังเกาะกุมอยู่บนมวลบุปผานานาพันธุ์ที่ประดับอยู่ภายในสวน แต่ถึงเหล่าพฤกษชาติจะงดงามเพียงไร ยามอยู่ต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้คงจะไม่อาจเอื้อมนำตนไปเทียบความงามของนาง ใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านทางเดินที่ปูด้วยหินสีขาวนางนี้คงสามารถกุมหัวใจชายหนุ่มทั่วล่าได้ไม่ยากเย็นนัก หากบอกว่ายามนางเดินผ่านทุกสิ่งรอบกายก็ราวกับจะเคลื่อนไหวช้าลงราวกับเวลาถูกหยุดก็คงไม่เกินจริงไปนัก

แกร๊ก...!!

ระหว่างที่หญิงสาวกำลังเดินผ่านเส้นทางกลางสวนอยู่นั้น อยู่ๆท้องฟ้าเบื้องบนก็เกิดรอยแตกร้าวราวกับรอยแตกของแก้วไม่มีผิด รอยแตกนั้นค่อยๆร้าวมากขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ตรงกลางของรอยแตกจะถูกแยกออกจนท้องฟ้าสีครามของยามเช้ากลับกลายเป็นช่องมิติสีดำที่มีขนาดพอจะให้คนลอดออกมาได้

“.........”เกิดเรื่องราวปั่นป่วนและแปลกผิดปกติขนาดนี้หญิงสาวผู้กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนกลับไม่มีท่าทีตกใจแต่อย่างไร นางเพียงมองไปยังรอยแตกนั้นด้วยท่าทีสงสัยเพราะในโลกแห่งนี้ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย

กึก.....

ท่ามกลางความประหลาดใจของหญิงสาว ร่างของทหารสวมเกราะบนหลังม้าศึกก็โผล่ออกมาจากรอยแตกของท้องฟ้า ร่างของทหารผู้นั้นปกคลุมไปด้วยชุดเกราะสีดำสนิทที่แผ่แสงสีแดงเลือดออกมารอบกาย ในมือถือทวนสีแดงฉานราวกับเพิ่งออกมาจากเตาหลอมส่วนม้าที่ควบขี่มาก็ก้าวเดินบนฟ้าได้ราวกับกำลังเหยียบย่ำอยู่บนผืนหญ้า

“มนุษย์.....”หญิงสาวที่ยืนอยู่บนสวนมองร่างของชายในชุดเกราะด้วยสีหน้างุนงง เหตุการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่สุดในช่วงชีวิตของนาง แต่เหตุใดผู้ที่บุกเข้ามาในมิตินี้ถึงได้เป็นมนุษย์เล่า มนุษย์เป็นตัวตนที่เล็กมากๆในมิติที่พวกนางสร้างขึ้น ปกติไม่น่าจะรู้ถึงการมีอยู่ของมิตินี้เสียด้วยซ้ำ แต่มนุษย์ผู้นี้กลับบุกขึ้นมาถึงวิหารก่อกำเนิดอันเป็นวิหารของเหล่าเทพต้นกำเนิดได้ ช่างเป็นเรื่องน่าตกใจจริงๆ

วูบ...

ร่างของม้าศึกทะยานออกมาจากปากทางเข้าพุ่งตรงลงมาหาหญิงสาวด้วยความเร็วราวกับภูติพราย เพียงพริบตาเดียวร่างของมันก็วิ่งมาถึงเบื้องหน้าของหญิงสาวในตำแหน่งที่พร้อมจะให้เจ้านายของมันโจมตีได้อย่างพอดิบพอดี พริบตานั้นทวนสีแดงเพลิงก็แทงเข้าใส่ร่างของหญิงสาวเข้าในจังหวะที่งดงามและแม่นยำเป็นอย่างมาก ทว่า.....

กึก!!!

เบื้องหน้าของหญิงสาวปรากฏอักขระสีทองขึ้นมาป้องกันร่างของนางเอาไว้ราวกับมีกำแพงล่องหนคอยคุ้มครองร่างของหญิงสาวเอาไว้ก่อนแล้ว แม้นักรบผู้นั้นจะใช้สุดกำลังแทงลงไปยังร่างของนางก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงป้องกันของนางไปได้ ช่างโง่เขลาจริงๆ ถึงจะบุกเข้ามาในมิตินี้ได้แต่มนุษย์จะไปโจมตีเทพต้นกำเนิดอย่างนางได้อย่างไร

แกร๊ก..!!

ระหว่างหญิงสาวกำลังจะเริ่มเอ่ยปากถามสาเหตุที่ชายหนุ่มทำเช่นนี้ อยู่ๆกำแพงโปร่งใสเบื้องหน้านางก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาเสียก่อน ปลายทวนสีแดงเพลิงพยายามเจาะทะลุเข้าไปในเกราะป้องกันของหญิงสาวจนมันต้านรับเอาไว้ไม่ไหว กำแพงป้องกันเหล่านี้ต่อให้เป็นเทพชั้นสูงก็ไม่สามารถทำลายได้ ไม่มีทางหรอกที่มนุษย์จะ.....

เคร๊ง!!!

ปลายทวนแทงทะลุเกราะป้องกันของหญิงสาวเข้ามาที่ส่วนอกของนางเข้าอย่างจัง ทว่าทันทีที่ปลายทวนกระทบถูกร่างของหญิงสาว ฝ่ายที่แตกสลายไม่มีชิ้นดีกลับเป็นทวนของนักรบในชุดเกราะเสียอย่างนั้น

“เจ้า....”แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เพราะเพิ่งจะเคยโดนโจมตีถึงตัวเป็นครั้งแรกใบหน้าของหญิงสาวก็แสดงถึงความโกรธและโมโหออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาก็ไม่เคยถูกทำเช่นนี้มาก่อน แถมคนที่โจมตีจนถึงตัวเธอยังเป็นเพียงมนุษย์ตัวจ้อยอีกต่างหาก แบบนี้จะให้ทนเก็บอารมณ์ได้อย่างไร

ฟุบ!!

พริบตาที่ความโกรธของหญิงสาวแผ่พุ่งออกมา ร่างของทหารในชุดเกราะและม้าศึกก็สลายหายไปในพริบตาราวกับควันไฟที่โดนสายลมแรงพัดกระจายหายไปต่อหน้าต่อตาเลย แต่ถึงอย่างนั้นความโกรธของหญิงสาวก็ไม่ได้จางหายไป แค่ฆ่าทิ้งมันง่ายเกินไป เจ้ามนุษย์ผู้เหิมเกริมคนนี้หากไม่ลงโทษอะไรเสียหน่อยคงทำให้นางหายโกรธไม่ได้

“อย่าคิดว่าแค่ตายก็จบนะ”หญิงสาวพูดจบก็ยื่นมือไปข้างหน้า พริบตานั้นเบื้องหน้าของเธอก็ปรากฏกลุ่มก้อนแสงสีขาวค่อยๆเข้ามารวมตัวกันเป็นร่างกายของชายหนุ่มที่เคยอยู่ในเกราะก่อนหน้านี้ แม้จะตายไปแล้วแต่หญิงสาวเบื้องหน้าก็ดึงวิญญาณของเขากลับมาก่อตัวเป็นรูปร่างอีกครั้งอย่างหน้าตาเฉย

“วิญญาณของเจ้าจะต้องทนทุกทรมาน แต่จะไม่มีวันดับสูญ เจ้าจะต้องรับทัณฑ์ทรมานต่อไปไม่มีวันจบสิ้น”พูดจบ รอบๆกายของหญิงสาวก็มีโซ่สีดำสนิทโผล่ขึ้นมาจากผืนดินก่อนตรงเข้ามามัดวิญญาณของชายหนุ่มเอาไว้แล้วดึงลงไปในผืนดินราวกับโดนธรณีสูบลงไปไม่มีผิด แต่น่าแปลกชายหนุ่มที่บ้าพอจะฝ่าเข้ามาในมิติของวิหารต้นกำเนิดกลับไม่มีท่าทีต่อต้านการลงโทษเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่หญิงสาวต้องสนใจ เพราะชายหนุ่มผู้นี้จะไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีกแล้ว หลังจากนี้ก็จะโดนลงโทษต่อไปเรื่อยๆให้สาสมกับสิ่งที่ทำลงไป

.

.

.

“น้องรอง นี่เจ้าทำอะไรลงไป”ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เรื่องของมนุษย์ที่บุกขึ้นมาบนวิหารต้นกำเนิดก็รู้ถึงหูของผู้อาศัยในวิหารต้นกำเนิดแห่งนี้กันครบทุกท่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเพราะวิหารแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยเพียง 7 องค์เท่านั้นหรือเพราะแต่ละองค์ต่างก็เป็นเทพต้นกำเนิดกันทั้งหมดก็ตาม แต่พี่ใหญ่แห่งเหล่าเทพแห่งต้นกำเนิดทั้ง 7 ก็ได้ทราบเรื่องนี้แล้ว แถมนางยังมีท่าทีไม่พอใจอีกด้วย

“ข้าก็แค่ลงโทษผู้บุกรุกเท่านั้นเอง”หญิงสาวที่เป็นผู้ขังมนุษย์ผู้นั้นเอาไว้ในคุกอีกมิติหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีรู้สึกผิด เพราะตอนนั้นนางโกรธเกินไปก็เลยลงมือหนักไปบ้าง แต่อีกฝ่ายก็ผิดจริงๆนี่นา

“พี่ใหญ่ มนุษย์คนนั้นทำร้ายพี่รองนะเจ้าคะ ข้าเห็นว่าพี่รองทำถูกแล้วที่ลงโทษมนุษย์ผู้นั้น”หญิงงามอีกผู้หนึ่งผู้ได้ชื่อว่าเป็นเทพต้นกำเนิดลำดับที่ 3 เอ่ยปากแก้ตัวแทนพี่รองของนางอย่างเห็นอกเห็นใจ แค่รู้ว่ามีผู้บุกรุกบุกเข้ามาในวิหารแห่งนี้ก็ทำเอานางรู้สึกกลัวแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากมันทำสำเร็จแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

“ข้าเห็นด้วยเจ้าค่ะ ถ้าพี่ใหญ่ตายขึ้นมามิติที่พี่ใหญ่ปกครองอยู่ก็จะหายไปหมดด้วย เช่นนั้นก็เท่ากับการเสียชีวิตนับไม่ถ้วนเลยนะเจ้าคะ”เทพแห่งวิหารต้นกำเนิดลำดับที่ 4 พูดอย่างเห็นด้วย แม้นางจะไม่ได้พูดอย่า.ฉะฉานเหมือนเทพลำดับที่ 3 ก็ตาม แต่สิ่งที่นางพูดออกมานั้นก็เป็นสิ่งที่เหล่าพี่น้ององค์อื่นๆต่างก็เห็นด้วยทั้งสิ้น

พวกนางคือเทพต้นกำเนิดทั้ง 7 ผู้ก่อกำเนิดขึ้นมาจากมิติว่างเปล่า เมื่อพวกนางกำเนิดขึ้นมา เหล่ามิติและจักรวาลทั้งหลายก็เริ่มก่อกำเนิดขึ้นมาจากพลังของพวกนางไปด้วย กล่าวคือนางพวกนางเป็นเทพที่ให้กำเนิดทุกสิ่ง และมีหน้าที่เพื่อรักษาความคงอยู่ของมิติและจักรวาลที่พวกนางทำให้เกิดขึ้นด้วย

หากเทียบมิติแต่ละมิติเป็นใบไม้ พวกนางก็คือกิ่งก้านสาขาหลักที่งอกออกมาจากต้นไม้นั่นเอง การที่นักรบผู้นั้นลอบเข้ามาในมิติของวิหารต้นกำเนิดและโจมตีพี่รองแห่ง 7 เทพต้นกำเนิดก็เหมือนการตัดกิ่งหลักของต้นไม้ต้นหนึ่งทิ้งไป ทั้งกิ่งก้านย่อยและใบไม้ ดอก หรือผลที่ขึ้นอยู่บนกิ่งก้านนั้นก็จะร่วงหล่นลงไปจากลำต้นไปด้วย หรือก็คือการสังหารพวกนางจะทำให้มิติที่ใช้พลังของพวกนางสร้างขึ้นมาก็จะดับสลายไปด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการโจมตีพวกนางก็ไม่ต่างอะไรกับการคิดสังหารหมู่สิ่งมีชีวิตในมิติต่างๆที่มีจำนวนนับไม่ถ้วนไปนั่นเอง ด้วยผลลัพธ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้ทำให้เหล่าพี่น้องเทพต้นกำเนิดทุกองค์ต่างก็เห็นชอบกับการลงโทษชายผู้นั้นแล้ว ทว่า...อยู่ดีๆพี่ใหญ่ของพวกนางก็เรียกพี่น้องทั้ง 7 เข้ามาพูดคุยเรื่องชายผู้บุกรุกเสียอย่างนั้น แถมกำลังต่อว่าน้องรองที่ลงมือลงโทษชายผู้นั้นอีกต่างหาก

“ข้าไม่ได้ต่อว่าที่เจ้าลงโทษ แต่เพราะวิธีการลงโทษของเจ้าต่างหาก”พี่ใหญ่ของเทพต้นกำเนิดถอนหายใจออกมาก่อนจะวาดมือไปข้างหน้าช้าๆ พริบตาที่มือของนางวาดออกไปภาพภายในห้องขังของชายหนุ่มผู้บุกรุกก็ถูกฉายขึ้นมาเบื้องหน้าเหล่าเทพต้นกำเนิดทุกองค์ ยามนี้ทั่วร่างของชายหนุ่มโดนสายฟ้าฟาดใส่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังโดนไฟนรกแผดเผาตลอดเวลา เพียงแต่นี่ไม่ใช่เพียงการลงโทษอย่างเดียวที่เขาต้องเจอ ในห้องนั้นจะมีทัณฑ์สวรรค์ลงมาทำร้ายเขาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนกว่าจะมีคนปล่อยเขาออกมา

“เจ้าทำให้วิญญาณของชายผู้นั้นไม่สามารถถูกทำลายได้ แม้แต่ทัณฑ์สวรรค์ก็ยังทำให้วิญญาณของเขาแตกสลายไม่ได้เลย”ผู้เป็นพี่ใหญ่พูดจบก็มองไปที่บาดแผลบนร่างของชายหนุ่ม เพื่อให้ถูกลงโทษอย่างต่อเนื่องน้องรองของเทพต้นกำเนิดได้ทำให้วิญญาณของชายหนุ่มไม่มีวันแตกสลาย แต่....

“แบบนั้นเป็นปัญหาอย่างไรหรือเจ้าคะ”เทพลำดับ 3 เห็นภาพเช่นนั้นก็แสดงท่าทีสงสัยออกมา การทรมานอย่างแสนสาหัสเพราะก่อความผิดระดับนั้นขึ้นก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว นางไม่เห็นว่าพี่รองจะลงโทษเกินกว่าเหตุไปตรงไหน

“ปัญหาก็คือ วิญญาณของชายผู้นี้จะไม่แตกสลายหรือเข้าสู่วัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดเช่นวิญญาณปกติ ท่ามกลางทัณฑ์ทรมานเหล่านั้น วิญญาณของเขาก็จะยิ่งสะสมความขุ่นแค้นต่อไปเรื่อยๆ หากวันใดวันหนึ่งเขาถูกปล่อยออกมา วันนั้นเขาอาจจะเป็นอสูรร้ายที่แม้แต่พวกเรายังจัดการไม่ได้ก็เป็นได้”พี่ใหญ่ของเหล่าเทพต้นกำเนิดบอกเหตุผลของตนออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง การทำให้วิญญาณของชายผู้นี้ไม้สูญสลายเพื่อรับการทรมานก็เหมือนการมอบโอกาสให้แก้แค้นให้กับชายผู้นี้ไปด้วย แม้จะต้องใช้เวลาชั่วกัปชั่วกัลป์กว่าชายผู้นี้จะออกมาได้ แต่เพื่อความปลอดภัยของมิติต่างๆนางเลยต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างตั้งแต่ยังไม่เกิดความเสี่ยงนั้น

“เช่นนั้นก็ให้พี่รองถอนคำสาปก็ได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ”น้องลำดับที่ 4 ถามพลางมองไปทางพี่รองที่กำลังนั่งเหงื่อตกอยู่ข้างๆพี่ใหญ่ พอพี่ใหญ่พูดจุดนี้ออกมานางก็เพิ่งจะสำนึกได้เหมือนกันว่าที่นางทำลงไปอาจจะเป็นเส้นทางสู่หายนะก็เป็นได้

“ข้าโมโหไปหน่อยก็เลยใช้พลังไปมากกว่าที่คิด บางทีคำสาปนั่นอาจจะคลายไม่ได้แล้วก็ได้”พี่รองผู้เป็นต้นเรื่องตอบคำถามออกมาด้วยท่าทีลำบากใจไม่น้อย ตอนนั้นนางโมโหไปจริงๆเลยใช้พลังทำให้วิญญาณของชายผู้นั้นไม่แตกสลายไปอย่างเต็มที่ ผลที่ได้ก็เลยทำให้วิญญาณของชายผู้นั้นแข็งแกร่งกว่าที่คิดไปเยอะเลย ตอนนี้ต่อให้นางถอนคำสาปด้วยตนเองก็คงทำไม่ได้ ตอนนี้หากจะถอนคำสาปก็มีเพียงการสังหารนางผู้เป็นเจ้าของคำสาปนั้นเสีย แต่จะสังหารนางได้อย่างไรในเมื่อมีชีวิตอีกมากมายอยู่ภายใต้ชีวิตของนางเอง

“เพราะแบบนั้นข้าเลยอยากจะเสนอหนทางหนึ่ง”พี่ใหญ่แห่งเหล่าเทพต้นกำเนิดเหมือนจะคิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นเช่นนี้ นางเลยคิดหาทางแก้ไขมาก่อนแล้ว

“โดยข้า....จะพาวิญญาณของชายผู้นั้นลงไปเกิดใหม่ ให้เขาได้ซึมซับความสุขแทนที่จะเป็นความแค้น ในเมื่อพวกเราทำลายวิญญาณของเขาไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนให้เขาเป็นวิญญาณที่จะไม่มีอันตรายแทน”พี่ใหญ่แห่งเหล่าทวยเทพต้นกำเนิดประกาศหนทางแก้ไขออกไปอย่างมั่นใจ ต่อให้เป็นปีศาจร้าย แต่หากได้รับโอกาสก็อาจจะกลับตัวเป็นคนดีได้ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเสี่ยงให้วิญญาณของเขาสะสมความแค้นไปเรื่อยๆจนกลายเป็นสิ่งอันตรายต่อมิติต่างๆแบบที่นางหวาดกลัวเป็นแน่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด