EP 615 แผนการแต่งงาน
EP 615 แผนการแต่งงาน
By loop
ช่วง 11.00 น. บริเวณชานเมืองทางทิศตะวันตก
บริเวณ วิลล่าการ์เด้นอาคารหลังที่ 6
ในห้องนั่งเล่นตอนนี้มีคุณนายหยาง หยาวจ้าวเฟิงนั้นกำลังตกใจกับประโยคที่ดงซูบินพูด "ตอนนี้เป็นบ้านหลังนี้เป็นของผมแล้ว" หยางจ้าวจวงถึงกับสำลักออกมา แน่นอนว่าไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
และในช่วงเวลาสั่นๆ นี้หยางจ้าวเต๋อก็ปรากฎตัวขึ้นมา ในตอนแรกครอบครัวหยางคิดพวกเขาถูกแม่ลูกคู่นี้หลอก และลวนเสี่ยวปิงเองคงเป็นคนจัดฉากนี้ขึ้นมาแน่ๆ และใช้บ้านหลังนี้หลอกพวกเขาไว้ แต่ใครจะขาดคิดว่าลูกชายของเธอจะจะกล้าเขียนเช็คราคาเกือบราคา 20 ล้านในไม่กี่ต่อมา อีกทั้งโยนเช็ดให้กับพนักงานขายอย่างไม่เสียดายด้วยซ้ำ ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาต้องการเอาชนะหยางจ้าวจวงเพียงเท่านั้น!
นั่นมันราคาเกือบ 20 ล้าน!
เงินจำนวนเท่านี้ต่อให้หยางจ้าวจวงเกิดสัก 10 ชาติก็ไม่มีวันหาเงินเท่านี้ได้!
ตอนนี้หยางจ้าวจวงไม่สามารถอธิบายความรู้สึกมาเป็นคำพูดได้ และดูเหมือนคนอื่นๆก็จะเป็นเหมือนเธอเช่นกัน มันเหลือคำถามที่ซ่อนอยู่ในใจของพวกเขาว่าจริงๆแล้วหยานจ้าวจวงมีเงินเท่าไหร่กันแน่? ?
ตอนนี้สถานการณ์รอบดูเงียบสงัดไปในทันที ซึ่งมันเงียบจนได้สามารถได้ยินถึงเสียงเข็มล้นลงพื้นได้เลยทีเดียว
หนึ่งวินาที...
สองวินาที...
สามวินาที...
จากนั้นพนักงานขายก็กลับมามีสติอีกครั้ง เธอมองลงมาที่เช็คด้วยสายตามึนงงดูเหมือนเช็คจะไม่มีปัญหาใดๆทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ รู้แต่ว่า ตอนนี้เธอเจอลูกค้าใจป้ำเข้าส่ะแล้ว เพราะเขาตัดสินใจซื้อโดยไม่ได้ดูบ้านเลย เลยด้วยซ้ำ และเธอไม่เคยเจอลูกค้าที่ใจถึงขนาดนี้มาก่อน!
จะรวยอะไรขนาดนั้น?
ชายคนนี้รวยจริงๆ!
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ดงซูบินมองพนักงานขาย “เช็คถูกต้องไหม”
“มันถูกต้องทั้งหมด” พนักงานขายพูดอย่างกระตือรือร้น “ถ้าอย่างนั้นทางเราจะรีบดำเนินการให้ท่านภายในทันที.”
“ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ฉันคิดว่าบ้านนี้ก็ตกแต่งได้ดีมากแล้ว อืม เฟอร์นิเจอร์ก็พร้อม ทั้งหมดนี้ขายรวมกันกับราคาบ้านนี้จะราคาทั้งหมดเท่าไร?” เมื่อเห็นหยางจ้าวจวงพยักหน้า ดงซูบินก็ยิ้มออกมาทันที: ถ้าอย่างงั้นคุณไปคิดมาให้ผมล่ะกัน และเขียนมา“ดงซูบินยื่นเช็ดให้กับพนักงานขาย”ขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้นในตอนบ่าย”
“แสดงว่าตอนนี้บ้านหลังนี้เป็นของฉันแล้วใช่ไหม” จวบจนบัดนี้หยางจ้าวจวงเองก็ยังตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นเช่นนี้นดงซูบินเองก็พยายามสบตาเธอเพื่อแสดงถึงชัยชนะในครั้งนี้
แม้ว่ากระบวนการจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่เขาได้จ่ายเงินไปแล้ว พนักงานขายเองก็ก็ยิ้มและพูดว่า "ใช่แล้ว ต่อไปบ้านพักตากอากาศสุดหรูหลังนี้จะกลายเป็นของท่านทันที เราจะให้กุญแจคุณหลังสัญญา"
"ขอบคุณ" ดงซูบิน มองไปที่ประตู
พนักงานขายเข้าใจในทันทีว่า "เอาเป็นว่าทางเราจะไม่รบกวนทุกท่านดีแล้วจะดีกว่า ถ้าเช่นนั้นทางเราขอตัวไปร่างสัญญาและเตรียมสัญญาซื้อขายให้ก่อน" หลังจากพูดจบ พนักงานขายก็ก้าวออกไปอย่างรวดเร็วและออกจากวิลล่า
เมื่อเขาหันกลับมาดงซูบินเห็นว่าหยางจ้าวจวงยังคงมึนงงเล็กน้อยและเขาก็ยิ้ม: "คุณป้า นั่งลงก่อน"
ใบหน้าของหยางจ้าวจวงเองก็เก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ และ คุณนายหยางเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
ลวนเสี่ยวปิงจ้องไปที่ลูกชายของเธออย่างโมโห “ลูกทำอะไรลงไปเนี่ย รู้ตัวบางไหม!” หลังจากพูดจบ เธอหันไปมองหยางจ่าวจวน “จ้าวจวน ซูบินนั้นเสียมารยาท อย่าได้ถือสาเขาเลย”
เมื่อหยางจ้าวจวงเองเธอตั้งสติได้เธอก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า "ไม่เป็นอะไรเลย ฉันเองไม่ถือสาหลานซูบินหรอก"
หยางจ้าวเฟินยังพูดเป็นประโยคกลมๆ ว่า "พี่ลวน บ้านหลังนี้ดีจริงๆ มีสวนพร้อมสระว่ายน้ำด้วย เราลองขึ้นไปดูกันเถอะ"
“ดูสิ”
บรรยากาศเริ่มกลับมาเป็นปกติ หยางจ้าวเฟิงเสนอทุกคนให้ขึ้นไปที่ชั้นสอง และชั้นสามของบ้านเพื่อขึ้นไปดูวิวของบ้านหลังนี้
เมื่อเขาไปถึงดาดฟ้าเล็กๆ บนชั้นสาม ดงซูบินเห็นช่องว่าเขาดึงแม่ของเขาไว้ข้างๆ และกระซิบว่า “แม่ แม่นำบัตรประชาชนและเอกสารอื่นๆ มาด้วยหรือเปล่า เอามาให้ผมเลยถ้าแม่ไม่ต้องการบ้านหลังนี้แล้วแม่ก็ค่อยขายบ้านหลังนี้ที่หลังก็ได้ ซึ่งผมจะมอบกรรมสิทธิ์เจ้าของให้กับแม่เ”
ลวนเสี่ยวปิงนั้นรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว" แม่ไม่ยอมหรอก " "
“แต่ผมตั้งใจซื้อบ้านหลังนี้ให้กับแม่จริงๆนะ” "
“ แม่รับมันไว้ไม่ได้จริงๆ” ลวนเสี่ยวปิงกล่าวอย่างทุกข์ใจ: “สาเหตุเพราะมันแพงเกินไป”
ดงซูบินฮัมเสียงตอบรับเธอทันที: "ต่อให้มันแพงแค่ไหนผมก็จะซื้อให้แม่แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกแม่ของผมเป็นอันชาดเพราะสิ่งที่หยางจ้าวจวงพูดออกมามันยิ่งทำให้ผมทนไม่ได้ เธอดูถูกเราว่าเป็นพวกบ้านนอก ยากจนเหมือนกับยาจก นี้คือสิ่งที่ผมทำให้เธอเห็น! พยายามรักษาศักดิ์ศรีของแม่ไว้! แน่นอนในตอนนี้หยางจ้าวจ้วงและครอบครัวของเธอไม่สามารถพูดจาดูถูกเราได้อีกต่อไปแล้ว เพราะหญิงที่เธอดูถูกในตอนนั้น ตอนนี้เธอผู้นั้นได้สวมใส่สินค้าแบร์นเนมราคาแพงและเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศเป็นราคาหลายสิบล้านหยวน ถ้าขนาดนี้คนพวกนั้นยังกล้าดูถูกเราว่าฐานะของครอบครัวเราแย่อยู่อีก ก็ไม่มีครอบครัวในบนโลกจะดีได้แล้วล่ะ!
ตอนนี้ภายในใจของลวนเสี่ยวปิงเองรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ
เธอยิ้ม: " ทำไมลูกถึงติดใจเรื่องนี้นัก!" ดงซูบินกล่าวอย่างมุ่งมั่น: "นี่ไม่ใช่เพราะผมมีอคติใดๆ แต่ใครที่กล้ารังแกแม่ของผมคนเหล่านั้นจะต้องได้เห็นดีกัน!”
""จริงๆแล้วตอนนี้หยางจ้าวเต๋อเอง และคุณนายหยางเองก็อยู่ที่ด้วย เอาล่ะ ลูกควรจะไว้หน้าหยางจ้าวจวงเอาไว้บางเข้าใจที่แม่พูดไหม”
" ผมเข้าใจแล้ว" ดูเหมือนเรื่องวันนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หยางจ้าวจวงช๊อคมากพอแล้ว และตอนนี้ดงซูบินเองก็ดูเหมือนใจเย็นขึ้นมาแล้ว
"แต่อย่างไรก็แม่ช่วยรับบ้านหลังนี้ไว้ด้วยเถอะ หากไม่มีเหตุการณ์นี้ ผมเองก็วางแผนจะซื้อวิลล่าให้แม่อยู่แล้ว แม่อย่าปฏิเสธผมเลย แม่ต้องให้โอกาสลูกชายของแม่ในการแสดงความกตัญญูด้วย .”
ลวนเสี่ยวปิงเองก็ทำตัวไม่ถูกเมื่อได้ยินเช่นนั้น:“โอเค แต่เรื่องที่เราจะย้ายมาอยู่ที่นี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก เราจะมาที่นี้ก็ต่อเมื่อลูกมาที่กับแม่เท่านั้น ....และที่สำคัญนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนเท่านั้น”
' ครับ "
ในช่วงเที่ยง.
คอร์ทยาร์ด. โรงแรมแชงกีลาร์
ดงซูบินพยายามสร้างความบันเทิงให้กับคุณนายหยางและคนอื่น ๆ ในด้านบนโรงแรมระดับห้าดาวในกรุงปักกิ่งนี้และสั่งโต๊ะอาหารตามงบประมาณกว่า 200,00 หยวน. ตอนนี้โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารหลายหลายชนิด . แน่นอนว่าดงซูบินยังอยู่กับลวนเสี่ยวปิงอยู่ตลอดเวลา.ในการช่วยเหลือแม่ของเขาในครั้งนี้เขาพยายามสนับสนุนทุกยอ่างดูเหมือนทางครอบครัวหยางเองก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปเช่นกัน และคนที่ดูน่าจะประทับใจมากที่สุดก็น่าจะเป็นหยางจ้าวเต๋อ. แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ได้การันตีว่าทั้งสองจะได้แต่งงานกัน. เพราะสุดท้ายมันเป็นเรื่องยากที่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันถ้าฝั่งของแม่สามีนั้นยังไม่พอใจลูกสะใภ้ของเธอเอง
สุดท้ายทั้งคู่เองก็จะต้องเลิกกัน ดังนั้นดงซูบินจึงใช้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างความประทับใจให้กับทั้งสองครอบครัว ดงซูบินเองไม่ได้พูดถึงเรื่องการแต่งงานเลยด้วยซ้ำ เขาใช้เวลาทั้งหมดพูดคุยกับคุณนายหยาง .
ดงซูบินและลวนเสี่ยวปิงพยายามหาเรื่องคุยไปเรื่อยๆจนมีคนหนึ่งพูดถึงเรื่องงานแต่งงานขึ้นมา
ซึ่งดูเหมือนหยางจ้าวจวงไม่รู้ว่าทั้งหมดนั้นพูดคุยอะไรกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นจานที่สวยงามราคาห้าหลักบนโต๊ะ หยางจ้าวจวงก็ตกใจอีกครั้ง และเธอเองถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะดูเหมือนทั้งวันมานี้สองแม่ลูกใช้เงินไปมากกว่าหลายสิบล้านแล้ว เมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ ใบหน้าของหยางจ้าวจวงก็เปลี่ยนไปในทันที มันเต็มไปด้วยใบหน้าของความอับอายที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะแสดงมันออกมาในวันนี้
“พี่ลวน” หยางจ้าวเฟินเองก็ค่อนข้างสนิทกับลวนเสี่ยวปิงอยู่บาง ดังนั้นในเวลานี้จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับเธอที่จะพูดว่า “ถึงเวลาสำหรับคุณและพี่ชายของฉันแล้วหรือยัง”
ดูเหมือนใบหน้าของลวนเสี่ยวปิงแดงขึ้นมาทันทีและมองไปที่หยางจ้าวเต๋อ.
หยางจ้าวเต๋อมองเธอด้วยรอยยิ้ม ทั้งคู่ยิ้ม
“เรา...” ลวนเสี่ยวปิงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ในเวลานั้นดงซูบินได้ยินคุณหยางพูดว่า: "แน่นอนว่าแม่นัดเดทเอาไว้แล้วให้ทั้งสองคนแล้วเรื่องนี้แม่จะรับผิดชอบเอง" หยางจ้าวเต๋อยิ้ม "เรากำลังวางแผนว่าเราจะไม่จัดงานแต่งงานแล้ว และเราทั้งคู่เองก็อายุมากพอสมควรแล้ว ในวัยนี้ การที่ทั้งสองครอบครัวได้มาทานข้าวพร้อมหน้ากันเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว"
คุณนายหยางพยักหน้าเล็กน้อยดูเหมือนเธอจะไม่คัดค้านความคิดเห็นนี้แต่อย่างใด
"โอ้ คุณเห็นด้วยไหมซูบิน 'หยางจ้าวเต๋อมองไปดูที่ดงซูบิน
ดงซูบินหัวเราะ:'. จริงๆแล้วทั้งคู่คงได้คุยกันมาสักพักแล้ว วันนี้ลุงหยางก็น่าจะเห็นแล้วว่าแม่ของผมดูมีความสุขมากขนาดไหน ริ้วรอยของเธอแทบจะหายไปเพื่อที่จะได้เจอกับลุงหยาง เท่านี้ก็น่าจะเป็นคำตอบได้แล้วนะครับ"
อาหารมื้อนี้น่าจะกลายเป็นมื้อที่น่าจดจำให้กับทั้งสองครอบครัวอย่างแน่นอน