Chapter 37 : กำไลแห่งพลังระดับสมบูรณ์!
[แจ้งเตือนจากระบบ : ดวงวิญญาณ +3]
[แจ้งเตือนจากระบบ : ดวงวิญญาณ +3]
ไนท์วิสเลอร์สองตัวดร็อปดวงวิญญาณมาให้ไคลน์ทั้งหมดหกดวง
ในบรรดาสัตว์อสูรแห่งสุสานที่ไคลน์เคยฆ่าพวกมันถือได้ว่าให้ดวงวิญญาณมากที่สุดเลยก็ว่าได้
โชคดีที่เป็นตอนกลางวัน
ถ้าเป็นตอนกลางคืนล่ะก็ไนท์วิสเลอร์ทั้งสองตัวก็คงพอจะทำให้เขาเละเป็นโจ๊กแล้ว
ไคลน์จัดการเก็บซากของพวกมันขึ้นมาอย่างสบายๆ
[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื้อไนท์วิสเลอร์ +10]
[แจ้งเตือนจากระบบ : เลือดไนท์วิสเลอร์ +100มิลลิลิตร]
[แจ้งเตือนจากระบบ : หนังไนท์วิสเลอร์ +2]
[จ้งเตือนจากระบบ : กระดูกไนท์วิสเลอร์ +8]
จากนั้นเขาก็ทำการตรวจสอบลายระเอียดของพวกมันตามปกติ
เริ่มจากเนื้อและเลือดก่อนเป็นลำดับแรก
[เนื้อของไนท์วิสเลอร์ : เนื้อที่เต็มไปด้วยไขมันและค่อนข้างเลี่ยน ถ้ากินบ่อยๆอาจจะทำให้สิ่งมีชีวิตที่กินเข้าไปกระสับกระส่ายได้ – ค่าดัชนีความหิวในปัจจุบันอยู่ที่3ดาวครึ่ง คะแนนโดยรวม - 66]
[เลือดของไนท์วิสเลอร์ : จงต้มก่อนดื่ม เมื่อดื่มเลือดนี้ไปยามใดที่ถึงเวลากลางคืนจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ]
เนื้อของพวกมันไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักเพราะสามารถกินหรือไม่ก็เอาไปบดเป็นน้ำมันได้เท่านั้นแต่เลือดนี่สิที่พิเศษ!
ไคลน์เลียปากเล็กน้อยและเทเลือดทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อหิน
จากนั้นเขาก็วางหม้อลงบนเตาย่างบาบิคิว เติมไม้และจุดไฟ
เลือดพวกนี้จำเป็นต้องต้มก่อนดังนั้นเขาจึงหันไปเปิดกล่องสมบัติเหล็กแทน!
ไคลน์เดินไปหาหีบสมบัติที่วางเอาไว้ตรงมุม
คำใบ้สีทองเด้งขึ้นมาบอกว่าหีบสมบัตินี้ไม่มีอันตรายใดๆ
เปิดเลยดีกว่า
[แจ้งเตือนกจากระบบ : หีบสมบัติเหล็ก +1]
[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนดิน +2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : เมล็ดพันธุ์ผลไม้หวาน +1]
[แจ้งเตือนจากระบบ : พิมพ์เขียวกำไลแห่งพลังระดับสมบูรณ์ +1]
ไคลน์เลิกคิ้วเล็กน้อย
เป็นพิมพ์เขียวระดับสมบูรณ์อีกเล่มแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเมล็ดผลไม้ด้วย
[เมล็ดพันธุ์ผลไม้หวาน : ตัวลำต้นมีขนาดเล็กและไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยครั้ง เมื่อเติบโตจะออกผลไม้หวานซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินมาเป็นจำนวนมาก...]
[พิมพ์เขียวกำไลแห่งพลังระดับสมบูรณ์ : ด้วยพลังอันกล้าแกร่ง กำไลแห่งพลังนี้คือรางวัลที่ท่านเอาชีวิตรอดผ่านค่ำคืนมาได้ ถ้าสวมใส่สิ่งนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่แขนของท่าน]
“ของดี”
ไคลน์ยิ้มแต้
ความแข็งแกร่งของเขาสามารถยกระดับได้อีกครั้งแล้วและสิ่งนี้ยังเป็นถึงอุปกรณ์รูนอีกด้วย
“เรียนรู้พิมพ์เขียว” ไคลน์กล่าว
แสงสว่างเจิดจ้าส่องออกมา
เรียนรู้เสร็จสิ้น
ไคลน์รีบเปิดเมนูการสร้างเพื่อดูวัตถุดิบอย่างว่องไว
[กำไลแห่งพลังระดับสมบูรณ์ : รูนดิน 5/2 , รูนลม 1/1 , ทองแดง 11/4 , ทอง 10/2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนดิน -2 , รูนลม -1 , ทองแดง -4 , ทอง -2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างกำไลแห่งพลังระดับสมบูรณ์เสร็จสิ้น]
ที่ปรากฏอยู่ในมือของไคลน์ตอนนี้คือกำไลข้อมือที่ยาวสีทองดำที่ยาวราวๆห้าเซนติเมตร
นอกจากนี้บนตัวกำไลยังมีตักอักษรที่คล้ายๆกับตัวตัวอักษรรูนแห่งพลังที่ไคลน์ได้เห็นเมื่อคืนอีกด้วย
ไคลย์เหยียดมือขวาออกมาและสวมกำไลเข้าไป
กำไลอันนี้ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างเกาะติดกับผิวหนังของเขาก็ไม่ปาน
สิ่งที่ตามมาก็คือไคลน์รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งแขน พลังนี้ไหลเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุดราวกับเขาฉีดพลังงานสายหนึ่งเข้าไปในแขนขวาเลยทีเดียว!
ไคลน์ลองยกหีบสมบัติเหล็กด้วยมือข้างขวาเพียงข้างเดียวและรู้สึกว่ามันเบากว่าก่อนหน้านี้มากๆ
เมื่อทดลองเสร็จสิ้นแล้วไคลน์ก็พูดขึ้น “ยังมีทรัพยากรเหลืออยู่บนพื้นอีกนิดหน่อยไปจัดการเก็บก่อนแล้วค่อยมาดื่มเลือดดีกว่า”
“ยังไงก็เถอะเรายังต้องทำกระถางรูนอีก! แบบนี้จะได้ปลูกผลไม้หวานกับข้าวหอมะลิได้”
อย่าได้ลืมว่าเขายังมีเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิอยู่อีก
รูนดินที่เหลืออีกสามก้อนก็เหลือพอสร้างกระถางรูนได้สองใบพอดี
ไคลน์จัดการเก็บทรัพยากรทั้งหมดในสุสานเข้าช่องเก็บของเป็นลำดับแรก
[ไม้+22 , เหล็ก+16 , ทองแดง+7 , หิน+2....]
วัตถุดิบจำนวนมหาศาลที่ถูกใช้ไปเมื่อเช้าในที่สุดก็ถูกเติมกลับมาบ้างบางส่วนแล้ว
เมื่อเก็บของเสร็จไคลน์ก็กลับมาหน้าเตาย่างบาบิคิวจากนั้นก็จัดการยัดถ่านเข้าไปในเตาและเพิ่มความแรงของไฟ
ยังต้องใช้เวลาอีกหน่อยกว่าจะเดือด
ในช่วงนี้ไคลน์ก็ไม่ได้ไปเตร่ที่ไหนแต่เลือกที่จะสร้างกระถางรูนชั้นเยี่ยมขึ้นมาสองใบแทน
ทรัพยากรที่ใช้ไปมีดังนี้ – เหล็ก10 , หิน10 , ทองแดง10 , และรูนดินอีก2
ตัวกระถางมีลักษณะกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆอ่างล้างหน้าและลึกราวๆหนึ่งเมตร
ด้วยการที่มีทั้งกระถางและเมล็ดแล้วก็เท่ากับว่าเขาขาดแค่ดินเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ปกติแน่นอนว่าดินที่ขุดขึ้นมาจากสุสานจะไม่ได้มีแร่ธาตุมากพอจะปลูกอะไรได้ทำให้ยากนักที่จะปลูกต้นไม้โดยใช้ดินในสุสาน
ยังไงก็ตามนั่นเป็นข้อแม้สำหรับกระถางปลูกพืชทั่วๆไปเท่านั้น
[กระถางรูนชั้นเยี่ยม]
แม้ว่าดินจะไร้แร่ธาตุแต่เมื่อใดที่ใส่ลงไปในกระถางนี้พวกมันก็จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุในทันที สิ่งที่ท่านต้องทำก็แค่ใส่ดวงวิญญาณลงไปเท่านั้น..
ดวงวิญญาณมีค่าเท่ากับปุ๋ยหรอเนี่ย!
ไคลน์ตักดินใส่เข้าไปในกระถางทั้งสองและฝังเมล็ดลงไป
แน่นอนว่าเป็นเมล็ดของข้าวหอมมะลิกับผลไม้หวาน
หลังจากนั้นเขาก็เติมดวงวิญญาณเข้าไปในกระถางแต่ละใบ
[กระถางรูนปลูกพืชชั้นเยี่ยม : 30/30 วัน]
จำนวนวันคือตัวเลขบอกว่าดวงวิญญาณสามารถใช้แทนปุ๋ยได้30วัน
จากนั้นไคลน์ก็นำกระถางต้นไม้ทั้งสองไปวางไว้บนระเบียงชั้นสองของฐานรูนและรดน้ำพวกมันเล็กน้อย
เมื่อเขาจัดการเรื่องปลูกต้นไม้เสร็จเลือดของไนท์วิสเลอร์ที่ต้มอยู่ด้านล่างก็เดือดพอดี
“สงสัยจริงๆว่าต้องกินในตอนที่ยังร้อนๆหรือต้องรอให้เย็นก่อน?”
ไคลน์เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เพื่อลองดมกลิ่น
หลังจากต้มจนเดือดกลิ่นคาวก็หายไปจนเกือบหมดและสีของของเหลวเองก็สดใสยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้มันดูไม่เหมือนกับเลือดเลย
ไคลน์ลองจิบเบาๆก่อนแต่ความร้อนของมันก็ลวกลิ้นเขาจนพองแทบจะทันที
เขาจึงทำได้เพียงรอให้มันเย็นขึ้นซักเล็กน้อยแล้วค่อยดื่ม
“หวังว่าผลทางยาของมันจะไม่หายไปนะ”
การดื่มมันเข้าไปตรงๆเลยก็ร้อนเกินกว่าปากของเขาจะรับไหวเว้นเสียแต่ว่าเขาอยากจะลวกตัวเองก็เท่านั้น
แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะเขายังมียารักษาอยู่ในมือไงล่ะ