ตอนที่แล้วWS บทที่ 217 ลงนามสัญญา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 219 เสื้อคลุม

WS บทที่ 218 ตำหนิอันร้ายแรง


หลังจากที่เมอร์ลินลงนามในสัญญาแล้ว นักเวทย์ระดับเจ็ดส่วนใหญ่ก็ขอตัวกลับไปยังหอคอยของตน เวลาของพวกเขามีค่ามาก และเช่นเดียวกับพ่อมดลีโอ พวกเขาแทบไม่เคยออกจากหอคอยเลย

“พ่อมดลีโอ” พ่อมดฮิวเซียสเรียกพ่อมดลีโอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เมอร์ลิน รอข้าอยู่ข้างนอกก่อน”

พ่อมดลีโอสั่งให้เมอร์ลินออกไปข้างนอกห้องก่อน จากนั้นเขาหันกลับมามองฮิวเซียส ดวงตาที่สามสีแดงเลือดบนหน้าผากของเขากะพริบเล็กน้อย เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “เจ้าโง่ เจ้าอยากจะพูดอะไร”

เห็นได้ชัดว่าพ่อมดฮิวเซียสมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อมดลีโอและไม่สนใจสถานนะปัจจุบันของพ่อมดลีโอ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมอย่างช้า ๆ ขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า

“ลีโอ ตอนนี้คุณได้ตัดหัวออสซีอุสไปแล้ว ความแค้นต่าง ๆ ก็น่าจะได้รับการจะสะสางได้แล้ว มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปล่อยวางอดีตซะที!”

พ่อมดฮิวเซียสเข้าใจความโศกเศร้าของพ่อมดลีโอเป็นอย่างดี ในตอนแรกเรย์ดอร์ น้องชายของพ่อมดลีโอ เขาเป็นนักเวทย์สุดพิเศษแต่เขาถูกคนจากออซมูล่อลวงและทรยศต่อตระกูลของพ่อมดลีโอ

ในเวลานั้น พ่อมดลีโอยังไม่ได้เข้าร่วมดินแดนมนต์ดำ ตระกูลนักเวทย์ของเขาที่เขาเป็นตระกูลใหญ่เช่นกันแต่ทว่าทางผู้นำตระกูลก็ไม่สามารถจัดการเรื่องของน้องชายของลีโอได้และเป็นตัวลีโอเองที่ทำการสังหารเรย์ดอร์น้องชายของเขาด้วยมือของเขาเอง

นี่เป็นความขัดแย้งภายในจิตใจที่พ่อมดลีโอไม่เคยสามารถแก้ไขได้  หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นเขาก็ได้เข้าร่วมกับดินแดนมนต์ดำและได้รับวิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาได้ฝึกฝนมันด้วยทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เขาทำโดยไม่คำนึงว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เขาทำจนอย่างนี้เรื่อยไป จนกระทั่งประสบความสำเร็จ

เมื่อเกิดการต่อสู้กับพวกออสมูเมื่อไม่นานนี้ พ่อมดลีโอได้เดินทางไกลเพื่อตัดศีรษะพ่อมดออสซีอุสเพียงลำพัง ออสซีอุสนั้นเป็นคนที่เปลี่ยนให้เรย์ดอร์ต่อต้านตระกูลของเขาและในที่สุดก็แก้ไขปมในใจของเขาได้ในที่สุด

เรื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ แม้กระทั่งในหมู่นักเวทย์ระดับเจ็ดในดินแดนมนต์ดำมีเพียงพ่อมดฮิวเซียสคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

“ข้าได้ละทิ้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรย์ดอร์ไปหมดแล้ว ออสซีอุสตายแล้ว และตอนนี้ข้ารู้เหมือนได้รับการปลดปล่อย เจ้าโง่ เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ต่อจากนี้สนใจตัวเองให้มากขึ้นและดูแลเมอร์ลินให้ดี เขาเป็นนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา นอกจากความสามารถที่โดดเด่นของเขาแล้ว ความพากเพียรของเขาคือสิ่งที่ข้าชื่นชมมากที่สุด เวลาข้ามองไปที่เขา มันเหมือนมองตัวเองในอดีตเลย…”

หลังจากที่เขาพูด พ่อมดลีโอก็ยิ้มอย่างพอใจ หลังจากนั้น เขาก็ก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วและพูดกับเมอร์ลินที่รออยู่ข้างนอกว่า “เมอร์ลิน กลับไปที่หอคอย!”

เมอร์ลินลุกขึ้นเพื่อโค้งคำนับให้พ่อมดฮิวเซียส จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินตามพ่อมดลีโอไป

กลับมาที่หอคอยพ่อมด เมอร์ลินถูกพ่อมดลีโอพาเข้ามาในห้องของเขา พ่อมดลีโอยิ้มออกมาและดูเหมือนจะพอใจมากในขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น

“เมอร์ลิน เจ้าเพิ่งลงนามสัญญาระดับสูงสุดกับดินแดนมนต์ดำไปเพราะเจ้าคืออัจฉริยะที่ข้าต้องจะดูแล เจ้ามีความสำคัญมากเท่ากับที่ไคลส์แบบที่เคยเป็นมาก่อน มีบางสิ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้า”

หลังจากหยุดชั่วคราว พ่อมดลีโอก็พูดต่อ “มันเป็นเรื่องของผลของสงครามระหว่างเรากับออสมูไม่มีใครรู้ว่าพวกออสมูจะทำอะไรอีกหลังจากนี้ ออสมูได้เป็นศัตรูกับคนจำนวนมากเกินไปและพวกเขาไม่ต้องการสูญเสียคนของพวกเขาได้มากกว่านี้ดังนั้นพวกเขาจึงลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกกับองค์กรนักเวทย์อื่น ๆ ในสัญญาบอกไว้ว่าห้ามให้ออสมูเข้าใกล้องค์กรนักเวทย์อีกต่อไปและทางเราจะไม่ส่งนักเวทย์ระดับสูงตามล่าเหล่านักเวทย์ที่มีพรสวรรค์ซึ่งทรยศต่อพวกเรา

พวกออสมูเป็นพวกเจ้าเลห์ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะยอมทำตามข้อตกลง อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาสงบศึกได้รับการลงนามแล้วและเราไม่สามารถละเมิดอย่างเปิดเผยได้

อย่างไรก็ตามในสัญญาบอกว่าห้ามส่งนักเวทย์ ‘ระดับสูง’ ไปตามล่าใช่มั้ย ดังนั้นทางดินแดนมนต์ดำจึงได้ตั้งภารกิจตามล่าไคลส์ขึ้นมาในห้องโถงภารกิจ โดยผู้ที่รับภารกิจต้องมีระดับที่ต่ำกว่าสี่ หากสามารถสังหารไคลส์ได้ก็จะได้รับห้าหมื่นแต้มสนับสนุน!

เมอร์ลิน ถ้าเจ้าเลื่อนระดับไปถึงระดับสามเมื่อไหร่ เจ้าก็มีโอกาสสูงที่จะฆ่าไคลส์และรับแต้มสนับสนุนห้าหมื่นแต้มมา อย่างไรก็ตาม อย่าเสี่ยงหากเจ้ายังไม่แน่ใจ ถึงอย่างไรไคลส์เป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจ แม้แต่ข้าเองก็ยังยอมรับและพลังของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างแน่นอนหลังจากที่เขาเข้าร่วมออสมูแน่นอน"

เมอร์ลินพยักหน้าอย่างครุ่นคิด คราวนี้ดินแดนมนต์ดำและองค์กรนักเวทย์อื่น ๆ ที่ได้ลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกกับออสมู ดูเผิน ๆ ทางองค์กรนักเวทย์จะได้เปรียบในสนามรบแต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เนื่องทางออสมูส่งกองกำลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากพวกเขารอให้ออสมูฟื้นกำลัง ทางองค์กรนักเวทย์จะต้องเสียเปรียบหากทำให้สงครามยืดเยื้อต่อไป

ดังนั้น ออซมูจึงได้เปรียบจากการลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกและปกป้องอัจฉริยะของพวกเขาทางอ้อมด้วย

หลังจากที่เขาอธิบายเกี่ยวกับออสมูเสร็จแล้ว สีหน้าของพ่อมดลีโอก็ค่อยๆ เคร่งขรึมในขณะที่เขาพูดกับเมอร์ลินด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เมอร์ลิน เจ้าน่ามีแต้มสนับสนุนหมื่นแต้มในแหวนมนต์ดำของเจ้าแล้ว ด้วยแต้มที่เจ้าได้รับคงจะทำให้เจ้าสามารถได้ของที่เจ้าต้องการ ดังนั้นเจ้าไปที่หอสมุดเพื่อแลกเปลี่ยนมันซะสิ ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้มากกว่านี้…”

เมอร์ลินอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่พ่อมดลีโอได้ยกมือขึ้นหยุดเขาและพูดต่อ

“ข้ารู้ว่าสอนลูกศิษย์ไม่เก่ง ความสำเร็จของเจ้าในวันนี้ไม่ได้เกิดจากความพยายามของข้า อย่างไรก็ตาม เจ้าก็เป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าก็ยังภูมิใจในความสำเร็จของเจ้าด้วย อย่างไรก็ตาม ข้าช่วยเจ้าไม่ได้มากกว่านี้แล้ว มีเพียงสองสิ่งที่ข้าสามารถช่วยสอนเจ้าได้คือ วิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดและคาถาธาตุมืดที่อยู่เหนือระดับสองที่เจ้าต้องการ!”

ความสนใจของเมอร์ลินตื่นขึ้นทันทีเมื่อได้ยินพ่อมดลีโอพูดถึง ‘ดวงตาแห่งความมืด’ อันที่จริง เขารู้ดีอยู่แล้วว่า ‘ดวงตาแห่งความมืด’ ของพ่อมดลีโอคือพลังปีศาจแพนดอร่าเช่นกันและมันทรงพลังมาก!

สำหรับคาถาธาตุมืดที่อยู่เหนือระดับที่สอง เมอร์ลินไม่พบคาถาดังกล่าวในหอสมุด มีนักเวทย์ไม่มากนักที่สร้างคาถาธาตุมืดในดินแดนมนต์ดำและแน่นอนว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในที่นี้คือพ่อมดลีโอ ดังนั้น หากเมอร์ลินต้องการได้รับคาถาธาตุมืดที่สูงกว่าระดับที่สอง เขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากพ่อมดลีโอ

เมื่อสังเกตเห็นแววตาที่คาดหวังในดวงตาของเมอร์ลิน พ่อมดลีโอก็ส่ายหัวด้วยความพึงพอใจและยิ้มให้เขา เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ดวงตาแห่งความมืดของข้าเป็นพลังปีศาจแพนดอร่าซึ่งเป็นพลังเวทย์มนตร์สุดมหัศจรรย์ยิ่งกว่าคาถาที่สืบทอดมาแต่โบราณ ด้วย ดวงตาแห่งความมืด ข้าสามารถก้าวข้ามระดับของตัวเองเพื่อฆ่านักเวทย์ระดับเจ็ดจากออสมูและเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ของสงครามเปลี่ยนไปด้วย!”

"มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการครอบครองดวงตาแห่งความมืดของข้า อันที่จริงมีตำราของดวงตาแห่งความมืดในหอคอยอเวจีด้วยเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาเชี่ยวชาญในเวทมนตร์ธาตุมืดจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะเก็บสะสมสิ่งนี้ไว้นานแล้ว พลังปีศาจแพนโดร่าแห่งความมืด

อย่างไรก็ตาม กับไม่มีใครในหอคอยอเวจีสามารถฝึกฝนมันได้สำเร็จ ในทางกลับกัน ข้าเป็นคนจากดินแดนมนต์ดำที่ฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดสำเร็จ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไม?"

เมอร์ลินส่ายหัว เขาไม่ค่อยรู้เรื่องดวงตาแห่งความมืดมากนัก ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือมันเป็นพลังปีศาจแพนดอร่าที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ซึ่งยากต่อการฝึกฝนอย่างมาก มิฉะนั้น พ่อมดลีโอจะไม่ควักดวงตาทั้งสองของเขาออกเพียงเพื่อฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด

ดวงตาแห่งความมืดบนในหน้าผากของพ่อมดลีโอเริ่มเปิดออกอย่างสมบูรณ์ ในชั่วพริบตา เมอร์ลินก็อาบไปด้วยแสงสีเลือดและรู้สึกเหมือนถูกส่งตัวไปต่างแดน

“ภาพลวงตา?”

เมอร์ลินเองได้สร้างคาถาหมอกรัตติกาลและเขตแดนแสงดำดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาจึงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับภาพลวงตา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพลังจิตที่แข็งแกร่งของเขาซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับนักเวทย์สาม เขาก็ถูกดึงดูดเข้าสู่ภาพลวงตาโดยไม่มีการต่อต้านใด ๆ โดยดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอนั้นทรงพลังเพียงใด

ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างภาพลวงตาเป็นเพียงหนึ่งในพลังที่ไม่ธรรมดาของดวงตาแห่งความมืด

สีหน้าของพ่อมดเลโอเปลี่ยนไปอย่างซับซ้อนในขณะที่เขาเริ่มพูดอย่างหยุดนิ่ง “แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ก็ไม่มีใครในหอคอยอเวจีสามารถปลูกฝังดวงตาแห่งความมืดได้เพราะวิธีการบ่มเพาะของมันมีข้อบกพร่องและไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังมีคนหนึ่งสามารถฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดได้แล้ว”

“มีข้อบกพร่องงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นพ่อมดลีโอจัดการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดให้สำเร็จได้อย่างไรหรือว่าอาจารย์มีวิธีการฝึกฝนที่สมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่”

หัวใจของเมอร์ลินเต้นแรง เขาไม่คิดว่าวิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดจะมีข้อบกพร่องและไม่สมบูรณ์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีใครสามารถฝึกฝนมันได้ แม้แต่นักเวทย์ของหอคอยอเวจีที่มีวิธีการฝึกฝนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอสามารถฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดได้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้มากที่เขาจะมีวิธีการฝึกฝนที่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอก็ส่ายหัว “วิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดนั้นมีข้อบกพร่องและข้าก็ไม่ได้มีวิธีจักการทั้งหมดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้าได้คิดค้นวิธีการฝึกฝนซึ่งสามารถฝึกฝนจนสำเร็จได้ วิธีการนี้มีข้อบกพร่องร้ายแรง นี่คือเหตุผลที่ข้าต้องแลกกับดวงตาทั้งสองข้างไปและไม่อาจกลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดอีก โครงสร้างเวทมนต์คาถาธาตุมืดในตัวข้าเสียสมดุลไปหมดแล้ว ตอนนี้ข้าทำได้แค่รักษาสภาพปัจจุบัน ถ้าข้าสร้างคาถาระดับเจ็ดเมื่อไหร่ โครงสร้างเวทมนต์ในจิตใต้สำนึกของข้าจะพังทันที…”

จากน้ำเสียงของพ่อมดลีโอ เมอร์ลินสามารถสัมผัสได้ถึงความไร้หนทางและความเสียใจอย่างสุดซึ้งของเขา

นี่คือความลับที่ใหญ่ที่สุดของพ่อมดลีโอ เขาไปไกลถึงการคิดค้นวิธีการฝึกฝนสำหรับดวงตาแห่งความมืด แม้ว่าวิธีนี้จะมีข้อบกพร่องร้ายแรงแต่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จของพ่อมดลีโอในด้านเวทมนตร์ธาตุมืดนั้นเหนือกว่าความสำเร็จของนักเวทย์ระดับเจ็ดในหอคอยอเวจี

แม้ว่าเขาจะมีความสามารถอันทรงพลังในการตัดหัวนักเวทย์ระดับเจ็ดแต่ความเสียหายอันใหญ่หลวงที่เขาไม่สามารถกลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดได้ เพื่อล้างแค้นเรย์ดอร์และเพื่อแก้ไขความปวดร้าวของเขา พ่อมดลีโอได้จ่ายราคาที่นักเวทย์ส่วนใหญ่คาดไม่ถึง!

“เมอร์ลินมีข้อบกพร่องที่สำคัญในดวงตาแห่งความมืดของข้า ดังนั้นข้าไม่สามารถส่งต่อให้เจ้าได้แต่ข้าสามารถให้เจ้าเรียนรู้พลังปีศาจแพนโดร่าธาตุมืดแบบอื่นได้แลัวเจ้ายังสามารถได้รับเวทย์มนตร์ธาตุมืดที่สูงกว่าระดับสองอย่างที่เจ้าต้องการ!” พ่อมดเลโอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และรอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขาซึ่งทำให้เมอร์ลินรู้สึกสงสัยขึ้นมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด