ตอนที่แล้วTHW ตอนที่ 17+18(2/3) โกลเด้นแมนของทอม ครูซ + คนครุ่นคิดของรอแด็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTHW ตอนที่ 19+20(1/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"

THW ตอนที่ 17+18(3/3) โกลเด้นแมนของทอม ครูซ + คนครุ่นคิดของรอแด็ง


THW ตอนที่ 17+18(3/3) โกลเด้นแมนของทอม ครูซ + คนครุ่นคิดของรอแด็ง

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

ทุกคนที่อยู่รอบๆ พากันหัวเราะออกมา

จากนั้นทุกคนก็มองไปที่การ์เซีย เพื่อดูว่าเขาจะตอบสนองยังไง

“ไอ้เชี่ย! ฉันไม่ใช่นักสะสมขยะ! โดยเฉพาะขยะที่หนักขนาดนั้น ฉันจะทิ้งมันไว้ให้แก หากแกอยากจะชื่นชมคนครุ่นคิด ให้ไปที่ปารีส ไอ้โง่เอ๊ย!”

การ์เซียตะโกนกลับมา พร้อมกับด่าเย่เทียนสองสามคำ ก่อนที่จะจากไปพร้อมกับเพื่อนของเขา

และเขายังคงถือสิ่งที่เก็บเกี่ยวได้วันนี้ในมือ อย่างกล้องส่องทางไกลของราชาโจรสลัด และก็รูปปั้นรางวัลออสการ์!

“นี่มันไม่เหมือนสไตล์ของคาวบอยเม็กซิกันเลย! น่าเบื่อเป็นบ้า!”

เย่เทียนหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับหยอกล้อการ์เซียอีกครั้ง

“เย็ดแม่ง! ไอ้สารเลวเอ๊ย!”

การ์เซียด่าออกมาด้วยความโกรธ คราวนี้เขาได้ชูนิ้วกลางให้กับเย่เทียนด้วย ก่อนที่จะจากไปไม่หันกลับมาอีก

เพื่อนของเขาก็เป็นเหมือนกัน ทุกคนต่างก็พากันชูนิ้วกลางให้กับเย่เทียน

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

มีเสียงหัวเราะดังขึ้นอีก

หลังจากหัวเราะ ทุกคนก็พากันจากไป บ้างกลับไปตั้งร้าน บ้างกลับไปเดินซื้อของ

เย่เทียนยิ้มและหันกลับไปต่อราคากับเจ้าของร้านต่อ

“200 เหรียญก็ยังแพงเกินไปอยู่ดี! นี่เป็นของเลียนแบบทั้งยังไม่มีลายเซ็นของผู้สร้างอีก ยังไงก็ไม่คุ้ม ฉันจ่ายได้แค่ 100 เหรียญเท่านั้น หากตกลง ฉันจะจ่ายเงินและเอามันไปตอนนี้เลย”

เย่เทียนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ พร้อมกับสีหน้าที่พร้อมจะตัดใจหากว่าเขาไม่ตกลง

“ตกลง 100 เหรียญ ดีล!”

โดยไม่ลังเล เจ้าของร้านรีบพยักหน้าตกลงทันที

ความเร็วราวกับถือมันฝรั่งร้อนๆ ด้วยกลัวว่าเย่เทียนจะเปลี่ยนใจ

“ดีล!”

เย่เทียนยิ้มและจับมือกับฝั่งตรงข้าม เป็นอันตกลงว่าเห็นพ้องต้องกันทั้งสองฝ่าย

จากนั้น เย่เทียนก็หยิบแฟรงลินใบหนึ่งออกมาส่งให้กับฝั่งตรงข้าม พร้อมกับรับเอาคนครุ่นคิดที่ไม่มีที่มานี้ใส่ในกระเป๋าของเขา เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นค่าประสบการณ์ของตน

จากนี้ก็เป็นงานหนักล่ะ

หลังจากบอกลาเจ้าของร้านแล้ว เย่เทียนก็อุ้มคนครุ่นคิดที่หนักนี้กลับไปยังร้านเจสัน ตั้งใจว่าจะฝากไว้ที่นั่นก่อน จากนั้นจึงค่อยเอาขึ้นแท็กซี่ตอนจะกลับ

เมื่อเห็นเย่เทียนอุ้มรูปปั้นที่ไม่รู้จักกลับมา โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าซื้อมันมาในราคา 100 เหรียญ เจสันและมิรันด้าก็ตกตะลึงนิดหน่อย นี่มันเป็นการสะสมขยะชัดๆ ไม่ใช่การล่าสมบัติเลย!

แต่ว่าพวกเขาก็ไม่พูดอะไร ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา

หลังจากฝากคนครุ่นคิดนี้แล้วคุยกันสองสามคำ เย่เทียนก็ออกจากร้านขายของมือสอง และทำการค้นหาทั่วทุกมุมในตลาดนัดเชลซี

แต่เหมือนว่าโชคจะจากไปพร้อมกับการ์เซียและพวก หลังจากนั้น เขาก็ไม่พบโอกาสจากสมบัติที่เปล่งแสงในสายตาของเขาอีกเลย ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงหยิบของจิปาถะที่มีค่าแค่นิดหน่อยจากปี 1930 และ 1940 และก็ไม่ได้อะไรอีก

สำหรับสมบัติที่เปล่งแสงจำนวนมากจากร้านขายของโบราณ เขาทำได้เพียงถอนหายใจ และไม่มีโอกาสที่จะหยิบของราคาสูงพวกนั้น

ไม่นาน เวลาก็ได้มาถึง 4 โมงเย็น ซึ่งไม่ไกลจากช่วงเวลาที่ตลาดจะปิด

ร้านส่วนใหญ่เขาก็ไปดูมาแล้ว ซึ่งเหลือเพียงแค่ร้านขายภาพสีน้ำมันไม่กี่ร้านที่เหลืออยู่ และอยู่ในทิศตะวันตกของตลาด ถัดจากเมดิสันพาร์ค

ร้านที่ขายภาพสีน้ำมันนี้ ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นงานที่มาจากนักเรียนจากโรงเรียนศิลปะหลายแห่งในนิวยอร์ก และไม่มีภาพจากจิตรกรที่มีชื่อเสียง

เพราะตราบเท่าที่เป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและศักยภาพหน่อย ก็ต่างพากันเซ็นสัญญากับแกลเลอรี่ต่างๆ ในนิวยอร์กแล้ว ไม่มีทางที่งานของพวกเขาจะมาตกอยู่ในตลาดนัดตามท้องถนนอย่างนี้

เย่เทียนมาที่นี่เพื่อผ่อนคลายจิตใจ และไม่คิดจะมาหาภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอะไร

และก็เป็นอย่างที่คิด ในสายตาของเขา มันไม่มีงานชิ้นไหนที่เปล่งแสงออกมา กระทั่งว่ารัศมีที่เปล่งออกมาจากภาพยังมีแค่ไม่มีใบเท่านั้น และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอามันมา

หลังจากดูภาพวาดจากสองร้านแล้ว เขาก็มายังร้านที่สาม

เมื่อมาถึงร้านที่สาม เขายังไม่ทันได้เริ่มดูภาพสีน้ำมัน เขาก็พลันเห็นกับร่างที่คุ้นเคยก่อน

นี่คือเบ็ตตี้เพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นล่าง สาวผมบลอนด์สุดเซ็กซี่ที่เพิ่งจะเรียนจบ และทำงานเป็นครูโรงเรียนประถมในบรูคลิน

ซึ่งในตอนนี้เธออยู่กับเพื่อนผมดำราวไข่มุก(ไม่แน่ใจว่าเป็นสีผมหรือสีผิวนะครับ เพราะไม่มีบอกเอาไว้ บอกแค่ว่าดำไข่มุกเท่านั้น) ซึ่งงดงามอย่างมาก และทั้งสองกำลังคุยกันเรื่องภาพวาดสีน้ำมันตรงหน้าด้วยเสียงเบา

“ไง! เบ็ตตี้”

เย่เทียนเดินเข้าไปและพูดสวัสดี

เมื่อได้ยินเสียงทักทาย เบ็ตตี้ก็พลันหันกลับไปมองตามทิศที่มาของเสียงทันที

เมื่อเห็นว่าเป็นเย่เทียน ร่องรอยแห่งความประหลาดใจก็วาบผ่านสายตาของเธอ แต่ก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“ไง! สตีเวน บังเอิญจัง นายก็มาตลาดนัดด้วยเหรอ?”

“บังเอิญจริงๆ นั่นล่ะ พอดีฉันว่างก็เลยมาเดินดู ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่เหมือนกัน”

เย่เทียนอธิบายด้วยรอยยิ้ม

“ขอแนะนำนะ นี่คือเพื่อนร่วมมหาลัยของฉัน เจนนิเฟอร์”

เบ็ตตี้แนะนำสาวผมดำราวไข่มุกข้างๆ เธอ

“สวัสดี! ฉันสตีเวน ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ไง! ฉันเจนนิเฟอร์ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

หลังจากจับมือกันแล้ว ทั้งสามก็เริ่มคุยกัน

“เบ็ตตี้ เธออยากจะซื้อภาพสีน้ำมันอย่างงั้นเหรอ? ฉันเห็นพวกเธอกำลังคุยกันเกี่ยวกับภาพสีน้ำมันนี้”

เย่เทียนถาม พร้อมกับชี้ไปที่ภาพสีน้ำมันตรงหน้า

“ใช่ ฉันอยากจะซื้อมันให้ครอบครัวอันหนึ่งน่ะ แต่ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออันไหน นายพอจะมีคำแนะนำอะไรบ้างไหม?”

เบ็ตตี้ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า จากนั้นก็พูดออกมา แต่เธอก็ไม่ได้จริงจังอะไร ใครจะรู้ว่าเย่เทียนจะรู้เรื่องภาพสีน้ำมันหรือเปล่า!

“ได้สิ!”

เย่เทียนรับปาก จากนั้นก็เริ่มทำการสำรวจภาพวาดของที่นี่

ในด้านภาพสีน้ำมัน เย่เทียนเป็นเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่ว่าเขามีพลังเหนือธรรมชาติ ทำให้สามารถมองเห็นคุณค่าของภาพวาดเหล่านี้ได้!

โดยไม่ถึงสิบวินาทีหลังจากที่เสียงของเบ็ตตี้จบลง เย่เทียนก็ตัดสินใจและชี้ไปยังภาพสีน้ำมันสไตล์อิมเพรสชั่นนิสใบหนึ่งที่อยู่ถัดจากเขา และพูดขึ้นว่า

“ฉันว่าภาพสีน้ำมันอิมเพรสชั่นนิสนี้ดี เหมาะที่จะให้เป็นของขวัญกับครอบครัว”

น้ำเสียงของเขาดูมั่นใจอย่างมาก ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะรัศมีจากภาพนี้นั่นเอง

ในร้านนี้หรือร้านที่อยู่รอบๆ นี่ถือเป็นภาพสีน้ำมันยุคปัจจุบันที่ดีที่สุดภาพหนึ่ง

“หือ! จริงเหรอ? ขอฉันดูหน่อย”

เบ็ตตี้ดูภาพสีน้ำมันนี้ด้วยความสงสัย รวมถึงเจนนิเฟอร์ด้วย

หลังจากที่พวกเธอดูภาพนี้ไม่กี่วิ พวกเธอก็รู้สึกว่าภาพนี้ยิ่งมองยิ่งสวย และทั้งสองคนก็เดินเข้ามา เตรียมที่จะเข้ามาดูใกล้ๆ

ส่วนเย่เทียนก็ได้เวลาที่ต้องไปแล้ว เขาได้ดูตลาดนัดแห่งนี้จนทั่วแล้ว และมันถึงเวลาที่ต้องกลับไปเช็คผลลัพธ์ที่ได้เก็บเกี่ยวมา!

และที่สำคัญยิ่งกว่า คือเขาอยากจะกลับไปรับผลประโยชน์ที่ได้มาวันนี้ และศึกษาพลังดวงตาของเขาอย่างระวัง และพยายามที่จะควบคุมมันให้ได้อย่างเต็มที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อคิดอย่างนี้ เขาก็ไม่อยากจะรออีก

“เบ็ตตี้ เจนนิเฟอร์ พวกเธอดูกันไปนะ ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกัน!”

“ตกลง ไว้เจอกัน”

หลังจากบอกลา เย่เทียนก็หมุนตัวและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“อธิบายมาเลยนะ ว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับหนุ่มจีนสุดหล่อคนนี้? หรือว่าจะเป็นเพื่อนบนเตียงของเธอ?”

ทันทีที่เย่เทียนจากไป เจนนิเฟอร์ก็พลันเผยนิสัยที่แท้จริงออกมา พร้อมกับกระซิบยิ้มๆ กับเบ็ตตี้

“พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน และฉันไม่ได้มีอะไรกับเขา เขาอาศัยอยู่ชั้นถัดจากฉัน และมักจะเจอกันบ่อยๆ เธอชอบเขาเหรอ? หากชอบ ฉันจะไปถามเขาให้ จากที่รู้ ตอนนี้เขายังโสดอยู่”

เบ็ตตี้สวนกลับด้วยเสียงเบา และสองสาวก็พากันหยอกล้อกัน จนลืมภาพวาดสีน้ำมันตรงหน้าพวกเธอไปโดยสมบูรณ์

หลังจากที่กลับมาที่มาร้านมือสอง เย่เทียนก็คุยกับเจสันและคนอื่นๆ จากนั้นก็นำคนครุ่นคิดขึ้นแท็กซี่กลับไป ตรงกลับไปยังบ้านของเขาในบรูคลิน

สำหรับต้นกำเนิดของชุดเครื่องใช้บนโต๊ะโบราณนั้น เบนนี่ยังไม่ได้ให้คำตอบ ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงแค่รอต่อไป และเขาเชื่อว่าคำตอบจะปรากฏออกมาเร็วๆ นี้

ขณะอยู่ในแท็กซี่ เย่เทียนก็มองไปที่รูปปั้นที่อยู่ข้างๆ เขา ซึ่งรัศมีเจ็ดแปดชั้นของมัน ทำให้เขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ในตอนนี้ มีเพียงคำถามเดียวเท่านั้นในสมองของเขา

ตอนนี้ ฉันจะสามารถทำความเข้าใจกับพลังดวงตาได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า? หรือกระทั่งสามารถควบคุมพลังนี้ได้อย่างสมบูรณ์ไหม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด