547-548
Ep.547
ทว่า [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ถูกอัพเกรดมาถึงเลเวล 6 แล้ว บวกกับมี [นักรบจักรกล] อยู่ข้างใน ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนเลเวล 7 ก็ไม่น่าจะทำอันตรายพวกมันถึงขั้นนั้นได้
สรุปแล้วเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย?
หัวใจของซูเฉินร้อนรุ่มไปด้วยความกังวล ทะยานขึ้นไปในอากาศ กวาดสายตามองรอบๆ
แม้จะไม่พบร่องรอยของ [รถศึกอัจฉริยะ] แต่ก็ได้ยินเสียงระเบิดแว่วเข้ามาในหู
“นี่มันเสียงระเบิดตอร์ปิโด!”
สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป เกิดข้อสันนิษฐานว่า [รถศึกอัจฉริยะ] อาจไปพบเจอสัตว์ทะเลเข้าใช่หรือไม่? เลยถูกไล่ล่า
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้นี้มีน้อยมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว [รถศึกอัจฉริยะ] มีอำนาจสังหารที่สูงมาก หากไม่ได้รับคำสั่งจากเขา มันไม่น่าจะจากไปง่ายๆ
ซูเฉินไม่เสียเวลาคิดอีก เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] รีบตรงไปยังทิศทางที่เกิดการระเบิด
หลังจากวิ่งติดต่อกันมานานกว่าสิบไมล์ ในที่สุด [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ปรากฏสู่สายตา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงมาก เวลานี้มันกำลังถูกไล่ล่าจากเรือไม้ขนาดเล็กลำหนึ่ง
และความเร็วของเรือไม้ลำนี้ ไวกว่า [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างเห็นได้ชัด
โชคยังดีที่ [รถศึกอัจฉริยะ] มีฟังก์ชั่นล่องหน จึงสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของคู่ต่อสู้โดยการล่องหนเป็นครั้งคราว
“รนหาที่ตาย!”
สีหน้าของซูเฉินกลายเป็นมืดมน ปรากฏว่ามีคนต้องการปล้น [รถศึกอัจฉริยะ] จริงๆ และเขาจะไม่อนุญาตให้เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน
สำหรับคนบนเรือไม้ลำเล็ก ซูเฉินได้มองด้วยสายตาราวกับว่าอีกฝ่ายได้ตายไปแล้ว
วินาทีถัดมา ซูเฉินร่อนลงจากฟ้า เมื่อบินมาเหนือเรือไม้ลำเล็ก เขาก็ง้างแขนไปข้างหลังและชก [หมัดดาวตก] ออกไปทันที
บนเรือไม้ลำเล็กมีชายชราหงอกขาว สวมชุดดำอยู่เพียงคนเดียว เมื่อเขาเห็นเงาหมัดพรั่งพราวเต็มท้องฟ้า คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ยิงใบมีดสายลมเข้าสกัดกั้นอย่างไม่ค่อยใส่ใจ
ใบมีดสายลมผุดจากมือเขา กรีดผ่านอากาศ ผ่านไปได้หลายสิบจั้ง ก็ปะทะกับชุดหมัดสีทอง
ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ..!
สิ้นเสียงระเบิดหมัดดังเป็นชุด สุดท้ายทั้งมันและใบมีดสายลมถูกทำลายในเวลาเดียวกัน
“ระดับเทวะ? ไม่สิ เป็นไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นแค่เลเวล 7 แล้วทำไมถึงบินได้?” ชายชราหงอกขาวกวาดมองซูเฉินด้วยความสนใจ อุทานออกมาเบาๆ
เป็นที่ทราบกันดี ว่าเผ่ามนุษย์ไม่มีความสามารถในการบิน หากต้องการลอยในอากาศ มีวิธีเดียวคือฝึกฝนจนก้าวสู่ระดับเทวะและเชื่อมต่อกับพลังแห่งสวรรค์และปฐพีเท่านั้น
ขณะที่ซูเฉินเป็นเพียงเลเวล 7 แต่กลับสามารถยืนลอยตัวอยู่กลางอากาศได้เหมือนระดับเทวะ เรื่องนี้ทำให้ชายชราหงอกขาวประหลาดใจมาก
ซูเฉินไม่สนใจตอบเขา ร่อนลงบน [รถศึกอัจฉริยะ]
“ซูเฉิน!”
“พี่เฉิน!”
เมื่อเห็นซูเฉินมาทันเวลา ทุกคนบนรถตื่นเต้นดีใจกันมาก
“เกิดอะไรขึ้น?”
ซูเฉินหรี่ตากวาดมองทุกคน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก็ถอนหายใจโล่งอก
“พี่เฉิน ไอ้แก่นั่นคิดจะปล้นรถฐานทัพของพี่ พวกเราสู้มันไม่ได้ เลยต้องหลบหนี” หยางฮ่าวชี้ไปทางชายชราหงอกขาว อธิบายด้วยความโกรธ
หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินหันกลับมามองชายชราหงอกขาว ดวงตาของเขาทอประกายเย็นเยียบ
สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า หากเขามาไม่ทันเวลา [รถศึกอัจฉริยะ] มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะได้รับความเสียหาย และคนในรถก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่ว่ายังไง วันนี้ชายชราหงอกขาวจักต้องตาย!
“เด็กน้อย เห็นแก่พรสวรรค์ของเจ้า เราผู้เฒ่าจะให้โอกาสสักครั้ง ลองฟังดูเป็นอย่างไร?”
แม้สัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรจากในแววตาของซูเฉิน แต่ชายชราหงอกขาวไม่สนใจ ยังคงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ
ซูเฉินเบ้ปาก แค่นเสียงเบาๆ “ว่าต่อสิ”
อีกฝ่ายคือปรมาจารย์มนตราเลเวล 8 ผู้แข็งแกร่งระดับนี้นับว่าพบเจอได้ยากมาก เขาอยากรู้ที่มาที่ไปของอีกฝ่าย ดังนั้นไม่รีบร้อนลงมือ
Ep.548
“ก่อนจะพูด ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน”
ชายชราหงอกขาวกระแอม กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เราผู้เฒ่ามาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสของวิหารอีกด้วย”
วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยูตั้งอยู่ในทวีปเสวียนเทียน หากไม่นับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาถือเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะไม่เพียงมีผู้ฝึกตนเลเวล 9 หลายคน แต่ยังมีการดำรงอยู่ของผู้แข็งแกร่งเลเวล 10 อีกด้วย
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น พอได้ยินชื่อวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู คงต้องตกตะลึงและหวาดกลัวมาก
ทว่าซูเฉินกลับหัวเราะเยาะออกมา เพราะตราบใดที่ศัตรูมิใช่ระดับเทวะ ย่อมไม่อาจก่อภัยคุกคามแก่เขา
“อย่าพูดเรื่องน่าเบื่อแบบนั้นเลย มาคุยกันเรื่องชะตากรรมของแกต่อจากนี้กันดีกว่า”
ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวอย่างสบายๆ
เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่แสดงอาการตกใจ ชายชราหงอกขาวก็พาลคิดไปว่าที่ซูเฉินคงไม่มีความรู้ เลยไม่ทราบถึงชื่อเสียงของทางวิหาร
จึงต้องยกเรื่องอื่นขึ้นมาแทน กล่าวเสียงขรึมว่า “เราผู้เฒ่าสามารถรับเจ้าาเป็นศิษย์ได้!”
แน่นอน การรับศิษย์เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น จุดประสงค์หลักของเขาคือ [รถศึกอัจฉริยะ] และเทคนิคลับของซูเฉินที่ทำให้บินได้
ในความคิดเขา ตราบใดที่ซูเฉินฝากตัวเป็นศิษย์ ไม่ช้าก็เร็วสิ่งเหล่านี้จะต้องตกเป็นของเขา
ซูเฉินส่ายหัว กล่าวหยามเหยียด “แกมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง จะรับฉันเป็นศิษย์ คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอหรือ?”
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของชายชราหงอกขาวเปลี่ยนเป็นมืดมนและเย็นชาในทันใด
ในฐานะผู้อาวุโสของวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู สถานะของเขานับว่าสูงส่งมาก นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้โดนดูถูกเช่นนี้?
“เด็กน้อย เป็นเกียรติของเจ้าที่ได้เป็นศิษย์ข้า อย่าทำตัวให้มันก้าวร้าวนัก!”
ชายชราหงอกขาวหรี่ตาลง ในแววตาทอประกายเย็นเยียบ
ซูเฉินอวดดีไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ทำให้เขาเริ่มเกิดโทสะ หากซูเฉินยังประพฤติตัวไม่รู้จักกาลเทศะ เขานี่แหละจะสังหารซูเฉินด้วยมือตัวเอง
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะเตือนแก สิ่งที่แกทำในวันนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองต้องตาย แต่ยังชักนำหายนะไปสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยูอีกด้วย!” ซูเฉินถูจมูกเขา กล่าวอย่างไม่แยแส
“นี่เจ้าต้องการสังหารข้า? ทั้งยังคิดหมายจะกำจัดวิหารศักดิ์สิทธิ์?”
ชายชราหงอกขาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เด็กน้อย สมองเจ้าใช่มีปัญหา เสียสติไปแล้วหรือไม่?”
ในสายตาเขา ซูเฉินเป็นเพียงผู้ฝึกตนเลเวล 7 แม้จะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่แล้วไง? อีกฝ่ายสามารถเป็นคู่ต่อสู้เขาได้หรือ?
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า คำพูดของซูเฉิน ในสายตาเขามันจึงไม่ต่างจากคนโง่ที่เอ่ยวาจาใหญ่โต
ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ไม่พูดพล่ามไร้สาระอีกต่อไป กระโจนข้ามไปยังเรือลำเล็ก ตรงเข้าสังหารชายชราหงอกขาว
“แสวงหาที่ตาย!”
ชายชราหงอกขาวโกรธจัด ซูเฉินกล้าเริ่มลงมือก่อน นี่หมายความว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา การกระทำนี้ไม่ต่างจากการเคาะประตูนรก
เขาสะบัดฝ่ามือขึ้น และยิงใบมีดสายลมออกไปอย่างไม่ลังเล ในใจสาบานว่าต้องสังหารซูเฉินให้ตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ซูเฉินเองก็ไม่คิดหลบเลี่ยง บนฝ่ามือเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองอร่าม เอื้อมคว้าเวทย์สายลมเบื้องหน้า
“นั่นเขาคิดจะทำอะไร?”
ความสงสัยอย่างลึกล้ำผุดขึ้นในใจของชายชราหงอกขาว
ใบมีดสายลมที่เขาปลดปล่อยออกมา คือเวทมนต์เลเวล 8 แต่ซูเฉินกลับกล้าจับมันด้วยมือเปล่า? ทำเช่นนี้ คงเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?
แต่ในขณะนั้นเอง เมื่อซูเฉินคว้าใบมีดสายลมได้แล้ว ก็กระชากมันอย่างแรง
บังเกิดเสียงดังตูม!
ใบมีดสายลมขนาดใหญ่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ สลายหายไป
“นี่ …”
เห็นฉากนี้ มุมปากของชายชราหงอกขาวสั่นระริก คลื่นแห่งความตกใจก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของเขา
เวทมนต์เลเวล 8 เปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ร่างกายของเจ้าเด็กตรงหน้าเขา ต้องแข็งแกร่งมากถึงขนาดไหน?
“ใบมีดสายลมเลเวล 8 ก็พอใช้ได้นี่”
ซูเฉินยิ้มดูแคลน กล่าวเสียงเย็นว่า “ทีนี้ก็ถึงตาฉันแล้ว จะแสดงให้ดูเอง ว่าเวทมนต์ที่แท้จริงคืออะไร!”
สิ้นเสียง ปรากฏดาบทมิฬเล่มหนึ่งในมือเขา เจ้าตัวกุมด้ามจับด้วยมือทั้งสองข้าง และฟาดฟันไปยังทิศทางของชายชราหงอกขาว
วูบบบ เปรี้ยง!
ตามมาติดๆด้วยเสียงฟ้าผ่า เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีฟ้า ที่แฝงไปด้วยคลื่นอสนีบาตอันน่าหวาดกลัว กวาดไปข้างหน้า