บทที่ 45 การ์ดทองอยู่ในมือ
บทที่ 45
การ์ดทองอยู่ในมือ
ภายในถ้ำ หลี่มู่ฟาน นั่งอยู่บนก้อนหินหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเขาก็หลับลงและเข้าสู่มิติเกม
“ติง! ตรวจพบว่าคุณสร้างศูนย์บริหารและกายเป็นลอร์ด ได้รับการ์ดไอเทม 1 ใบ ความแข็งแกร่งของอาณานิคมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10%”
ทันทีที่เขาเข้ามาในมิติเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหัวทันที
“ติง ชุ่ยฮัว ชาวอาณานิคมได้มาถึงระดับคอขวดแล้ว และตอนนี้นางได้เข้าสู่เขตหลอมรวมร่างกายระดับ 3 แล้ว”
หลี่มู่ฟาน รู้สึกยินดียิ่งนัก ในตอนแรกเขากังวลว่าชาวอาณานิคมของเขาจะไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ในระยะสั้น ดูเหมือนว่านอกจากการซื้อเคล็ดวิชาในราคาที่สูงแล้วไม่มีวิธีอื่นอีก
หลี่มู่ฟาน เดินมาถึงห้องสันทนาการและเห็น ชุ่ยฮวน กำลังดูทีวีอยู่ หลี่มู่ฟาน รู้สึกขี้เกียจที่จะด่านางแล้วจึงนั่งลงแล้วถามขึ้นว่า “ชุ่ยฮวน คราวที่แล้วเรื่องของเชลยเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อ๊า นายท่านมาแล้ว ยินดีต้อนรับกลับเจ้าค่ะ สมาชิกของกองเรือนักล่าได้ถูกคัดเลือกออกมา 8 คน!”
หลี่มู่ฟาน เคยเข้ามาในมิติเกม 2 ครั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนั้นได้มอบภารกิจ เขาก็ฝึกฝนอย่างตั้งใจอยู่ในห้อง
ในระหว่างที่เขากำลังฝึกฝนอยู่นั้นฐานของเขาถูกโจมตีโดยกองเรือนักล่าขนาดเล็กและจับเชลยได้หลายคน เขาพบว่านักล่าเหล่านี้ไม่มีความสามารถอื่นแต่พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็ไม่เลว มีความคิดหนึ่งพูดขึ้นมาในใจของเขาทันที
“8คนอย่างนั้นหรอ?ฉีดเสริมพันธุกรรมให้กับพวกเขา”
“รับทราบนายท่าน”
หลังจากที่สั่งงาน ชุ่ยฮวน ออกไปเขาก็ไม่เสียเวลาอีกรีบกลับเข้าห้องและบ่มเพาะทันที
เคล็ดวิชาเต๋าเมฆามรกตนอกจากการฝึกฝนร่างกายแล้วยังมีวิชาลับบางอย่างที่ถูกบันทึกไว้อีกด้วย
เขาเป็นเพียงจิตวิญญาณภายในโลกแห่งนี้ดังนั้นการฝึกฝนการบ่มเพาะที่แท้จริงจึงไม่มีประโยชน์ เขาจึงหันไปฝึกทักษะลับแทน
ตอนนี้เขากำลังฝึกวิชาตัวเบา อยู่ๆร่างของเขาก็เบาเหมือนนกนางแอ่นการเดินบนกำแพงไม่ใช่เรื่องยาก ไม่แน่ว่าวันหน้าอาจมีประโยชน์ก็ได้
3 วันต่อมามีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นในฐาน
“คำเตือน กลุ่มศัตรูเผ่าเครื่องกลได้บินเข้ามาใกล้ฐานแล้วพวกเขากำลังจะเริ่มโจมตี โปรดเตรียมตัวให้พร้อม”
หลี่มู่ฟาน ตกใจ
“เผ่าเครื่องกลงั้นหรอ!”
เขาก้าวออกจากห้องและเตรียมการป้องกันทันที
เผ่าหุ่นยนต์เป็นนักล่าอาณานิคมที่ขึ้นชื่อของกองเรือนักล่าเนื่องจากเนื้อหนังมังสาของพวกมันเป็นเหล็กจึงค่อนข้างยากที่จะรับมือ
หลังจากนั้นไม่นานการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น
การโจมตีครั้งแรกคือกลุ่มตั๊กแตนจิ๋ว เป็นหุ่นยนต์ที่มีปืนไรเฟิลประจุไฟฟ้าติดตัว แต่มีระยะยิงยาว แล้วยังมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดที่ยอดเยี่ยม
ระยะการยิงของพวกมันเกินระยะของปืนกลอัตโนมัติ และยิงกระสุนออกไปนอกกำแพงเมือง ความแม่นยำสูงมากความทนทานของปืนกลติดกำแพงลดลงอย่างรวดเร็ว
หลี่มู่ฟาน ขมวดคิ้วและตะโกนว่า “เร็วเข้า! อย่ายืนนิ่งใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้มันไป!
“พ่ะย่ะค่ะ”
นักล่าที่ได้รับการคัดเลือกใหม่หลายคนเคลื่อนไหวทันทีเพื่อควบคุมปืนใหญ่และเริ่มระเบิดอย่างบ้าคลั่ง
“ปัง ปัง ปัง”
ในสนามรบเห็นเพียงกระสุนปืนใหญ่ 1 แถวพุ่งเข้าใส่ราวกับไม่ต้องเสียเงิน บนพื้นที่ว่างเปล่านอกกำแพงเมืองระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั๊กแตนจิ๋ว 8 ตัวแตกกระจายเป็นสิ่งเสี่ยง หนึ่งในนั้นดรอปการ์ดสีเขียววิบวับ
“การ์ดไอเทม!”
หลี่มู่ฟาน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ด้านหลังของตั๊กแตนจิ๋วเป็นกำลังหลักของการโจมตี มันคือตะกวดกล
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวช้าแต่มีเกราะป้องกันสูงอีกทั้งยังมีปืนกลยิงเร็วและอาวุธทำลายล้างเช่นเครื่องยิงระเบิด ถ้ารับมือได้ไม่ดีก็อาจจะบาดเจ็บล้มตายได้
เมื่อเห็นว่าตะกวดกลได้เข้าสู่ระยะยิงแล้ว หลี่มู่ฟาน ก็คำรามออกมา!
“ยิง”
“ปิ้ว!”
ลูกกระสุนปืนราวกับฝนตกนับไม่ถ้วน ลงไปที่ร่างของตะกวด 2 ตัวมันพยายามยิงตอบโต้กลับมาที่กำแพงเมืองก่อนที่มันจะตาย!
“ตึง ตึง”
หอคอยปืนกลถูกยิงออกไปเช่นกัน!
ห่ากระสุนปืนยิงเข้ากับกำแพงของอาณานิคมทำให้ปีกขวาของกำแพงสูญเสียในการต่อสู้ทันที
หลี่มู่ฟาน รู้สึกตกใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีล่าอาณานิคมอย่างหนักเมื่อเข้าสู่โลกแห่งเกม
“ไคเฉียน เจ้าถอยไปก่อน ไปรักษาแผลด่วน!”
“รับทราบนายท่าน!”
ตะกวด 2 ตัวถูกไฟเผาแต่ก็ยังคงมีตะกวดอีกหลายตัวคลานเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งแล้วยิงกระสุนปืนทันที
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายที่สุดในโลกสงครามที่ใช้ปืนกล สงครามดุเดือดกินเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดหอคอยของฐานก็เสียปืนกลไป 10 กระบอก และชาวอาณานิคม 7 คนได้รับบาดเจ็บ ความเสียหายไม่มากนัก
ยิ่งมีความเสี่ยงมากเท่าไหร่ผลตอบแทนก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
ในตอนนี้ หลี่มู่ฟาน กำลังถือการ์ดสีทองไว้ในมือ