531-532
Ep.531
[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางทั้งวันทั้งคืน จนมาถึงตอนเที่ยงของวันที่สาม พวกซูเฉินก็อยู่ห่างจากเมืองเทียนหวังไม่ถึงร้อยไมล์
“ในที่สุดก็ถึงซักที”
ซูเฉินถอนหายใจ หรี่ตาเพ่งมองลงบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
ตอนแรก เขากะว่าจะเปิดแผนที่สำรวจภูมิทัศน์ของเมืองเทียนหวัง แต่จู่ๆก็พบว่ามีจุดสีดำสองจุดกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“ว่องไวขนาดนี้เชียว?”
ซูเฉินเลิกคิ้ว
ด้วยความเร็วระดับนี้ สมควรมีระดับฐานฝึกตนอย่างน้อยเลเวล 6
ซึ่งสิ่งมีชีวิตเลเวล 6 บนเกาะหวังซวี่ มันมีไม่มากนักหรอก ยิ่งเป็นการเจอทีเดียวพร้อมกันสองตน ยิ่งหาได้ยาก
เดิมที ซูเฉินคิดว่าพวกต่างเผ่าสองตนนี้ กำลังมุ่งหน้าไปเมืองเทียนหวัง แต่ซักพักก็เอะใจ ว่าพวกมันกำลังวิ่งตรงมาทางพวกเขาต่างหาก
“เสี่ยวจือ ล็อคเป้าจุดสีดำทั้งสองไว้ แล้วขยายภาพที” ซูเฉินสั่ง
เขาอยากจะเห็น ว่าลักษณะของผู้มาเยือนสองตนนี้เป็นอย่างไร
หน้าจอควบคุมสับเปลี่ยนภาพ ไม่ช้าก็ปรากฏร่างของชายสองคนขึ้น
หนึ่งในนั้นแต่งกายด้วยชุดขาว รูปลักษณ์ท่าทีดูหล่อเหล่าและสง่าผ่าเผย เท่าที่ดูคล้ายมีช่วงอายุราวๆ 27-28 ปี
อีกตนหนึ่งเป็นชายร่างหนา หัวล้านเลี่ยน ใบหน้าซีดเหลือง
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ซูเฉินได้เจอพวกเขา เขาอดคาดเดาสถานะของทั้งสองไม่ได้
พวกต่างสายพันธุ์บนเกาะหวังซวี่ที่เหลืออยู่ก็ได้แก่เผ่าอมตะ , เผ่าหนามหยก , เผ่าระฆังศิลา , เผ่าหินผา และเผ่าเทพ
ในเรื่องรูปลักษณ์ เผ่าอมตะกับเผ่าหนามหยกสะดุดตากว่าใคร จึงสามารถแยกแยะได้ง่าย กล่าวคือผู้มาเยือนสองตนนี้ ไม่ใช่เผ่าอมตะกับเผ่าหนามหยกแน่นอน
งั้นตัวเลือกที่เหลือก็คือเผ่าระฆังศิลา , เผ่าหินผา และเผ่าเทพ
‘มีโอกาสมากทีเดียวที่หนึ่งในนั้นจะเป็นเผ่าเทพ’
ประกายเย็นเยียบสะท้อนวาบในดวงตาของซูเฉิน
ในตอนเข้ามายังเกาะหวังซวี่ เขาได้สังหารหน่วยพิทักษ์จูเฟิงของเผ่าเทพไป หากอีกฝ่ายบุกเข้ามาหาทวงหนี้แค้น ถือเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม เป็นแค่ผู้ฝึกตนเลเวล 6 แต่ดันกล้ามาสร้างปัญหากับเขา การกระทำเช่นนี้เท่ากับการรนหาที่ตาย
“เสี่ยวจือ จอดรถ”
เมื่อคาดเดาจุดประสงค์ของทั้งสองตนได้ ซูเฉินตัดสินใจกำจัดทั้งสองตนนอกเมือง
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที พวกต่างเผ่าสองตนก็มาถึงเบื้องหน้า [รถศึกอัจฉริยะ]
ซูเฉินก้าวลงจากรถ หลังจากแต่ละฝ่ายมองสำรวจกันและกัน ชายหนุ่มหัวล้านก็หัวเราะเยาะออกมา “อาเฮียเป่ย มีข่าวลือว่าเจ้าตัวโอหังที่กล้าสังหารเผ่าพันธุ์ของข้า มันเป็นเจ้าของรถฐานทัพสีเงิน ทั้งยังเด็กมาก สมควจะเป็นเจ้าหมอนี่ไม่ผิดพลาด”
มองมายังซูเฉิน เอ่ยเค้นถามเสียงเย็น “ไอ้หนู เป็นเจ้าใช่ไหมที่ฆ่าจินเช่อ?”
ซูเฉินปาดจมูก กล่าเสียงเย็น “ฉันนี่แหละที่ฆ่ามัน ทำไม? แกจะแก้แค้นให้มันหรือ?”
ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นคนสังหารจินเช่อ งั้นพวกมันก็น่าจะชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของเขา
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาเพิ่งสังหารผู้ฝึกตนเลเวล 8 จากเผ่าระฆังเงิน รวมถึงเลเวล 7 สามตนจากเผ่าสมุทรไป
ขณะที่ทั้งสองตนเป็นผู้ฝึกตนเลเวล 6 เท่านั้น ด้วยระดับฝึกตนเพียงเท่านี้ เหตุใดยังกล้าตามล่าเขาอีก?
“เจ้าขยะอย่างจินเช่อสมควรตาย ฉันไม่มีทางลงมือแก้แค้นเพื่อขยะแบบนั้น”
ชายชุดขาวยิ้มเยาะ ชำเลืองมองซูเฉินด้วยความเย็นชา ตะโกนเสียงขรึม “เจ้ามนุษย์ผู้ต่ำต้อย กล้าสังหารหน่วยพิทักษ์จูเฟิงของข้า เท่ากับเป็นการท้าทายความยิ่งใหญ่ของเผ่าเทพ ข้าจะต้องไปทำให้เจ้าต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน!”
ซูเฉินเบ้ปาก ฉีกยิ้มหยามเหยียด
“อาศัยแค่พวกแกสองคน เกรงว่ามันจะไม่พอ”
“ก็สวยสิ!”
ชายหัวล้านโกรธจัด แผดตะโกนสุดเสียง หันไปกล่าวกับชายชุดขาวที่อยู่ข้างๆว่า “อาเฮียเป่ย ขอให้ฉันได้เป็นคนมอบบทเรียนให้เจ้าสองคนนี้เถอะ”
“ไม่จำเป็น พวกมันก็แค่กบก้นบ่อ วันนี้ข้าจะแสดงให้พวกมันได้รู้เอง ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงเป็นอย่างไร!”
ชายชุดขาวปฏิเสธเฉียบขาด จากนั้นทำสีหน้าเคร่งขรึม ทะยานตรงเข้าสังหารซูเฉิน
Ep.532
เห็นแบบนี้ ซูเฉินรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย
เพราะหากว่ากันตามปกติแล้ว เผ่าเทพเป็นที่รู้จักกันในฐานะปรมาจารย์พลังจิต ทว่าชายเผ่าเทพผู้นี้กลับเลือกตรงเข้ามาต่อสู้ระยะประชิด เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้วิวัฒนาการ นี่มันเหนือความคาดหมายของซูเฉินไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดอะไรมาก ขณะที่อีกฝ่ายประชิดเข้ามา หนึ่งกำปั้นซัดทะลวงสวนออกไปอย่างแรง
ได้ยินเพียงเสียงปั๊ก! ดังหนักทึบ
หลังจากที่หมัดทั้งสองปะทะกัน ซูเฉินกับชายเผ่าเทพต่างคนต่างถอยหลังกระเด็นออกไป
ในการปะทะกันครั้งแรก ระหว่างทั้งสองมีจุดประสงค์ก็เผื่อหยั่งเชิง ดังนั้นการโจมตีนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งหรืออ่อนแอกว่ากัน
ขณะที่ซูเฉินต้องการจะลงมือต่อ จู่ๆเขาก็พบกับพลังที่มองไม่เห็นบดขยี้เข้ามา ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าคนที่ปลดปล่อยพลังจิตย่อมเป็นชายเผ่าเทพที่อยู่เบื้องหน้าเขา
ที่แท้ชายเผ่าเทพผู้นี้ก็เป็นผู้ฝึกตนสองอาชีพ!
ซูเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คือ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีเลเวลอยู่ที่ 6 ทว่าพลังจิตของเขา ไม่ด้อยไปกว่าพลังจิตในเลเวล 7 เลย
“น่าสนใจดีนี่”
ซูเฉินเริ่มตื่นตัว พร้อมปลดปล่อยพลังจิตออกมาเช่นกัน
พลังจิตสองสายเข้าพัวพันล ชั้นอากาศที่ว่างเปล่ากลายเป็นบิดเบี้ยว
“ที่แท้เจ้าเองก็มีสองอาชีพเช่นกัน!”
ชายเผ่าเทพประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มให้ความสำคัญกับซูเฉิน
“ส่วนแก ถ้ามีความสามารถแค่นี้ น่ากลัวว่าจากนี้คงรอดยาก!” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เป็นเรื่องยากมากที่จะพบคู่ต่อสู้ดีๆในเลเวลเดียวกัน
และชายเผ่าเทพตรงหน้าเขามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเช่นนั้น ซูเฉินอยากเห็นว่าอีกฝ่ายยังมีไพ่ตายใบอื่นอีกหรือไม่
“วาจาใหญ่โต!”
ชายเผ่าเทพตวาดประณาม สีหน้าของเขาค่อยๆเคร่งขรึมขึ้น “ในเมื่อเจ้าอยากตาย เช่นนั้นข้าก็จะทำให้สมปรารถนา!”
สิ้นเสียง เห็นแค่เพียงสองมือของเขาประสานกัน หลังจากชูมันสูงขึ้น ก็ทำท่าคล้ายๆกับเล็งสับลงมาทางซูเฉินจากระยะไกล
ได้ยินเพียงเสียงชิ้งงงง!
ชั้นอากาศที่ว่างเปล่าคล้ายถูกตัดขาดเป็นเสี่ยงๆ พลังที่มองไม่เห็นฟาดฟันใส่ซูเฉินจากฟากฟ้า
หนังตาของซูเฉินกระตุกวูบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนอื่นสามารถควบรวมพลังจิต แล้วก่อรูปเป็นกระบี่ได้
เมื่อต้องเผชิญกับกลวิธีโจมตีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ มันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างใหญ่หลวง
ซูเฉินไม่ลังเลเลย ปลดเปลื้องพลังแห่งจิตวิญญาณออกมาจากรวดเร็ว กวาดสวนขึ้นไปเพื่อหยุดการโจมตีของอีกฝ่ายเอาไว้
แต่ใครจะทันคิด ว่าพลังจิตของเขากลับไม่อาจปัดป้องใดๆ มันถูกกระบี่พลังจิตของอีกฝ่ายสะบั้นออกจากกัน
“ไอ้หนู ไปลงนรกซะ!”
ชายเผ่าเทพหัวเราะดุดดัน กุมกระบี่พลังจิตขนาดยักษ์ไว้ในมือ ยังคงฟาดฟันลงไปยังซูเฉิน
สีหน้าของซูเฉินกลายเป็นแข็งทื่อ สองมือเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทองสดใส ซัดหนึ่งหมัดสวนออกไป
บังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ภายใต้ผลพวงมหาศาล ซูเฉินถอยหลังไปหลายก้าว
อย่างไรก็ตาม การโจมตีเมื่อครู่ สุดท้ายสามารถทำลายกระบี่พลังจิตของชายเผ่าเทพได้ในหมัดเดียว
“เหตุใดร่างกายเจ้าถึงได้แข็งแกร่งนัก!” ชายเผ่าเทพตกตะลึง
วิชากระบี่รวมจิต คือไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
มันทรงพลังชนิดหาผู้ใดเปรียบ ศัตรูในอดีต หากอยู่ในระดับเดียวกัน ล้วนถูกสังหารสิ้น
หรือต่อให้อีกฝ่ายมีระดับสูงกว่าหนึ่งขั้นก็ตาม แม้ไม่ตายแต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทว่าครั้งนี้กลับตรงกันข้าม ซูเฉินที่มีระดับเดียวกันกับเขา สามารถทำลายวิชากระบี่รวมจิตได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
อีกทั้งดูจากท่าทาง คล้ายไม่ได้ใช้ความพยายามเท่าไหร่เลย
ณ จุดนี้ มันเริ่มทำให้ชายเผ่าเทพเกิดความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ
“อาเฮียเป่ย เจ้าเด็กนี่ค่อนข้างพิเศษ ขอข้าประมือกับเขาเถอะ!”
เมื่อเห็นว่าชายเผ่าเทพไม่สามารถทำอะไรซูเฉินได้ ชายหัวล้านที่อยู่ข้างๆคำรามและพุ่งเข้าใส่ซูเฉิน
กลิ่นอายดุร้ายรุนแรงปลดปล่อยออกมา ราวกับสัตว์ร้ายกระหายเลือด
หลังจากได้เห็นว่าซูเฉินแข็งแกร่งเพียงใด คราวนี้ชายเผ่าเทพไม่ได้หยุดเขา
“รนหาที่ตาย!”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ชกหนึ่งหมัดออกไปจากระยะไกล
แทบจะในทันที เงาหมัดนับร้อยผุดพรายขึ้นพร้อมกันเป็นกำแพงหนา โถมกดชายหัวล้านจากเบื้องบน
“ช่างเป็นวิชาหมัดที่ทรงพลัง!”
สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่แผ่ออกมาจากหมัดสีทอง สีหน้าของชายเผ่าเทพแปรเปลี่ยนไป
ชายหัวล้านใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง กระนั้น เขามิได้เลือกถอยหนี เจ้าตัวกัดฟันแน่น ทันใดนั้นเอง ชั้นหินหนาโผล่ออกมาจากตามร่างกายเขา
