ตอนที่แล้วWS บทที่ 213 รูปแบบที่หนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 215 กลับสู่ดินแดนมนต์ดำ

WS บทที่ 214 ภูเขาแบรมเบิล


แมงมุมลายพาเมอร์ลินไปยังห้องลับที่ถูกซ่อนไว้อย่างดี ด้านหน้าห้องลับเป็นประตูหินหนากว้างและมีอักษรรูนลึกลับมากมายกระจายอยู่ทั่วประตูหิน

เมอร์ลินเหลือบมองรอบ ๆ ห้องและพบว่ามีวงแหวนเวทย์อยู่ในห้องที่สามารถพาเขาออกจากหอคอยโบราณได้ หลังจากที่เขาฝึกฝนเพลิงวินาศรูปแบบแรกสำเร็จแล้ว เขาจะสามารถเข้าไปในห้องลับและออกจากที่นี่ด้วยวงแหวนเวทย์ได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น เมอร์ลินก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องทำในที่สุด เขาเอื้อมมือออกไปข้างหน้าและเครื่องหมายรูปไฟบนฝ่ามือของเขาก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

“พลังปีศาจแพนโดร่า เพลิงวินาศ!”

ทันใดนั้น เปลวไฟสีขาวก็พุ่งไปที่ประตูหินหนาและอักษรรูนลึกลับที่ประตูก็ส่องประกายเจิดจ้า แสงล้อมรอบเปลวไฟของเพลิงวินาศ ในที่สุดอักษรรูนก็ผสานเข้ากับเปลวไฟอย่างสมบูรณ์

*ครืน!!*

ประตูหินขนาดใหญ่ค่อย ๆ ยกขึ้น สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า หากไม่มีเพลิงวินาศก็ไม่มีโอกาสที่จะเปิดห้องลับได้

ใบหน้าของเมอร์ลินสพลันว่างขึ้นทันที เมื่อเขามองย้อนกลับไปที่แมงมุมลาย แมงมุมขนาดมหึมาก็ค่อย ๆ เดินกลับไปยังที่ ๆ ที่มันอยู่ประจำในห้องโถงใหญ่

เขาหันกลับไปมองในห้องลับ มีอักษรรูนที่ซับซ้อนจำนวนมากฝังอยู่บนพื้น ก่อตัวเป็นวงแหวนเวทย์ลึกลับ เมอร์ลินคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เนื่องจากเขาได้เห็นสิ่งเหล่านี้มากมายในดินแดนมนต์ดำ

ดังนั้น เมอร์ลินจึงยืนบนวงแหวนเวทย์ หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ พลังจิตของเขาได้ส่งเข้าไปในวงแหวนเวทย์อย่างรวดเร็ว

*ชิ้ง*

วงแหวนเวทย์ลึกลับเริ่มเปล่งแสงจ้าที่ล้อมรอบร่างของเมอร์ลินอย่างรวดเร็ว เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงแสงที่คุ้นเคย เขารู้ว่าพลังของวงแหวนเวทย์กำลังเริ่มมาที่ตัวเขา

*หวุ่ม!!*

แสงสว่างวาบขึ้นและร่างของเมอร์ลินก็หายไปจากห้องลับ จากนั้นทั้งห้องก็กลับสู่ความเงียบงันดั่งเช่นตอนแรก

“คุณหนู ถ้าท่านไวเคานต์ได้ยินเรื่องพวกเราแอบหนี ดิฉันเกรงว่าท่านจะไม่ยกโทษให้พวกเราง่าย ๆ” สาวใช้ที่สวมชุดเมดสีเทาบอกท่านหญิงนาเวียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง

ท่านหญิงนาเวียนสวมชุดสีขาว ผมสีบลอนด์ที่สลวยของเธอถูกมัดอย่างหลวม ๆ สวมหมวกน่ารัก เธอดูสวยและอ่อนเยาว์

“ไม่เป็นไร นี่ครั้งสุดท้ายที่เราแอบหนี เราคงจะไม่โดนลงโทษใช่ไหม” ท่านหญิงนาเวียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ เธอยังเปิดม่านออกและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ด้วยความตื่นเต้น

“คุณหนูจะเปรียบเทียบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างไร ท่านไวเคานต์อยากให้คุณหนูแต่งงานกับลูกชายของเคานต์กิออนแต่คุณหนูแอบออกมาในเวลานี้ ดิฉันเกรงว่าท่านไวเคานต์จะส่งคนของเขาไปหาคุณหนูแล้ว…”

สาวใช้ชุดเทารู้จักบุคลิกของท่านหญิงนาเวียนเป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกระตุ้นให้เธอกลับมา ณ จุดนี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาวิธีทิ้งสัญลักษณ์ไว้ตลอดการเดินทาง ด้วยวิธีนี้ คนที่ส่งโดยไวเคานต์จะพบพวกเขาได้หากพวกเขาตามหลังสัญลักษณ์พวกนั้นมา

นอกจากนี้ รถม้าไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ท่านหญิงนาเวียนดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย เธอสนใจแต่ทัศนียภาพโดยรอบเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงต้องการให้รถม้าลดความเร็วลงอีกเพื่อให้เธอได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอย่างเต็มที่

“เร็ว ดูนั่นสิ มีคนอยู่ข้างหน้า”

ท่านหญิงนาเวียนเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดดำ เขายืนอยู่ข้างถนนโดยก้มศีรษะลง พวกเขาไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร

พวกเขาอยู่ในป่า เป็นสถานที่รกร้างอย่างแท้จริง เมื่อเห็นคนแปลก ๆ ในสถานที่ดังกล่าวทำให้สาวใช้ตกใจอย่างมาก

“คุณหนู ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่!”

คำพูดของสาวใช้ทำให้ท่านหญิงนาเวียนระวังตัวเช่นกัน แม้ว่าเธอจะกล้าพอที่จะแอบออกจากปราสาทสักสองสามครั้งแต่เธอก็รู้ว่าเธอจะต้องเผชิญอันตรายระหว่างการเดินทาง เหนือสิ่งอื่นใด ชายชุดดำที่แปลกประหลาดคนนี้ให้กลิ่นอายที่ดูเหมือนจะทำให้กระดูกสันหลังของผู้คนหนาวสั่น เขาอาจเป็นอันตรายก็เป็นได้

ดังนั้นความเร็วของรถม้าจึงเพิ่มขึ้นเมื่อพุ่งไปข้างหน้า

*พึ่บ!*

ทันใดนั้น ชายชุดดำที่อยู่ริมถนนก็ยกมือขึ้น ทันใดนั้น ลูกไฟจำนวนมากปรากฏขึ้นจากอากาศบาง ๆ และระเบิดออกตรงด้านหน้ารถม้า

ด้วยเสียงอันดังสนั่นทำให้ท่านหญิงนาเวียนและสาวใช้ของเธอตื่นตระหนก พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร

เป็นคนรับใช้ของท่านหญิงนาเวียนที่ขับรถม้า เขามีความรู้มากกว่าท่านหญิงนาเวียนในด้านนี้ หลังจากที่เห็นลูกไฟที่โยนโดยชายชุดดำ คนรับใช้ก็คาดเดาตัวตนของชายคนนั้นได้ทันที ดังนั้นเขาจึงโค้งเคารพชายชุดดำด้วยความเคารพ

“โอ้ ท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาเป็นข้ารับใช้ของบุตรีแห่งไวเคานต์แอนเลสที่นั่งอยู่ในรถม้า ท่านหญิงนาเวียน! เราขอทราบได้ไหมว่าท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ต้องการสิ่งใด”

เมื่อเห็นลูกไฟ คนขับรถม้าก็รู้ทันทีว่าชายชุดดำเป็นนักเวทย์ที่ลึกลับและทรงพลัง เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่แม้แต่ไวเคานต์แอนเลสยังต้องให้เกียรติ

ชายชุดดำคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงสงบ “ขอแผนที่หน่อย”

คนขับรถม้ารีบหยิบแผนที่ออกมาจากรถและพูดอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ขณะนี้เราอยู่ในพื้นที่นอกเขตภายใต้การควบคุมของไวเคานต์แอนเลส”

ชายคนนั้นพยักหน้า จากนั้นตรวจสอบแผนที่อย่างละเอียด

“ที่นี่อยู่ห่างไกลจากเมืองโฟลตติ้งขนาดนี้เลยหรือแถมพื้นที่นี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของเมืองแห่งอัคคีด้วย แถมต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าจะไปถึงวงแหวนเวทย์ที่ใกล้ที่สุดของดินแดนมนต์ดำ”

ชายชุดดำขมวดคิ้วและพึมพำเบา ๆ เขาคนนี้คือเมอร์ลินที่เพิ่งออกจากโบราณสถานมาด้วยความช่วยเหลือของวงแหวนเวทย์ ทำให้เขาถูกส่งตัวมายังที่ที่เขาไม่คุ้นเคย

หลังจากตรวจสอบแผนที่แล้ว เมอร์ลินก็พบว่าเขาอยู่ห่างจากเมืองโฟลตติ้งมากเกินไปแถมยังเป็นเขตของเมืองแห่งอัคคีด้วย

เดิมทีเมอร์ลินวางแผนจะฆ่าพ่อมดรีเซนก่อนแต่ต้องใช้เวลาสองสามเดือนกว่าจะถึงเมืองโฟลตติ้งเพราะสถานที่นั้นอยู่ไกลเกินไป

ดังนั้น หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นานและในที่สุดเมอร์ลินก็ตัดสินใจกลับไปยังดินแดนมนต์ดำก่อน หลังจากที่เขากลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการแล้ว เขาค่อยกลับไปยังเมืองโฟลตติ้งเพื่อไปฆ่าพ่อมดรีเซน

เมอร์ลินตรวจสอบแผนที่สั้น ๆ และพบว่าวงแหวนเวทย์ที่ใกล้ที่สุดต้องใช้เดินทางสองสามวันกว่าจะไปถึงที่นั่น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เมอร์ลินก็มองไปที่รถม้า แม้ว่าม่านจะถูกปิดอย่างหลวม ๆ แต่พลังจิตของเมอร์ลินก็สามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่ามีผู้หญิงเพียงสองคนในรถม้า

“ฉันต้องการให้พวกคุณพาฉันไปที่ภูเขาแบรมเบิล!”

เมอร์ลินพูดด้วยน้ำเสียงไม่สามารถปฏิเสธได้ จากนั้นเขาก็เก็บแผนที่และเข้าไปในรถม้า

ท่านหญิงนาเวียนและสาวใช้ตกใจทันทีที่เมอร์ลินเข้ามา พวกเธอทั้งสองก้มศีรษะลงขณะที่ซุกตัวกันอยู่ที่มุมรถม้า

เมอร์ลินเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาและนั่งเงียบ ๆ และไม่ได้พูดอะไร

คนขับรถม้าไม่กล้าต่อต้านคำสั่งของเมอร์ลิน เขาเคยไปเยี่ยมเคานต์กับไวเคานต์แอนเลสมาก่อน ที่นั่น เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของพ่อมดลึกลับที่ยืนอยู่ข้างเคานต์ด้วยสายตาของเขาเอง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา คนขับรถจึงขับรถม้าไปที่ภูเขาแบรมเบิลตามที่เมอร์ลินสั่งแต่โดยดี

ในระหว่างการเดินทาง เมอร์ลินไม่พูดอะไรสักคำ อย่างไรก็ตาม นอกจากการแสดงออกที่เยือกเย็นของเขาแล้ว เมอร์ลินดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ ดังนั้นท่านหญิงนาเวียนจึงค่อย ๆ รวบรวมความกล้าและเริ่มจ้องที่เมอร์ลิน

“ท่านพ่อมด คุณจะปล่อยพวกเราไปเมื่อพวกเราไปถึงภูเขาแบรมเบิลใช่หรือไม่ หรือคุณจะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นโฮมุนครุสที่ชั่วร้าย” ท่านหญิงนาเวียนรวบรวมความกล้าและถามเสียงต่ำ

“หืม? คุณรู้เรื่องโฮมุนครึสด้วยเหรอ?” เมอร์ลินลืมตาขึ้นทันใดและจ้องไปที่ท่านหญิงนาเวียน

ท่านหญิงนาเวียนไม่ได้ตื่นตระหนก เธอเพียงพยักหน้าแทน “ครั้งหนึ่งเราเคยเห็นโฮมุนครุสที่น่าเกลียดเดินตามหลังพ่อมด เราได้ยินจากท่านพ่อว่าพ่อมดได้เปลี่ยนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้กลายเป็นโฮมุนครุสด้วยวิธีการอันชั่วร้าย”

พ่อของท่านหญิงนาเวียนเป็นไวเคานต์ ดังนั้นเขาจึงเคยเห็นนักเวทย์มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่เป็นพ่อมดพเนจร ทุกวันนี้เหล่านักเวทย์ล้วนเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นโฮมุนครุสที่น่าสะพรึงกลัว แน่นอนว่านักเวทย์ที่นาเวียนgคยเห็นน่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ

เมื่อเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของท่านหญิงนาเวียนและสาวใช้ เมอร์ลินก็ยิ้มและส่ายหัว “ฉันจะไม่เปลี่ยนคุณเป็นโฮมุนครุส หลังจากที่พวกเราไปถึงภูเขาแบรมเบิล ฉันจะปล่อยพวกคุณไป”

ท่านหญิงนาเวียนสังเกตว่าเมอร์ลินไม่ได้ดู ‘น่ากลัว’ เหมือนเมื่อก่อน เธอจึงกล้าหาญขึ้นและเริ่มถามเขาเกี่ยวกับโลกของนักเวทย์

เมอร์ลินค่อนข้างเบื่อหน่ายระหว่างการเดินทางไกล ดังนั้นเขาจึงเลือกเรื่องง่าย ๆ ที่น่าสนใจสองสามเรื่องเพื่อพูดคุยกับนาเวียน เมื่อเห็นนาเวียนและสาวใช้ดูผ่อนคลายมากขึ้น เมอร์ลินก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาจะพบความสงบสุขที่เขาไม่รู้สึกมาเนิ่นนาน

“พ่อมดเมอร์ลิน เกี่ยวกับน้ำยาฟื้นฟูที่ท่านพูดถึง มันช่วยคนให้คงความอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ?” ท่านหญิงนาเวียนแสดงความสนใจต่อน้ำยาฟื้นฟูที่เมอร์ลินได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

“ใช่แล้ว หากคุณยังคงใช้น้ำยาฟื้นฟู มันสามารถรักษาความยืดหยุ่นของผิวและความอ่อนเยาว์ ทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัยได้” เมอร์ลินมองไปที่นาเวียนด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้น พ่อมดเมอร์ลิน ตอนนี้ท่านมีน้ำยาฟื้นฟูหรือไม่?” นาเวียนรีบถาม

“ฉันไม่มี แต่ถ้าคุณกลายเป็นนักเวทย์ คุณก็สามารถปรุงมันได้”

ทันทีที่เมอร์ลินพูดจบ เขาก็รู้สึกว่ารถม้าค่อยๆ หยุดลง เมื่อนาเวียนต้องการสอบถามเพิ่มเติม คนขับรถม้าพูดเสียงดังว่า "ท่านพ่อมด เรามาถึงภูเขาแบรมเบิลแล้ว"

"ในที่สุดก็ถึงซะที"

เมอร์ลินเหลือบมองแหวนมนต์ดำบนนิ้วของเขาและพยักหน้าเล็กน้อย แหวนมีปฏิกิริยา มันสัมผัสได้ถึงวงแหวนเวทย์ของดินแดนมนต์ดำที่อยู๋ใกล้ ๆ

"ถ้าอย่างนั้น ฉันไปก่อนนะ ขอบคุณพวกคุณที่พาฉันมาส่งที่นี่"

เมอร์ลินพูดกับนาเวียนและลงรถ ความผันผวนที่รุนแรงขององค์ประกอบลมปรากฏขึ้นรอบตัวเขาและเขาก็หายตัวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว

นาเวียนจ้องไปที่แผ่นหลังของเมอร์ลินอย่างว่างเปล่า ขณะที่สาวใช้เตือนเธอด้วยเสียงต่ำ “คุณหนู พ่อมดเมอร์ลินไปแล้ว เราจะไปที่ไหนกันดี?”

"ที่ไหนเหรอ?"

ใบหน้าของนาเวียนเต็มไปด้วยความสุขเมื่อเธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบ “แน่นอน เราต้องกลับไปหาท่านพ่อ ฉันตัดสินใจที่จะเป็นนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ฉันจะทำน้ำยาฟื้นฟู!”

สาวใช้ส่ายหัวเล็กน้อย เมื่อมองดูท่านหญิงนาเวียนที่ตื่นเต้น เธอรู้ว่าการกระทำของหญิงสาวจะทำให้ท่านไวเคานต์ปวดหัวอีกครั้ง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด