Chapter 31 : ทดลองบิน!
ทั้งสองอย่างต่างก็ต้องใช้รูนลมทั้งสิ้น
ในเวลานี้เขาสามารถสร้างได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
ไคลน์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้น “ฉันมีหน้าไม้รูนอยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่ไปเจอกับสัตว์อสูรแห่งสุสานที่เคลื่อนไหวเร็วๆก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิดนี่”
“เทียบกันแล้วความสามารถในการโจมตีระยะไกลน่าจะเหมาะกับฉันในตอนนี้มากกว่า”
“อย่างน้อยที่สุดก็สามารถยืนยันได้ว่าฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บง่ายๆล่ะนะ”
ไคลน์คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจสร้างใบพัดลอยลมขึ้นมาก่อน
เขาจะรอจนกว่าความเชี่ยวชาญในการใช้มีดหรือได้วัตถุดิบมามากพอถึงจะสร้างใบดาบรูนความเร็วสูงออกมา
[ใบพัดลอยลมระดับสมบูรณ์ : รูนลม 2/2 , ทองแดง 42/12 , เหล็ก 45/12 , เงิน 4/2]
ยืนยันการสร้าง!
[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนลม -2 , ทองแดง -12 , เงิน -2]
[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างใบพัดลอยลมระดับสมบูรณ์เสร็จสิ้น]
อุปกรณ์บินหน้าตาคล้ายกระเป๋าปรากฏขึ้นมาในมือของไคลน์
และก็เช่นเดิมที่ตัวพื้นผิวของมันจะต้องมีลวดลายประหลาดๆสลักเอาไว้
วัตถุดิบหลักของมันดูแล้วน่าจะเป็นทองแดงกับเหล็ก
นี่ก็หมายความแร่เงินถูกใช้ไปกับการทำวัตถุดิบภายในตัวเครื่องนั่นเอง
ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่อย่างที่เขาคิด
มันมีความยาวเพียงราวๆหนึ่งฟุต กว้างครึ่งฟุตและหนาประมาณสามนิ้วเท่านั้น
ตรงบริเวณทางด้านขวาของตัวเครื่องมีท่อไอพ่นติดเอาไว้
[แจ้งเตือนจากระบบ : จำเป็นต้องใช้ดวงวิญญาณ]
ริมฝีปากของไคลน์กระตุกขึ้นมาเล็กๆ
เขาจำเป็นต้องใช้ดวงวิญญาณแทนพลังงานดังที่คาด
หลังจากใส่ดวงวิญญาณลงไปดวงหนึ่งเขาก็ตรวจสอบรายละเอียดของไอเทมอีกครั้ง
[ใบพัดลอยลมระดับสมบูรณ์ : การใช้งาน 30/30 นาที]
ดวงวิญญาณหนึ่งดวงสามารถใช้บินได้สามสิบนาที
“สงสัยจริงๆว่าความสามารถในการบินมันเป็นยังไง?”
ไคลน์พลิกมือและสวมใบพัดลอยลมเอาไว้ตรงบริเวณหลังเอว
แกร๊ก!
ตัวใบพัดลอยลมปรากฏตะขอวงแหวนสี่วงเกาะเอวเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา
ในเวลาเดียวกันนั้นท่อไอพ่นตรงหลังของเขาเองก็เริ่มพ่นสายลมอันทรงพลังออกมา
“ลองลอยตัวดูก่อนแล้วกัน”
ไคลน์ค่อยๆถอนเท้าออกจากพื้นและลอยขึ้นฟ้าไปอย่างช้าๆ
เขาสามารถควบคุมทิศทางได้ในใจเลยซึ่งความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
จิ้งจอกน้อยที่กำลังเล่นกับไฟแบบเบื่อๆอยู่ก็ตกใจไม่น้อยเมื่อจู่ๆก็พบว่าไคลน์บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว
‘ลองทดสอบความเร็วหน่อยแล้วกัน’ ไคลน์คิดขึ้นมาอีกครั้ง
วิ้ว!
แรงลมจากไอพ่นเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
ร่างเขากลายเป็นเงาสายหนึ่งวิบวับไปมา
บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง
ความเร็วไม่ได้ช้าเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถกลับตัวกลางอากาศได้แบบสบายๆอีกด้วย
ไคลน์ทดสอบบินอยู่สองนาทีจึงค่อยๆเข้าใจวิธีควบคุมขึ้นมาเล็กน้อยและยิ่งทดสอบมากขึ้นก็ยิ่งเชี่ยวชาญ
ตอนนี้เขารวดเร็วยิ่งกว่าเวลาอยู่บนพื้นซะอีก!
บนพื้นเขาเคลื่อนไหวได้เพียงหน้า หลัง ซ้ายและขวาเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาสามารถบินขึ้นบินลงได้ด้วยและความเร็วเองก็เร็วยิ่งกว่าเวลาวิ่งเต็มสปีดอีก
“หงิงๆๆ!”
จิ้งจอกน้อยวิ่งตามมาอยู่บนฟื้นราวกับกำลังบอกเป็นนัยๆว่า ‘พาเค้าบินบ้างจิ’
ไคลน์หัวเราะเบาๆและร่อนลงพื้นจากนั้นก็ยกตัวของจิ้งจอกน้อยขึ้นมาอุ้มไว้และบินขึ้นฟ้าต่อ
หลังจากทดลองบินมาห้านาทีเต็มไคลน์ก็เริ่มคุ้นชินกับมันแล้ว
“บนพื้นยังเหลือวัตถุดิบรอให้เก็บอยู่อีก..เลิกเล่นดีกว่า”
ไคลน์ยิ้มอ่อนและร่อนลงพื้นพร้อมกับเก็บใบพัดลอยลมเข้าที่เก็บของไป
ในสุสานแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงหีบสมบัติเงินเท่านั้นแต่ยังมีทรัพยากรอื่นๆอยู่อีกเป็นจำนวนมาก
[ไม้+20 , หิน+15 , เหล็ก+18 , ทองแดง+12 , เถาวัลย์สีดำ+4 , ผลเถาวัลย์สีดำ+2...]
เขาจัดการเก็บของทุกๆอย่างที่เก็บได้มาจนหมด
‘วันนี้ยังเหลือโควตาการขุดค้นอีกหกรอบแต่พักก่อนดีกว่า’
ไคลน์จำเป็นต้องตรวจสอบคำใบ้ของทั้งห้าเส้นทางเสียก่อนจากนั้นก็ยังต้องเข้าไปในตลาดเพื่อขายของอีก
เขายังมีรูนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องเอามาให้ได้
คัมภีร์อัพเกรดฐานจำเป็นต้องใช้รูนหลายชนิดเช่นเดียวกับใบดาบรูนความเร็วสูงและแม้แต่ตัวกระถางรูนเองก็ยังต้องใช้เช่นกัน
[ถ้ำทางด้านบนมีอากาศสดชื่น]
[สุสานทางด้านล่างอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เต็มไปด้วยกับดักมากมายและมีทรัพยากรเพียงน้อยนิด]
[ขุดต่อไปทางด้านหน้าท่านจะเจอพื้นที่เต็มไปด้วยลาวาแต่จะมีหีบสมบัติถึงสามกล่องอยู่บนที่สูง]
[ขุดไปทางด้านซ้ายท่านจะเจอกิ้งก่าตาเดียวและทรัพยากรจำนวนหนึ่ง]
[ขุดไปทางด้านขวาท่านจะเจอรังแมลงมีพิษที่รอต้อนรับท่านอยู่ ถ้าอยากหน้าบวมเป็นหัวหมูก็ลองดูได้]
ไคลน์จ้องไปในทิศทางด้านหน้า
ด้วยใบพัดลอยลมเขาสามารถหลบเลี่ยงลาวาบนพื้นได้อย่างสบายๆ
ยังไงก็ตามเส้นทางถัดจากนั้นจะเหลือเพียง4เส้นทางเท่านั้น (ตัดด้านล่างออกเพราะมีแต่ลาวา)
ไคลน์ในตอนนี้ยังไม่อาจขุดลงไปในแม็กม่าได้
ถ้าเส้นทางทั้งสี่เส้นที่เหลือของสุสานถัดไปเต็มไปด้วยอันตรายแล้วล่ะก็...
‘คงไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั้ง ไม่จำเป็นต้องระวังตัวมากขนาดนั้นก็ได้’
ไคลน์ตบหน้าเรียกกำลังใจ “ไม่ต้องคิดมากแล้วไปขายของก่อนดีกว่า”
เขาเปิดเมนูแลกเปลี่ยนขึ้นมา
สินค้าสำหรับขาย
[ผู้ขาย : ไคลน์ 182.56]
[สินค้าที่ขาย : เนื้อกิ้งก่าตาเดียว 2 ชิ้น]
[สิ่งที่ต้องการ : รูนใดๆก็ได้]
[จำนวน : 2 ชุด]
[สินค้าที่ขาย : เนื้อปลาหมึกทรายเหลือง 2 ชิ้น]
[สิ่งที่ต้องการ : รูนใดๆก็ได้]
[จำนวน : 4 ชุด]
[สินค้าที่ขาย : ขนมปังธัญพืช 800 กรัม]
[สิ่งที่ต้องการ : รูนใดๆก็ได้]
[จำนวน : 1 ชุด]
[สินค้าที่ขาย : น้ำดื่ม600มิลลิลิตร]
[สิ่งที่ต้องการ : รูนใดๆก็ได้]
[จำนวน : 3 ชุด]
ไคลน์ใส่รายการแลกเปลี่ยนลงไปถึงสี่รายการในครั้งเดียว
ในบรรดาของพวกนี้ขนมปังธัญพืชคือของที่เขาได้มาจากแจ็คและทอม
เนื้อของกิ้งก่าตาเดียวกับปลาหมึกทรายเหลืองมีสารอาหารเพียงเล็กน้อยและไม่มีความสามารถเพิ่มเติมใดๆ
แย่ยิ่งกว่าเนื้อจากฟาร์มเพาะเนื้ออีก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเทขายให้หมด
เนื้อพวกนี้ถ้าเก็บไว้นานเกินไปพวกมันก็จะค่อยๆเน่าเสีย
ในทางกลับกันเนื้อของจระเข้เกราะหินมีความสามารถพิเศษดังนั้นแม้ว่าจะไม่สดใหม่แล้วแต่ก็ต้องกิน
ส่วนเหตุผลว่าทำไมเขาถึงวางขายน้ำรวมกันแล้วแค่1,800มิลลิลิตรนั่นก็เพราะว่าเขาไม่มีสต็อคไว้มากนัก
แม้ว่าเขาจะมีน้ำเหลืออยู่อีกถึง3,500มิลลิลิตรแต่อย่าได้ลืมว่าปริมาณการใช้น้ำต่อวันก็สูงไม่น้อย
หลังจากใช้ดื่ม ทำกับข้าว รดฟาร์มเนื้อและอื่นๆไปอีกก็ทำให้เขาเหลือน้ำเพียง2,100มิลลิลิตรเท่านั้น
‘สงสัยจริงๆว่าจะขายได้เท่าไหร่? ราคาที่ฉันตั้งนี่ถือว่าดีที่สุดในตลาดแล้ว...จะมีกี่คนที่ยินดีจะเอารูนมากแลกกันนะ?’
ไคลน์ปิดหน้าต่างแลกเปลี่ยนลงไปและหยิบพลั่วออกมาเริ่มขุดอุโมงค์ท่ามกลางความมืด
การแลกเปลี่ยนกับรูนเช่นนี้ไม่สามารถสำเร็จได้ในช่วงเวลาสั้นๆเป็นแน่ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องสนใจมันมากนัก