523-524
3/10
Ep.523
“เพราะฉันเคยเห็นไข่มุกวิญญาณซากศพลูกนี้มาก่อน” ต้นผลอายุวัฒนะไม่คิดปิดบัง เฉลยตามตรง
“นี่นายเคยเห็นมันมาก่อนด้วยหรอ?” ซูเฉินประหลาดใจมาก แม้ว่าไข่มุกวิญญาณซากศพจะเป็นสิ่งชั่วร้าย แต่อีกด้านหนึ่ง มันนับเป็นขุมทรัพย์ล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วไหนเลยจะปล่อยให้คนอื่นพบเห็นได้โดยบังเอิญ?
“ไข่มุกวิญญาณซากศพก้อนนี้ เดิมเป็นของผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจของพวกเรา” ต้นผลอายุวัฒนะอธิบาย
เผ่าพืชปีศาจถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างใหญ่ ย่อมมีผู้แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย
มีโอกาสที่คนผู้นั้นน่าจะเป็นคนเดียวกับที่หลบหนีจากทวีปพืชปีศาจมายังทวีปเสวียนเทียน
ช่วงเวลานั้นเขาคงนำสมบัติศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากของพืชปีศาจติดตัวมาด้วย และต้นผลอายุวัฒนะกับต้นผลแก่นแท้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“เสี่ยวโซ่ว หรือว่ามันจะเป็นของผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจที่พานายเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียน?” ซูเฉินเลียบเคียงถาม
“ใช่”
ต้นผลอายุวัฒนะพยักหน้าอย่างแรง
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจของนายก็น่าจะตายไปแล้ว”
เพราะหากผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจยังอยู่ เขาย่อมไม่มีทางทิ้งไข่มุกวิญญาณซากศพและต้นผลอายุวัฒนะไปแน่ๆ
“เสี่ยวโซ่ว ผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจตนนั้นเป็นพืชวิญญาณชนิดไหน? แล้วระดับฐานฝึกตนของเขาอยู่ขั้นอะไร?” ซูเฉินยังคงถามต่อ
เรื่องของผู้แข็งแกร่งเผ่าพืชปีศาจ เขารู้มานานแล้ว แต่ในบางแง่มุมไม่ได้เอ่ยถามแบบละเอียด
“เขาคือต้นหลิว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าเลเวล 10” ต้นผลอายุวัฒนะกล่าว
“ต้นหลิว?”
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ในสมองเขา อดไม่ได้ที่จะนึกถึงต้นหลิวที่เขาเคยเห็นในชีวิตก่อน
ต้นหลิวที่ชื่อฟังดูธรรมดา แตกต่างจากพืชปีศาจต้นอื่นๆ กลับสามารถฝึกตนจนถึงเลเวล 10 ได้?
เรื่องนี้ค่อนข้างเหลือเชื่อมากสำหรับเขา
ดูเหมือนว่าต้นผลอายุวัฒนะจะสังเกตเห็นอาการสงสัยจากท่าทีของซูเฉิน จึงอธิบายว่า “เจ้านาย เขาไม่ใช่ต้นหลิวธรรมดา แต่เป็นต้นหลิววัชระ”
“หลังจากระดับฝึกตนตัดผ่านเหนือเลเวล 10 จะสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ และครอบครองกายวัชระมิอาจทำลาย มีกำลังรบแข็งแกร่งเป็นพิเศษ”
“กายวัชระมิอาจทำลาย?”
ถึงจุดนี้ เขารู้สึกว่าคำตอบของต้นผลอายุวัฒนะเริ่มเกินจริงไปบ้างแล้ว เพราะหากมีผู้ครอบครองกายวัชระมิอาจทำลายได้จริงๆ นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะฆ่าไม่ตาย เช่นนั้นแล้วผู้แข็งแกร่งจะถูกขับไล่ออกจากทวีปพืชปีศาจมายังทวีปเสวียนเทียนได้อย่างไร? อีกทั้งสุดท้ายเหมือนจะตายลงด้วย
หลังจากนั้น ซูเฉินกับต้นผลอายุวัฒนะคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ แล้วปิด [พื้นที่เพาะปลูก]
เนื่องจากยังมีเวลาอีกสักพักกว่าจะไปถึงภูเขาอวี้หลิน ซูเฉินจึงหย่อนตัวลงบนเก้าอี้คนขับแล้วหลับตาพักผ่อน
ประมาณสองชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ร้องเตือน “เจ้านาย พวกเรากำลังจะไปถึงภูเขาอวี้หลินแล้ว”
ซูเฉินค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลาง และพบว่าข้างหน้าห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร มีทะเลสาบขนาดใหญ่
ทั้งยังมีสัตว์กลายพันธุ์นับหมื่นตัวรวมกันอยู่รอบๆ พวกมันมีหลากหลายสายพันธุ์มาก
“เสี่ยวจือ เลเวลของสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้เป็นยังไง?” ซูเฉินถาม
สัตว์กลายพันธุ์กลุ่มนี้ เขาย่อมไม่ปล่อยพวกมันไป แต่จะดีกว่าหากล่วงรู้กำลังรบของพวกมันก่อนเปิดศึก
“เจ้านาย ส่วนใหญ่เป็นสัตว์กลายพันธุ์ธรรมดา มีน้อยมากๆที่จะเป็นเลเวล 1 หรือ 2 ส่วนเลเวล 3 ขึ้นไปเหมือนจะมีแค่สัตว์กลายพันธุ์ที่สามารถใช้ธาตุไฟได้เพียงตัวเดียว และเลเวลของมันอยู่ที่ 6”
“อ่อนแอขนาดนี้เชียว?” ซูเฉินพึมพำ
เขาได้ข้อสรุปขึ้นมาทันที ว่าหากภูเขาอวี้หลินไม่มีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 ตัวนี้ สัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆคงถูกล่าและสังหารโดยขุมกำลังอื่นๆตั้งนานแล้ว
“สัตว์กลายพันธุ์บนภูเขาอวี้หลิน คือหนึ่งในเจ็ดขุมกำลังใหญ่ของเกาะหวังซวี่ถูกไหม?” ซูเฉินหันไปถามเฉินเมิ่งเฟย
ก่อนเข้าสู่เกาะหวังซวี่ เขาได้ยินเฉินเมิ่งเฟยเอ่ยถึงเรื่องนี้ ว่าเจ็ดขุมกำลังใหญ่บนเกาะหวังซวี่ หนึ่งในนั้นคือพวกสัตว์กลายพันธุ์ และเบื้องหลังของคลื่นสัตว์กลายพันธุ์ มีเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์คอยหนุนหลังอยู่
หากเป็นเช่นนั้นจริง งั้นสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 บนภูเขาอวี้หลิน ก็น่าจะเป็นเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์
หรือก็คือหนึ่งในห้าสุดยอดเผ่าพันธุ์ ที่ซูเฉินยังไม่เคยเจอมาก่อน
ดังนั้นเขาคาดหวังกับมันมากทีเดียว
4/10
Ep.524
“ผู้อาวุโส สัตว์กลายพันธุ์บนภูเขาอวี้หลินคือหนึ่งในเจ็ดขุมกำลังใหญ่ของเกาะนี้จริงๆ” เฉินเมิ่งเฟยตอบยืนยัน
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปพูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 แล้วขยายหน้าจอซิ”
ภาพบนหน้าจอเริ่มหมุนวน สัตว์ร้ายลำตัวยาวกว่าสิบเมตรปรากฏขึ้น ทั้งร่างของมันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ เป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่เหมือนกับนกฟีนิกส์
“ฟีนิกซ์เพลิง?”
ซูเฉินพึมพำ หันไปถามเฉินเมิ่งเฟย “สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 ตัวนี้คือสัตว์วิญญาณของเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?”
“ผู้อาวุโส ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เฉินเมิ่งเฟยส่ายหัว
เธอใช้เวลาอยู่บนเกาะหวังซวี่แค่ไม่นาน หลายสิ่งหลายอย่างที่รู้มาล้วนเป็นคำบอกเล่า
เรื่องที่ว่าสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 ตัวนี้มาจากเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ
“ผู้อาวุโส มันเป็นเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
ในเวลานั้นเอง จู่ๆหวงหลิงก็พูดขึ้น “สัตว์วิญญาณตนนี้ เรียกตัวเองว่าเทพอัคนีหลุดโลกา แต่โลกภายนอกเรียกมันว่าหงส์เพลิง”
“เป็นแค่สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 แต่กล้าเรียกตัวเองว่าเทพ?”
ซูเฉินส่ายหัว ในความคิดเขา หงส์เพลิงตัวนี้อวดดีซะไม่มี
อย่างไรก็ตาม มันจะอวดดีหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเขา เหตุผลหลักๆที่เขามาที่นี่ก็เพื่อศิลาวิญญาณเหิน
“พี่เฉิน พวกสัตว์กลายพันธุ์กำลังวิ่งเข้ามา!”
การปรากฏตัวของ [รถศึกอัจฉริยะ] ดึงดูดความสนใจของพวกสัตว์กลายพันธุ์
ทันใดนั้นเอง สัตว์กลายพันธุ์นับพันตัววิ่งเข้ามา
หยางฮ่าวเห็นแบบนั้น จึงรีบร้องเตือนเขา
“เสี่ยวจือ จัดการพวกมันซะ!” ซูเฉินออกคำสั่ง
พวกสัตว์กลายพันธุ์เบื้องหน้า อย่าเห็นว่าปริมาณเยอะ เพราะความจริงพวกมันมีเลเวลสูงสุดอยู่แค่ 2 เท่านั้น
แค่พลังของ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มากเกินพอแล้ว
“น้อมรับคำสั่ง”
[รถศึกอัจฉริยะ] ควบคุม [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] กราดยิงอย่างดุเดือด
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
ภายใต้ห่ากระสุน สัตว์กลายพันธุ์นับพันถูกสังหาร ทั้งยังมีชิ้นส่วนดรอปมากกว่า 100 ชิ้น แต่พวกมันทั้งหมดถูกรวบรวมโดยอัตโนมัติ แต่ละรายการผุดขึ้นในใจของซูเฉิน
ซูเฉินเดิมต้องการตรวจสอบดู แต่จู่ๆก็พบว่ามีลูกไฟอันร้อนแรงพุ่งมาทางเขา
เจ้าของลูกไฟนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นหงส์เพลิง
[รถศึกอัจฉริยะ] ปัจจุบันอยู่ในรูปแบบเลเวล 6 แล้ว ซึ่งเพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีด้วยเวทย์ลูกไฟเลเวล 6 ได้
ซูเฉินตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่เมื่อลูกไฟใกล้เข้ามา เขาสัมผัสได้ถึงพลังธาตุไฟอันบ้าคลั่ง มันรุนแรงซะจนชวนให้เขาใจสั่น
ถึงจุดนี้ เขาถึงตระหนักว่า ลูกไฟที่พุ่งเข้ามามิใช่เลเวล 6 อย่างแน่นอน แต่น่าจะเกินกว่าเลเวล 7
และ [รถศึกอัจฉริยะ] ไม่สามารถป้องกันเวทมนต์เลเวล 7 ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินรีบเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว
แทบจะในทันทีที่ลงจากรถ สองมือกุมลงบนด้ามดาบทมิฬ และฟาดฟันออกไป
เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีขาวกระจายออกจากคมดาบ เจตจำนงเยือกแข็งอันน่าสยดสยองแผ่นซ่านออกมา ปะทะเข้ากับลูกไฟอย่างหนักหน่วง
หลังจากพัวพันกันเล็กน้อย สุดท้ายกลับเป็นกระแสคลื่นสีขาวที่พ่ายแพ้ต่อลูกไฟ ถูกระเหยออกไปโดยตรง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
เห็นฉากนี้ ซูเฉินรู้สึกตกใจมาก
นับแต่ขึ้นมาบนเกาะหวังซวี่ แม้ระดับฝึกตนจะถูกลดลงหนึ่งขั้น แต่ธาตุน้ำแข็งคือการหลอมรวมเข้ากับวัตถุไร้รูปสองชนิด ยิ่งปลดปล่อยด้วย [ดาบเสริมมนตรา] ทำให้พลังของมันไม่ด้อยไปกว่าเลเวล 7 อย่างแน่นอน
กระนั้นก็ยังพ่ายแพ้ในการโจมตีเดียว นี่คือสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง
เมื่อเห็นว่าลูกไฟที่เหลือยังคงพุ่งเข้าหาเขา ซูเฉินเรียกใช้งาน [เกล็ดแขนทองคำ] และปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณออกมา พร้อมเอื้อมมือไปข้างหน้า และคว้ามันไว้
บรึ้มมมม!
แม้ลูกไฟจะถูกทำลายได้สำเร็จ แต่ซูเฉินยังถูกบังคับให้ต้องถอยหลังไปหลายก้าว
“เอ๋? ทำไมเวทย์น้ำแข็งและร่างกายของเจ้าจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?”
ระหว่างนั้นเอง เสียงอันนุ่มนวลของผู้หญิงคนหนึ่งแว่วเข้ามาในหูของซูเฉิน
ซูเฉินค่อยๆเงยหน้าขึ้น สิ่งที่เห็นในสายตาเขา คือหงส์เพลิงตัวหนึ่งที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟ กำลังลอยอยู่กลางอากาศ
มันนั่นเองที่เป็นเจ้าของคำพูด