513-514
Ep.513
ซอมบี้ตนนี้ คือซอมบี้เลเวล 4 อีกตัวที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอควบคุมส่วนกลางในตอนแรก แต่การที่มันซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร
“ผู้น้อยฉวี่อู๋ซวง ยินดีที่ได้พบผู้อาวุโส!” ซอมบี้เลเวล 4 ก้าวออกมา แสดงความเคารพแก่ซูเฉิน
“ซอมบี้มีสติปัญญา?”
ซูเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย มองฉวี่อู๋ซวงด้วยความสนใจ กล่าวเสียงเรียบว่า “แกหลบๆซ่อนๆอยู่ที่นี่ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
“ผู้อาวุโส ฉันมาที่นี่เพื่อทำข้อตกลงกับคุณ” ฉวี่อู๋ซวงตรงเข้าประเด็น
ซอมบี้ก้าวออกมาทำข้อตกลงกับมนุษย์? เรื่องนี้ค่อนข้างแปลกใหม่ ซูเฉินเริ่มเกิดความสนใจขึ้นมา กล่าวเสียงต่ำ “ว่าต่อสิ”
เขาอยากจะดูว่าซอมบี้เลเวล 4 จะเล่นกลอุบายอะไร
“ผู้อาวุโส ฉันต้องการให้คุณช่วยฆ่าคน! แน่นอน ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสม” ฉวี่อู๋ซวง กล่าวอย่างจริงจัง
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของทุกคนแสดงออกถึงความประหลาดใจ
ฉวี่อู๋ซวง ต้องการจ้างวานซูเฉินเป็นนักฆ่า เรื่องนี้เหนือความคาดหมายนัก
ซูเฉินยกมือขึ้นถูจมูก ยิ้มแล้วกล่าวว่า “แกอยากฆ่าใคร?”
“โจวชิงหยางแห่งเมืองหยูเซียว” ฉวี่อู๋ซวง ตอบอย่างไม่ลังเล
สิ้นเสียง สีหน้าของเฉินเมิ่งเฟยและหวงหลิงแปรเปลี่ยนไป
“ผู้อาวุโส โจวชิงหยางเป็นเผ่าอมตะ อีกทั้งยังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 กำลังรบของเขาแข็งแกร่งมาก” หวงหลิงรีบเตือน
ซูเฉินไม่ใส่ใจ เผ่าอมตะเลเวล 6 ไม่อาจก่อคลื่นลมคลื่นฝนใดๆแก่เขาได้
เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดไม่ออก นั่นคือเขากับฉวี่อู๋ซวง เพิ่งพบกันครั้งแรก แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงคิดว่าตนสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ได้?
เมื่อสงสัย ซูเฉินจึงเอ่ยถาม “แกรู้หรอว่าฉันมีกำลังรบขั้นไหน? ทำไมถึงได้เชื่อใจฉัน?”
“รายละเอียดเชิงลึกของผู้อาวุโส ฉันไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก แต่เคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง”
ฉวี่อู๋ซวง กระแอมเบาๆ และเริ่มอธิาย “ผู้อาวุโสเคยสังหารพวกเผ่าเทพบนท่าเรือก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็ฆ่าชุยมู่จากเผ่าหนามหยก เพียงเท่านี้ก็พอแล้วที่จะพิสูจน์ถึงกำลังรบ การปลิดชีวิตโจวชิงหยาจึง ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไร”
เหตุผลที่เขามั่นใจในตัวซูเฉิน เป็นเพราะเขาทราบดีว่าข้างกายชุยมู่มีหุ่นเชิดเลเวล 6 คอยพิทักษ์อยู่
ซึ่งพลังของหุ่นเชิดเลเวล 6 คงไม่ต้องกล่าวถึง
แต่ซูเฉินยังคงสามารถสังหารมันลงได้อย่างง่ายดาย นี่แสดงให้เห็นว่ากำลังรบของซูเฉินน่าจะสูงกว่าเลเวล 6
“เอาล่ะ ถ้างั้นไหนลองบอกมาสิ ว่าแกจะให้อะไรฉันเป็นค่าตอบแทน?” ซูเฉินกล่าวอย่างสงบ
ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วเขาต้องกำจัดพวกต่างเผ่าบนเกาะหวังซวี่ทั้งหมดอยู่แล้ว หากมีโอกาสได้รับผลประโยชน์ ทำไมต้องปฏิเสธด้วยเล่า?
“ฉันสามารถพาผู้อาวุโสไปยังเขตแดนลับโบราณได้ ข้างในนั้นมีของล้ำค่ามากมาย” ฉวี่อู๋ซวง กล่าวอย่างจริงจัง
“งั้นแกเคยเข้าไปในเขตแดนลับที่ว่ามาแล้วหรอ?” ซูเฉินถามพลางครุ่นคิด
สถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นเขตแดนลับ บ่อยครั้งมักได้รับสมบัติดีๆติดไม้ติดมือกลับมา
แน่นอน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอยู่ด้วยเช่นกัน
“ขอรับ”
ฉวี่อู๋ซวงพยักหน้า
“ในเมื่อแกเคยไปที่นั่น งั้นก็ควรได้รับสมบัติติดไม้ติดมือมาบ้างถูกไหม?”
กล่าวถึงจุดนี้ เขาก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องมองฉวี่อู๋ซวง
ความหมายในแววตาเขาชัดเจน นั่นคือคำพูดมันไม่มากพอ แกควรแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ ถูกไหม?
ฉวี่อู๋ซวง เข้าใจในทันที ไม่รอช้า รีบหยิบเขาชิ้นส่วนเกราะดำออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อ และผลไม้สีเทาที่แผ่กลิ่นอายชั่วร้ายออกมา
จากนั้นกล่าวว่า “ผู้อาวุโส นอกจากสองสิ่งนี้แล้ว ฉันยังได้รับเม็ดยาเสริมพลังฝึกตนในเขตแดนลับเช่นกัน แต่มันถูกใช้ไปแล้ว”
เมื่อซูเฉินเห็นเกราะดำชิ้นนั้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาทันที
เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากชิ้นส่วนเกราะ มันไม่ต่างกับชุดเกราะดำที่เหมิงเซิ่งสวมใส่อยู่เลย
Ep.514
ซูเฉินกวาดพลังจิตออกไป หลังจากได้รับชิ้นส่วนของเกราะและผลไม้สีเทาในมือแล้ว ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “เขตแดนลับที่แกพูดถึง มันตั้งอยู่บนเกาะหลิงซู่ใช่ไหม”
“ผู้อาวุโส ท่านทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร?” ฉวี่อู๋ซวงตกใจคาดไม่ถึง
เขตแดนลับบนเกาะหลิงซู่มีมานานแล้ว แต่หากไม่ใช้วิธีการพิเศษ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นพบมัน ไม่ต้องกล่าวถึงการเปิดเกาะ
แล้วซูเฉินไปได้ข้อมูลนี้มาจากที่ใด?
“แกรู้จักเหมิงเซิ่งไหม?” ซูเฉินถามแทนคำตอบ
ฟังจากน้ำเสียงของฉวี่อู๋ซวง เขตแดนลับที่กล่าวถึง สมควรเป็นสถานที่แห่งหนึ่งบนเกาะหลิงซู่
“ฉันไม่รู้” ฉวี่อู๋ซวงส่ายหัว
“หือ?”
ซูเฉินเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย
เดิมที เขาคิดว่าเหมิงเซิ่งและฉวี่อู๋ซวงต่างก็เคยไปยังเขตแดนลับด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นทั้งสองน่าจะรู้จักกัน
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าฉวี่อู๋ซวงจะปฏิเสธในลมหายใจเดียว และดูจากท่าทีของมัน เหมือนไม่ได้โกหก
ไตร่ตรองอย่างเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ซูเฉินเริ่มเอ่ยปากถามต่อ “เล่าเรื่องเขตแดนลับนั่นออกมา ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าแก แล้วไปกอบโกยสมบัติเองหรอ?”
ฉวี่อู๋ซวง เหมือนไม่กลัวเลยสักนิด เขายิ้มและอธิบายว่า “ผู้อาวุโสคงยังไม่ทราบ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะเปิดเขตแดนลับได้ คือต้องมีสายเลือดพิเศษ และฉันก็มีมัน”
“สายเลือดพิเศษอีกแล้ว …” ซูเฉินพึมพำ
คนที่มีสายเลือดพิเศษเป็นอะไรที่พบเจอได้ยากมากๆ แต่วันนี้ซูเฉินเจอสองคนติดๆกัน
มองไปยังฉวี่อู๋ซวง ซูเฉินเผยอปาก “แกเคยคิดบ้างไหม ว่าฉันสามารถใช้วิธีฆ่าแก แล้วนำเลือดนั่นไปเปิดเขตแดนลับ?”
ฉวี่อู๋ซวง ยังคงไม่ตื่นตระหนก กล่าวอย่างสงบว่า “หากคิดฆ่าฉัน ผู้อาวุโสทำได้ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ แต่ถ้าท่านต้องการเปิดเขตแดนลับโดยใช้เลือดของฉัน นั่นเป็นไปไม่ได้”
ได้ยินแบบนี้ ซูเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร รอให้ฉวี่อู๋ซวงอธิบายต่ออย่างเงียบๆ
“เพื่อที่จะเปิดเขตแดนลับ นอกจากต้องใช้เลือดของฉันแล้ว มันต้องใช้ความสมัครใจของฉันด้วย ถ้าฉันตาย มันจะไม่มีทางเปิดอย่างแน่นอน” ฉวี่อู๋ซวงอธิบาย
“มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”
ซูเฉินปาดจมูกเขา ความคิดค่อยๆหมุนวน
คำพูดของฉวี่อู๋ซวง เขาไม่ได้เชื่อมันทั้งหมด
ทว่า เขตแดนลับนี่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก งั้นขอเอาเป็นว่าเชื่อมันก่อนก็แล้วกัน
เพราะอย่างไรเสีย ซอมบี้เลเวล 4 ในสายตาของซูเฉิน มันไม่ต่างจากมดปลวก เขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับมันมากเกินไป
“ได้ ฉันยอมรับข้อตกลงนี้”
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินเอ่ยปากออกมา
ฉวี่อู๋ซวงปลาบปลื้มดีใจมาก รีบกล่าวขอบคุณ “ขอบพระคุณผู้อาวุโส”
“มันเรื่องผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ไม่มีอะไรต้องขอบคุณ”
ซูเฉินตอบกลับเสียงเย็น แล้วเอ่ยถามว่า “แกกับโจวชิงหยางมีความเกลียดชังอะไรกัน ทำไมถึงอยากฆ่าเขา?”
นี่คือจุดที่ซูเฉินสงสัย ตามหลักเหตุผลแล้ว ซอมบี้สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นสาขารองของเผ่าอมตะ ฉะนั้นเกิดความขัดแย้งอะไรระหว่างพวกเขากันแน่?
ฉวี่อู๋ซวงเหมือนย้อนนึกอะไรบางอย่าง สีหน้าเริ่มแสดงถึงความขุ่นเคือง สองมือกำแน่น
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กัดฟันและกล่าวว่า “ครอบครัวของฉันตายด้วยน้ำมือของโจวชิงหยาง ฉันเองก็ตาย แต่กลายเป็นซอมบี้ ดังนั้นเลยต้องการล้างแค้นให้ครอบครัว!”
คำเหล่านี้ ไม่มีอะไรผิดปกติ การแก้แค้นให้คนที่รักเป็นเรื่องที่หลายๆคนมักตัดสินใจทำกัน
หยางฮ่าวและคนอื่นๆ เริ่มหวั่นไหว สายตาที่มองฉวี่อู๋ซวงไม่ได้แฝงความเป็นศัตรูเหมือนเมื่อก่อน
กระนั้น ซูเฉินกลับตระหนักได้ถึงปัญหาร้ายแรง
เป็นที่ทราบกันดี ว่าหลังจากมนุษย์ถูกเปลี่ยนเป็นซอมบี้แล้ว ความคิดและห้วงอารมณ์ของพวกเขาจะเปลี่ยนไป ต่อให้สามารถกลายเป็นซอมบี้ที่มีสติปัญญา ก็หลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไม่ได้
ที่ได้รับการยกเว้นคงมีแค่นับมนุษย์ที่มีสายเลือดพิเศษในเมืองเทียนถาน
แล้วฉวี่อู๋ซวงจะมีสายเลือดแบบนั้นหรือ? –ความเป็นไปได้มีน้อยมาก
เช่นนั้น หมายความว่าเรื่องที่เขาบอกอยากจะแก้แค้นน่าจะเป็นเรื่องโกหก จะต้องมีแผนการบางอย่างแน่ๆ
คิดได้แบบนี้ ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ซัดหมัดใส่ฉวี่อู๋ซวง กดเขาลงกับพื้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ