505-506
Ep.505
สิ้นเสียง สองเท้าของซูเฉินเปล่งประกายสีม่วง ร่างเขากลายเป็นพร่ามัว หายวับไปจากที่เดิมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ปรากฏตัวขึ้นอีกที ก็มาอยู่เบื้องหน้าเหมิงเซิ่งในระยะประชิดแล้ว
“ว่องไวมาก!”
เปลือกตาของเหมิงเซิ่งกระตุก
ความว่องไวของซูเฉิน เขาสัมผัสได้ว่ามันเหนือกว่าของผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 อย่างสิ้นเชิง มันคือความเร็วที่เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรกในชีวิต
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก
นั่นเพราะเกราะดำขาดรุ่งริ่งที่สวมใส่อยู่ มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนที่มีระดับสูงกว่า ก็ยังไม่อาจทำร้ายเขาได้แม้ปลายเล็บ
ยิ่งเป็นระดับเดียวกันอย่างซูเฉิน เหมิงเซิ่งเรียกได้เลยว่าเป็นอมตะ
ต่อให้ซูเฉินว่องไวมากแล้วไง?
ผลแพ้ชนะขั้นสุดท้าย มันวัดกันที่พลังโจมตี หากซูเฉินไม่สามารถทำลายการป้องกันได้ ก็อย่าหวังว่าจะโค่นเขา
แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินปลดปล่อยพลังจิตออกมา พันธนาการเหมิงเซิ่งเอาไว้ พริบตานั้นกระบี่ทมิฬเล่มยาวปรากฏขึ้นในมือเขา สับลงเบื้องหน้าเหมิงเซิ่ง
ครืน ครืนนนน
เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในอากาศ รอยแยกมิติผุดขึ้นต่อหน้าต่อตาเหมิงเซิ่ง ในเวลาเดียวกัน กระแสวังวนสีดำโผล่ออกมาจากมัน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
เหมิงเซิ่งเบิกตากว้าง ร้องโวยวายด้วยความตกใจ ข้างในกระแสวังวนสีดำ กำลังปล่อยปล่อยเจตนาฆ่าที่สามารถทำลายล้างได้กระทั่งสวรรค์และปฐพีออกมา
เขากระจ่างแจ้งแก่ใจ ว่าหากไม่สามารถหลบได้ทันเวลา เกรงว่าจะถูกสูบชีวิตเข้าไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
เหมิงเซิ่งดิ้นรนสุดชีวิต พยายามหนีออกไปให้ห่างจากที่นี่
ทว่าพลังจิตที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันเหนือกว่าเลเวล 6 ส่งผลให้ไม่สามารถสลัดหลุดได้ชั่วขณะ ได้แต่เฝ้ามองดูกระแสวังวนสีดำค่อยๆโถมเข้ามา
เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด แคว๊กกก!
ภายใต้เสียงเสียดสีเสียวฟัน เกราะดำบนร่างเหมิงเซิ่งค่อยๆถูกแหวกออกอย่างช้าๆ
เมื่อสญูสิ้นการป้องกันจากเกราะดำ เลือดเนื้อบนร่างกายก็ถูกฉีกอย่างง่ายดาย
ชั่วพริบตาเดียวกว่าครึ่งร่างของเหมิงเซิ่งเจิ่งนองไปด้วยเลือด
“อ๊ากกกกก!”
เหมิงเซิ่งส่งเสียงกรีดร้องบีบหัวใจ
ซูเฉินไม่หวั่นไหว ควบคุม [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] ต่อไป ให้กระแสวังวนกลืนกินร่างเหมิงเซิ่งอีกครึ่งที่เหลือ แต่ในเวลานั้นเอง ภายใน [พื้นที่เพาะปลูก] บนข้อมือเขา จู่ๆก็ได้รับสัญญาณเตือนรุนแรงจากต้นผลอายุวัฒนะ
“หือ?”
ซูเฉินเลิกคิ้ว ขะลอการสังหาร หันมาเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] แล้วเอ่ยถามกับต้นผลอายุวัฒนะ “เสี่ยวโซ่ว มีอะไรงั้นหรอ?”
“เจ้านาย ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผลสายฟ้าห้าสาย , ผลพละกำลังและผลปกปักษ์” ต้นผลอายุวัฒนะตอบกลับ
ซู๊ดดดด!
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินสูดหายใจลึก สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปทันที
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องผลสายฟ้าห้าสายและผลปกปักษ์มาก่อนเลย รู้แค่ว่าผลพละกำลังสามารถช่วยเสริมความพละกำลังของผู้รับประทานได้
ซึ่งสรรพคุณของมันไม่ด้อยไปกว่าผลแก่นแท้ และในทวีปพืชปีศาจ เจ้าสิ่งนี้น่าจะอยู่ในระดับสมบัติศักดิ์สิทธิ์
“เสี่ยวโซ่ว นายพอจะจับสัมผัสได้ไหม ว่ากลิ่นอายมาจากจุดไหน?” ซูเฉินถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของพืชปีศาจ เป็นสิ่งที่ไม่อาจรอได้ หากพบเบาะแสแล้ว เขาย่อมไม่พลาดมันไป
“เจ้านาย มีกลิ่นอายของผลไม้สามชนิดนี้บนร่างมนุษย์ผู้นั้น” ต้นผลอายุวัฒนาตอบอย่างรวดเร็ว
“เหมิงเซิ่งน่ะเหรอ?”
หัวใจของซูเฉินเต้นแรง เลื่อนสายตามองเหมิงเซิ่ง จากนั้นนำ [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] เก็บกลับไป
วินาทีที่ [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] ถูกเก็บ กระแสวังวนทมิฬที่ห่อหุ้มเหมิงเซิ่งหายไป
เหมิงเซิ่ง ณ ขณะนี้ แม้ยังไม่ตาย แต่ลมหายใจเบาบางราวกับผ้าไหม มีสภาพน่าสังเวชมาก
ครึ่งตัวเต็มไปด้วยเลือดเนื้อเลอะเลือน บางตำแหน่งสามารถมองเห็นได้ถึงกระดูกขาวๆ ชวนให้ผู้คนรู้สึกขนลุก
ซูเฉินกวาดสายตามอง ไม่สนใจบาดแผลของศัตรู หันมาถามต้นผลอายุวัฒนะว่า “เสี่ยวโซ่ว ผลสายฟ้าห้าสายกับผลปกปักษ์คืออะไร?”
Ep.506
“ผลสายฟ้าห้าสายคือผลไม้ที่มีสรรพคุณของสายฟ้าห้าชนิด ไม่ว่าใครก็ตามที่รับประทานมันลงไป พวกเขาจะกลายเป็นปรมาจารย์มนตราธาตุสายฟ้า และสามารถปลดปล่อยเวทย์สายฟ้าห้าสายได้ ซึ่งอานุภาพของมัน เหนือกว่าเวทย์ในระดับเดียวกันมาก”
“ผลปกปักษ์คือผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพ หลังจากทานแล้ว สมรรถภาพทางกายจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก นี่สอดคล้องกับเรื่องที่ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา ทนทานกว่าผู้คนในระดับเดียวกัน” ต้นผลอายุวัฒนะอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นเกินบรรยาย ถึงขั้นลืมหายใจไปชั่วขณะ
ผลสายฟ้าห้าสายและผลปกปักษ์ พวกมันคือสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ในความคิดของซูเฉิน สรรพคุณของพวกมัน มีประโยชน์กว่าผลพละกำลังซะอีก
นั่นเพราะ ซูเฉินครอบครอง [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] อยู่ก่อนแล้ว หากเปิดใช้งานเจ้าสิ่งนี้ พละกำลังของเขาจะพุ่งทะยานอยู่ในชนิดที่เรียกได้เลยว่าคงกระพัน ต่อให้เขาได้ผลพละกำลังมากิน ก็คงช่วยอะไรได้ไม่มากนัก
ขณะที่ผลสายฟ้าห้าสายและผลปกปักษ์นั้นต่างออกไป
อย่างแรกสามารถช่วยเสริมพลังแก่เวทย์ธาตุสายฟ้าได้ อย่างหลังช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
ใช้เวลาสักพักหนึ่งเลย ซูเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์อีกครั้ง แล้วค่อยเบนสายตาไปตกลงบนร่างของเหมิงเซิ่ง
ก่อนหน้านี้ที่เขาสู้กับเหมิงเซิ่ง เขาพบว่าเหมิงเซิ่งมีพละกำลังและความแข็งแกร่งทางกายภาพเหนือกว่าเลเวลที่ตนเองมีมากนัก
และเวทย์สายฟ้าที่เขาปลดปล่อยออกมานั้น มันเทียบได้เลยกับสายฟ้าที่ผสานเข้ากับวัตถุไร้รูปทั้งสองของซูเฉิน
ซึ่งในตอนแรก เรื่องนี้ทำให้ซูเฉินรู้สึกทึ่งไม่น้อย ตอนนี้พอได้ฟังคำอธิบายจากต้นผลอายุวัฒนะ เขาถึงค่อยเข้าใจ ว่าเหมิงเซิ่งต้องรับประทานผลไม้สามชนิดนี้ลงไปอย่างแน่นอน และคงไม่ใช่จำนวนน้อยๆด้วย มิฉะนั้นไม่มีทางสำแดงพลังที่แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ออกมา
“เหมิงเซิ่ง แกอยากจะตายแบบสบายๆ หรือตายแบบเจ็บปวดทรมาน?” ซูเฉินเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ
หากต้องการผลไม้สามชนิดนี้มาครอบครอง สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาที่อยู่ของผลไม้สามชนิดนี้
และชัดเจนว่าเหมิงเซิ่งรู้คำตอบ ดังนั้นคงต้องงัดปากเขา
“ช่วยให้ฉันได้ตายแบบสบายๆเถอะ” เหมิงเซิ่งยิ้มขม เขาพ่ายแพ้ต่อซูเฉินอย่างสิ้นเชิง
สำหรับคนที่โคตรภาคภูมิใจในตัวเองเช่นเขา คำๆนี่ไม่ต่างจากระเบิดร้ายแรง
และอีกอย่าง เขาตระหนักดี ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรอดชีวิต จึงเลือกความตาย
“ในเมื่อแกเลือกข้อนี้ งั้นก็ช่วยตอบคำถามฉันสักสองสามข้อแล้วกัน” ซูเฉินกล่าวเสียงเรียบ
“ว่ามาสิ”
อีกฝ่ายเป็นดั่งมีด ส่วนตนเป็นดั่งปลาบนเขียง เหมิงเซิ่งตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ไม่มีทางให้เลือกอยู่แล้ว
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวสรุปคร่าวๆว่า “แกน่าจะเคยกินผลไม้ที่ช่วยเสริมสร้างพละกำลัง , ผลไม้ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพ และผลไม้ธาตุสายฟ้ามาก่อนใช่ไหม?”
“ใช่”
เหมิงเซิ่งไม่ได้ปิดบังใดๆ
ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกาย ยังคงถามต่อว่า “บอกฉันมาว่าพวกมันอยู่ที่ไหน แล้วฉันจะยอมให้แกไปสบาย!”
“ฮี่ ฮี่ …”
เหมิงเซิ่งหัวเราะด้วยความเจ็บปวด ในแววตาเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน “ถ้าเรื่องนี้คงไม่ได้ ไหนๆข้าก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คิดหรือว่าข้าจะยอมบอกเจ้า?”
ซูเฉินไม่โกรธสักนิด ยกมือขึ้นปาดจมูก มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มน่าขนลุก
“หมายความว่าแกยังอยากจะงัดกับเหล็กแข็งอย่างฉันอีกใช่ไหม? ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าวิธีการทรมานของฉัน ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายเอามากๆ”
“มันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าความตายหรอก ข้าก็แค่รู้สึกทรมานอีกนิดก่อนตาย ไม่เห็นต้องกลัวอะไร” เหมิงเซิ่งฉีกยิ้มมืดมน
“เมื่อก่อนก็มีพวกปากแข็งแบบแกเหมือนกัน แต่สุดท้ายทุกคนยอมรับสารภาพหมดเปลือก ฉันหวังว่าแกจะเป็นคนแรกนะที่สามารถอดทนได้จนตัวตาย”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นหยิบ [โพชั่นรักษา] ออกมา และบังคับให้เหมิงเซิ่งดื่มมันลงไป
อาการบาดเจ็บของเหมิงเซิงรุนแรงมาก หากต้องรับการทรมาน เกรงว่าเขาอาจจะไม่สามารถทนได้ แค่สองสามครั้งก็ตายแล้ว
ดังนั้นก่อนที่จะรู้ที่อยู่ของผลไม้ทั้งสามชนิด ซูเฉินจะไม่ยอมให้เหมิงเซิ่งตายง่ายๆ
“เจ้าไม่ได้บอกว่ากำลังจะทรมานข้าหรอกหรือ? แล้วทำไมจึงรักษาอาการบาดเจ็บให้ข้าเล่า?” เหมิงเซิ่งรู้สึกสับสน
ตอนนี้ เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าบาดแผลบนร่างกายกำลังสมานตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พลังชีวิตก็ค่อยๆฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน