104 -พบเจอกับหลี่เสี่ยวม่าน
104 -พบเจอกับหลี่เสี่ยวม่าน
ภายใต้สถานการณ์อันตรายเหล่านี้ซึ่งชีวิตของเย่ฟ่านอาจถูกดับเมื่อใดก็ได้ เย่ฟ่านทำได้เพียงพิจารณาอย่างจริงจังในขณะที่เขาซ่อนอย่างระมัดระวังและเลือกที่จะซ่อนตัวเองในจุดบอดของนักรบตระกูลเจียง
สิ่งนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาห้าถึงหกวันก่อนที่เขาจะค่อยๆฟื้นตัว อาจกล่าวได้ว่าเป็นการทรมานรูปแบบหนึ่ง และภายในเวลาไม่กี่วันนี้ ภายใต้การขาดแคลนอาหารและความทรมานจากบาดแผล เขาจึงผอมลงมาก
“ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายที่พิเศษของข้าซึ่งดีกว่าผู้ฝึกตนธรรมดา ข้าคงถูกแสงสีฟ้านั่นฆ่าไปแล้ว” เย่ฟ่านจ้องมองที่ขอบฟ้าในขณะที่เขาพึมพำ “ข้าจะหนีจากการทดสอบนี้อย่างแน่นอน ข้าไม่สามารถตายที่นี่ได้”
“ตระกูลเจียง…….” เย่ฟ่านกัดฟันของเขา
“ข้ากินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เพียงชนิดเดียวและดื่มจากน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ประเภทหนึ่ง และมันทำให้ทั้งตัวของข้าเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าข้าขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์อีกแปดลูก…….”
แม้ว่าเขาจะคอยให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลใจที่การเดินหน้าต่อไป
ผ่านไปเพียงวันเดียวและความคิดของเย่ฟ่านก็ถูกลบออกไปทั้งหมด เขาได้เห็นทหารม้ายอดฝีมือสามคนที่ผนึกเส้นทางข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง พวกเขาลาดตระเวนอยู่เหนือภูเขาดึกดำบรรพ์และตัดเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของเย่ฟ่าน
“พวกมันต้องการกำจัดข้าจริงๆ ถึงกับส่งยอดฝีมือมากมายมาไล่ล่าข้า!
ในขณะที่ข้ากำลังพยายามคาดเดาสิ่งที่พวกเขาคิด พวกเขาก็คิดเกี่ยวกับเส้นทางหลบหนีของข้าด้วย และคงเดาได้ว่าข้าจะลองใช้ดินแดนรกร้างโบราณต้องห้ามเพื่อกำจัดพวกเขา……”
เย่ฟ่านซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบและหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการต่อไป ไม่เช่นนั้นเขาจะเดินเข้าหาความตายเพียงอย่างเดียว
“ถ้าข้าบินไม่ได้ ก็ไม่มีทางเข้าใกล้พื้นที่ต้องห้าม……”
เมื่อเย่ฟ่านหนีไปที่ขอบของพื้นที่ภูเขา เขาก็ค้นพบว่ามีนักรบยอดฝีมือคนหนึ่งขี่ม้าสัตว์ที่มีเอกลักษณ์คอยลาดตระเวนอยู่เหนือพื้นที่ป่า
“นักรบยอดฝีมือคนที่ห้า…….” เย่ฟ่านจ้องมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่าในขณะที่เขาพึมพำ
“พวกเขาทั้งหมดถูกส่งมาที่นี่โดย เจียงอี้เฉิน หรือไม่?”
“พวกเขานำทหารม้าแปลกๆทั้งหมดสิบคนมาด้วย ตอนนี้พวกเขาห้าคนถูกระดมพลแล้ว เป็นไปได้ไหมที่เจียงอี้เฟยและเจียงไช่ซวนไม่ได้สังเกต? นั่นเป็นไปไม่ได้เลย!”
เย่ฟ่านรู้สึกเย็นชาในใจ เจียงอี้เฟยดูมีคุณธรรมและองอาจกล้าหาญ ในขณะที่เจียงไช่ซวนนิ่งสงบและงดงาม แม้ว่านางมีความเย่อหยิ่งในตัวแต่นางก็เห็นอกเห็นใจถิงถิงมากและสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเขา
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันเย่ฟ่านไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทั้งสองมีบทบาทอย่างไรในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่ มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่จิตใจลึกซึ้งจริงๆ
“หวังว่าทั้งสองคนจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มิฉะนั้นถ้าถิงถิงอาศัยอยู่ในตระกูลที่ซับซ้อนแบบนั้น ข้าไม่รู้จริงๆว่าเมื่อนางโตขึ้นนางจะเปลี่ยนไปเช่นไร……” เย่ฟ่านเริ่มรู้สึกกังวลถึงถิงถิงและลุงเจียง
คืนนั้นเย่ฟ่านแอบมุ่งหน้ากลับไปที่ร้านเล็กๆของลุงเจียง ในขณะนี้เขาสามารถมองเห็นสัตว์ร้ายสองตัวที่ลาดตระเวนอยู่ในอากาศที่บริเวณภูเขานอกเมืองเล็กๆ
เมื่อคืนที่สองมาถึงเย่ฟ่านก็แอบออกจากเมืองเล็กๆและหลบหนีต่อไปในระยะไกล
สามวันต่อมาเย่ฟ่านกำลังนอนหลับอยู่กลางแจ้งในพื้นที่รกร้างในชนบท เมื่อเขาเห็นนักรบของตระกูลเจียงขี่สัตว์ร้ายที่ไม่เหมือนใครพุ่งขึ้นไปในอากาศและบินไปในระยะไกลมันก็ทำให้เขาตกใจอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามติดตามเขามาได้ยังไงกันแน่?
“ตระกูลขุนนางในสมัยโบราณนั้นน่ากลัวเกินไป หากข้าไม่สามารถเข้าไปในเขตต้องห้ามได้ ข้าจะสลัดพวกเขาออกไปได้อย่างไร” เย่ฟ่านรู้สึกกังวล
ในที่สุดเย่ฟ่านก็เข้าไปในเมืองใหญ่ภายในแคว้นเอี๋ยน เขารู้สึกว่ามีเพียงคนจำนวนมากเท่านั้นที่เขาจะสามารถซ่อนได้อย่างปลอดภัย
นอกจากเมืองหลวงของแคว้นเอี๋ยนแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสอง จำนวนคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านคน มีความเจริญรุ่งเรือง ถนนกว้าง มีม้าและรถม้ามากมายนับไม่ถ้วน
เย่ฟ่านวิ่งอย่างต่อเนื่องและตอนนี้ก็เหนื่อยมาก เมื่อเขาเข้าไปในเมืองนี้ในที่สุดความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงอันตรายก็ลดน้อยถอยลงอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วและท้องของเย่ฟ่านก็ร้องด้วยความหิว เขาแตะหน้าอกของตัวเองและส่งเสียงหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา เพราะในเวลานี้เขาไม่มีเงินแม้แต่เหรียญเดียว
“ข้าต้องหาอาหารรองท้องสักหน่อยไม่งั้นคงนี้ต่อไม่ได้แล้ว”
เย่ฟ่านไม่มีอารมณ์ที่จะเที่ยวชมและสำรวจเมืองที่เจริญรุ่งเรืองแห่งนี้ เขาต้องการหาสถานที่สำหรับทานอาหาร
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็เหลือบมองไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ นั่นคือหลี่เสี่ยวม่าน!
รูปลักษณ์ของนางไม่แก่และเสื่อมโทรมอีกต่อไปและนางก็ฟื้นคืนความอ่อนเยาว์แล้ว นางสูงประมาณ 1.7 ซม. ผอมเพรียวและงดงาม นางสวมชุดขาวทำให้ขับเน้นรูปลักษณ์ที่สมส่วนของนางมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือในอดีต หลี่เสี่ยวม่านเคยงดงามเป็นพิเศษมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะว่าตอนนี้นางกำลังฝึกฝนอยู่ จึงทำให้ผิวพรรณของนางขาวผ่องราวกับหยกเนื้อดี
เย่ฟ่านไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะได้เห็นนางที่นี่ และโดยธรรมชาติแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องมากมาย พวกเขาเคยมีช่วงเวลาอันแสนหวานด้วยกันอยู่หลายปีแต่ทุกอย่างเป็นเรื่องในอดีตแล้ว
ในตอนนี้หลี่เสี่ยวม่านไม่ได้สังเกตเย่ฟ่าน นางเป็นเหมือนนกกระเรียนท่ามกลางฝูงไก่ รูปลักษณ์ที่งดงามและแปลกตาของนางดึงดูดสายตามากมาย และนางก็ไม่ได้สังเกตเห็นเด็กหนุ่มที่ซีดเผือดและเหนื่อยล้าในระยะไกล
เย่ฟ่านหันหลังและจากไป เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่และยิ่งไม่ต้องการให้มีใครรู้จักเขา
“ขอทานน้อยไสหัวไป ถนนที่นี่ค่อนข้างกว้างใหญ่เหตุไฉนเจ้าจึงต้องการเบียดข้า หรือเจ้าคิดจะขโมยเงินจากข้าอย่างนั้นหรือ!”
มีชายหนุ่มและหญิงสาวสองสามคนอยู่ข้างหน้า และหญิงสาวพวกนั้นก็ทำท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นเย่ฟ่านเดินเข้าใกล้
"ขอโทษด้วย!" เย่ฟ่านรีบขอโทษ
“ศิษย์น้องเจ้าตรวจสอบทรัพย์สินของตัวเองดูก่อนว่ามีอะไรหายไปหรือไม่” ชายหนุ่มเตือนและปิดกั้นเย่ฟ่านเพื่อป้องกันไม่ให้เขาจากไป
เย่ฟ่านหลบหนีมาทั้งวันทั้งคืน เสื้อผ้าของเขาสกปรกและขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบสกปรกทำให้เขาดูเหมือนขอทานตัวน้อย
“ศิษย์พี่ทั้งสองมีเรื่องอะไรกันหรือ?”
ในขณะนี้หลี่เสี่ยวม่านเดินเขามา แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายบนถนนแต่เมื่อทุกคนเห็นรูปลักษณ์อันโดดเด่นของนางคนที่อยู่ที่นี่ก็เปิดทางให้นางเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยเขาไป ข้าไม่ได้ทำอะไรหาย” หญิงสาวขมวดคิ้วขณะที่กล่าวเบาๆ
เย่ฟ่านต้องการหันหลังและจากไป แต่หลี่เสี่ยวม่านก็สังเกตเห็นเขาแล้ว
"เป็นเจ้านั้นเอง!"
เย่ฟ่านหยุดเคลื่อนไหวไม่คิดว่าในที่สุดเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการพบหน้ากันได้
“ศิษย์น้อง เจ้ารู้จักกับขอทานน้อยคนนี้หรือ” เด็กหนุ่มสองสามคนที่อยู่ด้านข้างแสดงสีหน้าประหลาดใจ
ในขณะนี้เสื้อผ้าของเย่ฟ่านขาดรุ่งริ่งและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก เขาดูซีดเซียวและเหนื่อยล้า เขาวิ่งทั้งวันทั้งคืนและจิตใจของเขาก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุด
ดังนั้นการที่คนอื่นจะมองว่าเขาเป็นขอทานก็ไม่มีความแปลกประหลาดอะไร
โดยปกติหลี่เสี่ยวม่านเป็นคนเงียบ สง่างามและไม่ค่อยพูดอะไรมากนัก แต่เมื่อเห็นสภาพของเย่ฟ่านนางก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“ศิษย์น้องเจ้าฮู้จักขอทานน้อยคนนี้จริงๆหรือ?”
หลี่เสี่ยวม่านฟื้นตัวอย่างรวดเร็วขณะที่นางพยักหน้า
“ข้าจำเขาได้”
“ศิษย์น้องหลี่ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร”
หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มมีสีหน้างุนงง เย่ฟ่านอยู่ในผ้าขี้ริ้วและดูไม่เหมือนกับคนที่จะรู้จักกับหลี่เสี่ยวม่านที่งดงามและสูงส่งได้
“เรามาจากที่เดียวกัน ในอดีตเราถือได้ว่าเป็น…… เพื่อนบ้าน” การแสดงออกของหลี่เสี่ยวม่านเต็มไปด้วยความไม่แยแส