Chapter 26 : ย่างแมงมุมเพื่อกระถางปลูกพืช
ตั้งแต่วินาทีที่เขามาอยู่ในโลกแห่งสุสานเขายังไม่เคยขุดขึ้นไปด้านบนเลย
วันนี้จะเป็นครั้งแรก
แผนที่ที่เขามีระบุเอาไว้ว่าในสุสานข้างบนมีทั้งอันตรายและทรัพยากรมากมาย
ถ้าเขาเลือกสุสานด้านบนเป็นสุสานแห่งที่17ถ้างั้นสุสานแห่งที่18ซึ่งอยู่ถัดไปก็จะมีหีบสมบัติเหล็กรออยู่และในสุสานแห่งที่19ก็จะเป็นหีบสมบัติเงิน
หีบสมบัติเงินแน่นอนว่าต้องเหนือกว่าหีบสมบัติเหล็กขึ้นไปอีกระดับ!
เมื่อวานเขาได้หน้าไม้รูนอันทรงพลังมาจากหีบสมบัติเหล็กถ้างั้นแล้วหีบสมบัติระดับเงินจะมีของน่าสนใจขนาดไหนซ่อนเอาไว้กันนะ
แน่นอนว่าถ้าเป็นแจ็คกับทอมคงไม่กล้าเลือกเส้นทางนี้แน่
เพราะมันเต็มไปด้วยภัยอันตราย
แต่ไคลน์ก็ยังอยากลองอยู่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความช่วยเหลือจากจิ้งจอกน้อยด้วยแล้ว เขาสามารถให้จิ้งจอกน้อยไปล่อศัตรูให้ออกไปไกลๆได้
ไคลน์มองขึ้นไปยังกำแพงดินทางด้านบน
[สุสานทางด้านบนมีแมงมุมสุนัขรออยู่ ถ้าท่านมีไฟก็จะสามารถเผาใยแมงมุมเพื่อหลีกเลี่ยงการกลายเป็นมัมมี่ได้อย่างง่ายดายและสามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรได้นิดหน่อย]
ไคลน์เปิดเมนูคู่มือขึ้นมาและกวาดตามองหาชื่อของแมงมุมสุนัข
ระดับความอันตราย 26
ไม่มีพิษแต่ใยของมันเหนียวมาก เหนียวจนถึงขั้นที่ว่าใช้มีดธรรมดาๆตัดไม่ขาดเลยทีเดียว
จุดอ่อนของมันก็คือกลัวไฟเพราะว่าใยแมงมุมของมันสามารถติดไฟได้อย่างง่ายดาย!
เมื่อไม่มีการป้องกันจากรังไหมของมันความแข็งแกร่งของมันก็จะลดลงไปอีกช่วงใหญ่
ไคลน์คิดอยู่ซักพักก่อนจะพูดขึ้น “เลือกด้านบนนี่แหละดีแล้ว เดี๋ยวให้จิ้งจอกน้อยเอาพวกแหล่งกำเนิดไฟขึ้นไปก่อน”
ไคลน์เก็บแผนที่เข้าช่องเก็บของและเรียกฐานรูนออกมา
เขาจำเป็นต้องปีนขึ้นไปบนฐานรูนเสียก่อนถึงจะเริ่มขุดเพดานได้
ความสูงของฐานรูนอยู่ที่ราวๆหกเมตรขณะที่เพดานของสุสานก็อยู่เหนือจากพื้นดินไปราวๆเจ็ดเมตร
“เริ่มจากขุดอุโมงค์ก่อนแล้วกัน”
ไคลน์เอาทรายออกมากองเอาไว้ข้างฐานรูนจากนั้นก็ถมมันขึ้นไปและใช้ทรายพวกนี้ปีนขึ้นไปด้านบนหลังคาของฐานรูน
จิ้งจอกน้อยเองก็ปีนตามขึ้นมาเหมือนกัน
ไคลน์นั่งยองๆลงและกำพลั่วเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง “เริ่มจากขุดตรงจุดที่ลำบากที่สุดก่อนแล้วกัน”
ไคลน์ขุดขึ้นไปทีละนิดๆ...
ในทุกๆครั้งที่เขาเหวี่ยงพลั่วลงไปก็จะมีทรายกองนึงถูกขุดออกไป ความยากในการขุดจึงลดลงมาก
เขาขุดขึ้นมาได้ราวๆสิบห้าเมตรแล้วและก็ยังคงขุดต่อไป
ไคลน์ใช้เท้าทั้งสองข้างดันกำแพงทั้งสองฝั่งของอุโมงค์ที่ขุดขึ้นมาเอาไว้และหยิบแผนที่แผ่นเล็กอีกครึ่งนึงที่เขาฉีกเอาไว้ออกมา
“จิ้งจอกน้อยเอาเชื้อเพลิงนี่แล้วปีนขึ้นไปก่อน ระวังเจ้าแมงมุมยักนั่นด้วยล่ะ ถ้าเห็นใยของมันเมื่อไหร่ก็จุดไฟได้เลย”
ไคลน์ม้วนแผนที่ที่ทำจากหนังแกะซึ่งเขาไม่เคยใช้จนเป็นก้อนกลม
“คาบเอาไว้”
เขายื่นปลายด้านหนึ่งของแผนที่หนังแกะไปที่ปากของจิ้งจอกน้อย
“งืมๆๆ....”
จิ้งจอกน้อยนั่งลงบนไหล่ของไคลน์และคาบเอาม้วนหนังแกะเอาไว้ในปากอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นไคลน์ก็หยิบมีดกับหินเหล็กไฟออกมา
เขาถูกมันเบาๆจนเกิดประกายไฟบนแผนที่หนังแกะ
นี่มันเหมือนกับกำลังจุดบุหรี่เลยแฮะ...
จิ้งจอกน้อยเองก็เป่าปากฟู่ๆเหมือนกัน
“ขึ้นไปเลย”
ไคลน์ให้สัญญาณ
จิ้งจอกน้อยพ่นควันไฟออกมาจากปากและกระโดดเข้าไปยังหลุมดำอย่างแผ่วเบา
ไคลน์เองก็ใช้มือและเท้าทั้งสองข้างตะเกียกตะกายขึ้นไปยังหลุมดำด้วยเช่นกัน พร้อมกับแรงถีบมหาศาลที่เขาส่งตัวขึ้นไปร่างทั้งร่างของเขาก็กระโดดหลุดออกมาจากอุโมงค์ในที่สุด
สุสานแห่งที่สิบเจ็ด!
พอเขาเข้ามาถึงสิ่งที่เขาเห็นก็คือเปลวเพลิงที่รุกโหมไปทั่วทั้งชั้น
จิ้งจอกน้อยที่คาบครึ่งหนึ่งที่เหลือของแผนที่หนังแกะเอาไว้วิ่งพล่านจุดไฟไปทั่วทั้งสุสานแห่งนี้
พอใยแมงมุมเจอกับไฟก็ราวกับว่าพวกมันจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
บริเวณกำแพงสิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นสุนัขและตัวเป็นแมงมุมกำลังพยายามพ่นใยออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
จิ้งจอกน้อยที่แสนจะว่องไวสามารถหลบใยได้อย่างสบายๆและเป็นฝ่านจุดไฟใส่ใยเหล่านั้นแทนด้วยซ้ำ
ไคลน์เมื่อพบตำแนห่งที่ดีที่สุดในการเล็งแมงมุมสุนัขจึงหยิบหน้าไม้รูนขึ้นมาเล็ง
บนหลังของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ดูๆไปแล้วคล้ายกับหัวของสุนัขไม่น้อย
ทั่วทั้งร่างของมันเต็มไปด้วยขนสั้นสีน้ำตาลดูแปลกตา
“เปลี่ยนเป็นโหมดยิงต่อเนื่อง”
ไคลน์กดนิ้วโป้งลงไปเบาๆ
[โหมดยิงต่อเนื่องทำงาน]
จากนั้นเขาก็ลั่นไก
ยิง!
แมงมุมสุนัขที่กำลังวุ่นอยู่กับการรับมือกับจิ้งจอกน้อยกว่าจะสังเกตุถึงลูกดอกและสัมผัสได้ถึงอันตรายก็ตอนที่ลูกดอกเกือบจะถึงตัวอยู่แล้ว
มันรีบกระโดดฉีกออกไปทางด้านข้างทันที
ฉึก!
ลูกดอกเจาะทะลุร่างกายอันแสนเปราะบางของมันอย่างจัง
ภายใต้โหมดยิงต่อเนื่องจะมีลูกดอกถูกยิงออกไปถึงห้าดอกดังนั้นจึงเข้าเป้าได้ง่ายมาก
ร่างของแมงมุมสุนัขไหลลงมาจากกำแพง
หลังจากที่ดิ้นอยู่ซักพักหนึ่งร่างของมันก็แน่นิ่งไปในที่สุด
[แจ้งเตือนจากระบบ : ดวงวิญญาณ +1]
“กลับมาได้แล้วจิ้งจอกน้อย” ไคลน์ร้องบอก
ในสุสานแห่งนี้มีใยแมงมุมอยู่มากมายจนเกินไปและตอนนี้สุสานกว่าครึ่งก็ถูกไฟไหม้ไปแล้ว
จิ้งจอกน้อยกลับมาอยู่ข้างกายของไคลน์อย่างว่าง่าย
ไคลน์รีบพาจิ้งจอกน้อยไปที่อีกฝั่งของสุสานและเข้าไปหลบในฐานรูนทันที
แม้ว่าไฟพวกนี้อาจจะไม่แรงถึงขั้นเผาพวกเขาจนตายได้แต่การเข้ามาอยู่ในฐานรูนก็พอจะทำให้ทนกับอุณหภูมิร้อนจัดได้บ้าง
ไม่อย่างนั้นแล้วขนสวยๆของจิ้งจอกน้อยคงจะกลายเป็นถ่านแน่
…
หลายนาทีต่อมาไคลน์ก็เดินออกมาจากฐานรูนอย่างช้าๆ...
กลิ่นเนื้อย่างเองก็ลอยคลุ้งไปทั่วเช่นกัน
ร่างของแมงมุมสุนัขถูกเผาจนสุก
ไคลน์เดินเข้าไปที่ร่างของมันแล้วเก็บศพมันขึ้นมา
[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื้อแมงมุมสุนัขย่าง +1]
[เนื้อแมงมุมสุนัขย่าง : เนื้อแมงมุมสุนัขกลิ่นหอมฉุย มีโปรตีนอยู่ในระดับทั่วๆไป รสชาติเปรี้ยวและค่อนข้างมีน้ำมาก ค่าดัชนีความอิ่มอยู่ที่3ดาว – คะแนนรวม 60]
ไม่จำเป็นต้องให้ระบบย่อยเลย...
“เนื้อที่มีน้ำเยอะหรอ...”
ไคลน์คิดไปถึงหน้าตาและลักษณะของแมงมุมสุนัขขึ้นมาจากนั้นเขาก็ขนลุกขนชันไปทั่วร่าง
ถ้ากินเข้าไปต้องตัวระเบิดแน่!
ไคลน์ไม่กินมันแน่นอน
“เธอกินไหม?”
เข้าก้มหน้าลงไปถามจิ้งจอกน้อย
จิ้งจอกน้อยส่ายหัวรัวๆและถอยห่างออกไปด้วยความขยะแขยง
“เอาเถอะถ้างั้นเอาไปวางขายแล้วกัน”
ไคลน์เปิดหน้าต่างแลกเปลี่ยนขึ้นมาและวางขายมันเอาไว้ในขณะที่มันยังร้อนๆอยู่นี่แหละ
‘ขอแลกกับพวกพิมพ์เขียวแล้วกัน’
สายตาของเขากวาดมองไปยังรายการมากมายบนตลาดแลกเปลี่ยน
จากนั้นเขาก็เลือกกรองคำว่า ‘พิมพ์เขียว’
รายการที่ปรากฏออกมาเหลือเพียงพิมพ์เขียวเท่านั้น
บ้างก็ต้องการแลกกับน้ำขณะที่บางคนก็ต้องการแลกกับขนมปังหรือเนื้อ
“พิมพ์เขียวอันนี้ไม่เลวเลย”
“แถมยังเป็นคนคุ้นเคยซะด้วย”
ไคลน์ยิ้ม
[โรเจอร์ 178.23]
[ไอเทม : พิมพ์เขียวกระถางรูนชั้นเยี่ยม]
[สิ่งที่ต้องการ : เนื้อใดๆก็ได้ (อย่างน้อย1.5กิโลกรัม) + น้ำดื่ม 300 มิลลิลิตร]
[จำนวน : 1]
[ข้อความจากผู้ขาย : นายท่านทั้งหลายช่วยมาซื้อที!]
ราคานี้ไม่ถูกเลย
แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไคลน์พอรับได้
เนื้อของแมงมุมสุนัขในมือของเขาน่าจะหนักมากกว่าหนึ่งกิโลแล้ว
รวมกับเนื้อกิ้งก่าอีกนิดหน่อยก็คงพอ
ส่วนน้ำไม่ใช่ปัญหาเพราะเขายังมีอีกเป็นกระบุง