99 - ใครกันที่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้?
99 - ใครกันที่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้?
ชายหนุ่มชุดขาวมาจากตระกูลขุนนางโบราณตระกูลเจียง ชื่อของเขาคือเจียงอี้เฟย ตัวเขาก็เหมือนกับชื่อของเขาที่มีความสง่างามคล้ายกับหลุดออกมาจากสวรรค์
เขาไม่ได้พูดถึงอดีตของท่านปู่เจียงเจ๋อมากนัก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลมากมายสามารถรวบรวมได้จากสิ่งที่เขาพูด
เจียงเจ๋อบิดาของลุงเจียงได้ละทิ้งตระกูลเจียงไปในอดีตและไม่มีวันหวนกลับคืนมา มีอดีตที่ไม่มีใครรู้และแน่นอนว่ามีความเกี่ยวข้องกับลูกหลานของประมุขตระกูล
“ท่านปู่เจียงเจ๋อประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ในการฝึกฝน เขาจะเสียชีวิตเมื่อห้าสิบปีก่อนได้อย่างไร” นี่คือสิ่งที่เจียงอี้เฟยสับสน
“เมื่อท่านพ่อจากไป เขากระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก”
ลุงเจียงเล่าถึงอดีตแต่ก็ไม่ได้ซาบซึ้งอะไรมาก บางสิ่งก็ค่อยๆ จืดชืดไปตามกาลเวลา
“นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น”
เจียงอี้เฟยไม่ได้พูดอะไรมากและเพียงแค่พยักหน้าราวกับว่าเขาเข้าใจความลับภายใน
หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆชื่อเจียงไค่ซวน นางเป็นหญิงสาวที่มีขาเรียวยาวอย่างยิ่ง ผิวพรรณของนางสดใสน่าดึงดูด ในฐานะหญิงสาวจากตระกูลเจียง นางถือได้ว่าเพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และชาติตระกูล
อย่างไรก็ตามนางชอบถิงถิงมาก ในตอนนี้นางก็จับมือของถิงถิงและพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างต่อเนื่อง
เด็กหนุ่มที่หยิ่งผยองถูกเรียกว่าเจียงอี้เฉิน แม้ว่าเขาจะได้รู้เกี่ยวกับตัวตนของลุงเจียงและถิงถิง แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความอบอุ่นและยังคงเย็นชาอยู่อย่างนั้น
เจียงไค่ซวนหันมากล่าวกับลุงเจียงว่า
“ผู้อาวุโสเหตุไฉนท่านจึงไม่กลับไปที่ตระกูลเจียงกับเรา ปู่ของข้าบอกว่าตระกูลเจียงทำให้พวกท่านผิดหวังและไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราต้องพาพวกท่านกลับไปให้ได้”
“ข้าเข้าใจในความรู้สึกของพวกเจ้า แต่ว่าพวกเจ้านั้นอยู่ห่างไกลพวกเรามากเกินไป โลกของเจ้านั้นเป็นอีกโลกหนึ่งที่ข้าไม่รู้จัก และข้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว……”
ลุงเจียงเป็นชายชราธรรมดาและมีชีวิตอยู่จนแก่เฒ่า เขามีประสบการณ์หลายอย่างและเขารู้สึกว่าการเข้าร่วมกับตระกูลใหญ่นั้นไม่แน่ว่าจะเป็นความคิดที่ดี ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง
“ถ้าท่านไม่คิดเพื่อตัวเองท่านก็ต้องคิดเผื่อถิงถิงด้วย นางเป็นองค์หญิงตัวน้อยและไม่ควรถูกใครรังแก สิ่งที่นางต้องการคือชีวิตที่ต่างไปจากเดิม” เจียงไค่ซวนนำอนาคตของถิงถิงขึ้นมาและเกลี้ยกล่อมชายชรา
“ตามพวกเรากลับกลับไปยังตระกูลอีกครั้งในฐานะลูกหลานของท่านปู่เจียงเจ๋อ ตระกูลเจียงคือสถานที่ที่พวกท่านควรอยู่”
“พวกเจ้าพาถิงถิงไปด้วยก็ได้ ข้าคุ้นเคยกับชีวิตที่นี่แล้วและไม่อยากย้ายไปที่อื่น……”
ถิงถิงจับแขนชายชราทันทีขณะที่นางพูดว่า
“ข้าจะอยู่กับท่านปู่”
ในขณะนี้รอยยิ้มที่อ่อนโยนได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงอี้เฟยในขณะที่เขาลูบหัวถิงถิงและพูดว่า
“ท้องฟ้าที่นี่เล็กเกินไป……”
เจียงอี้เฟยเป็นคนฉลาดและเข้าใจว่าการพยายามเกลี้ยกล่อมลุงเจียงนั้นเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือต้องแสดงพลังของตระกูลเจียงให้ทั้งสองได้รู้จัก
“ไปที่ตระกูลหลี่ก่อน”
น้ำเสียงของเขาดูสงบแต่ดูมีเสน่ห์ดึงดูด สัตว์ร้ายภายนอกทั้งหมดเริ่มคำรามและมีไอสังหารถูกรถปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ทหารม้าทั้งหมดปะทุขึ้นด้วยความกระหายในการต่อสู้
การแสดงออกของเจียงอี้เฟยมีความสงบอย่างยิ่ง เขาค่อยๆก้าวเท้าเดินไปพร้อมกับลุงเจียง คนอื่นๆที่สังเกตเห็นก็เดินตามหลังไป
ไม่มีใครขี่ม้าของพวกเขาเดินไปที่ตระกูลหลี่โดยตรง ถิงถิงจับมือชายชราและมือของเย่ฟ่านอย่างประหม่า การได้รับการปกป้องในลักษณะนี้เหมือนกับดวงดาวที่ล้อมรอบดวงจันทร์ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ในขณะนี้เจียงอี้เฟยและเจียงไค่ซวนกำลังเดินไปพร้อมกับพวกเขา แต่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงกลางและยืนอยู่ข้างซ้ายและขวาของพวกเขา
ผู้คนบนถนนสายใหญ่ต่างตกตะลึง พวกเขาสังเกตเห็นว่าลุงเจียงและถิงถิงได้รับการคุ้มครองในลักษณะเช่นนี้พวกเขาจึงคิดว่าตัวเองตาฝาดไป
ผู้คนจำนวนมากสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อเห็นสัตว์ดุร้ายและถอยกลับไปสองข้างทางของถนน
"เกิดอะไรขึ้น? ผู้เฒ่าเจียงรู้จักคนเหล่านี้หรือ?”
“ดูอสูรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหล่านั้น พวกมันเดินอยู่บนพื้นแต่เท้าของพวกมันไม่ได้ติดพื้นเลย ผู้เฒ่าเจียงมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคนเหล่านี้?”
“ในที่สุดชีวิตอันขมขื่นของผู้เฒ่าเจียงก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น คนดีย่อมได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์”
“ตระกูลหลี่กำลังมีปัญหาใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางนั้น”
“เยี่ยมมากพวกเราต่างรอคอยสิ่งนี้มาหลายปีแล้ว ในที่สุดก็มีคนมาสอนบทเรียนให้ตระกูลหลี่ มาดูกันเถอะว่าใครจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้”
……
ข้างถนนคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเต็มไปด้วยความกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ แต่พวกเขาก็ตื่นเต้นยินดีที่ได้เห็นเคราะห์กรรมของตระกูลหลี่
เมื่อลุงเจียงมาถึงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลหลี่ ดูเหมือนเขาจะลังเลใจ เจียงอี้เฟยสังเกตเห็นสิ่งนี้และประคองชายชราให้เดินขึ้นไปบนบันไดและกล่าวว่า
“ไม่ต้องพูดถึงแค่ตระกูลหลี่เล็กๆนี้ ต่อให้เป็นวังหลวงของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออกก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อพวกเราตระกูลเจียง”
"ปัง!"
ข้างหน้าประตูบานใหญ่สีแดงชาดถูกทำลายอย่างรุนแรง เศษชิ้นส่วนของประตูกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
มีความสับสนและความระส่ำระสายอยู่ภายในเนื่องจากได้ยินเสียงกึกก้องที่ประตูใหญ่ของตระกูล
"ใครเป็นคนทำ?"
“พวกเจ้ากล้าตอแยตระกูลหลี่ พวกเจ้ารนหาที่ตายหรือ!”
……
ในเวลาไม่นานผู้คนกว่าสิบคนรีบออกมา ต่างคนต่างมองอย่างดุร้าย แต่เมื่อเห็นสัตว์อสูรทั้งสิบพวกเขาก็ตกตะลึงทันที ในขณะที่คำสาปแช่งที่อยู่ในปากของพวกเขาต่างก็กลืนลงคออย่างรวดเร็ว
“ดูที่รูปลักษณ์ที่น่าสมเพชของพวกมันสิมีอะไรให้ต้องกลัว ตระกูลหลี่ของเราก็มีผู้ฝึกตนด้วย” พ่อบ้านคนหนึ่งเดินออกมาด้วยความโมโหแล้วตะคอกออกไปว่า
“ไอ้โง่คนไหนใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่ตระกูลหลี่ พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่มีท่านเซียนพำนักอยู่หลายคน”
"คนเลว!"
เมื่อพ่อบ้านคนนั้นเพิ่งจะเดินออกมา ถิงถิงก็ถอยห่างออกไปสองสามก้าวราวกับว่านางกลัวคนคนนี้มาก
"คนที่เจ้า……."
พ่อบ้านที่เดินออกมาก็ดูหวาดกลัวเช่นกัน เทพทองคำ อสูรห้าสี กวางศักดิ์สิทธิ์ที่มีดวงตาแนวตั้ง เขาไม่เคยได้ยินหรือเคยเห็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน
“นี่เป็นคนไม่ดีเหรอ?”
“ใช่แล้ว เขาพาคนมาแย่งร้านอาหารของเราและทุบตีท่านปู่จนกระอักเลือด”
เมื่อถิงถิงพูดคำเหล่านี้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนของนางก็ทำให้ทุกคนที่ได้ยินโกรธแค้นขึ้นทันที
เจียงอี้เฟยโบกมือเบาๆไปที่พ่อบ้านคนนั้น
“เจ้า…… เจ้ากำลังทำอะไร นี่คือตระกูลหลี่เรามีท่านเซียนหลายคนอยู่ภายใน พวกเขาจะไม่ทนต่อท่าทีหยิ่งผยองของพวกเจ้า!”
แม้ว่าภายนอกเขาจะแสร้งทำตัวแข็งแกร่ง แต่ในความเป็นจริงเสียงของเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“เอาไปลงมือที่อื่น อย่าทำให้เด็กกลัว”
เจียงอี้เฟยมีความคิดรอบคอบเป็นอย่างมาก เขากลัวว่าฉากสยองขวัญที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้ถิงถิงหวาดกลัว
"ขอรับนายน้อย!"
นักรบคนหนึ่งที่ร่างกายห่อหุ้มไปด้วยชุดเกราะคว้าคอของพ่อบ้านและโยนเขาออกไป แสงหยกส่องประกายเมื่อนักรบคนนั้นขี่ม้าพาพ่อบ้านบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
“สวรรค์ เขาบินได้!”
“เขาบินได้จริงๆ!”
“สัตว์อสูรตัวนั้นสามารถวิ่งอยู่บนท้องฟ้าได้จริงๆ
ทั่วบริเวณชาวบ้านทุกคนที่กำลังชมอยู่มีท่าทีตกใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันถิงถิงก็อ้าปากค้างพร้อมกับเหม่อมองไปบนท้องฟ้าราวกับเจอเรื่องที่น่าตกใจที่สุดในชีวิต
เจียงไค่ซวนยิ้มขณะที่นางนั่งลงแล้วกล่าวว่า
"เจ้าต้องการอสูรแบบนี้เป็นพาหนะสักตัวหรือไม่?"
ถิงถิงแทบจะพยักหน้าในทันที แต่ดูเหมือนนางจะคิดอะไรได้และรีบจับแขนของท่านปู่พร้อมกับกล่าวว่า
“ข้าแค่อยากอยู่กับท่านปู่เท่านั้น”
เจียงไค่ซวนไม่คิดว่าถิงถิงจะมีความหลักแหลมถึงขนาดนี้ ดังนั้นนางจึงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย