บทที่ 24 ฝนที่ตกหนัก
บทที่ 24
ฝนที่ตกหนัก
หลี่โป๋สุ่ย กล่าวว่า “กระหม่อมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของพระราชวังไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก ในจดหมายระบุว่า หลี่มู่ฟาน ได้ฝึกฝนมือสังหารอย่างลับๆและซ่อนอาวุธระดับสามัญไว้มากมาย นี่เพียงพอที่จะบอกได้ว่าคนผู้นี้ได้เก็บซ่อนความลับเอาไว้หากปล่อยให้เขาสยายปีกโดยไม่เกรงใจใครอนาคตคงยากที่จะควบคุมได้”
ฉินหยงจุน หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าคิดได้ทุกอย่างจริงๆ”
คำพูดเปลี่ยนไปและกล่าวว่า “เมื่อวันก่อนสิ่งที่ข้าสั่งให้เจ้าทำนั้นสำเร็จหรือไม่”
“ทูลฝ่าบาท ตามการรายงานของสายลับ เผ่ารัตติกาลได้ปะทะกับเผ่าเอลฟ์ในทะเลทางทิศตะวันออกของแคว้นหยุนโจว ทั้งสองฝ่ายกำลังส่งทหารออกไป ในความเห็นของกระหม่อมสงครามใหญ่อยู่ไม่ไกลแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำได้ดีมาก!”
ฉินหยงจุน ตบโต๊ะแล้วพูดว่า “มีอะไรแสดงให้เห็นบ้างหรือไม่?”
“สถานที่จัดงานถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว เผ่าเอลฟ์และเผ่ารัตติกาลไม่ค่อยลงรอยกัน พวกเขาคงไม่สงสัยพวกเราอย่างแน่นอน แต่ในระหว่างที่องค์หญิงเผ่าเอลฟ์กลับมาเกิดมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น องค์หญิงและมือสังหารของเราถูกพายุทอร์นาโดในแม่น้ำหยุนชางพัดพาไป เกรงว่า..”
“โอ้? และเรื่องนี้ในความเห็นของเจ้า องค์หญิงผู้นั้นเป็นเช่นไร?”
หลี่โป๋สุ่ย กล่าวว่า “เมื่อเจอพายุทอร์นาโดก็ยากที่จะเอาชีวิตรอด อีกทั้งยังมีสัตว์อสูรแฝงตัวอยู่ในแม่น้ำหยุนชาง หากตกลงไปในแม่น้ำก็ถือว่า ได้ตกตายไปแล้ว”
ฉินหยงจุน ครุ่นคิดอยู่สักครู่ก่อนจะกล่าวว่า “เดิมทีมีผู้หญิงคนนี้อยู่ในมือ ไม่แน่ว่าอนาคตอาจมีประโยชน์ก็ได้ ในเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันก็ช่างเถอะ เจ้าส่งคนสอดแนมความเคลื่อนไหวของเผ่าเอลฟ์ต่อไป หากสงครามปะทุก็มารายงานทันที!”
“ข้าน้อยจะทำตามคำสั่ง!”
หลังจากที่ หลี่โป๋สุ่ย จากไป ฉินหยงจุน ก็เดินออกจากห้องหนังสือและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม
“แคว้นหยุนโจว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมานับพันปีถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเคลื่อนไหว..”
บนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ทางตอนเหนือของจักรวรรดิหยุนฉิน มีชนเผ่าระดับเหลืองลายเผ่าอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งเผ่ากระทิงเถื่อนเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด
ในฐานะที่เป็นเผ่ากึ่งเร่ร่อน เผ่ากระทิงเถื่อนมักจะเลี้ยงปศุสัตว์หรือไม่ก็ล่าสัตว์อสูรในทุ่งหญ้าเพื่อความอยู่รอด หากพวกเขาพบความอดอยาก พวกเขาจะปล้นเผ่าอื่นๆโดยรอบ แม้แต่ดินแดนของเผ่ามนุษย์ที่รุกรานผ่านเข้ามาทางใต้
แต่หลายปีมานี้จักรวรรดิหยุนฉิน ค่อยๆพัฒนาอย่างมั่นคงแนวป้องกันก็มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสงครามทางใต้จึงไม่ค่อยเกิดขึ้นเป็นเวลานานแล้ว
ในเผ่ากระทิงเถื่อนมีพิธีกรรมก่อนล่าสัตว์อสูร มนุษย์วัวที่แข็งแกร่งจะเต้นรำแปลกๆรอบซากศพของอสูรขนาดใหญ่ พิธีบวงสรวงกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อเสร็จสิ้นก็มีมนุษย์วัวคนหนึ่งเดินมาหยุดข้างผู้อาวุโสที่สวมหน้ากากแปลกประหลาดและกระซิบบางอย่าง
ผู้อาวุโสที่ได้ยินคำพูดสุดท้ายก็คำรามออกมาเสียงดัง!
“เผ่าพันธุ์มนุษย์รังแกเผ่าของข้ามากเกินไปแล้ว!คิดว่านักรบของเราตายหมดแล้วงั้นหรือ?”
มนุษย์วัวที่ดูไม่ได้ฐานะต่ำไปกว่าผู้อาวุโสของเผ่าถามขึ้นว่า “ผู้อาวุโสเกิดอะไรขึ้น?”
“เผ่ามนุษย์ที่น่ารังเกียจได้ฆ่าคนของพวกเรา หนิวเฉียงลิ่วและนักรบ 25 คนที่ถูกส่งออกไปถูกฆ่าตาย ผลึกอสูรทั้ง 10 ก้อนที่เราหามาล้วนถูกแย่งไปหมดสิ้น!”
“อะไรนะ!”
มนุษย์วัวทุกคนที่ได้ยินต่างกระโดดขึ้นทันทีแล้วกวัดแกว่งอาวุธพลางร้องโหยหวนว่าต้องการสังหารเผ่ามนุษย์ที่น่ารังเกียจทางใต้
ผู้อาวุโสสูงสุดรู้ถึงความแข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์ เขาตะโกนขึ้นว่า “รีบไปแจ้งเผ่าใหญ่ให้พวกเขามาประชุมกับเผ่าของเราเพื่อหารือแผนการใหญ่!”
“ลงใต้ ลงใต้!” เสียงคำรามดังก้องทั่วทุ่งหญ้า