495 - เชื่อฟังทุกคำสั่งที่ได้รับ
495 - เชื่อฟังทุกคำสั่งที่ได้รับ
ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันพวกเขาเห็นสือฉางเฟิงโผล่ออกมาจากป่าไผ่ที่อยู่ไม่ไกล ในวันนี้ เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวซึ่งให้ลักษณะของเขาดูหล่อเหลาเป็นพิเศษ
เขาจ้องเขม็งไปที่เอี้ยนลี่เฉียงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ลี่เฉียง เมื่อโรงเรียนสอนยิงธนูเปิดประตูในวันนี้ เจ้าคือผู้นำและอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนสอนยิงธนูแห่งนี้ เจ้าจะต้องรับผิดชอบต่ออนาคตของนักเรียนหลายพันคน เจ้าพร้อมที่จะรับภาระนี้หรือไม่?”
“ไม่ต้องเป็นห่วงอาจารย์สือ ข้าเตรียมตัวมาดีแล้ว!” เอี้ยนลี่เฉียงสูดหายใจเข้าลึกๆ “มีหลายเรื่องในโรงเรียนสอนยิงธนูซึ่งต้องการความช่วยเหลือจากท่านในอนาคต!”
“ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้วข้าก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจมาเช่นกัน หลังจากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าอาจารย์ใหญ่!”
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะเรียกท่านว่ารองอาจารย์ใหญ่เช่นกัน!”
“ฮ่าฮ่า นั่นฟังดูมีเกียรติกว่ามาก!” สือฉางเฟิงหัวเราะ “เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปกันเถอะ ไม่เช่นนั้นคนที่รออยู่ข้างนอกอาจจะขาดใจตายในไม่ช้า!”
"ฮ่าๆๆ ไปกันเถอะ!"
สิบนาทีต่อมาเมื่อแสงแดดส่องกระทบปลายทวนที่ใช้เป็นคนธงของโรงเรียนสอนยิงธนู เอี้ยนลี่เฉียงก็สั่งให้เปิดประตูโรงเรียนสอนยิงธนู แต่แล้วเขาก็ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นผู้คนที่อยู่ด้านนอก
เอี้ยนลี่เฉียงเตรียมรับนักเรียนเพียงสองพันคนเท่านั้น แต่จากที่เขาใช้สายตาประเมินคร่าวๆ คนที่อยู่ด้านนอกตอนนี้น่าจะมีหลายหมื่นคน
สถานการณ์ตอนนี้ไม่แตกต่างจากการเปิดรับสมัครผู้ที่ต้องการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการในชีวิตที่แล้วของเอี้ยนลี่เฉียง
เมื่อฝูงชนหนาแน่นเห็นโรงเรียนสอนยิงธนูเปิด หลายคนอดไม่ได้ที่จะพุ่งไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามผู้คนที่อยู่ข้างหน้าก็หยุดเดินก่อนถึงธรณีประตูทางเข้าหลัก
ในตอนนี้สีหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ผู้คนที่อยู่ด้านหน้าก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่อยู่ด้านหลังซึ่งยังคงไม่เป็นระเบียบอยู่แต่เมื่อเห็นผู้คนด้านหน้าเงียบลงพวกเขาก็เงียบลงเช่นกัน
ตอนนี้ภายในมือของเอี้ยนลี่เฉียงมีสิ่งของบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายโทรโข่งซึ่งเขาได้ให้โรงตีเหล็กตีขึ้นเป็นการเฉพาะ
สิ่งของเหล่านี้ก็มีประโยชน์อย่างยิ่งและเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เอี้ยนลี่เฉียงคิดได้ แน่นอนว่าเมื่อผสานกับน้ำเสียงของเขาที่เป็นระดับสุดยอดปรมาจารย์นักรบมันก็ทำให้เสียงดังออกไปไกลกว่า 10 ลี้ได้ง่ายๆ
เอี้ยนลี่เฉียงยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงเรียนสอนยิงธนูพร้อมกับสือฉางเฟิง สือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้ง ข้างหลังเขาคณะครูที่ได้รับการแนะนำมาเป็นอาจารย์ของที่นี่โดยเล่ยสือตง ได้เข้าแถวอย่างเคร่งขรึมอยู่ด้านหลังของเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงถือโทรโข่งตัวหนึ่งไว้ในขณะที่เขากวาดสายตาไปทั่วใบหน้าที่อ่อนเยาว์
ช่วงอายุของผู้ที่มาสมัครเรียนที่โรงเรียนสอนยิงธนูมีอายุประมาณสิบสองถึงยี่สิบปี บางคนสวมชุดผ้าไหมที่งดงามในขณะที่บางคนสวมชุดผ้าลินินเรียบง่ายเท่านั้น
ผู้คนที่มารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงแต่อายุต่างกันเท่านั้น แต่ยังมีภูมิหลังครอบครัวที่แตกต่างกันมาก ความคล้ายคลึงเพียงอย่างเดียวที่พวกเขามีคือการแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขา
ทุกคนมองมาในทิศทางนี้ด้วยความตื่นเต้น แสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเช้าก็ส่องบนใบหน้าอ่อนเยาว์ที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต
หลังกจาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเอี้ยนลี่เฉียงก็ยกโทรโข่งใหญ่ในมือขึ้น เขารวบรวมกำลังภายในและตะโกนใส่ทุกคนที่อยู่ทางเข้าโรงเรียนสอนยิงธนู
“ข้าคือเอี้ยนลี่เฉียง!”
คำสี่คำง่ายๆถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจนไปยังฝูงชนที่อยู่ด้านนอกทางเข้าโรงเรียนสอนยิงธนู ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ขอบเขตการบ่มเพาะของเอี้ยนลี่เฉียงทำให้เสียงของเขาขยายออกไปไม่ได้ด้อยไปกว่าลำโพงขนาดใหญ่
เด็กหนุ่มทุกคนมองไปที่โทรโข่งที่เอี้ยนลี่เฉียงจับไว้อย่างสงสัย ขณะที่พวกเขาก็ตกตะลึงกับการที่รู้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือเอี้ยนลี่เฉียงผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น
“ก่อนอื่นขอบคุณทุกคน ข้าทราบดีว่าพวกเจ้าทั้งหลายมีจิตใจทะเยอทะยานและมาที่นี่เพราะท่านมีศรัทธาในข้า ก่อนอื่นให้ข้าแสดงความขอบคุณพวกเจ้าทุกคน!” เอี้ยนลี่เฉียงโค้งคำนับให้ทุกคนแล้วยืดตัวขึ้น
“วันนี้ โรงเรียนสอนยิงธนูจะเปิดรับสมัครนักเรียนเป็นครั้งแรก เราวางแผนที่จะรับสมัครนักเรียนเพียงสองพันคนในปีนี้ เช่นเดียวกับสำนักสอนศิลปะการต่อสู้อื่นๆ
สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถรับนักเรียนทุกคนเข้าศึกษาได้ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนต้องทำการทดสอบก่อน และเรามีข้อกำหนดบางประการเกี่ยวกับความถนัดของนักเรียนในด้านต่างๆ
ดังนั้นทุกท่านจะต้องเตรียมจิตใจให้พร้อม เฉพาะผู้ที่มีความโดดเด่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโรงเรียนสอนยิงธนู! โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังของเจ้า
ใครก็ตามที่ประสงค์จะเข้าร่วมควรจำกฎข้อแรกของโรงเรียนสอนยิงธนูทันทีที่เจ้าก้าวข้ามธรณีประตูต่อหน้าข้า!”
เอี้ยนลี่เฉียงมองไปรอบๆจากนั้นยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่คำสีแดงเข้มขนาดใหญ่ที่วาดบนผนังทางเข้าประตูและกล่าวว่า
“พวกเจ้าทุกคนต้องจำประโยคนี้ให้ดี 'เชื่อฟังทุกคำสั่งที่ได้รับ' ทันทีที่เจ้าเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่เจ้าต้องปฏิบัติก็คือทำตามคำสั่งของข้า
ซึ่งรวมถึงการกิน การดื่ม ปัสสาวะ การถ่ายอุจจาระ เดิน วิ่ง นั่ง และนอน ผู้ใดกล้าฝ่าฝืนหรือท้าทายกฎนี้จะถูกไล่ออกจากโรงเรียนทันที โรงเรียนสอนยิงธนูของข้าจะไม่อนุญาติให้มีคนกระด้างกระเดื่อง! เข้าใจไหม!”
“เข้าใจแล้ว!”
“ดังกว่านี้! เข้าใจไหม!” เอี้ยนลี่เฉียงคำราม
“เข้าใจแล้ว!” ผู้คนกว่าหมื่นคนโห่ร้องพร้อมกัน
“ถ้าอย่างนั้น ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโรงเรียนยิงธนูตามข้าเข้าไปข้างใน เจ้าจะสามารถเข้าร่วมได้หลังจากทำการทดสอบ!”
เอี้ยนลี่เฉียงหันกลับมา แล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับสือฉางเฟิงและคนอื่นๆ ก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าตรงไปยังสนามฝึกในโรงเรียนสอนยิงธนู
ผู้คนนอกโรงเรียนยิงธนูต่างมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นเป็นผู้นำเข้าประตูหลักก่อนที่ทุกคนจะทำตาม ฝูงชนที่อยู่นอกโรงเรียนสอนยิงธนูมากกว่าหมื่นคนไม่ได้ด้อยไปกว่าฝูงชนที่สถานีรถไฟในช่วงฤดูท่องเที่ยว
ฝูงชนพุ่งเข้าหาโรงเรียนสอนยิงธนูและตามเอี้ยนลี่เฉียงเข้าไปในสนามฝึกทางด้านซ้ายของทางเข้าหลัก
สนามฝึกใช้พื้นที่ประมาณสี่หรือห้าร้อยมู่และมีเวทียกสูง พื้นดินแข็งและราบเรียบ อิฐสี่เหลี่ยมสีเขียวขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งตารางฟุต วางห่างจากกันบนพื้นหนึ่งเมตรจากแท่นสูงในสนามฝึก
อิฐสีเขียวเหล่านี้ถูกวางอย่างเป็นระเบียบเป็นเส้นตรง ที่แห่งนี้สามารถรองรับคนได้สองหมื่นคน ไม่ต้องพูดถึงแค่หมื่นคน
เอี้ยนลี่เฉียงมองดูผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในสนามฝึกจากแท่นสูง จากนั้นก็ยกโทรโข่งในมือขึ้นอีกครั้ง
“การสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียนยิงธนูอาจใช้เวลานาน ห้ามมิให้ผู้ใดออกจากสถานที่ขณะสอบ เจ้าจะล้มเหลวทันทีและถูกตัดสิทธิ์เมื่อออกจากสนามสอบ
เพื่อความเป็นธรรม ตอนนี้เจ้ามีเวลาสิบห้านาทีในการเตรียมตัว มีห้องน้ำสาธารณะมากมายให้พวกเจ้าทำกิจกรรมทั้งหมดให้แล้วเสร็จ เมื่อถึงเวลาสอบอย่าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเอง!”
ผู้ที่เพิ่งเข้าไปในสนามฝึกรีบตรงไปที่ห้องน้ำสาธารณะที่ด้านใดด้านหนึ่งของสนามฝึกทันทีที่ได้ยินประกาศของเอี้ยนลี่เฉียง
เด็กหนุ่มทุกคนได้ค้นพบสถานที่แรกที่ไม่ธรรมดาในโรงเรียนสอนยิงธนูแห่งนี้อย่างรวดเร็วและต่างประหลาดใจ ห้องน้ำที่นี่กว้างขวาง สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย
พื้นและผนังถูกปกคลุมด้วยหินหินอ่อนอันงดงาม ความหรูหราดังกล่าวหาได้ยากแม้แต่ในโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ในแคว้นผิงซี นับประสาอะไรกับห้องน้ำห้องหนึ่ง
เอี้ยนลี่เฉียงให้คนสร้างห้องน้ำสาธารณะในโรงเรียนสอนยิงธนูตามมาตรฐานจากชาติก่อนของเขา ซึ่งการสร้างห้องน้ำสะอาดย่อมเป็นเรื่องที่ดีในการสร้างวินัยของผู้คน
เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีทุกคนก็รีบกลับมาเข้าแถวอีกครั้ง
“ทุกคน โปรดมองดูพื้นดินที่เจ้ากำลังยืนอยู่ เจ้าเห็นอิฐสีเขียวหรือไม่? หาที่ยืนให้กับตัวเอง!”
สิบห้านาทีผ่านไป หลายคนยืนอยู่ในตำแหน่งแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่เข้าที่เอี้ยนลี่เฉียงส่งสัญญาณด้วยตาของเขา
สือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้งรีบเข้าไปในสนามพร้อมกับคณะครูสองกลุ่ม พวกเขาดึงคนที่ไม่สามารถหาจุดยืนออกมาได้และตัดสิทธิ์พวกเขาทันทีก่อนที่จะส่งพวกเขาออกจากโรงเรียนสอนยิงธนู
“จะไล่ข้าทำไม! เรายังไม่ได้เริ่มเลยเหรอ!” ชายหนุ่มที่ถูกไล่ออกไปตะโกนเสียงดัง
“พวกเจ้าทุกคนได้รับแจ้งว่าเจ้าจะได้รับเพียงสิบห้านาทีให้เตรียมตัวให้พร้อม ตอนนี้เวลาหมดลงแล้ว ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้ยืนอยู่ในที่ที่สามารถเข้าร่วมการทดสอบจะถูกตัดสิทธิ์ทันที หากเจ้าไม่พอใจเจ้าก็จะถูกตัดสิทธิ์ในการสมัครครั้งต่อไปด้วย..”
เพียงพริบตาเดียว หลายสิบคนถูกตัดสิทธิ์และถูกไล่ออกจากสนามยิงธนู
สนามฝึกเงียบไปในทันทีเมื่อบรรยากาศเริ่มเคร่งขรึม ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นรู้สึกเย็นยะเยือกตามกระดูกสันหลัง ในเวลานี้เองที่ทุกคนตระหนักดีว่ากฎเกณฑ์ในโรงเรียนสอนยิงธนูนี้ไม่ใช่เรื่องตลก…