ตอนที่แล้ว492 - มิตรภาพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป494 - หุ้นส่วน

493 - สุดยอดปรมาจารย์นักรบ


493 - สุดยอดปรมาจารย์นักรบ

“เฮ้ เจ้ายังจะต่อสู้หรือไม่? มิเช่นนั้นจะถือว่าเจ้าเป็นผู้แพ้!”

ขณะที่ทั้งสามกำลังตื่นเต้นก็มีเสียงมาจากเวทีในบริเวณใกล้เคียง

“ฮ่าฮ่าฮ่า โปรดรอสักครู่ลี่เฉียง ข้าจะสู้กับคนๆนั้นให้เสร็จ แล้วเราค่อยหาอะไรกินกัน…” เสิ่นเติ้งหัวเราะและกำลังจะกลับไปที่เวที

เอี้ยนลี่เฉียงดึงเสิ่นเติ้งกลับมาแล้วส่ายหัวพร้อมกับบอกว่า

“เจ้าสู้เขาไม่ได้…”

“ต้าเฟิงเพิ่งทำร้ายแขนของเขาไปเมื่อสักครู่ รับรองว่าข้าไม่แพ้อย่างแน่นอน!” เสิ่นเติ้งเริ่มมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย

“ใช่ข้าคิดว่าเสิ่นเติ้งจะชนะแน่นอน ข้าลงทุนรับกำปั้นของเขาไปตั้งหลายครั้งเพื่อสร้างโอกาสให้กับเสิ่นเติ้ง!” สือต้าเฟิงพูดแทรก

“เขาตั้งใจจะปล่อยให้เจ้าตีเขาเพื่อที่เสิ่นเติ้งจะได้ไม่หวาดกลัวไปก่อน และเมื่อเสิ่นเติ้งเขาจะลงมือจัดการพวกเจ้าอย่างหนักแน่นอน…”

“อา เป็นไปได้ยังไง” เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงตกตะลึง

เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มให้คนที่ยืนอยู่บนเวทีและประสานมือพร้อมกับ กล่าวว่า

“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของเจ้า พี่น้องสองคนของข้ายอมรับว่าสู้เจ้าไม่ได้ หลังจากที่พวกเขากลายเป็นนักรบต่อสู้แล้วค่อยสู้กันอีกครั้งเถอะ!”

สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงเสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงก็ตกใจเช่นกัน

"อะไร? เขาอยู่ในระดับนักรบต่อสู้ไปแล้วงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! ครั้งสุดท้ายที่เราต่อสู้กันเขายังไปไม่ถึงระดับนั้นอย่างแน่นอน!” สือต้าเฟิงถามด้วยความไม่เชื่อ

“เจ้าต่อสู้กับเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” เอี้ยนลี่เฉียงถาม

“เมื่อเจ็ดวันก่อน!” เสิ่นเติ้งได้ตอบกลับ

“บางทีเมื่อเจ็ดวันก่อนเขาอาจจะไม่ใช่นักรบ แต่ตอนนี้เขาเป็นแล้ว!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและกล่าวเสริมว่า

“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าสองคนจะสร้างความปั่นป่วนไม่น้อยตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นฝ่ายตรงข้ามคงไม่พยายามปิดบังฝีมือของตัวเองไว้เพื่อสั่งสอนพวกเจ้าโดยเฉพาะ!”

“ถ้าเป็นกรณีนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันแล้ว…”

เสิ่นเติ้งไม่สนใจที่จะต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ไม่มีวันเอาชนะได้ แม้ว่าเขาจะพัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เอี้ยนลี่เฉียงจากไป แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะนักรบที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน

สือต้าเฟิงขมวดคิ้วขณะที่เขาเหลือบมองไปที่เวทีและถอนหายใจ

“น่าเสียดายสำหรับเงินสิบเหรียญของข้า!”

“ข้าขอทราบชื่อเจ้าได้ไหม” ชายหนุ่มที่อยู่บนเวทีก็มีความสง่างามไม่น้อย เขานำเงิน 10 เหรียญทองออกมาและมอบคืนให้สือต้าเฟิง

“ในวันนี้เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงเป็นคนบังคับให้เราต่อสู้เอง ข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังระดับการบ่มเพาะกับพวกเขา วันนี้ถือว่าเสมอกันเถอะ!”

เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบมองไปที่บุคคลนั้น ด้วยความสามารถของงูพลังจิตเขารู้ทันทีว่าคนคนนี้กล่าวออกมาด้วยความจริงใจ

ชายหนุ่มผู้ต่อสู้กับเสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงถูกตามตัวมาเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่สหายของเขาพ่ายแพ้ ความตั้งใจของเขาคือการสอนบทเรียนให้กับความ 'หยิ่งยโส' ของสือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้ง

อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเจตนาร้ายอื่นใด เมื่อเขาค้นพบว่าเอี้ยนลี่เฉียงสามารถมองทะลุความแข็งแกร่งของเขาซึ่งแม้แต่สหายของเขาก็ยังไม่รู้เขาจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับน้ำใจของเจ้า ข้าชื่อเอี้ยนลี่เฉียงข้าเคยเป็นนักเรียนที่สถาบันศิลปะการต่อสู้แห่งนี้!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มโดยไม่เย่อหยิ่งใดๆ

“เอี้ยนลี่เฉียง…ทำไมชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ…”

คนๆนั้นขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเอง แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างแล้วมองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยความตกใจ

เพราะในที่สุดเขาก็จำได้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงเป็นใคร ในสถาบันศิลปะการต่อสู้แคว้นผิงซี ชื่อนี้ได้กลายเป็นตำนานที่เต็มไปด้วยความลึกลับ...

เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มแต่ยังคงเงียบ เขาป้องหมัดแล้วออกจากห้องโถงพร้อมกับสือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้ง

“อา พี่เฟย เด็กน้อยคนนั้นเป็นใคร” ชายหนุ่มคนอื่นๆเข้ามาถาม

คนที่ชื่อพี่เฟยสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบที่สุด

“คนๆนั้นคือเอี้ยนลี่เฉียง!”

"อะไร?"

ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็อุทานออกมาด้วยความแตกตื่น!

ถึงตอนนี้เอี้ยนลี่เฉียง เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงได้ออกจากห้องโถงแล้ว

“ตอนนี้เราจะไปไหนกัน” สือต้าเฟิงถามทันที

“ไม่ได้เจออาจารย์สือมานานแล้ว อาจารย์สืออยู่ที่นี่หรือไม่? ถ้าเขาอยู่ที่นี่พวกเราก็เชิญเขาไปดื่มด้วย!” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าว

“ข้าเห็นอาจารย์สือเมื่อเช้านี้ ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ห้องพัก!” เสิ่นเติ้งตอบกลับ

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปพบอาจารย์สือกันเถอะ!”

“ลี่เฉียงเจ้าต้องจ่ายค่าอาหารวันนี้ ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้เจ้ารวยแล้ว เราจะเลือกสถานที่ที่แพงที่สุดในแคว้นผิงซี!” สือต้าเฟิง หัวเราะคิกคักในขณะที่เขาพูด

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าสามารถเลือกสถานที่ใดก็ได้ที่เจ้าชอบ ข้าสามารถจ่ายได้ทั้งเดือน!” เอี้ยนลี่เฉียงก็หัวเราะเช่นกัน

“ตกลงตามนี้!”

“ข้าเคยบิดพลิ้วคำพูดตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ!”

ทั้งสามคนมาถึงนอกลานซึ่งสือฉางเฟิงพักอยู่บนภูเขาพันสนก่อนถึงทางเข้าสือต้าเฟิงก็ตะโกนว่า

“อาจารย์ซือ เปิดประตูเร็ว! ดูซิว่าใครมาพบท่าน!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูลานบ้านก็เปิดออกด้วยเสียงเอี๊ยด สือฉางเฟิง ปรากฏตัวขึ้นหลังประตูพร้อมกับม้วนกระดาษในมือของเขาและเห็นเอี้ยนลี่เฉียงมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม

“อาจารย์สือ ไม่พบกันนานท่านยังคงดูดีเหมือนเดิม!”

“เอี้ยนลี่เฉียง…”

การแสดงออกของสือฉางเฟิงเต็มไปด้วยความตกใจและยินดีในทันที เขาไม่ได้คาดหวังว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะมาที่สถาบันศิลปะการต่อสู้เพื่อพบเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า อาจารย์สือข้าทำข้อตกลงกับเอี้ยนลี่เฉียงไว้แล้วว่าเขาจะจ่ายค่าอาหารวันนี้ เราจะไปที่ที่แพงที่สุดในเมืองผิงซี และล้างผลาญเขาให้ถึงที่สุด!” เสิ่นเติ้งหัวเราะ

“อันที่จริงเราควรจะให้โอกาสเขาได้ใช้เงินบ้าง ท้ายที่สุดรถม้าที่เขาสร้างขึ้นก็ทำให้ทุกคนอิจฉาจริงๆ!”

สือฉางเฟิงก็หัวเราะและมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงแล้วกล่าวว่า

“วันนี้เจ้ามาที่นี่ด้วยรถม้าของเจ้าหรือเปล่า? ข้าอยากจะลองนั่งรถม้าที่แม้แต่จักรพรรดิก็ยังบอกว่าเป็นพาหนะที่ดีที่สุดในโลกสักครั้ง!”

“ถ้าอาจารย์สือชอบข้าจะให้ฝ่ายผลิตทำเป็นของขวัญแก่ท่าน!”

“ถ้าเจ้าพูดแบบนั้นข้าก็จำเป็นต้องรับไว้แล้ว!” สือฉางเฟิงวางม้วนกระดาษไว้บนโต๊ะแล้วหันกลับมายิ้มให้กับเอี้ยนลี่เฉียงพร้อมกับพูดว่า

“จากคำพูดของเจ้าแสดงว่าข้าไม่สามารถซื้อรถม้าที่สำนักงานการผลิตสร้างขึ้นได้อย่างนั้นหรือ!”

“แม้ว่าจะพูดลำบากอยู่บ้าง แต่ก็น่าจะเป็นความจริง!”เอี้ยนลี่เฉียงกะพริบตา “ข้าต้องการอาจารย์สำหรับโรงเรียนยิงธนูของข้าสักคน ไม่ทราบว่าอาจารย์สือยินดีจะรับหน้าที่นี้หรือไม่!”

“เกรงว่ารถสี่ล้อคันเดียวคงไม่พอ!” สือฉางเฟิงยิ้มในขณะที่เขาส่ายหัว

“ถ้าคันเดียวไม่พอ สองคันก็แล้วกัน!”

สือฉางเฟิงตกตะลึงก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะ เมื่อเขาหัวเราะเสร็จแล้ว เขาก็มองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยสายตาที่หรี่ลง

“มันเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่เราพบกันครั้งล่าสุด เจ้ากลายเป็นคนพูดที่คล่องแคล่วแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าบรรลุขอบเขตบ่มเพาะได้แล้ว?

ข้าได้ยินข่าวจากเมืองหลวงว่าเจ้าถูกธาตุไฟเข้าแทรกและกลายเป็นคนพิการไม่สามารถบ่มเพาะได้ แต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่านั่นไม่เป็นความจริง!”

“ถ้าข้าบอกความจริงกับท่านท่านจะยินยอมมาทำงานกับข้าไหม” เอี้ยนลี่เฉียงถามด้วยความหมายสองประการ

“ฮ่าฮ่าฮ่า บางที…”

“ถ้าเป็นคนอื่นถามข้าจะไม่บอกอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นอาจารย์สือที่ถาม ข้าก็ไม่กล้าปิดบังความจริงกับท่าน!”เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มในขณะที่เขามองไปที่สือฉางเฟิงแล้วกล่าวว่า

“ตอนนี้ข้าได้ก้าวเข้าสู่ระดับสุดยอดปรมาจารย์นักรบแล้ว นี่เพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้อาจารย์สือติดตามข้าและออกจากสถาบันศิลปะการต่อสู้?”

"อะไร?!"

การแสดงออกของสือฉางเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง แต่สือต้าเฟิง และเสิ่นเติ้งที่อยู่ข้างๆเขาตกใจมาก สือต้าเฟิงอดไม่ได้ที่จะร้องด้วยความตกใจ

สือฉางเฟิงถอนหายใจและกล่าวว่า

“พวกเจ้าสามคน รอที่นี่สักครู่!” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังกลับเข้าไปในลานบ้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด