493 - สุดยอดปรมาจารย์นักรบ
493 - สุดยอดปรมาจารย์นักรบ
“เฮ้ เจ้ายังจะต่อสู้หรือไม่? มิเช่นนั้นจะถือว่าเจ้าเป็นผู้แพ้!”
ขณะที่ทั้งสามกำลังตื่นเต้นก็มีเสียงมาจากเวทีในบริเวณใกล้เคียง
“ฮ่าฮ่าฮ่า โปรดรอสักครู่ลี่เฉียง ข้าจะสู้กับคนๆนั้นให้เสร็จ แล้วเราค่อยหาอะไรกินกัน…” เสิ่นเติ้งหัวเราะและกำลังจะกลับไปที่เวที
เอี้ยนลี่เฉียงดึงเสิ่นเติ้งกลับมาแล้วส่ายหัวพร้อมกับบอกว่า
“เจ้าสู้เขาไม่ได้…”
“ต้าเฟิงเพิ่งทำร้ายแขนของเขาไปเมื่อสักครู่ รับรองว่าข้าไม่แพ้อย่างแน่นอน!” เสิ่นเติ้งเริ่มมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย
“ใช่ข้าคิดว่าเสิ่นเติ้งจะชนะแน่นอน ข้าลงทุนรับกำปั้นของเขาไปตั้งหลายครั้งเพื่อสร้างโอกาสให้กับเสิ่นเติ้ง!” สือต้าเฟิงพูดแทรก
“เขาตั้งใจจะปล่อยให้เจ้าตีเขาเพื่อที่เสิ่นเติ้งจะได้ไม่หวาดกลัวไปก่อน และเมื่อเสิ่นเติ้งเขาจะลงมือจัดการพวกเจ้าอย่างหนักแน่นอน…”
“อา เป็นไปได้ยังไง” เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงตกตะลึง
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มให้คนที่ยืนอยู่บนเวทีและประสานมือพร้อมกับ กล่าวว่า
“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของเจ้า พี่น้องสองคนของข้ายอมรับว่าสู้เจ้าไม่ได้ หลังจากที่พวกเขากลายเป็นนักรบต่อสู้แล้วค่อยสู้กันอีกครั้งเถอะ!”
สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงเสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงก็ตกใจเช่นกัน
"อะไร? เขาอยู่ในระดับนักรบต่อสู้ไปแล้วงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! ครั้งสุดท้ายที่เราต่อสู้กันเขายังไปไม่ถึงระดับนั้นอย่างแน่นอน!” สือต้าเฟิงถามด้วยความไม่เชื่อ
“เจ้าต่อสู้กับเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” เอี้ยนลี่เฉียงถาม
“เมื่อเจ็ดวันก่อน!” เสิ่นเติ้งได้ตอบกลับ
“บางทีเมื่อเจ็ดวันก่อนเขาอาจจะไม่ใช่นักรบ แต่ตอนนี้เขาเป็นแล้ว!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและกล่าวเสริมว่า
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าสองคนจะสร้างความปั่นป่วนไม่น้อยตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นฝ่ายตรงข้ามคงไม่พยายามปิดบังฝีมือของตัวเองไว้เพื่อสั่งสอนพวกเจ้าโดยเฉพาะ!”
“ถ้าเป็นกรณีนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันแล้ว…”
เสิ่นเติ้งไม่สนใจที่จะต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ไม่มีวันเอาชนะได้ แม้ว่าเขาจะพัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เอี้ยนลี่เฉียงจากไป แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะนักรบที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน
สือต้าเฟิงขมวดคิ้วขณะที่เขาเหลือบมองไปที่เวทีและถอนหายใจ
“น่าเสียดายสำหรับเงินสิบเหรียญของข้า!”
“ข้าขอทราบชื่อเจ้าได้ไหม” ชายหนุ่มที่อยู่บนเวทีก็มีความสง่างามไม่น้อย เขานำเงิน 10 เหรียญทองออกมาและมอบคืนให้สือต้าเฟิง
“ในวันนี้เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงเป็นคนบังคับให้เราต่อสู้เอง ข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังระดับการบ่มเพาะกับพวกเขา วันนี้ถือว่าเสมอกันเถอะ!”
เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบมองไปที่บุคคลนั้น ด้วยความสามารถของงูพลังจิตเขารู้ทันทีว่าคนคนนี้กล่าวออกมาด้วยความจริงใจ
ชายหนุ่มผู้ต่อสู้กับเสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงถูกตามตัวมาเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่สหายของเขาพ่ายแพ้ ความตั้งใจของเขาคือการสอนบทเรียนให้กับความ 'หยิ่งยโส' ของสือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้ง
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเจตนาร้ายอื่นใด เมื่อเขาค้นพบว่าเอี้ยนลี่เฉียงสามารถมองทะลุความแข็งแกร่งของเขาซึ่งแม้แต่สหายของเขาก็ยังไม่รู้เขาจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับน้ำใจของเจ้า ข้าชื่อเอี้ยนลี่เฉียงข้าเคยเป็นนักเรียนที่สถาบันศิลปะการต่อสู้แห่งนี้!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มโดยไม่เย่อหยิ่งใดๆ
“เอี้ยนลี่เฉียง…ทำไมชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ…”
คนๆนั้นขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเอง แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างแล้วมองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยความตกใจ
เพราะในที่สุดเขาก็จำได้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงเป็นใคร ในสถาบันศิลปะการต่อสู้แคว้นผิงซี ชื่อนี้ได้กลายเป็นตำนานที่เต็มไปด้วยความลึกลับ...
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มแต่ยังคงเงียบ เขาป้องหมัดแล้วออกจากห้องโถงพร้อมกับสือต้าเฟิงและเสิ่นเติ้ง
“อา พี่เฟย เด็กน้อยคนนั้นเป็นใคร” ชายหนุ่มคนอื่นๆเข้ามาถาม
คนที่ชื่อพี่เฟยสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบที่สุด
“คนๆนั้นคือเอี้ยนลี่เฉียง!”
"อะไร?"
ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็อุทานออกมาด้วยความแตกตื่น!
ถึงตอนนี้เอี้ยนลี่เฉียง เสิ่นเติ้งและสือต้าเฟิงได้ออกจากห้องโถงแล้ว
“ตอนนี้เราจะไปไหนกัน” สือต้าเฟิงถามทันที
“ไม่ได้เจออาจารย์สือมานานแล้ว อาจารย์สืออยู่ที่นี่หรือไม่? ถ้าเขาอยู่ที่นี่พวกเราก็เชิญเขาไปดื่มด้วย!” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าว
“ข้าเห็นอาจารย์สือเมื่อเช้านี้ ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ห้องพัก!” เสิ่นเติ้งตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปพบอาจารย์สือกันเถอะ!”
“ลี่เฉียงเจ้าต้องจ่ายค่าอาหารวันนี้ ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้เจ้ารวยแล้ว เราจะเลือกสถานที่ที่แพงที่สุดในแคว้นผิงซี!” สือต้าเฟิง หัวเราะคิกคักในขณะที่เขาพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าสามารถเลือกสถานที่ใดก็ได้ที่เจ้าชอบ ข้าสามารถจ่ายได้ทั้งเดือน!” เอี้ยนลี่เฉียงก็หัวเราะเช่นกัน
“ตกลงตามนี้!”
“ข้าเคยบิดพลิ้วคำพูดตั้งแต่เมื่อไหร่!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ!”
ทั้งสามคนมาถึงนอกลานซึ่งสือฉางเฟิงพักอยู่บนภูเขาพันสนก่อนถึงทางเข้าสือต้าเฟิงก็ตะโกนว่า
“อาจารย์ซือ เปิดประตูเร็ว! ดูซิว่าใครมาพบท่าน!”
ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูลานบ้านก็เปิดออกด้วยเสียงเอี๊ยด สือฉางเฟิง ปรากฏตัวขึ้นหลังประตูพร้อมกับม้วนกระดาษในมือของเขาและเห็นเอี้ยนลี่เฉียงมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม
“อาจารย์สือ ไม่พบกันนานท่านยังคงดูดีเหมือนเดิม!”
“เอี้ยนลี่เฉียง…”
การแสดงออกของสือฉางเฟิงเต็มไปด้วยความตกใจและยินดีในทันที เขาไม่ได้คาดหวังว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะมาที่สถาบันศิลปะการต่อสู้เพื่อพบเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า อาจารย์สือข้าทำข้อตกลงกับเอี้ยนลี่เฉียงไว้แล้วว่าเขาจะจ่ายค่าอาหารวันนี้ เราจะไปที่ที่แพงที่สุดในเมืองผิงซี และล้างผลาญเขาให้ถึงที่สุด!” เสิ่นเติ้งหัวเราะ
“อันที่จริงเราควรจะให้โอกาสเขาได้ใช้เงินบ้าง ท้ายที่สุดรถม้าที่เขาสร้างขึ้นก็ทำให้ทุกคนอิจฉาจริงๆ!”
สือฉางเฟิงก็หัวเราะและมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงแล้วกล่าวว่า
“วันนี้เจ้ามาที่นี่ด้วยรถม้าของเจ้าหรือเปล่า? ข้าอยากจะลองนั่งรถม้าที่แม้แต่จักรพรรดิก็ยังบอกว่าเป็นพาหนะที่ดีที่สุดในโลกสักครั้ง!”
“ถ้าอาจารย์สือชอบข้าจะให้ฝ่ายผลิตทำเป็นของขวัญแก่ท่าน!”
“ถ้าเจ้าพูดแบบนั้นข้าก็จำเป็นต้องรับไว้แล้ว!” สือฉางเฟิงวางม้วนกระดาษไว้บนโต๊ะแล้วหันกลับมายิ้มให้กับเอี้ยนลี่เฉียงพร้อมกับพูดว่า
“จากคำพูดของเจ้าแสดงว่าข้าไม่สามารถซื้อรถม้าที่สำนักงานการผลิตสร้างขึ้นได้อย่างนั้นหรือ!”
“แม้ว่าจะพูดลำบากอยู่บ้าง แต่ก็น่าจะเป็นความจริง!”เอี้ยนลี่เฉียงกะพริบตา “ข้าต้องการอาจารย์สำหรับโรงเรียนยิงธนูของข้าสักคน ไม่ทราบว่าอาจารย์สือยินดีจะรับหน้าที่นี้หรือไม่!”
“เกรงว่ารถสี่ล้อคันเดียวคงไม่พอ!” สือฉางเฟิงยิ้มในขณะที่เขาส่ายหัว
“ถ้าคันเดียวไม่พอ สองคันก็แล้วกัน!”
สือฉางเฟิงตกตะลึงก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะ เมื่อเขาหัวเราะเสร็จแล้ว เขาก็มองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยสายตาที่หรี่ลง
“มันเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่เราพบกันครั้งล่าสุด เจ้ากลายเป็นคนพูดที่คล่องแคล่วแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าบรรลุขอบเขตบ่มเพาะได้แล้ว?
ข้าได้ยินข่าวจากเมืองหลวงว่าเจ้าถูกธาตุไฟเข้าแทรกและกลายเป็นคนพิการไม่สามารถบ่มเพาะได้ แต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่านั่นไม่เป็นความจริง!”
“ถ้าข้าบอกความจริงกับท่านท่านจะยินยอมมาทำงานกับข้าไหม” เอี้ยนลี่เฉียงถามด้วยความหมายสองประการ
“ฮ่าฮ่าฮ่า บางที…”
“ถ้าเป็นคนอื่นถามข้าจะไม่บอกอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นอาจารย์สือที่ถาม ข้าก็ไม่กล้าปิดบังความจริงกับท่าน!”เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มในขณะที่เขามองไปที่สือฉางเฟิงแล้วกล่าวว่า
“ตอนนี้ข้าได้ก้าวเข้าสู่ระดับสุดยอดปรมาจารย์นักรบแล้ว นี่เพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้อาจารย์สือติดตามข้าและออกจากสถาบันศิลปะการต่อสู้?”
"อะไร?!"
การแสดงออกของสือฉางเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง แต่สือต้าเฟิง และเสิ่นเติ้งที่อยู่ข้างๆเขาตกใจมาก สือต้าเฟิงอดไม่ได้ที่จะร้องด้วยความตกใจ
สือฉางเฟิงถอนหายใจและกล่าวว่า
“พวกเจ้าสามคน รอที่นี่สักครู่!” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังกลับเข้าไปในลานบ้าน