ตอนที่ 931 ต้องมีจุดประสงค์
เธอลุกจากเตียงและเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น
เขาเห็นเหมาเยซื่อเดินถือถุงสองใบเข้ามา
เขายิ้มและเดินมาหาเธอ
เขาวางถุงลงบนโต๊ะ แล้วดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็พรมจูบเธอ
“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ หิวหรือเปล่า ผมซื้ออาหารเช้ามา คุณอาบน้ำหรือยัง ออกไปกินข้าวเช้าก่อนเถอะ”
เฉียวเมียนเมียนหยุดเขา
“ไม่เอา ฉันยังไม่ได้แปรงฟันเลย...”
“ไม่เป็นไร”
เหมาเยซื่อดึงมือเธอออกแล้วจูบเธออีกครั้ง
“ที่รัก สำหรับผมแล้วคุณน่ะหอมหวานเสมอ”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
“คุณลงไปทานข้าวเช้าข้างล่างมาเหรอ” เธอเหลือบมองไปที่ถุง
“ผมไปออกกำลังกายด้วย ที่นี่มียิมด้วย ถ้าคุณอยากออกกำลังกาย ผมจะคุณไปด้วย”
เหมาเยซื่อลูบศีรษะพร้อมกับยิ้มให้กับเธอ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงรอบคอของเธอ
เขาตั้งใจทำเป็นพิเศษ
ให้เห็นชัดเจน
“เอ่อ ลืมไปเลย”
เฉียวเมียนเมียนเป็นคนขี้เกียจ ทว่าโชคดีที่น้ำหนักของเธอไม่ขึ้น แม้จะไม่ได้ดูแลรูปร่างของตนเองอย่างเคร่งครัด
ดังนั้นเธอจึงแตกต่างไปจากดาราหญิงคนอื่น ๆ ที่ต้องควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด
สำหรับเธอแล้ว หากเธอต้องควบคุมอาหารและอดที่จะไม่กินของที่ชอบ แล้วความสนุกของชีวิตจะเป็นอย่างไร
นั่นคือสิ่งที่เธอชอบ
อาหารเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเธอ
โชคดีที่ลินดาไม่ได้เข้มงวดเรื่องอาหารการกินและไม่บังคับให้เธอเลือกกิน
เฉียวเมียนเมียนพอใจกับสิ่งนี้มาก
แน่นอน เธอไม่ใช่คนที่จะไม่ควบคุมตัวเองเอาเสียเลย เธอไม่ต้องการจำกัดการกินจนมากเกินไป
เธอเองก็รู้ตัวเช่นกัน ว่าหากไม่คุมอาหารเลย และปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจะไม่ดีต่ออาชีพการงาน
เหมาเยซื่อพูดเพียงสั้น ๆ เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก
“ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
เฉียวเมียนเมียนปล่อยมือจากเขา เธอได้กลิ่นอาหารทะเลโชยมา จึงทำให้รู้สึกหิวขึ้นมาในทันที
“อืม รีบไปเถอะ” เหมาเยซื่อลูบศีรษะเธอ
“ผมจะออกไปเตรียมอาหารเช้า อาบน้ำเสร็จแล้วมาทานข้าวกัน”
“ค่ะ”
....
เมื่อเฉียวเมียนเมียนไปอาบน้ำ เธอเห็นรอยแดงสะท้อนในกระจก
เธอยืนอยู่หน้ากระจก ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ชายคนนี้นี่...
เขาคงตั้งใจทำล่ะสิ
รอยพวกนี้ คงทำให้มีคนเห็น หากเขายังไปเยี่ยมตู่อี้เล่ยที่โรงพยาบาล
เฉียวเมียนเมียนคิดว่าตู่อี้เล่ย คงจะออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ในเร็ววัน ถ้าเธอไปโรงพยาบาลทุกวัน ยังไงก็ต้องเป็นข่าวเข้าสักวัน
ถึงเวลานั้น แฟนคลับของเขาต้องอยู่ไม่สุขอีกแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ไป่ซู่ได้บอกให้ทุกคนในกองถ่ายเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ดังนั้นข่าวอาการบาดเจ็บของตู่อี้เล่ยจึงไม่แพร่ออกไป