ตอนที่ 67 ฝึกขี่ม้า
ตอนที่ 67 ฝึกขี่ม้า
กายเปิดประตูร้านออกมาก็ต้องแปลกใจสมควร ตอนนี้ข้างนอกแสงสว่างเริ่มบางตาลง เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 4 โมงเย็นแล้ว ท้องฟ้าเหนือนครดาราฟ้ากลายเป็นสีทองตัดกับก้อนเมฆในยามยัน สายลมที่พัดไปรอบ ๆ ทำถนนบีทแห่งนี้ดูหนาวขึ้นมาทันตา
ผ่านไปไม่นานกายเริ่มสังเกตเห็นแสงไฟจากตะเกียงน้ำมันที่ถูกจุดขึ้นตามบ้านเรือนร้านค้า และบางส่วนยังถูกจุดบนถนนแน่นอนว่า ตะเกียงน้ำมันเหล่านั้นอยู่ในการรับผิดชอบของทางนครดาราฟ้า
ต้องรีบแล้วไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ไม่ทันอย่างแน่นอน...
ไม่รอช้าชายหนุ่มถือตัวอย่างของมีดสั้นและดาบอีกหนึ่งทั้งสามชิ้นตรงไปที่ร้านช่างไม้กิล โดยไม่ลืมว่าจะต้องหันไปล็อกประตูร้านก่อน
แครก ๆ
กายไปถึงร้านช่างไม้กิลซึ่งตอนนี้มีแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันสั่นไหววูบวาบอยู่สองสามจุดซึ่งมากพอจะให้ความสว่างทั้งร้านได้อย่างไม่มีปัญหาเมื่อรวมกับแสงด้านนอกเล็กน้อยในตอนนี้
ตอนนี้ภรรยาของช่างไม้กิลนั้นกำลังทำอาหารเย็นอยู่ด้านหลัง ส่วนช่างไม้กิลและลูกสาวตัวน้อยกำลังช่วยกันทำป้ายร้านอย่างสนุกสนาน
ในตอนแรกกายคิดว่ากิลคงจะดูเหนื่อยจากการต้องทำงานเกินเวลาในตอนเย็น แต่จากสีหน้ากิล มันเหมือนเป็นเรื่องปกติมากกว่า
อาชีพอย่างเขาคงทำงานช่วงเย็น ๆ อย่างว่าทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย แถมงานที่เราจ้างก็ไม่ใช้เงินน้อย ๆ
“โอ้...เจ้าเองหรอกหรือ มีอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องป้ายร้านน่าจะอีกราว ๆ ชั่วโมงหนึ่งก็เสร็จแล้ว” ช่างไม้กิลที่สังเกตเห็นกายอย่างเป็นกันเอง
“หืม...ไวมาก ไหนช่างไม้กิลบอกว่าวันพรุ่งนี้ถึงได้”
“พอดีข้าลองปรับเปลี่ยนวิธีการทำนิดหน่อย มันทำให้งานที่เจ้าออกแบบทำได้ไวขึ้น แต่พวกการออกแบบเหล่านี้สุดยอดมากจริง ๆ ข้าคิดว่าไฟในตัวถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ”
ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาหาทางปรับการออกแบบให้เข้ากับตัวเอง เพื่อทำให้เร็วขึ้นสินะ สมกับเป็นช่างไม้มากประสบการณ์
กายชมเชยช่างไม้กิลในใจ ก่อนจะหยิบตัวอย่างที่จะให้ช่วยทำด้ามจับออกมา
“ของพวกนี้คือตัวอย่าง พอดีข้าต้องการให้ช่างไม้กิลช่วยทำด้ามจับและปลอกมีดและดาบให้จำนวนหนึ่ง ถ้าได้พรุ่งนี้จะยิ่งดี แน่นอนว่าราคาต่อชุดข้าให้ 1 เหรียญทอง ส่วนวัสดุนั้นแล้วแต่จะใช้ ขอแค่สมราคาก็พอ”
ช่างไม้กิลมองดูใบมีดยาว 8 นิ้วและ 12 นิ้ว กับใบดาบที่ยาว 26 นิ้วพร้อมกับคิดในใจว่า ชายคนนี้เป็นช่างโลหะทั่วไปจริง ๆ อย่างที่บอกด้วย ถ้าอย่างนั้นของพวกนี้ก็พึ่งออกมาจากโรงตีเหล็กสินะ ถ้าลูกสาวของเราได้คู่ครองที่เก่งแบบชายคนนี้ในอนาคตคงไม่ต้องกลัวอดอยากอีกแล้ว
กายส่งของในมือให้กับช่างไม้กิล แน่นอนว่ากายยังบอกจำนวนที่ตัวเองต้องการไปและยังเกริ่นด้วยว่าในอนาคตนั้นอาจจะต้องการมากกว่านี้
เมื่อได้ยินว่าต้องการมากกว่านี้อีกช่างไม้กิลก็รู้สึกว่าอาชีพช่างโลหะนั้นช่างน่าอิจฉา แต่ก็อดเตือนกายไม่ได้ถึงเรื่องหนึ่ง
“เออ...ถนนบีทแม้จะมีผู้คนอยู่มากก็จริง แต่ก็อยากจะขายพวกมีดสั้นและดาบเพราะส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ”
“ขอบคุณ แต่ข้ามีลูกค้ารองรับของพวกนี้ อีกไม่กี่วันร้านของข้าคงจะมีคนเข้าออกจำนวนมากอย่างแน่นอน” กายยิ้มตอบกลับไปอย่างมั่นใจ มันเข้าใจว่ากิลหวังดี บางครั้งแม้มีฝีมือแต่ไม่มีคนซื้อก็คงจะทำให้เกิดปัญหาด้านการเงินตามมาได้
ที่สำคัญในเรื่องของการซื้อขายอาวุธมันก็ไม่ใช่ว่านครดาราฟ้าไม่มีกฎระเบียบ ชายหนุ่มต้องเสียภาษีที่แพงมากพอสมควรให้กับทางนครดาราฟ้า
หลังจากออกจากร้านช่างไม้กิล กายตรงไปที่ลานต้นโอ๊คนอกนครดาราฟ้าด้วยรถม้าชนิดสองล้อที่ขับเคลื่อนด้วยม้า 1 ตัว ระหว่างนั้นกายก็มองคนขับควบคุมรถม้าอย่างชำนาญ ชายหนุ่มต้องการดูคนขับควบคุมม้าอย่างไร
ราวกับทั้งคนและม้าสื่อถึงกันไม่มีผิด
นี่คือข้อสรุปที่ชายหนุ่มได้ แต่นอกนั้นกายไม่อาจจะรู้ได้ เนื่องจากมันไม่ได้ลงมือด้วยตนเอง กายไม่รู้ว่าการฝึกขี่ม้าจะเป็นเหมือนการเรียนศิลปะการต่อสู้หรือไม่ ที่มีระบบเกมมาช่วย
คำตอบที่กายรอนั้นไม่นานก็จะได้รู้ เพราะตอนนี้กายมาถึงที่ล้านต้นโอ๊คแล้ว ข้างนอกกำแพงของนครดาราฟ้า แม้จะเย็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้มืดเหมือนด้านในนครดาราฟ้า
ที่นี่บรรยากาศดีมากจนใจของกายรู้สึกหวิว ๆ กายกำลังอิจฉาเปล่า NPC ที่อาศัยอยู่ในโลกที่สวยงามแบบนี้
“โลกราชันกับโอเอซิสสองที่นี้ใครจะสวยงามกว่ากัน” กายพึมพำด้วยเสียงที่แผ่วเบาไปตามสายลมซึ่งพัดยอดหน้ายามเย็น ในตอนนั้นสายตาของชายหนุ่มก็เห็นมีอาและลิลี่ที่ขี่ม้ากันมาคนละตัว ตัวที่ลิลี่ขี่เป็นสีขาวและดำเป็นจุดสลับกันไปตามตัว
ส่วนตัวของมีอานั้นเป็นสีดำสนิทสมกับเป็นมีอา และด้านข้างยังมีม้าสีเทารูปร่างสูงแข็งแรงแต่ไม่โดดเด่นอีกตัวมาด้วย
“เฮ้...กาย!! ข้ากับมีอานึกว่าเจ้าจะหายไม่ทันมาฝึกซ้อมซะแล้ว” เสียงลิลี่ดังมาแต่ไกล มีอาเองก็โบกมือให้เขาเช่นกัน
กายยังมือโบกไปมาตอบกลับไป ในใจมันเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้ลองขี่ม้าจริง ๆ มันเหมือนฝันจริง ๆ สมแล้วที่เป็นเกมราชันสงครามออนไลน์ที่สามารถทำในสิ่งที่ฝันให้เป็นจริงได้ในนี้
ทั้งมีอาและลิลี่ขี่ม้ามาวนรอบกายหนึ่งรอบก่อนจะหยุดลง
“พวกเจ้าไปเอาม้ามาจากไหน” กายถามด้วยความอยากรู้ม้าตัวหนึ่งนั้นไม่ถูกอย่างแน่นอน
“ม้าพวกนี้คือม้าเช่นมา แม้จะแพงแต่ราคาก็ถือว่าคุ้มค่า”
“ตัวนี้เราเช่ามาเผื่อเจ้ามันคือม้าตัวผู้แข็งแรงน่าดู แต่ก็ไม่ใช่ม้าระดับสูงอะไรเป็นแค่ระดับ 2 เท่านั้น” มีอาส่งสายบังเหียนให้กับชายหนุ่ม ในตอนนั้นเองก็มีหน้าต่างสถานะขึ้นแจ้งเตือนกาย
“ม้าสายพันธุ์มัสแตงแห่งทุ่งหน้ากิรา”
“ชื่อ : 16”
“ระดับ : 2”
“หมายเหตุ : สามารถพัฒนาได้”
ชื่อของมันคือ 16 หรือก็คือคนเลี้ยงตั้งไว้แบบนั้น ระดับสองคงจะจัดอันดับคล้าย ๆ กับนักรบสินะ น่าสนใจ แต่หมายเหตุที่บอกว่าสามารถพัฒนาได้ หรือมันมีศักยภาพเป็นม้าระดับสูงได้มากขึ้น แต่เจ้าของคอกที่ทำธุรกิจให้เช่าม้ากลับปล่อยให้เช่าแบบนี้ หรือว่าจะไม่รู้ว่ามันยังพัฒนาระดับได้อีก
ไม่สิ จะไม่รู้ก็ไม่แปลกเพราะเราเป็นผู้เล่นจึงมีหน้าต่างสถานะช่วยบอกแบบนี้ ชักน่าสนใจแล้วสิ
กายพิจารณาหมายเลข 16 อย่างใจเย็น
“ม้าสายพันธุ์มัสแตงแห่งทุ่งหน้ากิรา แม้จะดุร้ายแต่ตอนนี้มันถูกฝึกจนเชื่องแล้ว ดังนั้นเหมาะจะเริ่มเรียนขี่ม้าของมือใหม่มาก ด้วยแรงของนักรบฝึกหัดขั้นสองจึงควบคุมมันง่าย ส่วนตัวที่ลิลี่ขี่อยู่นั้นคือม้าสายพันธุ์เพนต์ มันตัวใหญ่มีลายจุดขาวดำ แน่นอนว่ามันแข็งแรงกว่าม้ามัสแตง เหมาะกับพวกใส่เกราะหนักแต่ก็ต้องการคนที่แข็งแรงมากเช่นกันและม้าที่ข้าขี่อยู่เป็นพันธุ์เดียวกับเจ้า”
มีอาอธิบายให้กายฟังถึงม้าทั้งสามตัว กายมองดูม้าที่ลิลี่ขี่อยู่ มันตัวใหญ่และแข็งแรงจริง ๆ แต่พอมาอยู่ในมือของลิลี่จอมพลังมันกลับเชื่องราวกับลูกหมาไม่มีผิด แน่นอนว่าในกรณีที่มันเป็นแค่ระดับ 2 เหมือน ๆ กัน ถ้าม้าพวกนี้มีระดับสูงกว่านี้ลิลี่ก็อาจจะควบคุมพวกมันไม่ไหว
หลังจากถึงตรงนี้กายก็เริ่มสงสัยในเกมว่า “โลกราชันจะมีสัตว์วิเศษหรือเปล่า..”
“เอาละเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะถ้าเย็นเจ้าอาจจะต้องจูงม้ากลับเข้านครดาราฟ้าแน่” มีอายิ้มให้กายจากนั้นก็เริ่มบอกตั้งแต่วิธีการขึ้นหลังม้า
“การขึ้นหลังม้าไม่ยาก เจ้าต้องเดินไปขึ้นทางด้านซ้ายของมัน มือจับบังเหียนให้แน่ จากนั้นก็ใช้เท้าเหยียบโกลนที่ติดอยู่กับอานม้าด้านซ้าย จากนั้นก็ยันตัวขึ้น”
กายไม่รอช้าทำตามที่มีอาสอนใจทันที เดินไปทางด้านซ้ายมือหนึ่งจับบังเหียนเท้าเหยียบเท้าโกลนที่ห้อยติดอานม้าจากนั้นก็ยันตัวขึ้นตามขั้นตอน
ในครั้งแรกกายขึ้นมาได้อย่างง่ายดายด้วยพละกำลังของนักรบฝึกหัดขั้น 2 ซึ่งเหมือนกับว่านักรบนั้นเกิดมาเพื่อขี่ม้า
ทันใดนั้นก็มีข้อความจากระบบขึ้นมา
“ฝึกขี่ม้า 36 ชั่วโมง เพื่อเริ่มเรียนรู้ [การขี่ม้าเบื้องต้น(0%) ]”
แต่กายยังไม่ทันอ่าน ข้อความก็หายไป เพราะมันเผลอเอาเท้าไปกระทุ้งท้องของม้าเบา ๆ เท่านั้นม้าก็ออกตัววิ่งอย่างแรงจนกายไม่ทันตั้งตัวหล่นดัง อัก!
มีอาเพียงยิ้มและกลั่นเสียงหัวเราะ แต่ลิลี่นั้นหัวเราะลั่นพลางตบหน้าแข้งอย่างชอบใจ กายรีบลุกสะบัดเสื้อผ้าและแกล้งไอเล็กน้อยก่อนจะทำเป็นไม่เจ็บ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็จุกใช้ได้เลยยังดีที่กายแข็งแรงกว่าในระดับเดียวพอสมควร บวกกับตัวของชายหนุ่มใกล้จะหายดีจากอาการบาดเจ็บแล้ว
จึงไม่เป็นอะไรมาก
“ถ้าเข้าเอาเท้ากระทุ้งไปที่ท้องม้ามันจะออกตัวเดินในทันที ส่วนจะหยุดก็แค่ดึงบังเหียนเบา ๆ” มีอาบอกกับกายก่อนจะทำให้ดู กายมองมีอาอย่างไม่ว่าตาไม่รู้ว่ามองดูม้าหรือเธอ
หลังจากนั้นกายลองขึ้นแบบเดิมข้อความจากระบบขึ้นมาเหมือนก่อนหน้า
“ฝึกขี่ม้า 36 ชั่วโมง เพื่อเริ่มเรียนรู้ [การขี่ม้าเบื้องต้น(0%) ]”
เริ่มจากพาม้าเดินไปช้า ๆ และลองหยุด ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากมากนัก และการฝึกในเย็นวันนี้ก็มีแต่เพียงการพาม้าเดินและเพิ่มระดับความเร็วจนถึงหยุดม้า จนลงด้วยกาย มีอาและลิลี่วิ่งขี่ม้าแข่งกันกลับเข้าไปในนครดาราฟ้า แต่ก็เข้ามาได้จนถึงเขตที่ห้ามขี่ม้ายกเว้นพวกรถม้า
ทำให้พวกเขาต้องลงเดินจนพาม้ากลับไปคืนที่ คอกม้า ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนครดาราฟ้า กายมองคอกม้านี้อย่างสนใจ
“คอกม้าเฟรเดริก...” กายอ่านชื่อคอกม้าและจดจำไว้ในใจ เพราะมันเชื่อว่าตนเองต้องมาที่นี่อีกหลายครั้ง
“ที่นี่นอกจากมีม้าให้เช่าแบบตัว แล้วก็มีม้าที่ใช้ลากรถม้าตามถนนในนครอีกด้วย แต่แน่นอนว่าธุรกิจนี้การแข่งขันสูงมาก” มีอาเล่าเสริมให้กายฟัง
กายพยักหน้าขอบคุณ และถามมีอาต่อ “เธอจะกลับเลยใช่ไหม ถ้ายังข้าจะพาพวกเจ้าสองคนไปเลี้ยงอาหารสักมื้อ”
“แน่นอนพวกเราว่าง” ลิลี่รีบตอบก่อนจะดึงมีอามุ่งหน้านำไปก่อนในทันที กายรีบเดินตามอย่างไม่รอช้า พอพูดถึงเรื่องกินสองสาวก็ดูจะตื่นเต้นกว่าตอนขี่ม้าซะอีก
ตอนแรกเขาคิดว่าพวกเธอจะพากันไปกินร้านหรู ๆ แต่ไม่ใช่ทั้งสองกับเลือกไปกินร้านอาหารริมทางแทน
หลังจากกายเสียค่าอาหารไปถึง 3 เหรียญทองชายหนุ่มก็กลับไปที่ร้านของตนเองตามเดิม
ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปนอนชั้นสองและหมดเวลาภายในโลกราชัน
“ล็อกเอาท์”