ตอนที่แล้วTHW ตอนที่ 11+12(3/3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTHW ตอนที่ 13+14(2/3) ตลาดนัดเชลซี + อาทิตย์อัสดงในแมนแฮตตัน

THW ตอนที่ 13+14(1/3) ตลาดนัดเชลซี + อาทิตย์อัสดงในแมนแฮตตัน


THW ตอนที่ 13+14(1/3) ตลาดนัดเชลซี + อาทิตย์อัสดงในแมนแฮตตัน

และจากนั้น เย่เทียนก็มาถึงตลาดนัดเชลซีในเวลาบ่ายโมงตรง

ซึ่งมันเป็นเวลาที่ร้อนที่สุดของที่นี่ ขณะที่ตลาดนัดนี้ก็เต็มไปด้วยผู้คน และมีชีวิตชีวาอย่างมาก

ตลาดนัดเชลซีเป็นสตรีทมาร์เก็ต ซึ่งอยู่ถัดจากสวนมาดิสัน และอยู่ใกล้กับตึกแฟลทไอออน มันมีพื้นที่กว้าง และเป็นตลาดนัดแบบเก่า ซึ่งมีประวัติความเป็นมากว่าสี่สิบปี ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากจากทั่วทั้งนิวยอร์ก

ที่นี่มีร้านอยู่ประมาณ 135 ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแต่ขายของเกี่ยวกับของเก่า ของโบราณ และของทำมือ และก็มีบางร้านที่ขายอาหาร

นี่ไม่เหมือนกับตลาดนัดแห่งอื่น เพราะไม่เพียงแต่จะขายของโบราณ ของมือสอง หรืออาหารทั่วไป แต่ที่นี่ยังมีร้านรับเลี้ยงสุนัขจรจัดที่จะมาตั้งร้านเพื่อหาคนรับเลี้ยงสุนัขจรจัดพวกนี้ไป

ทุกๆ สัปดาห์ ตลาดนัดแห่งนี้จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากจากทั่วทั้งนิวยอร์กมากอุดหนุน และกระทั่งว่ามีบางคนจากเมืองอื่นมาเยี่ยมชม

ผู้คนมาที่นี่เพื่อหลากหลายเป้าหมาย บางคนมาเพื่อซื้อของราคาถูก บางคนมาเพื่อชิมอาหาร และบางคนมาเพื่อประสบการณ์การเยี่ยมชมวัฒนธรรมของนิวยอร์ก เพราะที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในนิวยอร์ก

หลังจากจ่ายค่าเข้าตลาดในราคาหนึ่งเหรียญแล้ว เย่เทียนก็ได้หยิบมือถือของเขาออกมา แล้วกดโทรหาเจสัน

นี่เป็นเวลาอาหารกลางวัน ดังนั้น ฉันจึงต้องถามเขาเกี่ยวกับร้านฮอตดอก พร้อมกับถามถึงสถานการณ์ต่างๆ ของที่นี่ด้วย

หลังจากฟังเสียงรอสายสักพัก ก็มีเสียงรับสายดังขึ้น

สวัสดี นี่เจสันพูด ไม่ทราบว่าใครโทรมา?”

“นี่ฉันสตีเวนนะ ฉันมาถึงเชลซีแล้ว ร้านของนายอยู่ไหน? ฉันจะไปหา”

“ร้านฉันอยู่หมายเลข 48 นายสามารถเจอได้หากเดินเข้ามาตรงกลาง ฉันอยู่ที่นี่แล้ว”

“โอเค แล้วเจอกัน”

หลังจากพูดเสร็จ เย่เทียนก็วางสาย พร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน

ขณะที่เดินตามหลังกลุ่มคน เย่เทียนก็ทำการแสกนร้านรอบข้างไปด้วย เพื่อจะดูว่ามีสมบัติอะไรที่เปล่งแสงเข้าตาเขาหรือเปล่า

ตลาดนัดเชลซีนี้เห็นได้ชัดว่ามีระดับสูงกว่าดัมโบดัมโบ้ มันมีของมากกว่า มีผู้คนมากกว่า และเกิดการซื้อขายที่มากกว่า

และแน่นอนว่าที่นี่มีของโบราณมากกว่าในสายตาของเย่เทียน

หลังจากเดินมาได้ยังไม่ถึงสิบเมตร เย่เทียนก็เห็นแสงสีขาวที่เข้าตาเขาอยู่หลายครั้ง ซึ่งมีระดับของความสว่างที่ต่างกัน ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นของโบราณจากระยะเวลาต่างๆ ในช่วงร้อยปีมานี้ บ้างก็มีค่า บ้างก็มีค่าแค่นิดหน่อย

และนอกเหนือจากนี้ ยังมีของอยู่หลายชิ้นที่เปล่งแสงสีแดงเข้าตาเขา เหล่านี้ล้วนแต่เป็นของโบราณจากศตวรรษที่ 19 ซึ่งพวกมันส่วนใหญ่ล้วนแต่มาจากช่วงกลางและท้าย ซึ่งของโบราณพวกนี้มีรัศมีความหนาที่ไม่เท่ากัน และก็มีคุณค่าทางศิลปะอยู่บ้าง

ซึ่งการค้นพบเหล่านี้ทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก และดูเหมือนว่าเขาจะมีการเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุดในวันนี้!

แต่ก่อนจะถึงช่วงเวลาล่าสมบัติ มันเป็นเวลากินอาหารก่อน!

ตั้งแต่ที่ได้รับพลังนี้มา เย่เทียนก็พบว่าความอยากอาหารของเขาเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งความเร็วในการใช้พลังงานและย่อยอาหารก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้เขารู้สึกหิวง่ายขึ้นกว่าเดิม

เห็นได้ชัดว่าความสามารถของเขานี้ นอกจากจะเผาผลาญรัศมีของของโบราณแล้ว ยังเผาผลาญแคลอรี่ของเขาด้วย

หลังจากเดินมาสักพัก เย่เทียนก็เห็นร้านของเจสันซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า ร้านของมือสองของเบนนี่

ที่นั่นมีแขกอยู่สองสามคนตรงหน้าร้าน ซึ่งเจสันและเพื่อนอีกสองคนของเขาต่างกำลังยุ่งอยู่กับการอธิบายสินค้า เมื่อพวกเขาเห็นเย่เทียนเข้ามา พวกเขาก็รีบพยักหน้าและก็ยิ้มให้กับเขา พร้อมกับส่งสัญญาณบอกให้เขารอสักพัก

เย่เทียนพยักหน้ารับ จากนั้นก็ยืนอยู่อีกด้านเพื่อรอ

ขณะที่ว่าง เขาก็เริ่มทำการแสกนร้านมือสอง

คุณไม่จำเป็นต้องนึกถึงของมือสองเลย ในขณะที่มอง สินค้ามือสองที่ขายในร้านค้ามือสองนั้น ถือเป็นห่วงโซ่สุดท้ายและมันไม่ทำกำไรให้คุณแต่อย่างใด

นอกจากว่าจะมีบางสิ่งที่คุณต้องการ หรือชอบเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับมัน

เย่เทียนที่กวาดสายตามอง อย่างรวดเร็วก็ได้ถูกดึงดูดโดยของสิ่งหนึ่งที่เปล่งแสงสีขาวออกมาจากในร้าน และนาฬิกานั้นก็ได้เปล่งรัศมีสีแดงก่ำออกมาทั้งหมด

จากแสงที่เปล่งออกมาจากนาฬิกา และรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ เย่เทียนก็ทำการตัดสินใจพื้นฐานได้ทันที

นี่คือนาฬิกาตั้งโต๊ะชุบทองแดงสไตล์คลาสสิค มันดูโดดเด่นจับตามาก และมันมาจากช่วงต้นของศตวรรษที่สิบเก้า ซึ่งยังทำงานได้ดีและได้รับการปกป้องมาอย่างดี

และรัศมีที่เปล่งออกมาจากมันก็หนามาก จึงตัดสินได้ว่าคุณค่าทางศิลปะของนาฬิกาตั้งโต๊ะเรือนนั้นต้องไม่ต่ำ และน่าจะมีค่าอย่างมาก!

มันมีสมบัติเป็นจำนวนมากจากร้านขายของมือสองของเบนนี่! และมันได้ถูกนำมาตั้งขายในตลาดนัด จากการที่เต็มใจนำของโบราณจำนวนมากออกมาขายอย่างนี้ ดูเหมือนว่าร้านขายของมือสองเอง ก็มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งใช้ได้ทีเดียว

จากนั้น เย่เทียนก็เหลือบมองไปที่ตำแหน่งที่ตั้งของของโบราณพวกนี้อีกครั้ง และเขาก็เข้าใจว่าสมบัติพวกนี้ไม่ได้มีราคาถูกในทันที!

ตราบเท่าที่เป็นของโบราณที่เปล่งแสงออกมา พวกมันล้วนแต่ถูกจัดอยู่ในตำแหน่งด้านใน พร้อมกับลูกจ้างสองสามคนที่คอยดูอยู่ใกล้ๆ

นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต่างก็ระวังกับของที่มีมูลค่าพวกนี้เหมือนกัน

โดยเฉพาะนาฬิกาโบราณที่แท้จริงนี้ ไม่เพียงแต่มันจะถูกจัดอยู่ที่ด้านหลัง แต่มันยังถูกจัดอยู่ในตู้กระจก พร้อมกับถุงมือสีขาวที่วางอยู่ข้างๆ ด้วย เห็นได้ชัดว่าถูกจัดไว้สำหรับคนที่ต้องการชมมัน

เมื่อเห็นอย่างนี้ เย่เทียนก็หมดความสนใจในทันที พร้อมกับหันกลับมามองเจสันที่กำลังคุยกับลูกค้าแทน

  ........

สองสามนาทีให้หลัง

เจสันก็จัดการธุรกิจกับลูกค้าวัยห้าสิบปีเสร็จ พร้อมกับขายแก้วกาแฟที่งดงามชุดหนึ่งไปในราคา 40 เหรียญ โดยที่ทั้งสองต่างก็พอใจกับมัน

หลังจากส่งเงินให้กับแคชเชียร์แล้ว เจสันก็ยิ้มพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขาในทันที

“ไง สตีเวน รอนานไหม”

“ไม่หรอก แค่ไม่กี่เท่านั้นเอง”

หลังจากทักทายกันไม่กี่คำ เจสันก็แนะนำเย่เทียนให้กับเพื่อนร่วมงานของเขา

“นี่คือสตีเวน เขาเป็นคู่หูที่มหัศจรรย์! และเขาคือผู้ที่หยิบลูเกอร์ พี 08 ได้ในโกดังขยะในราคา 1 เหรียญ!”

“ว้าว! ลูกรักพระเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว!”

แคชเชียร์หญิงที่เป็นผู้เก็บเงินพูดออกมาอย่างอิจฉา และคู่หูผิวดำอีกคนที่อยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ ก็แสดงสีหน้าอิจฉาออกมาเช่นกัน

เย่เทียนยิ้มพร้อมกับเอ่ยทักทาย

“สวัสดี ฉันชื่อเย่เทียน ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ไง ฉันมิรันด้า ยินดีที่ได้รู้จัก ลักกี้กาย!”

“ไง ฉันชื่อปาร์คเกอร์!”

ลูกจ้างทั้งสองพากันจับมือและกอดเย่เทียน พร้อมกับบอกชื่อพวกเขา

จากนั้นเย่เทียนก็พูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ว่า

“ฉันไม่ใช่ลูกรักพระเจ้า! สถานการณ์ก่อนหน้านี้ของฉันแย่มาก! เจสันรู้ดี ตอนนั้นฉันก็แค่โชคดีเท่านั้น!”

เจสันพยักหน้าให้กับเพื่อนร่วมงานทั้งสอง บอกให้พวกเขารู้ว่าที่เย่เทียนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง

“แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เยี่ยมมากอยู่ดี แสดงให้เห็นว่าโชคร้ายของนายได้ผ่านไปแล้ว และเป็นเริ่มต้นของวันดีๆ! และแน่นอนว่ามันจะราบรื่นยิ่งขึ้นในอนาคต”

มิรันด้ายิ้มและพูดขึ้น เห็นได้ชัดว่าสาวอ้วนคนนี้เป็นคนที่ใจดีอย่างมาก

หลังจากที่พูดคุยกันไม่กี่คำ เย่เทียนก็รอไม่ไหวอีก พร้อมกับเสียงท้องของเขาที่ร้องออกมาด้วยความหิว!

เจสันและคนอื่นๆ ต่างก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากกระเพาะของเขา จึงทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

เย่เทียนไม่ได้สนใจอะไร พร้อมกับรีบพูดขึ้นว่า

“เจสัน นายกินข้าวกลางวันหรือยัง? หากยัง พวกเราไปหาอะไรกินกัน อย่างฮอตดอกที่นายพูดเมื่อวาน ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”

“นี่เพื่อน ไม่ใช่ว่านายเพิ่งจะสร้างโชคมาหรอกเหรอ! ทำไมถึงได้ดูเหมือนผู้ลี้ภัยอย่างนี้!”

เจสันหยอกเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

มิรันด้าและปาร์คเกอร์ต่างก็พากันหัวเราะออกมา

“ฉันเกรงว่าผู้ลี้ภัยยังจะดีกว่าฉันซะอีก ตอนนี้ฉันหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว! รีบเข้าเถอะ! หากนายไม่ไป งั้นฉันจะไปกินคนเดียวแล้ว”

เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น จากนั้นก็เตรียมเดินไปยังร้านฮอตดอกที่อยู่ไม่ไกล

“ไปสิ! ฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน!”

เจสันหัวกลับไปบอกมิรันด้าและคนอื่นๆ ก่อนที่จะตามมาอย่างรวดเร็ว

“นาฬิกาในร้านของนายสวยมาก มันราคาเท่าไหร่อย่างงั้นเหรอ? หากว่าราคาไม่แพง ฉันก็ตั้งใจจะซื้อมัน”

ขณะที่เดินไปยังร้ายฮอตดอก เย่เทียนก็แสร้งถามขึ้น

บางทีมันอาจจะมีช่องโหว่ให้ได้มันมา!

แต่คำตอบของเจสันก็ทำให้เขารู้ว่าตนกำลังคิดมากเกินไปแล้ว!

“นี่เพื่อน นาฬิกานั่นแน่นอนว่าสวยมาก! ทุกคนต่างก็ชอบมัน! มันเป็นนาฬิกาสไตล์คลาสสิคในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ที่มาจากตระกูลราชวงศ์ในยุโรป และราคาของมันอยู่ที่ 200,000 เหรียญ

หากว่านายรับได้กับราคานี้ นายก็สามารถเป็นเจ้าของมัน และทำให้มันเป็นสมบัติของนาย เชื่อฉัน นี่เป็นของโบราณที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติให้กับเจ้าของ! ว่ายังไง? นายจะซื้อมันไหม?”

เจสันบอกราคาออกไปเชิงหยอกล้อ เขาไม่เชื่อว่าเย่เทียนจะมีเงินพอจะซื้อมัน!

“ว้าว! นี่มันแพงเกินไป! ซื้อมันอย่างงั้นเหรอ? อย่างงั้นฉันคงต้องขายไต แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เกรงว่าจะไม่มีเงินพอจะซื้อมันอยู่ดี!”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด