Chapter 1: พรสวรรค์ในเวทมนตร์
Chapter 1: พรสวรรค์ในเวทมนตร์
“ยินดีด้วย คุณเอ็ดเวิร์ด”
ชายชราในชุดดำยิ้ม
“นายน้อยโจเอลสันมีพรสวรรค์ในการเป็นผู้ใช้เวทย์เลยทีเดียวเชียวล่ะ พรสวรรค์ของเขาไม่แย่เลย มันอยู่ราวๆ ระดับกลางเลยทีเดียว”
“ถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์ที่ดีเลย”
ทุกคนในครอบครัวเอ็ดเวิร์ดต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจ
โจเอลสันเห็นพ่อของเขา “มอร์แกน เอ็ดเวิร์ด” ตื่นเต้นมากจนเคราหนาบนคางของเขาสั่น...
ในตอนนี้ อารมณ์ของโจเอลสันยังคงดูนิ่ง และสีหน้าของเขาดูเรียบเฉย
นี่เป็นปีที่สิบหกนับตั้งแต่เขาเกิดใหม่ที่นี่
..ถูกต้องแล้ว เขาไม่ได้มาจากโลกนี้ แต่มาจากต่างโลก
โลกที่นี่คล้ายกับยุคกลางของทวีปยุโรปในชาติก่อนของเขา ซึ่งยังคงมีระบบศักดินาและการเป็นทาส
มอร์แกน เอ็ดเวิร์ด พ่อของโจเอลสันเป็นขุนนางชั้นสูงที่มีอาณาเขตเล็กๆ
แม้จะเป็นเพียงในชนบทไม่ใช่ในเมืองใหญ่ของจักรวรรดิ เขามักได้ยินเรื่องราวจากบทกวีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเกี่ยวกับพ่อมดผู้ทรงพลังที่สามารถใช้เวทมนตร์อันทรงพลัง สัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายหมู่บ้านและเมืองได้อย่างง่ายดาย และอัศวินที่มักจะทำหน้าที่ฆ่าสัตว์ประหลาดต่างๆ เหล่านั้น
อันที่จริงเขาได้เห็นการมีอยู่ของพลังพิเศษด้วยตัวเองแล้ว
ชายชราผมขาวที่มีเครายาวและหมวกผู้วิเศษที่อยู่ข้างหน้าเขาคือผู้วิเศษที่แท้จริง
เมื่อสักครู่เขาได้แสดงเวทมนตร์ต่อหน้าทุกคนและใช้คาถาลูกไฟ ลูกไฟถูกจุดขึ้นจากอากาศ แม้ว่ามันจะไม่ใช่เวทมนตร์ที่ทรงพลัง แต่ก็เป็นถึงการสาธิตเวทมนตร์และมันก็เป็นพลังที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่มีแถบสีทองสองแถบที่หน้าอกด้านซ้าย ซึ่งบ่งบอกว่าเขาเป็นจอมเวทระดับ 2 ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เวทมนตร์แห่งจักรวรรดิอัลคอทท์
และจอมเวทก็ถือเป็นอาชีพที่หายากและน่านับถือที่สุดในทวีป
สถานะของพวกเขาสูงกว่าคนทั่วไปมาก แม้แต่ขุนนางที่มียศศักดิ์สูงศักดิ์ก็ไม่สามารถเทียบได้กับผู้วิเศษเหล่านี้
มอร์แกนจ่ายเงินมหาศาลเพื่อเชิญผู้วิเศษที่ผ่านไปมาที่ปราสาทเพื่อทำการทดสอบพรสวรรค์สำหรับลูกๆ ของเขา
ในที่สุดเขาก็เป็นคนเดียวที่โชคดีที่มีพรสวรรค์ของนักเวทย์
“พรสวรรค์ของนายน้อยโจเอลสันคล้ายกับของฉันพอสมควร หรือบางทีอาจจะดีกว่าของฉันเสียด้วยซ้ำ”
ชายชรามองโจเอลสันด้วยความประหลาดใจ
อันที่จริงเขามาเพื่อหาเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาใช้เงินไปหมดแล้ว ด้วยสถานะของเขา เขาคงไม่สนใจขุนนางระดับมอร์แกน นับประสาอะไรกับทำแบบทดสอบความสามารถสำหรับลูกของเขา
แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับชายหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษของนักเวทย์ในประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งพรสวรรค์ของเขาไม่ใช่ธรรมดาเลย
ไม่ธรรมดาเสียจนชายชราคนนี้รู้สึกว่ามอร์แกนโชคดีมากที่มีบุตรที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์เช่นนี้
ขุนนางธรรมดาได้ให้กำเนิดบุตรชายที่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ระดับกลาง และระดับของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต
“ดังนั้น ในอนาคต อย่างน้อยโจเอลสันก็สามารถเป็นนักเวทย์ระดับสองได้น่ะสิ”
มอร์แกนไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของเขาได้
ชายมีเคราพยักหน้า “ในทางทฤษฎีก็ใช่”
มอร์แกนตื่นเต้นจนหน้าแดง
ครอบครัวเอ็ดเวิร์ดกำลังจะมีจอมเวทย์แล้วในที่สุด
มอร์แกนเล็งเห็นถึงการเติบโตของครอบครัวเอ็ดเวิร์ดในตัวลูกชายคนโตของเขา
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น ตราบใดที่โจเอลสันกลายเป็นจอมเวทย์ระดับหนึ่งอย่างเป็นทางการ
ตำแหน่งของเขาจะเพิ่มขึ้นหนึ่งตำแหน่งทันที จากบารอนไปเป็นไวเคานต์
อย่างไรก็ตามโจเอลสันกลับดูไม่มีความสุขเลย
เขาไม่ต้องการที่จะมีพรสวรรค์ของนักเวทย์ระดับกลาง
ถ้าเขาศึกษาทีละน้อยจนเคราของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว เขาก็จะสามารถกลายเป็นจอมเวทย์ระดับสองที่มีเคราเท่านั้น
แม้ว่าโจเอลสันจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งและสถานะของจอมเวทย์มากนัก แต่ก็ชัดเจนว่าจอมเวทย์ระดับสองนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมาก มิฉะนั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะใช้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด พ่อของเขาจะไม่สามารถจ้างเขาได้เลย นักเวทย์ไม่ใช่สิ่งที่จะจ้างได้เพียงแค่มีเงิน
โจเอลสันรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
เขารอมาสิบหกปีสำหรับพรสวรรค์ระดับกลางนี่น่ะหรอ
ของอะไรที่ดีกว่านี้อยู่ที่ไหนกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนที่ข้ามโลกมาควรได้รับเลย
ในสายตาของชายชรารูปลักษณ์ที่หดหู่ของโจเอลสันกลับถูกมองว่าเป็นสัญญาณของวุฒิภาวะ
จู่ๆ ชายชราก็นึกถึงอะไรบางอย่าง เขาหยิบสมุดบันทึกที่มีปกสีเหลืองจากเสื้อคลุมสีดำหลวมๆ ออกมาแล้วยื่นให้โจเอลสัน
“ฉันหวังว่ามันจะช่วยคุณได้”
โจเอลสันยอมรับและขอบคุณเขาอย่างสุภาพ
ชายชรารับเหรียญทองหลายร้อยเหรียญไว้อย่างมีความสุขจากครอบครัวเอ็ดเวิร์ด และจากไป
เขาเพียงแค่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยและให้สมุดโน้ตของลูกศิษย์ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาแล้ว เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนมันเป็นรางวัลมากมายที่เพียงพอสำหรับสามัญชนที่จะใช้เวลาหลายสิบปี
นี่คือสิ่งที่ผู้วิเศษเป็น เขามีสถานะที่สูง ดังนั้นมันจึงง่ายมากสำหรับเขาที่จะได้เงินมาอย่างรวดเร็ว
ในตอนกลางคืน ภายใต้แสงสีเหลืองสลัว โจเอลสันค่อยๆ เปิดสมุดที่ชายชรามอบให้เขา
คำพูดที่ดูบิดเบือนทำให้เขาขมวดคิ้ว
คำพูดส่วนใหญ่ในสมุดเล่มนี้โอ้อวดเกี่ยวกับพลังเวทมนตร์ลึกลับและทรงพลัง ส่วนที่เหลือกำลังเยาะเย้ยว่าเวทมนตร์ที่ลึกซึ้งและยากอย่างไร มีเพียงไม่กี่ชื่อเวทมนตร์ลึกลับและยากที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวที่ทำให้สมุดบันทึกนี้ดูเหมือนสมุดบันทึกเกี่ยวกับเวทมนตร์
อย่างไรก็ตาม โจเอลสันไม่ได้คิดว่ามันจะช่วยอะไรในทางปฏิบัติ
เขาเปิดไปที่หน้าสุดท้ายของสมุดบันทึก
ทันใดนั้นอารมณ์ของโจเอลสันก็พลุ่งพล่าน
ในหน้าสุดท้าย มี “เทคนิคการทำสมาธิ” ของพ่อมดและคาถาเวทมนตร์ที่อ่านยากสองสามคำ
ชายชรามีเครามีมโนธรรมอยู่ อย่างน้อยเขาก็ให้อะไรที่ดูเหมือนว่าจะเป็นประโยชน์
โจเอลสันอ่าน "เทคนิคการทำสมาธิ" อย่างละเอียดหลายครั้ง
จากนั้นเขาก็ขึ้นนั่งบนเตียง ทำตามคำแนะนำของเทคนิคการทำสมาธิ และเริ่ม “นั่งสมาธิ” เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
แม้ว่าจอมเวทย์จะใช้เทคนิคการทำสมาธิในการฝึกฝน แต่ขั้นตอนนั้นก็ง่ายมาก มีเพียงสองขั้นตอนเท่านั้น
ขั้นตอนแรกคือการสัมผัสเวทมนตร์ในอากาศ และขั้นตอนที่สองคือการจับมันและดูดเวทมนตร์เหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย
แม้ว่าสองขั้นตอนนี้จะดูเรียบง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ แม้ว่าพวกเขาจะฝึกหนักมาทั้งชีวิต พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้
โจเอลสันหลับตาลง และจุดแสงหลากสีนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาทันที
นี่เป็นก้าวแรกของการรับรู้ จุดแสงเหล่านี้เป็นเวทมนตร์ในอากาศ
ในความทรงจำของเขา เขาสามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ขั้นตอนนี้ไม่ได้ยากมากนัก
ส่วนที่ยากคือวิธีการใช้จิตของเขา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามพลังวิญญาณของนักเวทย์ เพื่อจับเวทมนตร์ที่ยืดหยุ่นเหล่านั้น
ในที่สุด โจเอลสันก็รู้ว่าเหตุใดความสามารถทางเวทมนตร์ของเขาจึงเป็นเพียงระดับมาตรฐานเท่านั้น
เพราะเขาใช้เวลานานในการดูดซับจุดแสงเหล่านั้นในร่างกายของเขา
ทันทีที่จุดแสงเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายของเขา
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของโจเอลสัน
“ตรวจพบพลังงานที่ตรงกัน”
“เปิดใช้งานระบบ…”
“กำลังสร้างพื้นที่…”
“ระบบ ปศุสัตว์เทพมังกร-เปิดใช้งานสำเร็จแล้ว”
ผู้แต่ง : Fish For Every Year
ผู้แปล : sigmundphoom
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ว่างๆก็เลยเอานิยายมาแปลไทย