475-476
Ep.475
“มีอยู่เท่าไหร่? 10 ก้อนถึงไหม?” ซูเฉินถาม
[รถศึกอัจฉริยะ] มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการเปิดฟังก์ชั่นล่องหนคือ 10 ก้อน
“น่าจะมีราวๆ 20 ก้อน” เงือกสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับมา
ซูเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จำนวน 20 ก้อนแม้ไม่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับ [รถศึกอัจฉริยะ]
จากนั้น เขาก็เริ่มเก็บชิ้นส่วน
หวู่หยางและคนอื่นๆเดินออกมาจากห้องโดยสาร ช่วยกันเก็บกู้ซากสัตว์ทะเล ขณะเดียวกันคอยขุดหินพลังงาน
เนื่องจากซูเฉินไม่พูด คู่เงือกชายหญิงจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ทั้งสองลอยคออยู่ที่เดิมด้วยความมึนงงสงสัย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนแล้วเสร็จ และเตรียมมุ่งหน้าไปยังเกาะฮวง
[รถศึกอัจฉริยะ] แจ้งเตือนขึ้นอย่างกะทันหัน “เจ้านาย มีสิ่งมีชีวิตต่างเผ่ากำลังใกล้เข้ามา จำนวนคือสาม”
“ใช่พวกเผ่าเงือกตามมาอีกรึเปล่า?”
ซูเฉินเลิกคิ้ว เฝ้ารออยู่ที่เดิม
ไม่กี่นาทีต่อมา เรือไม้ลำหนึ่งแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว
บนหัวเรือมีชายสามคนยืนอยู่
โดยคนกลางเป็นชายหนุ่มท่าทางน่าเกรงขาม ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความหยิ่งผยอง
ทางด้านซ้ายเขา คือชายชราผมเงิน
ทางด้านขวาเขา คือชายกำยำสวมชุดเกราะสีทอง
“ผู้เฒ่ามู่กับจินเช่อมาแล้ว!”
พอเรือไม้ลำเล็กใกล้เข้ามา สีหน้าของเงือกชายหญิงก็เปลี่ยนไปทันที
“คนไหนคือจินเช่อ?” ซูเฉินเอ่ยถาม
“ผู้อาวุโส ชายหนุ่มตรงกลางคือจินเช่อ ส่วนชายชราอีกคนคือผู้เฒ่ามู่เสวียนแห่งเผ่าเงือกของพวกเรา ส่วนชายร่างกำยำคนสุดท้ายคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ของเผ่าเทพมีหน้าที่ปกป้องจินเช่อ” เงือกชายอธิบายข้อมูลของแต่ละคน
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินตื่นตัวเล็กน้อย
เพราะผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถประกาศศักดา แต่ไม่นึกเลยว่าเขากลับจะเป็นแค่หนึ่งในผู้คุ้มกันของจินเช่อ
นี่แสดงให้เห็นว่าสถานะของจินเช่อในเผ่าเทพต้องไม่ธรรมดา
“เทียนเหอ เสวียนจี๋ พวกเจ้าสองคนมันเนรคุณ! ยังไม่รีบไสหัวกลับมาอีก!”
มู่เสวียนบนเรือไม้ลำเล็ก กวาดมองเงือกชายหญิง ตวาดเสียงเย็นชา
สำหรับซูเฉินและคนอื่นๆ ถูกเขาละความสนใจอย่างสิ้นเชิง
“ผู้เฒ่ามู่ ทำไมท่านต้องบังคับข้าด้วย? ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่แต่งงานกับจินเช่อ!”
เงือกสาวนามเสวียนจี๋กัดฟันตอบ
“สารเลว! คุณชายจินเป็นถึงบุตรสายตรงของจักรพรรดิเทพสวรรค์ ด้วยสถานะต่ำต้อยของเจ้า นับว่าเป็นเกียรติถึงขนาดไหนแล้วที่เขาต้องตาพึงใจ โชคอันยิ่งใหญ่เป็นของเจ้า เหตุใดจึงไม่ต้องการ?”
ดวงตาของมู่เสวียนเบิกกว้าง ร้องคำรามออกมา เขาดูโกรธมาก
เนื่องจากสถานะพิเศษของจินเช่อ หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง อาจมีแนวโน้มทำให้เผ่าเทพต้องขุ่นเคือง
ซึ่งสถานการณ์ที่ว่าจะอันตรายต่อเผ่าเงือกของพวกเขามาก
“ผู้เฒ่ามู่ ไม่ว่าท่านจะพูดอะไร แต่หัวใจข้ามีแค่เทียนเหอ ข้าไม่มีวันยอมแต่งกับจินเช่อเด็ดขาด!” เสวียนจี๋ดื้อรั้นไม่ยินยอม
เงือกชายนามเทียนเหอที่อยู่ข้างๆ มองเสวียนจี๋ด้วยแววตาลึกซึ้ง จากนั้นว่ายมาขวางหน้าเธอเอาไว้
เขารู้ดี ว่าเมื่อเสวียนจี๋ปฏิเสธ เขาและเธอคงมิแคล้วถูกสังหาร
ดังนั้นต่อให้เขาต้องตาย ก็ขอตายต่อหน้าเสวียนจี๋
จินเช่อเงียบไม่ได้พูดอะไร ทว่าสีหน้าของเขามืดมนลง แววตาสะท้อนไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง
การปฏิเสธซึ่งหน้าเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
สำหรับอัจฉริยะเผ่าเทพที่มีสถานะและพรสวรรค์สูงส่งเช่นเขา ย่อมไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน
ระหว่างนั้นเอง สองคิ้วของเขาขมวดมุ่น ปลดปล่อยพลังจิตออกไป หมายสังหารเทียนเหอ
เทียนเหอสัมผัสได้ถึงการโจมตีจากพลังจิต จินเช่อน่ะเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 ขณะที่เขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ไม่มีทางต้านทานได้อย่างแน่นอน
ระหว่างที่เขากำลังเฝ้ารอความตาย โดยไม่ทันคาดคิด ปรากฏพลังจิตอีกสายหนึ่งวิ่งมาปกคลุมรอบกายเขา ปิดกั้นพลังจิตของจินเช่อเอาไว้
“อยากฆ่าเขา แกได้ขออนุญาตฉันรึยัง?”
เสียงยิ้มเยาะดังขึ้น จะเป็นใครอื่นไปได้อีก –
–หากมิใช่ซูเฉิน!
Ep.476
“เจ้าเองก็เป็นปรมาจารย์พลังจิตเช่นกันหรือ?”
จินเช่อประหลาดใจไม่น้อย เลิกคิ้วมองไปทางซูเฉิน
สามารถป้องกันพลังจิตของเขาได้อย่างเงียบเชียบ แสดงว่าระดับปรมาจารย์พลังจิตของซูเฉินจะต้องไม่ด้อยไปกว่าเขา
กระนั้น สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ ซูเฉินเป็นเพียงเผ่ามนุษย์ ทั้งยังเยาว์วัย แล้วเหตุใดถึงได้มีพลังจิตทัดเทียมอัจฉริยะเผ่าเทพเช่นเขา?
“เจ้าหนู ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นปรมาจารย์พลังจิต ขอยอมรับข้าว่าประเมินเจ้าต่ำไป”
มู่เสวียนกวาดสายตามองซูเฉิน สีหน้าของเขาค่อยๆมืดมนลง
ก่อนหน้านี้เขาเห็นว่าซูเฉินและคนอื่นๆล้วนเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ จึงไม่เก็บมาใส่ใจ
แต่ตอนนี้ เมื่อได้รู้ว่าซูเฉินคือปรมาจารย์พลังจิต เขาก็เริ่มตั้งข้อสันนิษฐานว่าศพเผ่าเงือกที่ตายอยู่รอบๆนี้อาจเป็นฝีมือของซูเฉิน ดังนั้นบังเกิดความเกลียดชังในตัวซูเฉินเป็นอย่างมาก
สำหรับเรื่องที่ว่าซูเฉินคือปรมาจารย์พลังจิตระดับใด เขาไม่สนใจเลย
นั่นเพราะจินเช่อที่อยู่ข้างๆเขาคืออัจฉริยะเผ่าเทพ ทั้งยังเป็นถึงปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 ที่ทรงพลัง
ขณะที่ซูเฉินเป็นแค่เผ่ามนุษย์ แล้วจะแกร่งกว่าจินเช่อได้อย่างไร?
“แกมันก็แค่ตัวอะไร? เป็นแค่หมาที่เดินตามตูดเผ่าเทพ ไม่ต้องสะเออะเสนอหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน เข้าใจไหม?” ซูเฉินกล่าวเยาะหยันด้วยสีหน้าดูแคลน
ทันทีที่คำกล่าวหลุดออกมา จินเช่อและคนอื่นๆ ตะลึงงัน
เพราะมู่เสวียนไม่เพียเป็นผู้อาวุโสของเผ่าเงือกเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ที่แท้จริงอีกด้วย (ที่แท้จริงในที่นี้หมายถึงเก่งกว่าในระดับเดียวกัน และครั้งต่อๆไปก็จะหมายความแบบนี้เช่นกัน) ทว่ากลับถูกเผ่ามนุษย์รุ่นเยาว์ดูหมิ่น เยาะเย้ยถากถางต่อหน้าต่อตา
เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือไร? จะจองหองก็ต้องให้มันมีขอบเขตหน่อยไหม?
“เจ้าหนู ทุกวาจาล้วนมีราคา เจ้าต้องชดใช้ในคำพูดของเจ้า!”
มู่เสวียนสีหน้ากลายเป็นดุร้าย คล้ายใกล้ระเบิดเต็มทีแล้ว กระโจนเข้าหาซูเฉิน
จินเช่อที่อยู่ข้างๆไม่ห้ามปรามใดๆ เขาต้องการใช้มู่เสวียนเป็นตัวแทนวัดความแข็งแกร่งของซูเฉิน
มุมปากของซูเฉินยกโค้ง เมื่อเห็นมู่เสวียนกระโจนเข้ามา เขาก็ชูมือไปเบื้องบนและกางออก ยิงลูกไฟขนาดเท่ากำปั้น
แม้ลูกไฟจะมีขนาดเล็ก แต่คลื่นความผันผวนของเวทย์ธาตุไฟนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก มันราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุ
อุณหภูมิแผดเผาร้อนแรง ให้ความรู้สึกแก่ผู้คนที่สัมผัสโดน ราวกับว่ากำลังตกลงไปในลาวาเดือด
“เวทย์ลูกไฟเลเวล 6 … ผู้อาวุโส โปรดยั้งมือ ข้าผิดไปแล้ว ..”
มู่เสวียนตระหนักถึงระดับของเทคนิคลูกไฟ เขากวาดกลัวอกแทบแตก ร้องอ้อนวอนขอความเมตตาเสียงดัง
ทว่านับแต่อีกฝ่ายลงมือ ซูเฉินก็ไม่ตั้งใจที่จะไว้ชีวิตเขาอยู่แล้ว
ลูกไฟกระแทกร่างของมู่เสวียนในพริบตา ได้ยินเพียงเสียงปะทุดังตูม!
มู่เสวียนถูกกลืนหายไปในอากาศ ถูกหลอมเหลวสลายหายไปไม่เหลือแม้แต่กระดูก
“ปรมาจารย์มนตราธาตุไฟเลเวล 6!”
จินเช่อเบิกตากว้าง ร่างเขาอดสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม คล้ายคนที่กำลังหวาดกลัวจนโง่งม
เขานึกไม่ออกจริงๆ เห็นได้ชัดว่าซูเฉินคือปรมาจารย์พลังจิตที่ทรงพลัง แล้วไหงพริบตาต่อมา ซูเฉินถึงกลายเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 6 ไปได้?
หรือว่าเขาจะเป็นผู้ฝึกตนสองอาชีพ?
ได้ข้อสรุปแบบนี้ ความหวาดกลัวในใจเขาก็พุ่งขึ้นมาถึงขีดสุด
ชายกำยำในชุดเกราะสีทองที่อยู่ข้างๆ สีหน้าท่าทีดูน่าเกลียดยิ่ง คล้ายกำลังดิ้นรนตัดสินใจเรื่องใหญ่อยู่พักหนึ่ง สุดท้ายกัดฟันกล่าวว่า “คุณชาย ข้าจะหยุดเขาเอง ส่วนท่านรีบฉวยโอกาสนี้หลบหนีไป”
เขาตระหนักดี ว่าอาศัยแค่ตนกับจินเช่อ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉินอย่างแน่นอน
ในกรณีนี้ การเลือกเสียสละตัวเองเพื่อรักษาชีวิตจินเช่อ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“ฆ่า!”
ชายกำยำในชุดเกราะรวบรวมความกล้า ปราดเข้าสังหารซูเฉิน
“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”
ซูเฉินแค่นลมหายใจเบาๆ โคจร [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ซัดหนึ่งหมัดสวนออกไป
ชายร่างกำยำไม่คิดว่าซูเฉินจะเลือกวิธีเตะแผ่นเหล็ก ตัดสินใจใช้กำลังซึ่งเป็นทางที่ผู้วิวัฒนาการเช่นเขาได้เปรียบ เวลานี้เจ้าตัวจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
วินาทีต่อมา หมัดทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือดรุนแรง
ได้ยินเพียงเสียงดังเปรี้ยง!
ชายกำยำและชุดเกราะที่สวมใส่ ถูกอำนาจหมัดระเบิดเป็นผุยผงโดยตรง
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ เทียนเหอและเสวียนจี๋ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เขาและเธอถึงขั้นลืมหายใจ
ต้องรู้นะว่าชายกำยำในชุดเกราะผู้นั้นเป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 และชุดเกราะที่เขาสวมใส่ก็มีความพิเศษเช่นกัน นั่นคือสามารถต้านทานการโจมตีที่สูงกว่าเลเวลตนเองได้ถึงหนึ่งขั้น
ถึงกระนั้น สุดท้ายก็ยังถูกซูเฉินซัดร่างหายไปในอากาศ
นี่แสดงให้เห็นว่า อำนาจทำลายล้างจากหมัดของซูเฉินรุนแรงถึงขนาดไหน