“ที่แข็งแกร่งสุดคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 สองตนที่กำลังหลบหนีอยู่เบื้องหน้า ฝ่ายชายเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ฝ่ายหญิงเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับ

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ตามพวกเขาไป”

มีเหยื่อมากกว่าพันตัว หากสังหารทิ้งทั้งหมด อาจสามารถดรอปชิ้นส่วนได้พอสมควร และซูเฉินจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้

“รับทราบ”

[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งเครื่องเต็มกำลัง

แม้ว่าความเร็วของเผ่านางเงือกจะเร็วมาก แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับ [รถศึกอัจฉริยะ]

สิบนาทีต่อมา ระยะห่างระหว่างทั้งสองหดแคบลงไม่ถึง 10 กิโลเมตร

แต่ในเวลานั้นเอง [รถศึกอัจฉริยะ] ได้แจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง “เจ้านาย ฉันสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของศิลาวิญญาณวารี”

“ศิลาวิญญาณวารี? มันมีประโยชน์อะไร?” ท่าทีของซูเฉินเริ่มเปลี่ยนไป

[รถศึกอัจฉริยะ] มีฟังก์ชั่นในการตรวจจับแร่วิเศษ และแร่ที่มันเอ่ยถึงมักมีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อตัวมันเอง

บางชนิดสามารถช่วยเสริมการป้องกันได้ บางชนิดสามารถช่วยเสริมความเร็ว และบางชนิดสามารช่วยเสริมระยะการตรวจสอบ

เมื่อได้ยินข้อมูลของศิลาวิญญาณวารี ซูเฉินจึงเริ่มเกิดความสนใจอีกครั้ง

[รถศึกอัจฉริยะ] อธิบายว่า “หากได้ติดตั้งศิลาวิญญาณวารี ฉันจะสามารถเปิดฟังก์ชั่นล่องหนได้ ระยะเวลาล่องหนคือสิบวินาที แต่เบื้องหน้าเหมือนจะมีแค่ก้อนเดียว ดังนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเปิดใช้งาน”

การล่องหนเป็นฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยมมาก แม้จะเป็นเวลาแค่สิบวินาทีก็ตาม แต่ห้ามดูแคลนมันโดยเด็ดขาด

เพราะช่วงเวลาวิกฤติ มันอาจมีบทบาทสำคัญอย่างคาดไม่ถึง ชนิดที่ว่าอาจช่วยชีวิตทุกคนเลยก็เป็นไปได้

“เสี่ยวจือ รีบตามไปเร็ว” ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เดิมเขาตั้งใจจะล่าสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าและสัตว์ทะเลเหล่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่ายังมีศิลาวิญญาณวารีพ่วงเข้ามา เขายิ่งไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป

ไม่กี่นาทีต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] แล่นมาขวางหน้าสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าได้สำเร็จ

“เสี่ยวจือ ตนไหนที่มีศิลาวิญญาณวารี?” ซูเฉินถาม

“ห้อยอยู่บนคอของผู้หญิง”

เมื่อรู้ว่าเป็นใคร ซูเฉินก้าวเดินออกไปเพียงลำพัง

ชาวเงือกสองตนที่กำลังหนีอยู่เบื้องหน้า เมื่อเห็นว่ามีอุปสรรคขวางทาง ก็ตื่นตระหนกสิ้นหวัง ทั้งคู่เร่งโจมตีใส่ซูเฉินทันที

เงือกชายง้างแขน และขว้างสามง่ามเข้ามา เงือกหญิงปลดปล่อยพลังจิตและกวาดไปข้างหน้า

ซูเฉินเบ้ปาก โบกมือส่งๆ พลังอันยิ่งใหญ่ม้วนสวนกลับไป

อำนาจโจมตีระหว่างทั้งสองปะทะกันดังปัง!

สามง่ามถูกระเบิดทันที ขณะเดียวกันพลังจิตถูกสลายไปเช่นกัน

“ทรงพลังมาก!”

เผ่าเงือกทั้งสองตื่นตระหนก หัวใจเริ่มสั่นไหว

ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกตนเลเวล 3 เขาและเธอโจมตีพร้อมกัน แต่ชายหนุ่มเบื้องหน้ากลับสามารถหยุดเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

เห็นได้ชัดว่าคนเบื้องหน้าเขา สมควรเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 เป็นอย่างน้อย

เพราะอาศัยแค่พลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้

“ผู้อาวุโส ทำไมท่านต้องขวางทางพวกเรา?”

เงือกชายดูโกรธและร้อนรนเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนทนเอาไว้

ซูเฉินชำเลืองมองอีกฝ่าย ก่อนเบนมองเงือกหญิง แล้วปลดปล่อยพลังจิตออกไป กระชากสร้อยที่ห้อยบนคอเธอเข้ามา

“ปรมาจารย์พลังจิต!”

ใบหน้าของเงือกหญิงเต็มไปด้วยความตกใจ

ในฐานะปรมาจารย์พลังจิต เธอย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา

นอกจากนี้ ยังตระหนักได้เช่นกัน ว่าพลังจิตของซูเฉินนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก มันสูงกว่าเธอหลายขั้นนัก

Ep.474

ช่วงเวลานั้นเอง สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าและสัตว์ทะเลที่ไล่ตาม ในที่สุดก็ตามทันพอดี พวกมันกระจายตัวกันล้อมรอบซูเฉินและเงือกทั้งสองเอาไว้

“มนุษย์! เจ้าทำได้ดีมาก เพื่อเป็นการขอบคุณ เราจะปล่อยให้ศพเจ้าอยู่ในสภาพครบสามสิบสอง!”

เงือกชายผมทองดูโดดเด่นว่ายออกมาจากฝูง หลังจากกวาดสายตามองซูเฉิน มันก็ยิ้มเยาะอย่างโหดร้าย

แม้ไม่ทราบว่าเหตุใดซูเฉินถึงมาอยู่ที่นี่ แม้ยังไม่ทราบระดับฝึกตนที่แท้จริงของซูเฉิน

แต่ซูเฉินยังดูเด็กนัก ดังนั้นไม่อยู่ในสายตามัน

ในเมื่อเผ่ามนุษย์กับสิ่งมีชีวิตต่างเผ่ายังไงก็เปรียบเสมือนน้ำกับไฟอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่ได้พบกัน ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องตาย

มุมปากของซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มหยัน เขาค่อยๆง้างแขนขึ้นและชกออกไป

พริบตานั้นเอง เงาหมัดนับร้อยผุดพราย ระดมชกไปทางเงือกชายผมทอง

“อะไรกัน!”

ตามมาติดๆด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยอง เงือกชายผมทองและพรรคพวกนับร้อยที่อยู่เบื้องหลังถูกทุบตีเละเป็นซอสเนื้อ

สัตว์ทะเลที่ไล่ตามมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็กระเจิดกระเจิงหนีไป

ซูเฉินปลดปล่อยพายุสายฟ้ากวาดไล่หลัง สังหารพวกมันทั้งหมด

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ คู่เงือกชายหญิงที่รอดตายต่างตกตะลึง ร่างของเขาและเธอสั่นเทิ้ม

ความแข็งแกร่งของซูเฉินช่างน่าสะพรึงนัก

เขาสามารถสังหารเผ่าเงือกและสัตว์ทะเลนับ 1,000 ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เห็นได้ชัดว่าเป็นกำลังรบที่น่าหวาดกลัว เขาและเธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต

หลังจากรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน ทั้งสองก็เริ่มไม่สบายใจ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทั้งคู่ถูกซูเฉินสกัดเอาไว้เช่นกัน แล้วจุดประสงค์ของซูเฉินแท้จริงคืออะไร?

“พวกแกสองตนมาจากเผ่าอะไร”

ซูเฉินชำเลืองมองอีกฝ่าย เอ่ยถามเสียงต่ำ

“ผู้อาวุโส พวกเรามาจากเผ่าเงือก” เงือกชายโค้งศีรษะลง ก้มคำนับพร้อมตอบกลับ จากท่าทีดูเหมือนว่าจะหวาดกลัวซูเฉินมาก

“เผ่าเงือก …”

ซูเฉินพึมพำ เอ่ยถามอย่างใจเย็น “แล้วพวกแกมาจากไหน?”

ในเมื่อเป็นสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า เช่นนั้นตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ก็ต้องมีทางผ่านเขตแดน

และยังหมายความอีกว่า ยังมีเผ่าเงือกอีกมาก และหากอยู่ไม่ไกล จะได้ถือโอกาสกวาดล้างรอบเดียว

“พวกเราหนีออกมาจากเกาะฮวง” เงือกชายสารภาพตามตรง

ซูเฉินเริ่มย้อนคิดเล็กน้อย และนึกขึ้นได้ว่า เขาเคยเห็นเกาะฮวงบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางมาก่อน มันอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ถึง 1,000 ไมล์เท่านั้น ด้วยความเร็วของ [รถศึกอัจฉริยะ] ใช้เวลาสองชั่วโมงก็ถึง

“พวกแกเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน แล้วทำไมถึงได้ถูกไล่ตาม?” ซูเฉินยังคงถามต่อไป

ได้ยินคำถามนี้ เงือกชายดูอึดอัดเล็กน้อย กัดฟันไม่พูดคำใด

ตรงกันข้าม เงือกสาวเปิดปากกล่าวว่า “เรียนอาวุโส เหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะข้า”

กล่าวถึงจุดนี้ เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วอธิบายว่า “ข้ามีพรสวรรค์ในฐานะปรมาจารย์พลังจิต ด้วยเหตุนี้จึงไปถูกตาต้องใจจินเช่อแห่งเผ่าเทพเข้า แต่ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขา นั่นคือเหตุผลที่ข้าหนีออกจากเกาะฮวง”

ได้ยินแบบนี้ ซูเฉินก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหญิงเผ่าเงือกเบื้องหน้าเขา สมควรเป็นคู่รักหนีตามกัน

“งั้นก็แสดงว่า มีเผ่าเทพอยู่บนเกาะฮวงด้วยใช่ไหม?” ซูเฉินหรี่ตาครุ่นคิด พลางเอ่ยถาม

ในฐานะที่เผ่าเทพคือหนึ่งในห้าสุดยอดเผ่าพันธุ์ และเน้นการฝึกฝนพลังแห่งจิตวิญญาณเป็นหลัก นี่จึงกระตุ้นความสนใจของเขา

“เจ้าค่ะผู้อาวุโส จินเช่อและเผ่าเทพอีกตน ตอนนี้น่าจะยังอยู่บนเกาะฮวง” เงือกสาวตอบกลับ

ซูเฉินพยักหน้า ยกสร้อยคอที่ชิงมาในมือแล้วถามว่า “ศิลาวิญญาณวารีนี้หาได้จากที่ไหน”

ศิลาวิญญาณวารีเพียงก้อนเดียวไม่สามารถช่วยให้ [รถศึกอัจฉริยะ] เปิดฟังก์ชั่นล่องหนได้ เขาต้องรู้ที่มาของศิลาก้อนนี้

“นี่คือแร่ชนิดพิเศษบนเกาะฮวง แต่มันมีอยู่ไม่มากนัก …” เงือกสาวตอบพลางมองศิลาวิญญาณวารี

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด