467-468
Ep.467
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เมืองฉิงหยุนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
“เอ๋? มีพวกต่างเผ่าแค่สามตน?”
ในเมืองฉิงหยุน ซูเฉินพบจุดสัญญาณสีดำเพียงสามจุดเท่านั้น
เมืองฉิงหยุนถือได้ว่าเป็นสถานชุมชนขนาดกลาง ต่อให้มันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเผ่าหุ่นเชิด แต่ก็ไม่น่าจะมีเพียงเท่านี้
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซูเฉินคาดเดาว่าเผ่าหุ่นเชิดน่าจะได้รับข่าวของจากสมรภูมิแล้ว พวกมันรู้ว่าเขากำลังจะมาที่นี่ เลยอพยพชาวเผ่าออกจากเมือง
กระนั้น เหตุใดสามตนนี้ถึงไม่ไปด้วย? คงไม่ใช่อยู่รอให้เขาไปฆ่าหรอกกระมัง?
“เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกต่างเผ่าสามตนนี้ แล้วขยายภาพ” ซูเฉิมสั่ง
ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางขยับขึ้นๆลงๆ ไม่นานก็ปรากฏฉากในห้องโถงใหญ่ ณ ขณะนี้ มีพวกต่างเผ่าสามตนกำลังนั่งอยู่ จากท่าทีแล้วดูเหมือนกำลังสนทนากัน
สองในสามใส่เสื้อคลุมยาว สวมหมวกบนหัว ทำให้มองไม่เห็นใบหน้า อีกตนเป็นชายผิวดำไหม้เกรียม ทั่วร่างกายเขาถูกปกคลุมไปด้วยปราณมรณะ
“สองหุ่นเชิด หนึ่งเผ่าอมตะ”
ซูเฉินพึมพำ หันไปกล่าวกับ [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ ระดับฝึกตนของพวกมันเป็นยังไง?”
“ทั้งสามตนนี้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6”
ซูเฉินพยักหน้า และหยุดให้ความสนใจ
เพราะผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 สามตน แม้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะเหนือกว่าในเลเวลเดียวกัน แต่เลเวล 6 ก็ยังเป็นเลเวล 6 อยู่วันยังค่ำ ไม่นับเป็นสิ่งใดในสายตาเขา
หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] วิ่งไปตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงเมืองฉิงหยุน ซูเฉินก็พบว่าสองหุ่นเชิดและหนึ่งเผ่าอมตะได้มายืนรอที่ประตูเมืองแล้ว ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าซูเฉินจะมา
“ชัดเลย พวกมันคงเตรียมวิธีอะไรบางอย่างไว้สำหรับรับมือฉันแล้วแน่ๆ” ซูเฉินพึมพำ ก้าวลงจากรถเพียงลำพัง
“มนุษย์! เหตุใดเจ้าจึงฆ่าผู้บิรสุทธิ์บนเกาะซูหวูของพวกเรา?”
เมื่อซูเฉินก้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนถึงระยะสิบเมตร หุ่นเชิดตัวหนึ่งก็เอ่ยปากถาม
ซูเฉินถูจมูกเขา กล่าวอย่างเฉยเมย “ก็ไม่ทำไม พอดีว่าฉันมีงานอดิเรกเป็นการฆ่าพวกต่างเผ่า ทุกครั้งที่เจอพวกมัน ก็จะฆ่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“บังอาจ!”
เผ่าอมตะขบกรามแน่น ร้องคำรามออกมา จับจ้องซูเฉินด้วยความเย็นชา แค่นเสียงต่ำ “เช่นนั้น แสดงว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเราหรือ? แค่มีกำลังรบมากกว่าผู้อื่นนิดๆหน่อยๆ ก็ทำตัวโอหัง คิดหรือว่าผู้อื่นจะทำอะไรเจ้าไม่ได้?”
ซูเฉินเหลือบมองไปยังเผ่าอมตะ กล่าวด้วยรอยยิ้มหยามเหยียด “หนึ่งเผ่าอมตะ กับหุ่นเชิดอีกสองตัว ฉันใช้แค่มือเดียวก็บีบพวกแกตายแล้ว”
คำกล่าวนี้ เขามิได้คุยโวโม้เหม็นขี้ฟันแต่อย่างใด
ไม่ต้องกล่าวถึงคู่ต่อสู้เป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 แค่สามตน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้วิวัฒนการเลเวล 7 ชะตากรรมของพวกมันก็ยังไม่พ้นจบลงภายใต้เงื้อมมือของซูเฉิน
ทว่าเผ่าอมตะและเผ่าหุ่นเชิดยังไม่ทราบถึงกำลังรบที่แท้จริงของซูเฉิน จึงอดเย้ยหยันในคำพูดเขาไม่ได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหนู ในชีวิตข้าเคยเห็นคนอวดดีมาก็มาก แต่คนที่ก้าวร้าวเช่นเจ้า ข้าเพิ่งเคยพบเคยเจอเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หากคิดประพฤติตัวเช่นนี้ต่อหน้าเผ่าหุ่นเชิดของเรา เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอ!” ชาวเผ่าหุ่นเชิดหัวเราะเย้ยหยัน
ซูเฉินเบ้ปาก สีหน้าของเขาดูหมองลงเล็กน้อย
หากคำนี้ถูกพูดโดยชาวเผ่าอมตะ ยังพอดูน่าเชื่อถืออยู่บ้าง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เผ่าอมตะคือหนึ่งในสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์
แต่เผ่าหุ่นเชิดคืออะไร?
พวกมันเป็นแค่ขุมกำลังย่อยของเผ่าสัตว์อสูรเท่านั้น แต่กล้าพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ได้ยังไง?
ซูเฉินแสยะยิ้ม กล่าวว่า “ฆ่าพวกเผ่าหุ่นเชิดอย่างแก ขอแค่กระดิกนิ้วทีเดียวก็พอแล้ว”
“ในเมื่อเจ้าอยากตาย เช่นนั้นพวกเราก็จะช่วยให้สมปรารถนา!”
ถูกซูเฉินทำให้อับอายขายหน้า เผ่าหุ่นเชิดสองตนโกรธจัด
เห็นแค่เพียงสองหุ่นเชิดยิงลูกเหล็กขนาดเท่ากำปั้นสองลูกออกมาพร้อมกัน ส่งมันลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่ลูกเหล็กนั้นจะคลี่ออก และขยายขนาดใหญ่ขึ้น
ตามมาด้วยเสียงจักรกลประสานและเชื่อมต่อกัน สุดท้ายสองเท้าของมันกระแทกพื้นดังตึ้ง!
ยักษ์เหล็กสองตนที่มีความสูงประมาณ 10 เมตรปรากฏขึ้นเบื้องหน้าซูเฉิน
“ทรานส์ฟอร์เมอร์ส?”
ซูเฉินผงะไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าหุ่นเหล็กสองตัวที่อยู่เบื้องหน้า มีความคล้ายคลึงกันมากกับทรานส์ฟอร์เมอร์ส ในภาพยนต์จากชีวิตก่อน
Ep.468
“นี่น่ะหรอไพ่ตายของพวกแก?” ซูเฉินยิ้มดูแคลน
สำหรับเขา ต่อให้ศัตรูคือหุ่นเหล็กยักษ์สิบเมตร แต่ตราบใดที่พวกมันอยู่ในเลเวล 6 เขาสามารถทำลายได้ด้วยมือเดียว
“จะตายอยู่แล้วยังกล้าอวดดีอีก! ไป! ฆ่ามันซะ!” ชาวเผ่าหุ่นเชิดแค่นเสียงเย็น
หุ่นเหล็กสองตน หนึ่งถือดาบยักษ์ไว้ในมือ อีกหนึ่งเป็นขวานใหญ่ ฟาดฟันคมกล้า แหวกสายลมเกิดเสียงหวีดหวิว สับเข้าสังหารซูเฉิน
ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ช่วงจังหวะที่หุ่นยักษ์ทั้งสองประชิดเข้ามา แสงสีทองจรัสพลันสาดแสงจากมือเขา ซัดหมัดสวนออกไปอย่างทันท่วงที
วู้ม วู้มม วู้มมม!
เงาหมัดสีทองนับร้อยผุดพราย กระแทกเข้าต้อนรับหุ่นยักษ์ทั้งสอง
ท่ามกลางเสียงปะทะรุนแรงหนักหน่วง หุ่นยักษ์สูง 10 เมตร สองตัวร่วงล้มลงกับพื้น บนตัวพวกมันเต็มไปด้วยหลุมบ่อ
อย่างไรก็ตาม แม้สภาพยับเยิน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
หลังจากดิ้นไปดิ้นมาบนพื้นซักพัก พวกมันก็ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
“น่าสนใจดีนี่”
เห็นภาพนี้ บอกตามตรงซูเฉินรู้สึกตกใจเล็กน้อย
เพราะในทุกๆครั้งที่ผ่านมา ยามเผชิญหน้ากับเลเวลเดียวกัน ทันทีที่ [หมัดดาวตก] ชกออกไป ฝ่ายตรงข้ามจะกลายเป็นแอ่งเนื้อบดเสียทุกคราว
ขณะที่หุ่นยักษ์สองตัวนี้ถูกโจมตีเข้าเต็มเปา แต่พวกมันยังลุกขึ้นได้ นี่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของพวกมันอยู่เหนือกว่าเลเวลเดียวกันมาก และวัสดุที่ใช้สร้างร่างกายของพวกมัน ก็น่าจะทนทานมากเช่นกัน
อีกด้านหนึ่ง เผ่าอมตะและเผ่าหุ่นเชิดตกตะลึงกับพลังหมัดอันเกรี้ยวกราดของซูเฉิน
หุ่นยักษ์สองตัวนี้คือที่พึ่งสุดท้ายของพวกเขา หากถูกทำลาย พวกเขาตัดสินใจว่าจะหนีทันที
โชคดีที่แม้ว่าหุ่นยักษ์จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นพังทลายอย่างสิ้นเชิง นี่ทำให้พวกเขาโล่งใจได้เล็กน้อย
“มนุษย์ผู้นี้แข็งแกร่งนัก ดูเหมือนพวกเราจะไม่มีทางเลือก นอกจากใช้กระบวนท่านั่นเท่านั้น”
สองหุ่นเชิดมองหน้ากัน สองมือยกประกบประสานเป็นหนึ่ง แต่ละตนคล้ายร่ายมนต์อะไรบางอย่าง ก่อนที่จะปรากฏแสงคริสตัลสีขาวผุดออกมาตามตัว และลอยเข้าหาหุ่นยักษ์ทั้งสอง
ต่อมา หุ่นยักษ์ทั้งสองคล้ายถูกดึงดูดเข้าหากัน หนึ่งในนั้นค่อยๆหลอมรวมเข้ากับอีกตัวอย่างช้าๆ
“สองกลายเป็นหนึ่ง? หรือพวกมันกำลังรวมร่างกัน?”
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเฉินได้พบเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นกลอะไร
เมื่อหุ่นยักษ์ทั้งสองรวมเป็นหนึ่ง ซูเฉินก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากหุ่นเชิดทำการรวมร่าง รูปร่างของมันไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ชวนให้เกิดความรู้สึกกดดันมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็รุนแรงผิดปกติเช่นกัน มันอยู่ในระดับหุ่นเชิดเลเวล 7
“มนุษย์ คราวนี้มาดูกัน ว่าเจ้าจะต้านทานมันอย่างไร?” ชาวเผ่าหุ่นเชิดหัวเราะชั่วร้าย
หุ่นเหล็กยักษ์ตนนี้ไม่เพียงมีเลเวล 7 แต่ความสามารถในการต่อสู้นั้นเหนือกว่าในเลเวลเดียวกันมาก
ขณะที่ซูเฉินเป็นแค่เลเวล 6 ไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
“ถ้าคิดว่าแค่นี้สามารถโค่นฉันได้ พวกแกยังไร้เดียงสาเกินไป!”
ซูเฉินแสยะยิ้มหยัน ไม่รอให้หุ่นเหล็กยักษ์ทำอะไร ประเดิมเปิดฉากโจมตีก่อนเป็นคนแรก
“จงสังหารมันให้ข้า!” สองหุ่นเชิดที่อยู่เบื้องหลังคำรามก้อง
ตามด้วยเสียงดังตูม!
หุ่นเหล็กยักษ์ย่ำลงกับพื้นอย่างแรง กองดินสั่นสะเทือนยามมันเหยียบย่ำ หนึ่งดาบหนึ่งขวานในมือแต่ละข้าง ฟาดฟันเข้าใส่ซูเฉิน
แต่ในเวลานั้นเอง กระบี่ทมิฬเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือซูเฉิน ขณะเดียวกันพลังจิตถูกปลดปล่อยออกมา
ภายใต้อิทธิพลของพลังจิต การเคลื่อนไหวของหุ่นเหล็กยักษ์เชื่องช้าลงอย่างกะทันหัน
ดาบยาวที่แต่เดิมทรงพลังอย่างยิ่งยวด เมื่อฟาดลงมาถึงเหนือหัวซูเฉิน มันก็ไม่สามารถฟันลึกไปมากกว่านี้ได้อีก
ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ซูเฉินตวัดกระบี่ในมือเขา
เห็นแค่เพียงอากาศที่ว่างเปล่าเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย กระแสวังวนสีดำขนาดประมาณสิบจั้งปรากฏขึ้น ค่อยๆหมุนวนห่อหุ้มหุ่นเหล็กยักษ์
แคร่ก …
ตามมาด้วยเสียงโลหะที่แตกร้าว ร่างครึ่งหนึ่งของหุ่นเหล็กยักษ์ถูกวังวนกลืนเข้าไป บดขยี้จนแหลกเป็นชิ้นๆ
ส่วนที่เหลืออีกครึ่งร่วงตึง! ลงกับพื้น
หนึ่งเผ่าอมตะและสองเผ่าหุ่นเชิด สีหน้าท่าทีของพวกเขากลายเป็นเหม่อลอย
หุ่นเชิดเลเวล 7 ที่ทรงพลัง ก็ยังไม่อาจสู้กับซูเฉินได้แม้ซักกระบวนท่า
กระบวนท่าโจมตีของซูเฉินที่ระเบิดออกมาเมื่อครู่ ต้องทรงพลังขนาดไหนกัน?
–นี่เขายังเป็นผู้ฝึกตนเลเวล 6 อยู่จริงๆใช่ไหม?