บทที่ 16 ยกถังระเบิดของข้าขึ้นมา
บทที่ 16
ยกถังระเบิดของข้าขึ้นมา
ในอีกด้านหนึ่ง อาเฉียง ได้รับคำสั่งจาก หลี่มู่ฟาน ให้เปิดโหมดสังหารหมู่อย่างบ้าคลั่ง เขาพุ่งไปทางซ้ายและขวา เรียกได้ว่าอยู่ยงคงกระพัน จางเถี่ย เองก็มาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่
ดาบยาวในมือของ อาเฉียง ฟันออกไปในแนวนอนและสามารถฆ่าคนทีละ 7-8 คนทันที
ทุกคนในกลุ่มทหารองครักษ์ได้รับกำลังใจจากแม่ทัพทั้ง 4 ด้านทำให้ขวัญและกำลังใจของพวกเขาระเบิดพลังอีกครั้ง พวกเขาต่อสู้ด้วยดวงตาแดงก่ำ และสถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
บนกำแพงสูงอยู่ไม่ไกล หลี่ฮ่าวเทียน มองทุกอย่างด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ ตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อจ้าวอัน มาถึง พวกกบฏจะถูกจับง่ายๆ คิดไม่ถึงว่าพลังการต่อสู้ของคนกลุ่มนี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ แม้แต่ จ้าวอัน เองก็ถูกกดดัน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าขวัญและกำลังใจของทหารรักษาเมืองจะต้องพังทลายลง
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ฮ่าวเทียน ก็ตบโต๊ะดัง “ปัง” แล้วพูดอย่างโมโหว่า
“ข้าประมาทเกินไป ไม่ได้พาแม่ทัพมู่หรงมาด้วย”
“หากมีเขาอยู่ที่นี่ พวกเราคงต่อต้านพวกโจรกบฏได้อย่างง่ายดาย! พวกโจรกบฏกลุ่มนี้ อาศัยอาวุธที่เฉียบคมสังหารกองทัพของอาณาจักรเรา! ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด และแขวนไว้บนประตูเมือง 3 วัน 3 คืนเพื่อระบายความแค้นในใจของข้า!”
หวังเมิ่งอวี่ เองก็ตกใจในความสามารถของทหารองครักษ์เหล่านี้เช่นกัน เมื่อได้ยิน หลี่ฮ่าวเทียน สบถออกมาอย่างโกรธแค้นนางก็ขมวดคิ้ว
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลย แม้ว่าโจรกบฏจะแข็งแรงแต่สุดท้ายพวกเขาก็จะมีจุดจบอยู่ที่นี่ พวกเราแค่ต้องเฝ้าประตูเมืองให้มั่นคงแล้วใช้กำลังต่อต้านโจรกบฏ อีกไม่ถึงครึ่งวันเราก็จะชนะ”
หลี่ฮ่าวเทียน หายใจเข้าลึกๆและพูดกับองครักษ์ที่อยู่เบื้องหลัง
“เจ้าได้ยินหรือไม่?ยังไม่ไปบอก จ้าวอัน อีกว่าให้มาเฝ้าประตูเมือง!”
“รับทราบ!”
หวังเมิ่งอวี่ มองออกว่าประตูเมืองนั้นคือกุญแจสำคัญ ส่วน หลี่มู่ฟาน นั้นก็รู้ดี เพียงแต่ว่าหน้าประตูเมืองมีทหารอยู่มากมาย ดังนั้นการทะลวงผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เขามองไปที่นักรบที่อยู่ข้างๆเขา แม้ว่าเขาอยากจะแยกตัวออกจากการต่อสู้แต่เห็นได้ชัดว่าเขาหมดแรง
“ฆ่า!ฆ่าพวกมันให้หมด! พังประตูเมือง!!”
หลังจากพูดจบ เขาก็พุ่งเข้าไปยังกลุ่มต่อสู้โดยตรง
“นายน้อย!”
เมื่อเห็นเช่นนี้เหล่าทหารองครักษ์ก็ตกใจและรีบตามไปทันทีหาก หลี่มู่ฟาน พลาดพลั้งทุกอย่างก็จะไร้ความหมาย
เมื่อหลิวหลงได้ยินเสียงคำรามของ หลี่มู่ฟาน เขาก็เห็นราชาของตนนั้นกำลังกวาดแกว่งมีดและตรงไปที่ประตูเมือง เขาตกใจมากรีบหันไปพูดกับ ชุ่ยฮัว ที่อยู่ข้างๆว่า “แม่ทัพหญิงโปรดหยุด จ้าวอัน เอาไว้ข้าจะไปปกป้องนายน้อย!”
ชุ่ยฮัว ไม่ได้สนใจเขานอกจากคำสั่งของ หลี่มู่ฟาน แล้วนางไม่สนใจใครเลย หลิวหลงก็ไม่สนใจ นางใช้ดาบไล่ฟัน จ้าวอัน ออกไปแล้วหมุนตัวพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหารด้านหน้า
หลี่มู่ฟาน สวมเกราะหนักและถือดาบเหล็กชั้นดี บนศีรษะของเขายังมีหมวกแดงเข้ม ขี่ม้าสีขาว มีอาวุธครบมือ
นอกจากนี้เขายังฝึกวิชาดาบมาตั้งแต่เด็ก แล้วยังฝึกในมิติของระบบมามากกว่า 10 วันติดต่อกัน ทหารทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เขาคำรามออกมาอย่างต่อเนื่องและไล่ฟันใส่ทหาร 2 คน เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วเกราะของเขา
มองจากที่ไกลๆไม่เหมือนกษัตริย์แต่กลับเป็นแม่ทัพหนุ่มที่บุกทะลวงค่าย ทหารที่วิ่งอยู่ตลอดทางได้รับกำลังใจจากเขา แล้วพวกเขาก็สู้อย่างเอาเป็นเอาตาย!
หลังจากนั้นไม่นานหลิวหลง ก็พุ่งเข้ามา ประกบ หลี่มู่ฟาน ซึ่งมี อาเฉียง อยู่เคียงข้างพวกเขาเป็นกองกำลังทางซ้ายและขวาของ หลี่มู่ฟาน พวกเขาโจมตีเข้าปะทะกับทหารด้านหน้าราวกับลูกธนู 3 ดอก
ทันใดนั้นทหารรักษาเมืองก็เกิดความหวั่นไหว แล้วหวาดกลัวไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกเขาจึงถอยร่นออกไป
“ขยะ!พวกขยะเอ๊ย!”
หลี่ฮ่าวเทียน อยู่บนกำแพงสูงคำรามออกมาแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ใครจะคาดคิดว่าทหารเพียง 200 คนจะรับมือยากได้ขนาดนี้
หลี่มู่ฟาน นั่งอยู่บนหลังม้าและปัดคราบเลือดบนใบหน้าของเขา เมื่อ หลี่มู่ฟาน เห็นว่าประตูเมืองอยู่ห่างออกไปเพียง 20-30 ก้าวเขาก็ตะโกนว่า “อาเฉียง ถังระเบิดของเจ้ายกมันขึ้นมาให้ข้า!”