WS บทที่ 207 ตกอยู่ในอันตราย
“ข้าต้องการพลังปีศาจแพนดอร่าของเจ้ายังไงล่ะ!”
พ่อมดรีเซนตะโกนออกมาพร้อมหยิบม้วนคัมภีร์ในมือออกมา
*วิ้ง!*
ม้วนคัมภีร์เรืองแสงสีน้ำตาลออกมา ทันใดนั้น พลังธาตุดินที่อุดมสมบูรณ์ก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วและก่อตัวเป็นหอกยาวเบื้องหน้าพ่อมดรีเซน
“จัดการมัน หอกพสุธา!”
หอกแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศรอบ ๆ ตัวมันสั่นสะเทือนและในชั่วพริบตา หอกก็พุ่งเข้าหาเมอร์ลิน
แม้ตัวหอกจะดูไม่มีพลังมากนักแต่เมอร์ลินยังคงรู้สึกถึงอันตรายของมันอย่างแรงกล้า
"รูปปั้นผู้พิทักษ์!"
เมอร์ลินร่ายคาถาออกมา จากนั้นรูปปั้นหินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ไม่เพียงเท่านั้น เมอร์ลินยังร่ายรูปปั้นผู้พิทักษ์ติดต่อกันถึงสามครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อหอกพสุธามาถึงรูปปั้นผู้พิทักษ์ มันก็ไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว มันทะลุผ่านรูปปั้นหินแต่ละอันแล้วฉีกมันทิ้งเหมือนท่อนไผ่ ความคมของหอกทำให้เมอร์ลินรู้สึกหายใจไม่ออก
“แย่แล้ว! คาถาที่แข็งแกร่งแบบนี้ไม่ใช่คาถาระดับสาม แต่มันเป็นคาถาระดับสี่!”
ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของเมอร์ลินแต่เขาได้ตัดสินใจร่างรูปปั้นผู้พิทักษ์อีกครั้งแต่คราวนี้เขาร่ายโดยใช้อุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลัง
ด้วยพลังของอุปกรณ์เวทมนต์ทำให้รูปปั้นผู้พิทักษ์มีพลังเทียบเท่าคาถาระดับสามในทันที นี่คือคาถาป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเมอร์ลิน
*โครม!*
ทันใดนั้น รอยแตกปรากฏขึ้นบนรูปปั้นผู้พิทักษ์ของเมอร์ลิน มันต้านทานหอกพสุธาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นและในไม่ช้าหอกพสุธาก็ทำลายการป้องกันของเมอร์ลินอย่างสมบูรณ์
*ตูม!!*
ทันใดนั้น เมอร์ลินรู้สึกเจ็บที่หน้าอกด้านซ้าย ด้วยพลังอันรุนแรงได้ส่งให้เมอร์ลินกระเด็นถอยหลังและในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้น
"เฮือก!"
เมอร์ลินอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้า ตอนนี้เขาได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคาถาระดับสี่
เมอร์ลินได้รับพลังส่วนใหญ่ของหอกพสุธา ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ และถึงแม้จะไม่ได้โจมตีเขาที่จุดสำคัญแต่การโจมตีเช่นนี้สามารถฆ่านักเวทย์ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเมอร์ลินไปไกลกว่าร่างกายของนักเวทย์ทั่วไป ร่างกายของเขาอยู่ในจุดสูงสุดของนักดาบธาตุธาตุระดับสามแล้ว แม้ว่าจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เมอร์ลินก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของหอกพสุธาได้
เมอร์ลินยังไม่ตายแต่เขาถูกโจมตีอย่างแรง เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกสลายเมื่อเริ่มแสดงสัญญาณของความอ่อนแอ เมอร์ลินมองลงมาและเห็นชิ้นเนื้อที่หน้าอกด้านซ้ายขณะที่เลือดยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง คาถาระดับสี่ หอกพสุธา พลังของมันไปไกลกว่าคาถาระดับสามมาก ณ จุดนี้ เมอร์ลินแทบจะขยับนิ้วไม่ได้เลย
“รีเซ่น!”
เมอร์ลินสะดุ้งเมื่อใบหน้าบิดเบี้ยว! เขาถูกกระแทกอย่างแรงและแทบจะขยับนิ้วไม่ได้แต่อาการบาดเจ็บที่ร่างกายของเขาไม่ได้ส่งผลต่อพลังจิตของเขา ดังนั้น เมอร์ลินจึงมุ่งสมาธิไปที่พ่อมดรีเซนทันที
“พลังปีศาจแพนโดร่า ดัชนีเยือกแข็ง!”
เมอร์ลินเกือบหมดแรงในขณะที่ยกมือขวาขึ้นด้วยกำลังทั้งหมดทีมี นิ้วสีขาวซีดของเขาปล่อยลมเย็นที่พุ่งเข้าหาพ่อมดรีเซนทันที
นี่อาจเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของเมอร์ลิน หลังจากที่เขาปล่อย พลังของดัชนีเยือกแข็งไป มือขวาของเขาก็ตกลงไปที่พื้นทันที
เขาหายใจรวยริน หน้าอกของเขาที่ยกขึ้นและลดลงในขณะที่เขาหายใจเข้าลึก ๆ
“ไม่จริง มันยังไม่ตาย!”
ใบหน้าของรีเซนฉายแววความกลัวปรากฏขึ้นมาทันที เขารู้ว่าดัชนีเยือกแข็งของเมอร์ลินทรงพลังมากแต่ไหน แม้แต่พ่อมดเดอมาร์โก้ก็ไม่สามารถต้านทานพลังนั้นได้ ดังนั้น พ่อมดรีเซนจึงเรียกโฮมุนครุสของเขามาทันที
“กรร!”
โฮมุนครุสขวางการโจมตีในทันที สายลมหนาวที่ปกคลุมตัวโฮมุนครึสและชั้นผลึกน้ำแข็งหนาทึบก็แข็งตัวอย่างรวดเร็วทั่วร่างกายของมัน
ในเวลาเดียวกัน ลมเย็นเล็กน้อยก็พัดมาถึงแขนของพ่อมดรีเซนและเริ่มแพร่กระจายลามไปยังหัวไหล่ของเขา ทันใดนั้น แขนของพ่อมด รีเซนเกือบครึ่งหนึ่งถูกแช่แข็งด้วยผลึกน้ำแข็งหนา
สีหน้าของพ่อมดรีเซนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่เขากัดฟันและหยิบดาบใหญ่ออกมาจากแหวนเพื่อฟันตรงแขนของเขา
*ฉัวะ!!*
ดาบใหญ่ได้ตัดแขนไปครึ่งหนึ่งและเลือดก็ไหลออกมาขณะที่ใบหน้าของพ่อมดรีเซนเริ่มซีด
แขนครึ่งหนึ่งที่ถูกตัดได้ตกลงสู่พื้น ด้วยแรกกระแทกทำให้แขนแตกเป็นเสี่ยง ๆ พ่อมดรีเซนเหลือบมองเศษซากของแขนของเขาอย่างหวาดกลัว
พลังของดัชนีเยือกแข็งนั้นทรงพลังอย่างและพลังปีศาจแพนโดร่านั้นทุกพลังล้วนมีความแข็งแกร่งอันแปลกประหลาดจนเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะไม่ไปไกลได้มากแค่ไหน
เมอร์ลินเงยหน้าขึ้นขณะที่มองดูโฮมุนครุนที่ถูกแช่แข็ง มันไร้ชีวิตชีวาอย่างสมบูรณ์และในที่สุดก็เริ่มแตก ในไม่ช้ามันก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผลึกน้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่ว
สีหน้าของพ่อมดรีเซนซีดอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดว่าเขาได้วางแผนและเตรียมทุกอย่างไว้ดีแล้ว
ตัวเขานั้นตั้งใจไว้ว่า เมื่อเขาได้รับพลังปีศาจแพนดอร่ามา เขาจะรอให้เมอร์ลินเผลอและปลดปล่อยคาถาระดับสี่ในม้วนคัมภีร์ของเขาทันทีเพื่อฆ่าเมอร์ลิน
แผนการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นแต่เมอร์ลินไม่ตาย อันที่จริงเขายังสามารถใช้พลังปีศาจแพนดอร่าได้ซึ่งเขาหวาดกลัวต่อพลังนี้ เขามองดูร่างของเมอร์ลินนอนอยู่บนพื้น แทบจะขยับเขยื้อนไม่ได้แต่เขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้ตัวเขา
“น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาพลังปีศาจแพนดอร่าของเจ้ามา ทีนี้ข้าก็จะมีพลังปีศาจแพนโดร่าทั้งสองอย่าง!”
พ่อมดรีเซนพึมพำด้วยเสียงต่ำ เขาพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถฆ่าเมอร์ลินและเอาดัชนีเยือกแข็งกลับมาได้
เขากัดฟันและเดินไปที่กำแพงหอคอยข้างประตูหินขณะที่เขาคลำหาอะไรบางอย่าง
"แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันจบแล้ว…"
พ่อมดรีเซนคุ้นเคยกับหอคอยโบราณเป้นอย่างดี เขาพบกลไลลับที่ซ่อนอยู่และกดไปที่กลไลทันที ทันใดนั้นประตูหินสั่นสะเทือน
*ครืน*
จากนั้นประตูหินก็ค่อยปิดลงมา จากนั้นหอคอยโบราณก็เงียบงันอีกครั้ง…