THW ตอนที่ 11+12(2/3)
THW ตอนที่ 11+12(2/3) ชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารชั้นสูงในศตวรรษที่ 19 + การเสนอราคาที่บ้าคลั่ง
มันมีราคาต่ำสุดสำหรับร้านบนถนนด้วยอย่างงั้นเหรอ? ตราบเท่าที่สามารถทำเงินได้ พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยของออกจากมือหรือไง ซื้อง่ายขายคล่อง นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจ!
“550 เหรียญ นี่เป็นข้อเสนอสุดท้ายของฉัน หากไม่ได้ งั้นฉันก็ทำได้เพียงแค่เสียใจ และฉันจะกลับไปสั่งทางออนไลน์สักชุด ฉันเดาว่ามันคงไม่ราคาสูงขนาดนี้!
เหตุผลที่ฉันให้ราคานี้ ก็เพราะฉันชอบรูปทรงของชุดเครื่องใช้พวกนี้ รวมถึงกล่องไม้เบสวูดนี้ด้วย ไม่อย่างนั้น อย่าหวังว่าฉันจะให้ราคาสูงขนาดนี้เลย”
หลังจากพูดจบ เย่เทียนก็ยืนขึ้นด้วยสีหน้าเสียดาย พร้อมกับมองไปที่เจ้าของร้าน เมื่อเขาพูดออกมา ก็เหมือนกับว่าเขาพร้อมที่จะไปได้ทุกเมื่อ
สีหน้าบึ้งตึงของเจ้าของร้านเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจที่จะขายมัน
ท้ายที่สุด ความเย้ายวนในโลกความจริง ก็ได้ทำลายความโลภของโลกอุดมคติ!
ในขณะที่เขายิ้มและจับมือกับเย่เทียนเป็นเครื่องหมายว่าได้เห็นตรงกันนั้น ก็ได้มีคนพูดสอดขึ้นมา
“สวัสดี ชุดเครื่องเงินสำหรับใช้ในครัวพวกนี้ราคาเท่าไหร่?”
หลังจากได้ยินเสียงนี้ เย่เทียนและเจ้าของร้านก็หันไปมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ
คนที่พูดคือชายชาวลาตินอเมริกาที่มีอายุราวๆ สามสิบ ตัดสินจากน้ำเสียงและเสื้อผ้าที่ใส่ เขาคงจะเป็นชาวเม็กซิกัน พร้อมกับชายที่อายุน้อยกว่าเขาอีกคนที่อยู่ข้างๆ ที่ทำท่าทางจมูกเชิดราวกับจะเหินขึ้นฟ้า
ในตอนนี้ตาของชาวเม็กซิกันเป็นประกาย และเขากำลังชี้ไปที่ชุดเครื่องใช้นี้ พร้อมกับถามราคาขึ้นมา
พฤติกรรมนี้ของเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นไปตามกฎการซื้อขาย และเย่เทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินมัน ซึ่งเจ้าของร้านและเจ้าของร้านคนอื่นก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
“ขอโทษด้วย ฉันเป็นคนที่เห็นชุดเครื่องใช้นี้ก่อน และก็ได้ตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว ฉันเกรงว่ามันคงจะไม่เหมาะที่นายจะเข้าร่วมในตอนนี้?”
เย่เทียนแย้งออกมาอย่างจริงจัง
กฎเรื่องการซื้อขายนี่ทุกคนต่างก็รู้ดี เป็นไปไม่ได้ที่ชาวเม็กซิกันคนนี้จะไม่เข้าใจ นอกจากว่าเขาจะไม่ใส่ใจมัน!
เมื่อได้ยินเย่เทียนพูด คนอื่นๆ ก็พยักหน้า ขณะเดียวกันก็จ้องไปที่ชาวเม็กซิกันคนนั้นอย่างไม่พอใจ
“การ์เซีย พอเถอะ นายน่าจะรู้กฎดีไม่ใช่เหรอ”
บางคนที่รู้จักเขาได้เข้าไปพูดกับชาวเม็กซิกันคนนั้น
“ใช่ ฉันรู้กฎดี แต่ไม่ใช่ว่าการซื้อขายยังไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นฉันจงไม่ได้ทำลายกฎ และฉันก็ชอบชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารพวกนี้จริงๆ และฉันอยากจะซื้อมัน”
การ์เซียยิ้มและบอกเหตุผลของตน ซึ่งมันฟังไม่ขึ้นเลยจริงๆ!
จากนั้น เขาก็ยิ้มและพูดกับเย่เทียนว่า
“ไม่ใช่ว่าคนจีนกินข้าวกับไม้สองแท่งหรอกเหรอ? แล้วนายยังจะต้องการมีดกับส้อมไปทำไม? หรือนายคิดจะไปยังไชน่าทาวน์และใช้ชุดเครื่องใช้พวกนี้กินมัน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา
มันมีหลายความหมายในเสียงหัวเราะพวกนี้ บ้างก็ไม่เข้าใจ บ้างก็แค่สนุก บ้างก็มีจุดประสงค์อื่น หรือกระทั่งเหยียดหยามก็มี แต่ก็มีบ้างที่ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ และต้องการที่จะดูเรื่องสนุก ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนต่างกันไป!
สีหน้าของเย่เทียนกลายเป็นเย็นชาทันที และเขาก็มองไปที่การ์เซียและพูดอย่างจริงจังว่า
“ระวังคำพูดของนายด้วย ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดในเชิงเหยียดเชื้อชาติเช่นนี้ นายก็เป็นชนกลุ่มน้อยคนหนึ่ง นายก็คงไม่ชอบถูกเหยียดเหมือนกันใช่ไหม!”
เมื่อเจอกับการยัดเยียดหมวกลงบนหัว สีหน้าของการ์เซียก็เปลี่ยนไปในทันที
การเหยียดเชื่อชาติมีอยู่ทุกที่ในอเมริกา แต่ก็เป็นหัวข้อต้องห้ามในทุกที่เช่นกัน และก็ไม่มีใครต้องการถูกแขวนป้ายเช่นนี้ไว้กันตัว
โดยเฉพาะแหล่งศูนย์รวมคนหลากเชื้อชาติอย่างนิวยอร์ก ใครก็ตามที่เหยียดเชื้อชาติคนอื่น จะต้องเผชิญกับปัญหาจำนวนมากในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และนี่ก็คือสถานการณ์ในตอนนี้
เจ้าของร้านหลายคนและลูกค้าผิวสีที่อยู่ในกลุ่มผู้คน ต่างก็มองมาที่การ์เซียด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรอย่างมาก กระทั่งปรากฏกลิ่นดินปืนคลุ้งขึ้นมา!
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้คนรอบๆ หน้าของการ์เซียก็พลันเปลี่ยนสีในทันที พร้อมกับรีบพูดอธิบายออกมา
“พี่น้อง ฉันไม่ได้จะเหยียดเชื้อชาติอะไรเลยนะ! นายพูดถูก ฉันก็เป็นคนกลุ่มน้อยที่เป็นเหยื่อในการเหยียดเชื้อชาติ แล้วทำไมฉันถึงต้องไปเหยียดเชื่อชาติคนอื่นด้วยล่ะ?
ฉะนั้น อย่าได้สนใจเกี่ยวกับปัญหานี้เลย มาสนใจเรื่องชุดเครื่องเงินที่ใช้สำหรับโต๊ะอาหารนี้ดีกว่า ฉันชอบมันจริงๆ และคิดจะซื้อพวกมันกลับไปใช้ที่บ้าน”
หลังจากอธิบายไม่กี่คำ เขาก็รีบเปลี่ยนหัวข้อ ไม่ดึงเย่เทียนเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องเหยียดเชื้อชาติอีก เพราะนั่นมีแต่จะสร้างศัตรูให้กับตนมากขึ้น!
เมื่อได้ยินเขาพูด เย่เทียนก็ทำได้เพียงยอมแพ้ พร้อมกับกลับมาสนใจชุดเครื่องใช้ตรงหน้าเขาแทน
“บอส ฉันเต็มใจที่จะจ่าย 575 เหรียญสำหรับชุดเครื่องใช้นี้ ขายมันให้ฉันเถอะ!”
การ์เซียเริ่มเสนอราคา โดยเพิ่มราคาขึ้นจากที่เย่เทียนให้ 25 เหรียญ!
สำหรับการเพิ่มราคานี้ แน่นอนว่าเจ้าของร้านย่อมต้องชอบเป็นธรรมดา และแน่นอนว่าเขาจะไม่ปฏิเสธมัน!
สำหรับความคิดของเย่เทียนนั้น ช่างมันปะไร? เจ้าของร้านพลันโยนทิ้งไว้ข้างหลังทันที
ในตอนนี้ เย่เทียนรู้สึกหงุดหงิดมาก นี่ไม่ใช่การเจอของดีกับสหายเลวอย่างงั้นเหรอ? มันจะไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้ว!
แต่ว่าเขาจะพูดอะไรได้! ถึงยังไงเขาก็ยังไม่ได้จ่ายเงิน และของยังอยู่ในมือเจ้าของร้าน ดังนั้น มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา
แต่ชุดเครื่องใช้ตรงหน้าของเขานี้ เขาจะต้องเอามันมาให้ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสูบบุหรี่และต่อสู้อย่างใจเย็นเท่านั้น เมื่อชาวประมงจับปลา และเอาคอของตนมาขึ้นเขียง ในเมื่อการ์เซียคิดจะเข้ามาแย่ง เขาก็น่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับมันบ้าง!
โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารโบราณนี้ ตราบเท่าที่เขาได้มันมา เขาก็จะไม่ขาดทุน!
และเมื่อเขาได้ยินข้อเสนอของการ์เซีย เขาก็พลันเสนอราคาสู้กลับไปอย่างเย็นชา
“600 เหรียญ! มันต้องเป็นของฉัน!”
หลังจากเอ่ยราคา เขาก็มองไปที่การ์เซียอย่างเย็นชา พร้อมกับรอให้เขาเสนอราคาต่อ
การ์เซียหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย และเขาก็ขบฟันเล็กน้อย ก่อนที่จะเสนอราคาใหม่
“625 เหรียญ”
ก่อนที่เสียงของเขาจะจบ เสียงที่เย็นชาของเย่เทียนก็ดังออกมาอีกครั้ง
“650 เหรียญ”
หลังจากขานราคาออกไป เขาก็ยังคงจ้องไปที่การ์เซียอย่างเย็นชา และไม่สนใจความบ้าคลั่งของเจ้าของร้าย เพราะว่าตอนนี้มันไม่สำคัญอีกต่อไป!
คนธรรมดาสู้เพื่อลมหายใจ ขณะที่หลวงจีนสู้เพื่อก้านธูป
ชุดเครื่องใช้บนโต๊ะนี้ ไม่ว่ายังไง เขาก็จะเอามันกลับไปให้ได้!
มุมปากของการ์เซียกระตุก และสีหน้าของเขาเขียวคล้ำ ดูน่าเกลียดอย่างมาก!
เขาไม่คาดว่าเย่เทียนจะสู้ราคาโดยไม่หยุดคิด! นี่นับว่าเป็นปัญหาจริงๆ!
การ์เซียไม่ได้คิดจะเอากลับไปใช้เองจริงๆ เขาเป็นมืออาชีพด้านการขุดสมบัติ ผู้ซึ่งหาของมาขายเอากำไร เขาเห็นว่าชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารโบราณนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณแค่ 1,000 เหรียญเท่านั้น และนั่นเป็นราคาขาย
และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน กำไรที่จะได้จากการขายมัน ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ จุดสุดท้าย มันก็จะมาถึงจุดที่ไม่ได้กำไร และไม่คุ้มที่จะไปหาเรื่องผู้คน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเห็น