455-456
Ep.455
เฉินเมิ่งเฟยหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน เธอค่อยๆแล่นมายัง [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างเชื่อฟัง
หญิงสาวก้มหน้า สายตาลอบมองซูเฉิน กล่าวอย่างขลาดกลัวว่า “ผู้อาวุโส ไม่ทราบเรียกฉันมา ทำไมหรือ?”
ได้ยินคำถามนี้ ซูเฉินเกือบข่มใจไม่ไหวอยากตบหน้าเธอซักป๊าบ ไม่ว่าจะครั้งก่อนหรือครั้งนี้ เฉินเมิ่งเฟยล้วนโยนภาระให้เขา แต่ตอนนี้เธอกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์หลักของซูเฉินคือการสร้างจิตจำลองจากผลจำลองจิต เลยไม่คิดเอาความเธอตอนนี้ ถามตรงๆว่า “แกยังมีผลไม้สามลูกที่ให้มาก่อนหน้านี้อยู่อีกไหม? แล้วพืชวิญญาณที่ออกผลเล่า อยู่ที่ไหน?”
“ฉันยังมีผลไม้วิญญาณอยู่อีกสามลูก ส่วนพืชวิญญาณนั่นไม่ได้อยู่กับฉัน”
ขณะกล่าว เฉินเมิ่งเฟย ปลดถุงผ้าที่เอว แล้วยื่นถึงมือซูเฉิน
เธอรู้ดี ว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในกำมือซูเฉิน หากไม่จริงใจ เกรงว่าชีวิตเธอคงไม่รอดพ้นจากหายนะนี้ไปได้
หลังจากซูเฉินได้ตรวจสอบดูแล้วว่าผลไม้จำลองจิตยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เขาก็ใส่มันลงในถุงเก็บของ เอ่ยถามเสียงเย็นว่า “พืชวิญญาณกับผลไม้วิญญาณที่เหลืออยู่ที่ไหน?”
ผลจำลองจิตแค่ 6 ผลยังไม่พอที่จะแยกจิตจำลองที่สองออกมา ดังนั้นเขาต้องการรวบรวมผลไม้ที่เหลือทั้งหมดมาไว้ในมือเขา
“ผู้อาวุโส ท่านรู้ได้อย่างไรว่ายังมีผลวิญญาณอื่นอยู่?”
เฉินเมิ่งเฟยประหลาดใจ ต้นผลจำลองจิตออกดอกทั้งสิ้นสิบผลจริงๆ แต่ซูเฉินไม่น่าจะเคยเห็นมันมาก่อน แล้วเหตุใดจึงแน่ใจว่ายังมีผลไม้วิญญาณอื่นๆอยู่อีก?
“ฉันรู้ได้ยังไง ทำไมต้องรายงานแกด้วย?”
ซูเฉินตวาดด้วยใบหน้าเย็นชา จากนั้นข่มขู่ว่า “แกควรอธิบายมาตรงๆ ไม่งั้นก็อย่าโทษว่าฉันไร้เมตตา!”
หัวใจของเฉินเมิ่งเฟยสั่นสะท้าน เหลือบมองซูเฉินอย่างว่างเปล่า
ซูเฉินดูหล่อเหลาและยังเยาว์วัยนัก ทว่ากำลังรบกลับแข็งแกร่งทุกเพียงนี้ ทั้งยังลงมือโหดเหี้ยม
พวกต่างเผ่าหลายตัวก่อนหน้านี้ ก็ถูกเขาสังหารได้ในไม่กี่วินาที นี่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของซูเฉิน
เธอไม่กล้าทำอะไรผิดใจให้คิ้วของซูเฉินต้องขมวดเข้าหากัน รีบตอบว่า “ผู้อาวุโส พืชวิญญาณต้นนั้นไม่ได้อยู่กับฉันจริงๆ แต่ผลไม้วิญญาณที่เหลือ น่าจะอยู่ในมือของเฝิงหานซั่ว”
“แล้วพืชวิญญาณอยู่ที่ไหน? เฝิงหานซั่วคือใคร?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่ว่าจะเป็นต้นผลจำลองจิต หรือผลไม้ของมัน เขาล้วนต้องการได้มาครอบครอง
เรื่องตกอยู่ในมือใครน่ะเขาไม่กังวล สิ่งที่กังวลก็คือ หากต้นผลจำลองจิตถูกทำลาย หรือผลไม้ลูกอื่นถูกกินไปแล้ว ความตั้งใจที่จะแยกจิตจำลองก็คงล้มไม่เป็นท่า
“พืชวิญญาณต้นนั้นอยู่ในมือของหุบเขาซีหยาแห่งราชวงศ์เฝิงซี และเฝิงหานซั่วคือบุคคลสำคัญของตระกูลเฝิงแห่งราชวงศ์เฝิงซี และเขายังเป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 อีกด้วย”
เฉินเมิ่งเฟยกล่าวถึงจุดนี้ ก็ลอบมองซูเฉินอีกครั้ง
เดิมที เธอคิดว่าซูเฉินจะรู้สึกตกใจกลัวเล็กน้อย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวตนของเลเวล 6 คืออะไรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูเฉินยังคงสงบเยือกเย็น ราวกับว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย
เห็นภาพนี้ เฉินเมิ่งเฟย ต้องลอบบ่นอุบ “ทำไมเขาถึงไม่กลัวเลย? หรือว่าเขาจะแกร่งพอที่จะเพิกเฉยต่อผู้วิวัฒนาการเลเวล 6?”
แต่หลังจากขบคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
เพราะแม้ซูเฉินจะแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่เขายังเด็กเกินไป แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ได้อย่างไร?
ซูเฉินไม่รู้สิ่งที่เฉินเมิ่งเฟยพูดเป็นความจริงหรือไม่ จึงเอ่ยถามว่า “แกมีระดับฝึกตนอยู่ในเลเวลอะไร?”
“เรียนอาวุโส ฉันเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3” เฉินเมิ่งเฟยตอบตามความจริง
“ระดับการฝึกตนแค่ 3 แต่สามารถหนีมาได้ไกลถึงขนาดนี้เชียว?” ซูเฉินอุทานด้วยความสงสัย
ชายชราหน้าดำที่เคยล่าเฉินเมิ่งเฟย เป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ขณะที่เธอเป็นแค่เลเวล 3 เช่นนั้นแล้วเธอหนีออกมาได้อย่างไร?
“ผู้อาวุโส เรือไม้ของฉันถือได้ว่าเป็นสมบัติวิเศษ มันไม่เพียงสามารถใช้เดินทางบนบกได้ แต่ยังสามารถแล่นทางน้ำได้เช่นกัน และด้วยความเร็วของมัน ฉันเลยสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของอีกฝ่ายได้”
เฉินเมิ่งเฟย ชี้ไปทางเรือไม้ลำเล็ก พร้อมอธิบาย
Ep.456
ได้ยินคำอธิบายนี้ ซูเฉินก็พยักหน้าเล็กน้อย
เรือไม้ลำเล็กแม้ดูธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมันเหมือนกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ที่สามารถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก
แล้วอีกอย่าง ความเร็วของมันด้อยกว่า [รถศึกอัจฉริยะ] เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โอกาสที่สามารถใช้หลบหนีจากคนของราชวงศ์เฝิงซี มีความเป็นไปได้สูงอย่างที่เจ้าตัวยกอ้างจริงๆ
“แล้วก่อนหน้านี้แกมีแผนจะไปที่ไหน?” ซูเฉินยังคงถามต่อ
ทิศทางที่เฉินเมิ่งเฟยมุ่งหน้าไปก่อนจะหลบหนี เหมือนจะเป็นทิศทางสู่เกาะว่านเหลียนซาน แต่เกาะว่านเหลียนซานตกอยู่ภายใต้การยึดครองของเผ่าปีศาจราตรี ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่เท่ากับว่าเธอส่งตัวเองไปสู่ความตายหรือ?
“ผู้อาวุโส ฉันตั้งใจจะไปเกาะว่านเหลียนซาน ท่านปู่ของฉันอยู่ที่นั่น” เฉินเมิ่งเฟยไม่คิดปิดบัง
ซูเฉินส่ายหัว ทอดถอนหายใจและกล่าวว่า “เกาะว่านเหลียนซานถูกเผ่าปีศาจราตรียึดครองแล้ว ฉันเกรงว่าชะตากรรมของปู่แกคงโชคร้ายมากกว่าโชคดี”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของเฉินเมิ่งเฟยแปรเปลี่ยนไป กล่าวน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “ผู้อาวุโส ได้โปรดปล่อยฉันไป ฉันจะรีบไปเกาะว่านเหลียนซาน!”
“ฉันก็กำลังจะไปเกาะว่านเหลียนซานเหมือนกัน แกจะไปกับฉันก็ได้” ซูเฉินกล่าวอย่างสบายๆ
ในอนาคต หากต้องการค้นหาต้นผลจำลองจิต เขายังต้องให้ความช่วยเหลือจากเฉินเมิ่งเฟย จึงเป็นธรรมดาที่ซูเฉินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป
“ถ้าอย่างนั้น .. ขอบพระคุณผู้อาวุโส”
เฉินเมิ่งเฟยขอบคุณเขา แล้วเอ่ยถามว่า “งั้นฉันขอแล่นเรือไม้ตามหลังไปได้ไหม?”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น พักอยู่ที่นี่นี่แหละ”
ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงห้ามปฏิเสธ จากนั้นเหยียดมือและยิงลูกไฟออกไป จมเรือไม้ลำนั้นทันที
เฉินเมิ่งเฟยทำหน้าทำตาราวกับเห็นผี ที่ซูเฉินทำแบบนี้เพราะคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอใช้เรือเล็กหลบหนีไปในจังหวะที่เขาไม่ทันระวัง
ดังนั้น ซูเฉินจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้แก่เธอ
“นี่คุณ …”
เหม่อมองไปยังเรือเล็กที่ค่อยๆจมหายลงทะเล หัวใจของเฉินเมิ่งเฟยราวกับถูกกรีดแทง
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซูเฉิน ต่อให้โกรธแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าพูด
“ตามฉันเข้ามา”
ซูเฉินไม่สนใจความรู้สึกของเฉินเมิ่งเฟย กล่าวเสียงเบา แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องโดยสาร
เฉินเมิ่งเฟยขบกรามแน่น ตามหลังซูเฉินอย่างช่วยไม่ได้
พอเข้ามาถึงห้องโดยสาร หยางฮ่าวและคนอื่นๆก็เข้ามารุมล้อมทันที สายตาของทุกคนมุ่งความสนใจมายังเฉินเมิ่งเฟยเป็นจุดเดียว
เฉินเมิ่งเฟยไม่คิดว่าข้างในห้องโดยสารจะมีผู้คนมากมายขนาดนี้ อดไม่ได้ที่จะสำรวจไปรอบๆ
ไม่นาน เธอก็พบว่านอกจากหวู่หยางและหยางหลิงเทียนแล้ว คนอื่นๆยังเด็กมาก
กระนั้น กลิ่นอายที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของพวกเขากลับรุนแรงเป็นพิเศษ
เห็นได้ชัด ว่าทั้งหมดเป็นผู้วิวัฒนาการ และระดับฝึกตนไม่ด้อยไปกว่าเธอเลย
กระทั่งสือตั้วตั้วที่อายุ 7 ขวบก็เหมือนกัน
“ทำไมถึงได้มีผู้วิวัฒนาการมากมายเช่นนี้?” เฉินเมิ่งเฟยอุทานด้วยความประหลาดใจ
คุณสามารถลองจินตนาการได้ ว่าด้วยกำลังรบของกลุ่มซูเฉิน ในทวีปเสวียนเทียน พวกเขาสามารถออกอาละวาดได้ทุกสารทิศ
“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปเกาะว่านเหลียนซาน”
ซูเฉินสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นหันมาพูดกับเฉินเมิ่งเฟยว่า “เอาไว้ถ้าแกอยู่ที่นี่อย่างซื่อสัตย์ แล้วฉันได้พืชวิญญาณนั่นมา ฉันจะยอมปล่อยไป”
“เข้าใจแล้วผู้อาวุโส”
เฉินเมิ่งเฟยพยักหน้า และหาที่พักผ่อน
หยางฮ่าวและคนอื่นๆเฝ้าดูเธออยู่พักหนึ่ง ก่อนแยกย้ายกันไป
ครึ่งวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] แล่นอย่างช้าๆมาถึงเบื้องหน้าของเกาะว่านเหลียนซาน
พื้นที่ของเกาะว่านเหลียนซาน มีขนาดใหญ่กว่าเกาะเฉียนหยูเป็นสิบเท่า แค่ทางเข้าก็สูงตระหง่านเหนือหมู่เมฆ
ณ ขณะนี้ เหนือท้องฟ้าของเกาะ ปรากฏชาวปีศาจราตรีนับหมื่นกำลังโบยบินอยู่
เฉินเมิ่งเฟยพอเห็นฉากนี้ หัวใจเธอคล้ายตกลงสู่ก้นบึ้งของหุบเหว
มีพวกต่างเผ่าจำนวนมากรวมตัวกันอยู่บนเกาะว่านเหลียนซาน แล้วแบบนี้ปู่เธอยังมีหวังว่าจะรอดชีวิตอยู่อีกหรือ?
พวกต่างเผ่าที่มีชื่อเสียงมานานในด้านความโหดร้าย เจอใครก็ไล่ฆ่าไปซะหมด
ขณะที่ปู่เธอเป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ความหวังที่จะมีชีวิตรอดแทบเป็นไปไม่ได้