ตอนที่แล้วบทที่ 12 อะไรนะ?เจ้าไม่ได้เข้าไปในคลังงั้นหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 แข็งกระด้าง

บทที่ 13 จงฉลาดไปเถิด


บทที่ 13

จงฉลาดไปเถิด

เมื่อ หลี่มู่ฟาน ได้ยินสิ่งนี้เขาตะโกนด้วยความโกรธ   “จางเถี่ยเจ้าซื่อบื้อ ถ้าเขาไม่แย่งมันมาในตอนนี้แล้วจะมาเมื่อไหร่กัน?คลังเงินของเมืองตงซานมีเหรียญทองหลายแสนเหรียญแต่เขากลับมามือเปล่าได้อย่างไร?”

หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่เขาก็ตะโกนว่า “อาเฉียง! เจ้าไปหากระสอบมาสัก 2-3 มัด พาพี่น้องครึ่งหนึ่งไปปล้นคลังเงินให้ข้า ได้เท่าไหร่ก็เอา ใครขัดขวางฆ่าให้หมด!”

“รับทราบ!”

อาเฉียง ตะโกนและโบกมือให้ทหารองครักษ์อีกครึ่งหนึ่งวิ่งตามเขาไปที่คลังเงิน

เมื่อเห็นว่าพวกเขาจากไป หลี่มู่ฟาน ก็ด่าทหารที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นว่า “เจ้าลุกขึ้นแล้วไปบอกหลิวหลงกับจางเถี่ยทันที ให้พวกเขาหาจุดเสี่ยงแล้วรีบออกไปภายในครึ่งชั่วโมง!”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทหารที่สวมชุดเกราะหนังสุริยันจันทรารีบมาถึงประตูเมือง แต่ประตูเมืองปิดสนิทกำแพงเมืองเต็มไปด้วยทหาร

แม่ทัพหนุ่มที่นำหน้าตะโกนใส่ประตูเมืองว่า “ข้าเป็นคนของแม่ทัพมู่หรง คนต่างเผ่าในเมืองกำลังก่อกบฏ แม่ทัพมู่หรงสั่งให้ข้าออกไปตรวจสอบข่าวรีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า!”

คนที่เฝ้าประตูเมืองคือแม่ทัพวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะและรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า “แม่ทัพ     มู่หรงเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของคนรุ่นใหม่ในอาณาจักร มิใช่ว่าปกป้องฝ่าบาทอยู่ในเมืองหลวงหรอกหรอ?ทำไมจู่ๆถึงมาที่นี่?”

แม่ทัพหนุ่มตอบว่า “ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้แม่ทัพของข้าออกจากเมืองเพื่อตามล่าผู้หลบหนี ตลอดทางมานี้เห็นความวุ่นวายในเมืองจึงส่งข้าออกจากเมืองไปส่งข่าวก่อน รีบเปิดประตูเมืองหากผิดพลาดกองทัพของเจ้าคงรับโทษทัณฑ์ไม่ไหว!”

แม่ทัพพิทักษ์เมืองขมวดคิ้วและกล่าวอย่างลังเล “มีใบรับรองหรือไม่?”

ชายหนุ่มหยิบเหรียญตราที่สลักหัวหมาป่าออกมาจากอกเสื้อและโยนไปที่กำแพงพังตะโกนว่า “เหรียญตรานี่ยืนยันได้ รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า!”

แม่ทัพผู้พิทักษ์ประตูเมืองได้รับเหรียญตราและสำรวจดูอย่างรวดเร็วเห็นหัวหมาป่าดุร้ายและสลักคำด้านล่างว่ามู่หรง เขาจึงพยักหน้าแล้วตะโกนว่า “เป็นเหรียญของแม่ทัพมู่หรงจริงๆ ทุกคนรอสักครู่ข้าจะไปเปิดประตูเมือง!”

พูดจบก็โบกมือให้องครักษ์คนหนึ่งรีบก้าวลงจากกำแพงเมือง หลังจากนั้นไม่นานประตูเมืองก็เปิดออกอย่างช้าๆ และทหารรักษาเมืองก็ตะโกนขึ้นว่า “ทุกคนประตูเมืองเปิดแล้วรีบออกไปเร็วเข้า!”

เมื่อแม่ทัพหนุ่มเห็นดังนั้นก็โบกมือกับทหารสวมเกราะและโบกมือให้ทหาร 200 คนวิ่งไปที่ประตูเมือง

แต่ในตอนนั้นเองความตื่นตระหนกก็เปลี่ยนไป

แม่ทัพผู้พิทักษ์ประตูเมืองก็ตะโกนเสียงดังว่า “พลธนูเตรียม ยิงธนู!”

ทันใดนั้นมีนักธนูยืนเรียงรายอยู่บนกำแพงและลูกธนูก็พุ่งออกมาราวกับสายฝน แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือทหารที่อยู่ด้านล่างมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาขยับตัวไปทีละคนและพุ่งถอยราวกับนกที่ตกใจธนู หลังจากธนูตกลงมาบนพื้นแล้วกลับไม่เหลือแม้เงา

“เกิดอะไรขึ้น ข้าคิดว่าข้าคาดการณ์ไม่ผิดแต่ทำไมเป็นเช่นนี้!”

ทันใดนั้นทหารที่อยู่ใต้กำแพงก็หยิบคันธนูขึ้นมาและยิงสวนกลับขึ้นมายังบนกำแพง

นี่คือธนูสามัญขั้นกลาง มันจะเทียบได้กับคันธนูธรรมดาได้อย่างไรมันทรงพลังพอที่จะเจาะเกราะได้

เสียงธนูดังกังวานและลูกธนูพุ่งตรงเข้าใส่กำแพงเมืองจนเกิดเสียงกรีดร้องออกมา

ภายในการยิงเพียงครั้งเดียวทหาร 50 นายถูกยิงร่วง