บทที่ 1 ทะลุมิติไปเป็นราชา
บทที่ 1
ทะลุมิติไปเป็นราชา
“ติง...ภารกิจข้ามภพเสร็จสิ้นแล้ว พลังงานใกล้หมดระบบเข้าสู่โหมดสลีปชั่วคราว”
หลี่มู่ฟานค่อยๆตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับของเขาพร้อมกับได้ยินเสียงของระบบ ร่างกายของเขากำลังสั่นสะเทือน สิ่งที่สะท้อนออกมานั่นคือฝุ่นและกีบม้าที่วิ่งอยู่ในขณะนี้
ความรู้สึกกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงทำให้ท้องของเขาแทบอยากจะอาเจียน ในเวลาเดียวกันแขนขวาของเขามีลูกธนูยาวปักอยู่ซึ่งให้ความเจ็บปวดอย่างยิ่ง
“ที่นี่ที่ไหน? ฉันกำลังเล่นเกมอยู่ไม่ใช่หรอ?”
ไหนตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนหลังม้า เมื่อเงยหน้ามาก็พบอัศวินสวมเกราะสีแดงกำลังควบม้าอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าร้อนรน รอบๆตัวของเขายังมีอัศวินเกราะแดงอีกหลายคนที่ขี่ม้าวิ่งมาด้านข้างพร้อมกับเสียงโห่ร้อง
ราวกับว่าพวกเขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของหลี่มู่ฟาน อัศวินบนหลังม้าก้มหน้าลงและเห็นหลี่มู่ฟานกำลังมองมาที่เขาด้วยความสับสน
“ฝ่าบาท!ตอนนี้กองทัพของอ่องเฉิงได้ไล่ตามพวกเรามา ควรจะทำอย่างไรดี?พวกเราควรหนีไปที่ไหน?
“ฝ่าบาทงั้นหรอ?พวกเขากำลังเรียกฉันว่าฝ่าบาทงั้นหรอ?
ร่างกายของหลี่มู่ฟานรู้สึกทรมานราวกับกำลังจะแตกสลาย ภายในสมองของเขาเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้นความทรงจำมหาศาลก็ไหลเข้ามาในสมองของเขาจนทำให้รู้สึกปวดหัวแทบจะระเบิด ดวงตามืดครึ้มและสลบไปอีกครั้ง
ในตอนเช้าดวงอาทิตย์ขึ้นนำแสงสู่แผ่นดิน แสงแดดส่องผ่านยอดไม้หลายชั้น สาดส่องมาบนร่างกายของเขา ลมหายใจยังได้กลิ่นของดินอ่อนๆและกลิ่นหอมของหญิงสาว
เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวผู้หนึ่ง ท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม และทหารสวมเกราะสีแดงนอนอยู่ระเกะระกะบนพื้น
“ฝ่าบาท ในที่สุดพระองค์ก็ฟื้นแล้ว!”
เสียงประหลาดใจของหญิงสาวดังขึ้นข้างหูของเขา เขามองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่เต็มไปด้วยเลือดและฝุ่น ใบหน้าของ หลี่มู่ฟานแดงระเรื่อ
ในความทรงจำของเขาชัดเจนมากและมันได้อธิบายว่าเขานั้นข้ามมิติมาและกลายเป็นกษัตริย์ประเทศเล็กๆ ที่กำลังประสบความยากลำบาก!
นี่ไม่ใช่โลก แต่เป็นดินแดนที่เรียกว่าทวีปเทียนเหิง เจ้าของร่างเดิมชื่อหลี่มู่ฟาน เดิมทีเป็นกษัตริย์คนหนึ่งของเมืองลูกของอาณาจักรหยุนฉิน และเป็นกษัตริย์แห่งเมืองสุริยันจันทรา แต่เมื่อไม่นานมานี้เมื่อเขาขึ้นครองราชย์ไม่ถึงปี ก็ประสบเคราะห์กรรมในวังหลวง ถูกคนแย่งชิงอำนาจในคืนวันแต่งงาน และขับไล่ออกจากเมืองหลวง แถมยังไล่ฆ่าจนมาถึงที่นี่
หญิงสาวที่กอดเขาเอาไว้นั้นมีชื่อว่า ฟานชิงเยว่ เป็นองครักษ์คนหนึ่งในวังหลวง และเป็นองครักษ์หญิงเพียงคนเดียวความแข็งแกร่งของเธอนั้นได้บรรลุถึงระดับหนึ่งแล้ว
เมื่อเกิดการแย่งชิงบัลลังก์ เธอและทหารองครักษ์ที่จงรักภักดีก็ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อปกป้องเขาและพาเขาหนีออกจากเมือง คุ้มกันจนมาถึงที่นี่ เพียงแต่ในระหว่างทางแขนของหลี่มู่ฟานถูกลูกธนูพิษยิงเข้าใส่ ทำให้วิญญาณล่องลอยเป็นเวลา 9 วัน
แต่ที่หลี่มู่ฟานสามารถข้ามมิติมาได้อาจเป็นเพราะเหตุผลบางอย่าง
ฟานชิงเยว่ เห็นใบหน้าซีดขาวของหลี่มู่ฟานในอ้อมกอดแดงระเรื่อ สีหน้าของเขาดูดีขึ้นกว่าตอนที่หมดสติไปมาก เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่จะกระชับเสื้อคลุมสีแดงห่อตัวทั้งสองคนเอาไว้แล้วตะโกนเสียงดังว่า
“แม่ทัพหลิว ฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว!”
หลังจากนั้นไม่นาน
หลี่มู่ฟานในชุดคลุมของกษัตริย์แห่งเมืองสุริยันจันทรานั่งอยู่บนก้อนหิน หลังจากได้กินอาหารและน้ำสะอาดแล้วสีหน้าของเขาดูดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเห็นทหารที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้า มีทหารที่บาดเจ็บหลายร้อยคนดังนั้นเขาจึงกระแอมแล้วตะโกนว่า “ทุกคนลุกขึ้น”
แต่เสียงของเขาทุ้มต่ำและขาดอากาศหายใจเล็กน้อยจึงออกเป็นเสียงแหบ
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ตะโกนพร้อมกันว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
หลังจากที่เขาประสานความทรงจำทั้งหมดกับหลี่มู่ฟานคนก่อน เขาก็สามารถสวมบทบาทได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาถอนหายใจและตะโกนออกมาว่า “หลิวหลง!”
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดขององครักษ์รีบประสานมือและตอบทันที “ข้าน้อยอยู่นี่!”